ก็บอกแล้วไงว่าที่กล่าวมามันเป็นการแสดงข้อคิดเห็นในแง่มุมหนึ่ง การมีสปิริตในตัวของแต่ละบุคคลย่อมมีมากอยู่แล้วแต่ในส่วนลึกๆ มีใครบ้างไม่อยากได้รางวัล ใครกันจะมีสปิริตในการแข่งขันแบบไม่ขอรับรางวัลเลย มีบ้างไหมที่จะเดินทางมาแข่งขัน 10 รอบกับค่าใช้จ่าย 40,000 บาท โดยไม่ยอมรับรางวัลเลยแม้แต่ครั้งเดียว และจะมีใครบ้างที่สามารถตระเวนแข่งได้ทั่วประเทศ ถ้าจัดการแข่งขันที่ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา จันทรบุรี เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี อย่างนี้ท่านจะไปไหมกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นถึงหลักหมี่นต่อครั้งโดยท่านไม่หวังอะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียว รางวัลที่ได้มาก็ใช่ว่าจะมีมูลค่ามากมายอะไรแต่มันมีผลทางด้านจิตใจกับผู้ที่ได้รางวัลซึ่งทุกคนย่อมทราบดีอยูู่แล้ว การได้ขึ้นรับรางวัลมันมีความหมายมากสำหรับนักกีฬาทุกประเภท
การกระจายรางวัลให้มากขึ้น จะทำให้ทุกคนมีโอกาสมากขึ้นและจะเป็นวิธีการดึงคนเข้าร่วมกิจกรรมให้มากขึ้น ระหว่างมีประเภทการแข่งขันเพียงหนึ่งเดียวมีรางวัลแค่อันดับ 1-3 รวม 3 รางวัล กับการแข่งขัน 3 ประเภทมีรางวัลรวม 9 รางวัล ในส่วนตัวท่านจะเลือกไปแข่งรายการไหน
ถ้าคิดว่าจัดหลายประเภทจะมีเวลาไม่เพียงพอก็จัดแข่งประเภทละ 1 รอบเท่านั้น กำหนดเวลาให้กระชับเข้าไว้ แข่งขันพร้อมกันทุกสถานีแล้วหมุนวนไปจนครบทุกสถานี ทำอย่างนี้ก็สามารถจัดแข่งได้ตามเวลาที่กำหนด ทุกอย่างย่อมมีความเป็นไปได้
ผมก็ไม่ได้อวดตัวเองว่าเก่งกาจอะไร ทุกคนต่างก็เริ่มต้นมาด้วยกันมีการพัฒนาฝึมือไปพร้อมๆ กัน และอยากเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมกับทางชมรมฯให้มากๆ นี่เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวที่ได้เสนอแนะขึ้นมาเท่าที่ปัญญาอันน้อยนิดของผมจะคิดวิเคราะห์ออกมาได้ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของผมย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็ต้องกราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้ แต่โดยส่วนลึกแล้วก็เพื่อพัฒนาให้ชมรมฯมีความเจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป
ขอแสดงความนับถือ