การโฆษณารถยนต์รุ่นต่างๆ ประหยัดน้ำมันเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือเปล่าครับ

[นายกระจง]

          ลองให้ผมไปขับมั้ยครับเหนือจดใต้เติมเต็มถัง 4 ครั้งจิ๊บๆ 

                รถรุ่นไหนครับน้ายง   ผมขับสตราด้าขึ้นกรุงขาเดียวก็เติม 3 ครั้งแล้ว

            ผมใช้ VIGO PRERUNER ครับ เครื่อง 3000 cc น้ำมันแปรผันตามคันเร่งเลยครับผม 

จากไทยไปเมืองจีน ถังเดียวเหลือ    ผมไม่เชื่อเด็ดขาด


ผมจากพิดโลกถึงตรังขาเดียว เติม ๒ ถังครับ อีซูสุ แอดเวนเจอร์ มาสเตอร์ ๓๐๐๐ ไอเทค  

[นายกระจง]

                 ผมว่าไม่หลอกนะ  ทั้ง กบว. และ สคบ.  ไม่เห็นว่าอะไร

ลุงปูลองสังเกตุดูนะครับ มี ๒ ยี่ห้อนี่แหละแข่งกันจัง เอามาเป็นจุดขาย ไม่เคยเห็นยี่ห้ออื่นๆเขาโฆษณากันหนักขนาดนี้เลยครับ

[นายกระจง]

 
  

เขามีข้อกำหนดว่าต้องวิ่งและใช้ความเร็วไม่เกิน90กม/ชั่วโมงครับ แล้วก็ไม่ให้รอบเครื่องยนต์เกิน3000รอบครับ แต่ท้ายที่สุดก็ทำไม่ได้อยู่ดีครับ เคยนั่งไปกับรุ่นน้องเติมน้ำมันให้1000บาท ขับจากปัตตานีไปหาดใหญ่เหยียบอยู่80 ผมนอนหลับตาเดาว่าต้องถึงตรงนั้นตรงนี้แต่พอลืมตาไม่ใช่เลย นานมักมาก

    ผมกำลังตัดสินใจว่าจะขาย Wave Z ทิ้ง ไปซื้อรถไอ้ที่โมษณามาใช้แล้วนะเนี่ย...ก็มันประหยัดกว่า เครื่อง 97 ซีซี ของอีแก่ซะอีก วิ่งไม่เกิน 70 กม/ขม. มันกินตั้ง 50 กม./ลิตร โค-ต-ร กินเลย...

ครับพี่ รถคันโตกว่ากันเยอะ แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่ากันอย่างเทียบกันไม่ได้เลยครับ

[Southlander]

          ลองให้ผมไปขับมั้ยครับเหนือจดใต้เติมเต็มถัง 4 ครั้งจิ๊บๆ 

                รถรุ่นไหนครับน้ายง   ผมขับสตราด้าขึ้นกรุงขาเดียวก็เติม 3 ครั้งแล้ว

            ผมใช้ VIGO PRERUNER ครับ เครื่อง 3000 cc น้ำมันแปรผันตามคันเร่งเลยครับผม 

จากไทยไปเมืองจีน ถังเดียวเหลือ    ผมไม่เชื่อเด็ดขาด


ผมจากพิดโลกถึงตรังขาเดียว เติม ๒ ถังครับ อีซูสุ แอดเวนเจอร์ มาสเตอร์ ๓๐๐๐ ไอเทค  

 ไปว่าเขา นายป๋อ ขับจากเชียงใหม่พาสาวญี่ปุ่นที่หลงกะแฟนไปหาที่ภูเก็ต จากดอยสุเทพถึงแหลมพรหมเทพ กินน้ำมันแค่ จิบ จิบ

[นายกระจง]

          ลองให้ผมไปขับมั้ยครับเหนือจดใต้เติมเต็มถัง 4 ครั้งจิ๊บๆ 

                รถรุ่นไหนครับน้ายง   ผมขับสตราด้าขึ้นกรุงขาเดียวก็เติม 3 ครั้งแล้ว

            ผมใช้ VIGO PRERUNER ครับ เครื่อง 3000 cc น้ำมันแปรผันตามคันเร่งเลยครับผม 

จากไทยไปเมืองจีน ถังเดียวเหลือ    ผมไม่เชื่อเด็ดขาด


ผมจากพิดโลกถึงตรังขาเดียว เติม ๒ ถังครับ อีซูสุ แอดเวนเจอร์ มาสเตอร์ ๓๐๐๐ ไอเทค  

 ไปว่าเขา นายป๋อ ขับจากเชียงใหม่พาสาวญี่ปุ่นที่หลงกะแฟนไปหาที่ภูเก็ต จากดอยสุเทพถึงแหลมพรหมเทพ กินน้ำมันแค่ จิบ จิบ

ไม่ได้ว่าครับพี่ เพียงแต่มันเหมือนกับว่าผู้ขายโอ้อวดเกินความจริงนะครับ

[lek]

ที่ความเร็ว80กม./ชม.นี่ผมหลับตกข้างทางแหงๆเลย

[นายกระจง]

ที่ความเร็ว80กม./ชม.นี่ผมหลับตกข้างทางแหงๆเลย

รถที่ผมใช้ทุกวันนี้จำกัดความเร็วที่ ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ เคยขับจากพิษณุโลกไปอุดรครับ ก้นชาครับ ลงจากรถเดินเกือบไม่เป็นครับ ชาหมดขาครับ

[CT_Pro4]

...ด้วยความเคารพ เรื่องของการโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ของบริษัทรถยนต์ในประเทศไทยนั้น เป็นเรื่องที่น่าจะนำเอามาเป็นกรณีศึกษาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับนักศึกษาด้านสาขาการตลาดและด้านสื่อสารมวลชน ประเด็นก็คือว่า ค่ายรถยนต์ทุกค่าย (โดยเฉพาะที่เป็นบริษัทลูกจากต่างประเทศ) โฆษณาและประชาสัมพันธ์เกินจริงหรือไม่ ผมขอยืนยันนั่งยันเลยครับว่า "ไม่" ครับ เพียงแต่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับผู้บริโภค หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือว่า ผู้บริโภคมักจะตัดสินใจจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนที่ได้รับจากการโฆษณาหรือจากการประชาสัมพันธ์นั้นๆ ...

...ถ้าจะพูดถึงประเด็นที่ท่านจขกท. ตั้งว่าการโฆษณาเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเกินจริงหรือไม่นั้น ผมอยากให้ท่านพิจารณาอยู่สองสามเรื่องจากตัวอย่างที่ผมขอสมมติขึ้นประกอบ เรื่องแรกก็คือ ถ้าว่ากันตามกฎหมายแล้วนั้น บริษัทรถยนต์ไม่สามารถโฆษณาอันเป็นเท็จได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนที่รับผิดชอบ (บริษัทรถยนต์ เอเจนซี่โฆษณาและคนที่ดูแลด้านงานประชาสัมพันธ์) ก็จะดูเงื่อนไขของกฎหมายก่อนว่าเค้าสามารถพูดหรือโฆษณาได้ถึงจุดไหน แล้วก็จะทำการโฆษณาจนกระทั่งถึงจุดที่กฎหมายให้ทำหรือไม่อย่างนั้นก็จะหาช่องโหว่ของกฎหมายมาโฆษณา เช่น "ถังเดียววิ่งจากเชียงใหม่-นราธิวาสยังเหลือ" จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริงๆ แต่มองอีกนัยหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะบริษัทรถยนต์ก็ไม่ได้บอก "เงื่อนไข" ในการขับทดสอบที่ใช้ในการกล่าวอ้างในการโฆษณา ถ้ามีก็อาจจะเลี่ยงโดยใส่เงื่อนไขเป็นอักษรเล็กๆ ที่ผู้บริโภคมักไม่สังเกต ที่ผมว่าเป็นไปได้ก็เพราะมีอยู่ยุคหนึ่งที่นำเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองมาโฆษณากันเป็นตัวเลข เช่น รถคันนี้ทำสถิติ 40 กว่ากม./ลิตร มีการแข่งทำสถิติ มีการโหมโฆษณากันทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ใช้งบโฆษณากันมหาศาลเพื่อสร้างความรู้สึกในหมู่ผู้บริโภคว่ารถยนต์รุ่นนี้ประหยัดมากๆ และในที่สุดก็ทำให้รถยนต์รุ่นนั้นขายดีมากๆ เช่นกัน "แต่" สิ่งที่บริษัทไม่ได้บอกก็คือว่า ลักษณะหรือเงื่อนไขในการขับขี่เป็นเช่นไรถึงทำสถิติ 40 กว่ากม./ลิตร  ใช้โหลดบรรทุกขนาดไหน วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยเท่าใด ขณะขับพับกระจกข้างหรือไม่ เปิดแอร์ขณะขับหรือไม่ สูบลมยางเท่าไหร่ระหว่างการทดสอบและอีกหลายเรื่องที่ไม่มีการอธิบายหรือให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับผู้บริโภคทั้งจากการโฆษณาและประชาสัมพันธ์นั้นๆ  เพราะถ้าขับอย่างการขับรถของผู้บริโภคโดยทั่วไปผมคิดว่าการจะทำสถิติ 40 กว่ากม./ลิตร  คงจะเป็นไปได้ยากมากๆ

...ผมขอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวว่างๆ ผมจะขอต่อตอนที่สองครับ พิมพ์ยาวๆ แล้วเหนื่อยครับ เพราะต้องจิ้มดีดเอา... 
 

[กรรมกร]

เรื่องประหยัดน้ำมันนี่ยังไม่ค่อยน่าห่วงนะครับ สมัยนี้คน "ฉลาดขึ้น" มากแล้ว

พอจะรู้ว่าการโฆษณา ก็คือการ ชักจูงด้วยคำพูดและวิธีการต่างๆนาๆ เพื่อขายสินค้า

แต่ที่น่าห่วงก็คือ "ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยปั๊มแรงดันสูง" ในรถกระบะสายพันธุ์ญี่ปุ่น

ที่อันตรายมากๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดกับตัวเองเมื่อไหร่ (ผมเจอมาแล้วตอนใช้รถถึงระยะ 60,000 กว่ากิโลเมตร)

เหยียบคันเร่งแล้วไม่มีอาการตอบสนอง โชคยังดีที่ไม่อยู่ในสถาณการณ์คับขัน

เป็นทางหลวงที่รถไม่มาก และเคยรู้วิธีการแก้ไขจากผู้ที่ประสบเหตุมาก่อน เลยรอดตัวมาได้

.......... ตั้งแต่ใช้รถมาจนถึงวันนี้ 4 ปีแล้ว ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ผู้ใช้รถก็ยังต้องวัดดวงกันเหมือนเดิม

.............. Thailand Only ......................! 

[Southlander]

เรื่องประหยัดน้ำมันนี่ยังไม่ค่อยน่าห่วงนะครับ สมัยนี้คน "ฉลาดขึ้น" มากแล้ว

พอจะรู้ว่าการโฆษณา ก็คือการ ชักจูงด้วยคำพูดและวิธีการต่างๆนาๆ เพื่อขายสินค้า

แต่ที่น่าห่วงก็คือ "ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยปั๊มแรงดันสูง" ในรถกระบะสายพันธุ์ญี่ปุ่น

ที่อันตรายมากๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดกับตัวเองเมื่อไหร่ (ผมเจอมาแล้วตอนใช้รถถึงระยะ 60,000 กว่ากิโลเมตร)

เหยียบคันเร่งแล้วไม่มีอาการตอบสนอง โชคยังดีที่ไม่อยู่ในสถาณการณ์คับขัน

เป็นทางหลวงที่รถไม่มาก และเคยรู้วิธีการแก้ไขจากผู้ที่ประสบเหตุมาก่อน เลยรอดตัวมาได้

.......... ตั้งแต่ใช้รถมาจนถึงวันนี้ 4 ปีแล้ว ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ผู้ใช้รถก็ยังต้องวัดดวงกันเหมือนเดิม

.............. Thailand Only ......................! 

อิ อิ  ปั๊มคอมมอนเรลแค่สองสูบของรถกระบะญี่ปุ่นทั้งหลาย

ของแท้ดีเซลพันธ์ยุโรปเขาสามสูบ เบื้องหลังเบื้องหน้า มันแพร่กระจายตามเว๊บ กันทั่ว

[CT_Pro4]

เรื่องประหยัดน้ำมันนี่ยังไม่ค่อยน่าห่วงนะครับ สมัยนี้คน "ฉลาดขึ้น" มากแล้ว

พอจะรู้ว่าการโฆษณา ก็คือการ ชักจูงด้วยคำพูดและวิธีการต่างๆนาๆ เพื่อขายสินค้า

แต่ที่น่าห่วงก็คือ "ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยปั๊มแรงดันสูง" ในรถกระบะสายพันธุ์ญี่ปุ่น

ที่อันตรายมากๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดกับตัวเองเมื่อไหร่ (ผมเจอมาแล้วตอนใช้รถถึงระยะ 60,000 กว่ากิโลเมตร)

เหยียบคันเร่งแล้วไม่มีอาการตอบสนอง โชคยังดีที่ไม่อยู่ในสถาณการณ์คับขัน

เป็นทางหลวงที่รถไม่มาก และเคยรู้วิธีการแก้ไขจากผู้ที่ประสบเหตุมาก่อน เลยรอดตัวมาได้

.......... ตั้งแต่ใช้รถมาจนถึงวันนี้ 4 ปีแล้ว ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ผู้ใช้รถก็ยังต้องวัดดวงกันเหมือนเดิม

.............. Thailand Only ......................! 

...ด้วยความเคารพ ผมขอมองอีกมุมครับ (ไม่ใช่มองต่างมุมนะครับพี่) ว่าบางครั้งอาจจะต้องพิจารณาถึงตัว "น้ำมัน" ด้วยครับ เพราะเครื่อง Common Rail ไม่ว่าจะเป็นฝั่งยุโรปหรือฝั่งญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจะ sensitive กับคุณสมบัติของน้ำมันที่เติม ยิ่งเครื่อง Diesel รุ่นใหม่ๆ ของฝั่งยุโรปยิ่งแล้วใหญ่ เพราะจะใช้ Piezo injector เกือบทั้งหมด ค่า Sulphur หรือกำมะถันต้องน้อยมากๆ (ตามมาตรฐานไอเสีย-Emission regulation) แถมถ้าเจอน้ำหรือความชื้นที่ปนอยู่ในน้ำมันเข้าไปอีก มีโอกาสเครื่องพังได้เร็วมากๆ ครับ ขนาดกรมธุรกิจพลังงานยังไม่กล้าออกมายืนยันเรื่องนี้เลยครับ ได้แต่บอกว่าส่งหน่วยไปควบคุมคุณภาพน้ำมันดูสิ่งเจือปน แต่ไม่มีการทดสอบคุณสมบัติของน้ำมันทุกสถานีว่ามีคุณสมบัติตามค่ามาตรฐานที่กำหนดโดยกระทรวงพลังงานหรือไม่ แถมถังที่จัดเก็บโดยเฉพาะสถานีเติมน้ำมันในต่างจังหวัดที่เก่าหน่อย ถังน้ำมันใต้ดินยังเป็นถังชั้นเดียว (Single layer tank) อยู่เลย เพราะฉะนั้นโอกาสที่น้ำมันจะมีความชื้นและกลายเป็นน้ำปนในถังเป็นไปได้สูงครับ...

[Daimyo]

เรื่องประหยัดน้ำมันนี่ยังไม่ค่อยน่าห่วงนะครับ สมัยนี้คน "ฉลาดขึ้น" มากแล้ว

พอจะรู้ว่าการโฆษณา ก็คือการ ชักจูงด้วยคำพูดและวิธีการต่างๆนาๆ เพื่อขายสินค้า

แต่ที่น่าห่วงก็คือ "ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยปั๊มแรงดันสูง" ในรถกระบะสายพันธุ์ญี่ปุ่น

ที่อันตรายมากๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดกับตัวเองเมื่อไหร่ (ผมเจอมาแล้วตอนใช้รถถึงระยะ 60,000 กว่ากิโลเมตร)

เหยียบคันเร่งแล้วไม่มีอาการตอบสนอง โชคยังดีที่ไม่อยู่ในสถาณการณ์คับขัน

เป็นทางหลวงที่รถไม่มาก และเคยรู้วิธีการแก้ไขจากผู้ที่ประสบเหตุมาก่อน เลยรอดตัวมาได้

.......... ตั้งแต่ใช้รถมาจนถึงวันนี้ 4 ปีแล้ว ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ผู้ใช้รถก็ยังต้องวัดดวงกันเหมือนเดิม

.............. Thailand Only ......................! 

...ด้วยความเคารพ ผมขอมองอีกมุมครับ (ไม่ใช่มองต่างมุมนะครับพี่) ว่าบางครั้งอาจจะต้องพิจารณาถึงตัว "น้ำมัน" ด้วยครับ เพราะเครื่อง Common Rail ไม่ว่าจะเป็นฝั่งยุโรปหรือฝั่งญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจะ sensitive กับคุณสมบัติของน้ำมันที่เติม ยิ่งเครื่อง Diesel รุ่นใหม่ๆ ของฝั่งยุโรปยิ่งแล้วใหญ่ เพราะจะใช้ Piezo injector เกือบทั้งหมด ค่า Sulphur หรือกำมะถันต้องน้อยมากๆ (ตามมาตรฐานไอเสีย-Emission regulation) แถมถ้าเจอน้ำหรือความชื้นที่ปนอยู่ในน้ำมันเข้าไปอีก มีโอกาสเครื่องพังได้เร็วมากๆ ครับ ขนาดกรมธุรกิจพลังงานยังไม่กล้าออกมายืนยันเรื่องนี้เลยครับ ได้แต่บอกว่าส่งหน่วยไปควบคุมคุณภาพน้ำมันดูสิ่งเจือปน แต่ไม่มีการทดสอบคุณสมบัติของน้ำมันทุกสถานีว่ามีคุณสมบัติตามค่ามาตรฐานที่กำหนดโดนกระทรวงพลังงานหรือไม่ แถมถังที่จัดเก็บโดยเฉพาะสถานีเติมน้ำมันในต่างจังหวัดที่เก่าหน่อย ถังน้ำมันใต้ดินยังเป็นถังชั้นเดียว (Single layer tank) อยู่เลย เพราะฉะนั้นโอกาสที่น้ำมันจะมีความชื้นและกลายเป็นน้ำปนในถังเป็นไปได้สูงครับ...

พวกเกรย์เอารถมาจากยุโรป....สเปคยูโร4ยูโร5.....เจอดีเซลบ้านเรา....หงายเก๋ง

[SA-KE]

เรื่องโฆษณาประหยัดน้ำมันของค่ายรถยนต์  ไม่ต่างกับเรื่องซื้อบ้าน
บ้านโฆษณาราคาต่ำสุด แต่นำรูปบ้านที่แพงที่สุดมาขึ้นป้าย

รถยนต์ก็ไม่ต่างกัน เพราะเงื่อนไขที่เขาทดสอบ ไม่ใช่เงื่อนไขของการใช้งานจริง
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าที่โฆษณา เขาสามารถทำได้จริงตามที่คุย ที่สำคัญ จะ ส.ค.บ
หรือใครจะพิสูจน์ เพื่อแย้งเขา มันมีช่องว่างมากจน ถ้าไม่บ้าจริงๆ บอกได้เลยหมดสิทธิครับ

เช่นเดียวกับที่ครั้งหนึ่ง รถญี่ปุ่น แข่งโฆษณา เรื่องกำลัง แรงม้าของเครื่องยนต์
เพื่อจะดูให้เหนือกว่าค่ายยุโรป  โดยใช้วิธีวัดค่าที่ต่างกัน จนกระทั่งทุกวันนี้ ต้องเปลี่ยนมาใช้หน่วยเดียวกัน
เพื่อเทียบให้เป็นค่ามาตรฐาน

แต่สงสัยกันบ้างไหม? ว่า " แรงม้าหรือ กิโลวัตต์ "  ที่โฆษณากันทั้งฝั่งยุโรป หรือญี่ปุ่น แม้กระทั่งแรงบิด
เขาวัดกันในห้องแลปหรือเป็นกำลังที่ลงพื้นถนนที่สามารถใช้งานได้แท้จริง อย่างที่เราเข้าใจ จริงหรือ?

เช่นเดียวกับระบบเครื่องเสียงที่ญิ่ปุ่น ชอบโฆษณาในระบบ พีคทูพีค มิวสิค จะเห็นได้ว่าไม่ผิด
แต่มาตรฐานคือ อาร์ เอ็ม เอส...ซึ่งเป็นค่ากำลังที่แท้จริงในด้านไฟฟ้า

ปัจจุบัน อุปกรณ์หลายๆอย่างรอบตัวเรา ไม่เว็นแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้า
แม้กระทั่ง การตอบสนอง ของ ทีวี แอลซีดี หรือ ค่า บางค่าของกล้องถ่ายรูป ..ยังใช้คนล่ะวิธีแต่หน่วยเดียวกันได้เลยครับ

บ้านเรา นักโฆษณา ชอบหาช่องของกฎหมาย ขาดสำนึก และความรับผิดชอบ  เน้นที่เป้าหมายอย่างเดียว  ตัวอย่างง่ายๆ คือ
พวกโฆษณาเครื่องดื่มคาแฟอิน  ยาบางประเภท ..ไม่พูดเร็วจนฟังไม่รู้เรื่อง  ก็เขียนติดไว้ข้างขวดตัวเล็ก จนผู้สูงอายุอ่านไม่เห็น เสียเลย..

[CT_Pro4]

เรื่องโฆษณาประหยัดน้ำมันของค่ายรถยนต์  ไม่ต่างกับเรื่องซื้อบ้าน
บ้านโฆษณาราคาต่ำสุด แต่นำรูปบ้านที่แพงที่สุดมาขึ้นป้าย

รถยนต์ก็ไม่ต่างกัน เพราะเงื่อนไขที่เขาทดสอบ ไม่ใช่เงื่อนไขของการใช้งานจริง
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าที่โฆษณา เขาสามารถทำได้จริงตามที่คุย ที่สำคัญ จะ ส.ค.บ
หรือใครจะพิสูจน์ เพื่อแย้งเขา มันมีช่องว่างมากจน ถ้าไม่บ้าจริงๆ บอกได้เลยหมดสิทธิครับ

เช่นเดียวกับที่ครั้งหนึ่ง รถญี่ปุ่น แข่งโฆษณา เรื่องกำลัง แรงม้าของเครื่องยนต์
เพื่อจะดูให้เหนือกว่าค่ายยุโรป  โดยใช้วิธีวัดค่าที่ต่างกัน จนกระทั่งทุกวันนี้ ต้องเปลี่ยนมาใช้หน่วยเดียวกัน
เพื่อเทียบให้เป็นค่ามาตรฐาน

แต่สงสัยกันบ้างไหม? ว่า " แรงม้าหรือ กิโลวัตต์ "  ที่โฆษณากันทั้งฝั่งยุโรป หรือญี่ปุ่น แม้กระทั่งแรงบิด
เขาวัดกันในห้องแลปหรือเป็นกำลังที่ลงพื้นถนนที่สามารถใช้งานได้แท้จริง อย่างที่เราเข้าใจ จริงหรือ?

เช่นเดียวกับระบบเครื่องเสียงที่ญิ่ปุ่น ชอบโฆษณาในระบบ พีคทูพีค มิวสิค จะเห็นได้ว่าไม่ผิด
แต่มาตรฐานคือ อาร์ เอ็ม เอส...ซึ่งเป็นค่ากำลังที่แท้จริงในด้านไฟฟ้า

ปัจจุบัน อุปกรณ์หลายๆอย่างรอบตัวเรา ไม่เว็นแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้า
แม้กระทั่ง การตอบสนอง ของ ทีวี แอลซีดี หรือ ค่า บางค่าของกล้องถ่ายรูป ..ยังใช้คนล่ะวิธีแต่หน่วยเดียวกันได้เลยครับ

บ้านเรา นักโฆษณา ชอบหาช่องของกฎหมาย ขาดสำนึก และความรับผิดชอบ  เน้นที่เป้าหมายอย่างเดียว  ตัวอย่างง่ายๆ คือ
พวกโฆษณาเครื่องดื่มคาแฟอิน  ยาบางประเภท ..ไม่พูดเร็วจนฟังไม่รู้เรื่อง  ก็เขียนติดไว้ข้างขวดตัวเล็ก จนผู้สูงอายุอ่านไม่เห็น เสียเลย..

...เห็นด้วยเลยครับ... +1   


...ผมขอต่อตอนที่สองครับ...

...เรื่องที่ผมอยากให้สังเกตเรื่องที่ 2 ก็คือเรื่องข้อมูลอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์ ถ้าข้อมูลผมไม่ผิด ค่ายญี่ปุ่นเกือบ 100% จะไม่ให้ข้อมูลเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในโบรชัวร์ในส่วนข้อมูลทางเทคนิค (เรื่องนี้คงต้องให้พี่ปูช่วย confirm เรื่องนี้ด้วยครับ) อาจจะมีการระบุว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ประหยัด (บางครั้งอาจจะระบุว่าประหยัดกว่ารุ่นเดิมกี่เปอร์เซนต์ เป็นต้น) เรื่องนี้ผมขอไม่ให้ความคิดเห็นว่าเป็นเพราะอะไรครับ แต่ก็เป็นเรื่องที่มีการคุยกันในคณะทำงานของกลุ่มรถยนต์ของสภาอุตสาหกรรมเหมือนกันครับ...

...ส่วนค่ายยุโรป (บางค่าย) จะระบุเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ส่วนมากจะระบุเป็นอัตราการใช้น้ำมันกี่ลิตรต่อระยะทาง 100 กม.) แต่ที่สำคัญเมื่อระบุอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในโบรชัวร์แล้ว จะต้องระบุวิธีการทดสอบเพื่อการวัดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย รถที่มาจากยุโรปจะใช้วิธีการทดสอบที่เป็นไปตามข้อกำหนดของ European Comission ในเรื่องของ Enterprise and Industry ของอุตสาหกรรมรถยนต์ (Automotive) เพราะฉะนั้นบริษัทที่ระบุข้อมูลดังกล่าวก็จะต้องมั่นใจแล้วกับข้อมูลที่มำการพิมพ์และเผนแพร่สาธารณะ ถ้าอย่างไรลองดูข้อมูลอ้างอิงที่  ...   

http://ec.europa.eu/enterprise/sectors/automotive/documents/directives/index_en.htm

[PU45™]

ลุงปูลองสังเกตุดูนะครับ มี ๒ ยี่ห้อนี่แหละแข่งกันจัง เอามาเป็นจุดขาย ไม่เคยเห็นยี่ห้ออื่นๆเขาโฆษณากันหนักขนาดนี้เลยครับ

              ก็แสดงว่ายี่ห้ออื่นทำได้ไม่ถึงขั้นน่ะสิครับ  honda city ลูกค้าเคยลองด้วยตัวเอง พังงา-เชียงใหม่ เฉลี่ย ๒๖ กม./ลิตรเอง

              ความเร็วสูงสุดไม่เกิน ๑๓๐  (ลูกค้ามาคุยให้ฟัง)