ลุงปูลองสังเกตุดูนะครับ มี ๒ ยี่ห้อนี่แหละแข่งกันจัง เอามาเป็นจุดขาย ไม่เคยเห็นยี่ห้ออื่นๆเขาโฆษณากันหนักขนาดนี้เลยครับ
ก็แสดงว่ายี่ห้ออื่นทำได้ไม่ถึงขั้นน่ะสิครับ honda city ลูกค้าเคยลองด้วยตัวเอง พังงา-เชียงใหม่ เฉลี่ย ๒๖ กม./ลิตรเอง
ความเร็วสูงสุดไม่เกิน ๑๓๐ (ลูกค้ามาคุยให้ฟัง)
honda city ผบ. ผมใช้อยู่ (รถปี 99)
.....เคยวิ่ง สุราษ-พิดโลก ไป-กลับ แถมใช้รถที่พิดโลกทั้งในเมือง นอกเมืองประมาณ 2-3 วัน
กลับถึงบ้านลองคำนวณดูได้ตัวเลข 15-16 ก.ม./ลิตร ความเร็วก็ประมาณนั้น ไม่เกิน 130
(ทดสอบเมือปี 47.....อายุรถขณะนั้นราว 5 ปี)
...เมื่อปี 2000 ผมจัดทดสอบเครื่องยนต์ CDI ที่เข้าเมืองไทยเป็นครั้งแรก โดยให้ผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ขับทดสอบ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเอาเครื่องยนต์ CDI มาทดสอบ (Road Test) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย การทดสอบจะขับจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ถ้าผมจำไม่ผิดเอารถไปกันทั้งหมด 12 คัน ปล่อย Free Run ไม่กำหนดเรื่องของความเร็ว โดยใช้ข้อมูลจาก OBD เพื่อหาอัตราการสิ้นเปลืองเทียบกับความเร็วเฉลี่ยตลอดระยะทาง หลังจากเติมน้ำมันแถวรังสิตแล้ว seal ปิดฝาถัง ออกจากรังสิตวิ่งรวดเดียวไปแวะทานอาหารกลางวันที่อุตรดิถต์ จากนั้นตรงเข้าเชียงใหม่ ไปสิ้นสุดการทดสอบเมื่อเข้าไปเช็คน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันในตัวเมือง...
...การทดสอบ Road Test ในครั้งนั้นให้ผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ขับตามสไตล์ของตัวเองเสมือนการขับขี่ปกติ (ไม่มีการปิดแอร์ สูบลมยางตาม spec ของโรงงาน ฯลฯ) ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่าผู้สื่อข่าวจะใส่กันเต็มที่ตลอดระยะทาง บางช่วงที่เป็นทางตรงยาวๆ กดกันแตะ 200 กม./ชม. (จากความเร็วสูงสุดที่รถสามารถทำได้ 213 กม./ชม.) รถคันที่ทำได้ดีที่สุดมีอัตราการสิ้นเปลืองกว่า 19 กม./ลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ยตลอดระยะทางกว่า 130 กม./ชม. (พิจารณาจากอัตราการสิ้นเปลืองเทียบกับความเร็วเฉลี่ยตลอดระยะทางและพิจารณาร่วมกับน้ำหนักบรรทุกรวม ซึ่งตัวรถเองมี Curb Weight 1715 kg + น้ำหนักผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมสัมภาระ)...
...ผลของการทดสอบในครั้งนั้น ผมทำโฆษณา (ปี 2000) ว่า "กรุงเทพ-เชียงใหม่ใช้น้ำมัน 1/2 ถัง ด้วยอัตราการสิ้นเปลือง 19.xx กม./ลิตร" แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมระบุผู้ขับขี่ ระบุว่าผลอัตราการสิ้นเปลืองหามาได้อย่างไร ซึ่งก็ส่งผลให้สามารถเปิดตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์ CDI ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย...