เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 05, 2024, 12:25:00 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิกฤติโลกร้อน มนุษย์ย้ายไปดาวอังคาร ปี ค.ศ.2020  (อ่าน 6769 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
พ่อค้าภูธร- รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 202
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1525



« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 08:56:03 PM »

 
                       



ดร.อาจองเผยวิกฤติโลกร้อน มนุษย์เตรียมอพยพสู่ดาวอังคาร ปี ค.ศ.2020

  ช่วงระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา มนุษย์รับรู้เรื่องการปรวนแปรของธรรมชาติจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก แผ่นดินไหว เกิดพายุรุนแรงในภูมิภาคต่างๆ ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจนทำให้คนล้มตาย ล่าสุดคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ไทยภายใน 30 ปี น้ำจะท่วมภาคกลางของไทย เพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย

  โอกาสที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาวะโลกร้อน เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร เพราะปกติจะใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนสัตยาไสย จ.ลพบุรี เพื่อมาบรรยายพิเศษเรื่องการผลิตบัณฑิตคุณภาพบนพื้นฐานคุณธรรม ณ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้ได้สละเวลาให้สัมภาษณ์ประเด็นของโลกร้อน และทางรอดของมนุษย์เกี่ยวกับเรื่องนี้

  ดร.อาจองกล่าวว่า ตอนนี้ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปเยอะทุกอย่างมาจากภาวะโลกร้อน จะเห็นปรากฏการณ์ใหม่ๆ ในประเทศไทยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ผ่านมาเวียดนามมีหิมะตกเป็นครั้งแรก ล่าสุดมีหิมะตกในเคนยา ประเทศเหล่านี้อยู่ใกล้เส้นศูนย์จึงไม่ต้องตกใจหากในเดือนมกราคมหิมะจะตกในเมืองไทย เดือนมกราคมอากาศจะเย็นที่สุด หิมะน่าจะตกในภาคเหนือ


 ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้ขั้วโลกเหนือละลายเร็วกว่าที่เราคิด จะเห็นว่าขณะนี้มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาใหญ่เท่ากับเมืองนิวยอร์กไหลลงสู่ทะเล แล้วก็ไปละลายในทะเลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

  "เฉพาะแค่ช่วงชีวิตผมเอง ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 16 เซนติเมตร ตอนนี้อายุผม 68 ปีแล้ว 16 เซนติเมตรถือว่าเยอะมากแค่ช่วงระยะสั้นๆ ปกติจะใช้เวลาเป็น 4,000-5,000 ปีไม่ใช่แค่ 100 ปี ตอนนี้กำลังเร่ง เพราะความร้อนมากขึ้นน้ำแข็งละลายมากขึ้น จะเร่งขึ้นไปเรื่อยๆ"

  เมื่อย้อนไปยังยุคน้ำแข็ง ตอนนั้นอากาศหนาวเกือบจะทั่วโลกมีหิมะตก น้ำเหล่านี้หมุนเวียนไปเป็นน้ำแข็ง มีน้ำสะสมอยู่บนภูเขา ตรงขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ ถ้าเราเปรียบเทียบตอนนั้นน้ำจากระดับน้ำทะเลระเหยขึ้นไปตกมากลายเป็นฝน และหิมะทำให้ระดับน้ำทะเลลดลง ตอนนั้นระดับน้ำทะเลอยู่ต่ำกว่าระดับปัจจุบัน 120 เมตร และถ้าน้ำแข็งละลายหมดระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 120 เมตรเพราะระดับน้ำทะเลไม่ได้หายไปไหนหมุนเวียนอยู่บนโลก

  เมื่อเป็นอย่างนี้ก็หมายความว่า น้ำในทะเลสูงขึ้นจะค่อยๆ กินฝั่งของเราไปเรื่อยๆ อย่างเขตบางขุนเทียนที่กรุงเทพฯ เราสูญเสียแผ่นดินไปแล้ว 1 กิโลเมตร
 นักวิชาการทางทะเลบอกว่า ปรากฏการณ์เหล่านี้คือปัญหากัดเซาะชายฝั่ง แต่ในมุมมองของอดีตนักวิทยาศาสตร์จากนาซาไม่เป็นเช่นนั้น

  "ตอนนี้เสาไฟฟ้าอยู่ในทะเล หลายคนบอกว่าไม่ใช่น้ำทะเลสูงขึ้น แต่เป็นการเซาะฝั่ง ข้อบ่งชี้ว่าหากน้ำเซาะฝั่งเสาไฟฟ้าก็ล้มไปแล้วแสดงว่า ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและเป็นอย่างนี้ทั่วโลก อเมริกาออกมาพูดว่า เมืองไมอามีอีกหน่อยก็จะไม่มีเหลือ ไม่ได้จม หมายความว่าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น"

  ภาวะโลกร้อนแผ่อานุภาพไปทั่วโลก ดูเหมือนว่า จะเป็นปัญหาที่ยากจะเยียวยา อาจตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุสว่าโลกจะแตก แต่ทางวิทยาศาสตร์บอกว่า ไม่ได้หมายความว่าแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ จะพัง เพราะน้ำท่วม แผ่นดินไหว อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้มนุษย์อยู่อย่างลำบาก ประกอบกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน จำนวนผู้บริโภคมากขึ้นทำให้โลกยิ่งร้อน ซึ่งมีคนคิดถึงทางออกของปัญหานี้ไว้แล้ว

  ดร.อาจองเล่าว่า องค์การนาซา มีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ โดยเลือกพื้นที่ดาวอังคาร เพราะมีสภาพเหมือนกับโลก ขณะที่ดาวดวงอื่นเต็มไปด้วยอากาศพิษ ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไป ดาวพฤหัสฯ มีสภาพเป็นกรด ดาวอังคารแม้อากาศหนาวและมีสภาพไร้น้ำหนัก แต่มนุษย์อยู่ได้ด้วยการไปสร้างเมืองกระจกทำให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนกับอยู่บนโลกได้ เพราะสภาพไร้น้ำหนักทำให้กระดูกเราอ่อนไม่แข็ง กล้ามเนื้อจะหายไป

  ในเบื้องต้นจะส่งคนออกไปสร้างอุตสาหกรรมในอวกาศ ใช้วัตถุดิบจากดวงจันทร์ของดาวอังคาร ซึ่งมีอยู่ 2 ดวง จะมีสารทุกอย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ยิปซัม แร่ธาตุต่างๆ และการขนย้ายแร่ธาตุเหล่านี้จะเป็นไปโดยง่ายบนสภาพไร้น้ำหนัก

ขณะเดียวกันเราเจอน้ำบนดวงจันทร์เยอะมาก จะสร้างฐานบนดวงจันทร์เป็นจุดเติมพลังงาน เอาน้ำที่อยู่บนดวงจันทร์มาใช้พลังงานแสงอาทิตย์แยกออกซิเจน เป็นพลังงานไฮโดรเจน ใช้พลังงานนี้ไปขับเคลื่อนกับยานต่างๆ ทำให้การเดินทางบนอวกาศเป็นเรื่องธรรมดาโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน
วางแผนว่ามนุษย์ครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องอพยพไปอยู่บนดาวอังคาร อาจไปไม่หมด เพราะโลกวิกฤติมนุษย์อยู่ลำบากแล้ว การออกแบบสร้างเมืองจะแบ่งเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่สัก 2 แสนคน เป็นเมืองในอวกาศโดยสร้างระบบให้มีน้ำหนัก สามารถเดินไปมา ไม่ใช่ลอยไปมา ส่วนการเดินทางในอวกาศจะสร้างเรือใบรับรังสีพลาสม่า เพื่อให้พาหนะนี้เคลื่อนไปในอวกาศได้

  การดำรงชีวิตในอวกาศไม่ต้องใช้น้ำมันจะใช้แสงแดดแทน เพราะมีเหลือเฟือ โดยจะสร้างแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่แค่ไหนก็ได้ รับรองไม่หล่นลงมาบนพื้นโลก เพราะในอากาศมีสภาพไร้น้ำหนัก สามารถรับแสงแดดได้ตลอดเวลาอีกทั้งไม่มีเมฆมาบดบัง

  ดร.อาจองบอกว่า องค์การนาซาวางแผนไว้ปี ค.ศ. 2020 มนุษย์จะลงไปบนดาวอังคารเป็นครั้งแรก เพื่อจะเริ่มไปเยี่ยมไปศึกษา อยู่ที่นั่นสักพักว่าจะอยู่กันได้สะดวกสบายแค่ไหน หลังจากนั้นจะเริ่มเอาคนไปอยู่สร้างตึกสร้างเมือง ตอนแรกจะมีเรือนกระจกแบบกลมๆ เราเข้าไปอยู่ในนั้นปลูกผักปลูกข้าว

  ต้นไม้บนดาวอังคารจะโตเร็วกว่าโลกของเรา ที่โตเร็วเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ ต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะเดียวกันเราไม่ต้องขนออกซิเจนไป ปลูกต้นไม้ก็คายออกซิเจนให้กับตัวเราได้

  เมื่อผู้คนอพยพมามากขึ้น อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ปกติบนดาวอังคารอุณหภูมิตอนนี้ติดลบ เมื่อมนุษย์อยู่มีเครื่องไม้เครื่องมือก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้น แต่ตรงนั้นไม่ต้องห่วง เพราะอุณหภูมิต่ำอยู่แล้ว อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส มนุษย์เข้าไปอยู่ได้อีกเยอะ และยิ่งอยู่เยอะยิ่งดีทำให้อากาศร้อนขึ้น

  ที่สุดแล้วเด็กในวันนี้จะเดินทางไปทำงานอวกาศแทนที่จะเดินทางไปตะวันออกกลาง เกาหลี ญี่ปุ่น การเดินทางไปดาวอังคารจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ

  ระยะทางจากโลกไปดาวอังคารไม่แน่นอน บางครั้งอยู่ใกล้กัน บางครั้งไกลออกไป ตอนที่ผมไปช่วยเขาส่งยานอวกาศลงบนดาวอังคารใช้เวลา 11 เดือน แต่ระยะเวลาที่ใกล้สุดระหว่างดาวอังคารกับโลกคือ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับจังหวะว่าโลกจะหมุนเข้าใกล้ดาวอังคารช่วงไหนของปี
 "เราต้องมองการณ์ไกลเริ่มคิดได้แล้วว่า ประเทศอื่นส่งคนขึ้นไปบนอวกาศแล้ว ของเรายังไม่มีคนไทยขึ้นไปสักคน ไม่ใช่ว่าเราต้องสร้างเอง แต่เราไปร่วมมือกับเขาให้ส่งคนของเราขึ้นไปบ้าง เพื่อที่เราจะได้มีประสบการณ์ได้เรียนรู้ จีนเริ่มส่งขึ้นไปแล้ว มีทั้งญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย อินเดีย ตะวันออกกลาง คนไทยเรายังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไป" ดร.อาจองกล่าวทิ้งท้าย

 ความหวังที่มนุษย์จะไปอยู่บนโลกใบใหม่ใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว
 

      ที่มา......http://atcloud.com/stories/81290  พี่ๆคิดเห็นอย่างไรครับ.......
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 09:02:28 PM »

                      จะย้ายไปทำร้ายดาวเขาอีกแล้ว  อิอิ   แลบลิ้น            ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

                
Rath72 รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 341



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 09:06:35 PM »

เชื่อยากเหลือเกินครับ หลังๆผมว่าความเห็นจาก ดร. องอาจ มันทะแม่งๆ อยู่หลายๆอย่าง

แต่ถ้าไปได้จริง แล้วที่ดาวอังคารไม่มีปัญหาโควต้าปืนและนายทะเบียนไม่ไร้มาตรฐาน ก็น่าสนใจอยู่นะครับ  น้ำลายหก
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 09:08:58 PM »

ขอบคุณครับ บวก1  Grin

ถ้าขายบ้านใกล้ทะเลหนี จะมีคนหาว่าบ้ารึเปล่าครับ ไปหาซื้อที่แถวภาคเหนือ อิสาน  คิก คิก
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
พ่อค้าภูธร- รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 202
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1525



« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 09:27:32 PM »

          เรื่องย้ายไปดาวอื่น.....มนุษย์วางแผนมานานแล้วครับ ผมเคยดูสารคดีของฝหรั่งแล้วภาคเป็นภาษาไทย เขาคิดไกลถึง การเดินทางและระยะทางต้องใช้ระยะเวลาที่อยู่บนยานอวกาศหลายชั่วอายุคน.....เมื่อถึงวันที่ต้องย้ายเราคงต้องใส่หน้ากากป้องกันมลพิษกันทุกคนแล้ว..... เศร้า
บันทึกการเข้า
Rath72 รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 341



« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 10:01:30 PM »

เรื่องที่ว่ามนุษย์มีแผนจะย้ายไปดาวอื่น มันยังไม่มีแผนที่ใช้ปฏิบัติการได้จริงเลยครับ

ส่วนที่ว่าความเห็นท่านทะแม่งๆมีหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นที่ว่าดาวพฤหัสเป็นกรด การจะส่งคนไปอยู่ที่ดาวพฤหัสนี่คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องกรดด่างเลยครับ เพราะดาวพฤหัสเป็นก้อนแก๊สที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า Gas Giant (หนึ่งใน 4 ดวงในระบบสุริยะ ที่เหลือคือดาวเสาร์ ยูเรนัส เนปจูน) มันไม่มีพื้นผิวให้ไปปักสร้างฐานอะไรได้เลย ไม่เห็นน่าจะต้องพูดถึงเรื่องความเป็นกรดเลย

หรืออีกเรื่องคือ การสร้างเรือนกระจกให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนโลก? อันนี้คงต้องฟังคำอธิบายว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เรื่องแรงโน้มถ่วงนี่ยังไม่เห็นวี่แววเลยครับว่ามนุษย์จะควบคุมแรงโน้มถ่วงได้อย่างไร วัตถุต่อต้านแรงโน้มถ่วงหรือ anti-gravity matter ก็ยังคงเป็นเรื่องในฝัน ที่ต้องปลดปมทางวิทยาศาสตร์กันไปอีกหลายเปลาะกว่าจะไปถึงตรงนั้น ผมคาดว่ามันจะยังห่างไกลเหมือนคนยุคหินคิดถึงการสร้างเครื่องบินนั่นแหละครับ กว่าจะมาถึงต้องมีความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ วิศวกรรม โลหะวิทยา อากาศพลศาสตร์ ปิโตรเคมีฯลฯ มากมายกว่าจะผลิตเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเอาไปใส่เครื่องบินได้ อนาคตอาจจะทำได้ แต่คงไม่ใช่ภายใน 10 ปีครับ

ถ้าคิดถึงเรื่องการทำเหมืองแร่บนดวงจันทร์ยิ่งอึ้งใหญ่เลยครับ ไม่รู้ว่าท่านทราบได้อย่างไรว่าบนดวงจันทร์โฟบอสกับไดมอสมีแร่ยิปซั่มที่สามารถนำมาผลิตเชิงอุตสาหกรรมได้ Huh

ยังมีปริศนาจากคำกล่าวของท่านอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปลูกต้นไม้บนสมมุติฐานแค่ว่ามันชอบคาร์บอนไดออกไซด์แล้วจะเติบโตได้ โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่นๆเลย หรือปัจจัยสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อร่างมนุษย์ เช่นการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์โดยไม่มีชั้นบรรยากาศแบบโลก ผลต่อจุลินทรีย์จำเป็นที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ ฯลฯ

อ่านแล้ว คนไม่มีความรู้แบบผมมีคำถามมากมายมหาศาลตามมาครับ
บันทึกการเข้า
General Lee
Sr. Member
****

คะแนน 40
ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 10:23:51 PM »

ไม่ยึดติดครับ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดเป็นไปตามผลของกรรม  เศร้า
บันทึกการเข้า

Guns don't kill people, people kill people.
if you leave a gun sitting on a table, will it load itself and shoot someone? "No"
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 10:25:31 PM »

ถาม อ. อาจอง ท่านอาจตอบมาในแบบที่ถามต่อไม่ออกก็ได้ครับ

ตอนเรียน ป.ตรี ผมไปลงวิชาเลือกอิสระของจุฬาฯ ช่วงซัมเมอร์ วิชา มนุษย์และธรรมชาติ มี อ. ๒ ท่าน ท่านแรกสอนในแนววิทยาศาสตร์ทุกอย่าง แบบที่เจอทั่วไป อีกท่านคือ อ. อาจอง ก็สอยเรื่องธรรมชาติทั่วไป แต่ผมได้ยินจากปากท่านเองว่าท่านเลื่อมไส ไสบาบามาก ไปพบไสบาบาที่อินเดียมาแล้ว ๑๔ ครั้ง ครั้งหนึ่งไสบาบาเสกลูกลิงออกจากผ่ามือมาวิ่งรอบๆ และเสกให้หายกลับไปในฝ่ามือได้ นอกจากนี้ท่านก็บอกว่าคนที่มีวิชานั้นสามารถเดินทะลุกำแพงคอนกรีตได้จริงๆ ได้ยินแล้วผมถามอะไรต่อไม่ออกครับ

อย่างไรก็ตามเป็นคนละเรื่องในเรื่องการไปตั้งถิ่นฐานในดาวดวงอื่น

ก่อนอื่นผมยังอยู่ในขั้นมีความสงสัยในเรื่องพื้นฐาน เช่น การส่งวัตถุ ๑ กก. ขึ้นไปในควบคุมในวงโคจร ต้องใช้เชื้อเพลิงเท่าไหร่? ใช้จรวด ยานอวกาศ วัสดุ อุปกรณ์ พื้นฐาน และกำลังคนสนับสนุนเท่าไหร่? การส่งมนุษย์ ๑ คนขึ้นไปในอวกาศ ๑ ชม. ได้นั้นต้องใช้กำลังคนผู้เชี่ยวชาญ ระบบสนับสนุน และทรัพยากรเท่าไหร่?

ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล อาจดูได้จาก ค่าตั๋วท่องเที่ยวอวกาศ สำหรับเศรษฐีที่ขึ้นไปไม่กี่ ชม. ก็ได้ และที่น่าสนใจคือการจัดการเช่นนี้สามารถทำในวงกว้างได้ขนาดไหน?
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 11:54:21 PM »

พบอันตรายของการดำรงชีพอยู่ในอวกาศ มนุษย์อวกาศจะมีร่างกายอ่อนปวกเปียก เป็นตาแก่ อายุ 80 ปีไปได้ หลังจากประจำอยู่กับสถานีอวกาศนอกโลกมานาน 6 เดือน

อาจารย์โรเบิร์ต ฟิตตส์ นักชีววิทยามหาวิทยาลัยมาร์เกตต์   ของสหรัฐฯ   หัวหน้าคณะศึกษา เผยว่า แต่ยังเคราะห์ดีว่าอาการเหล่านั้นจะเกิดเป็นขึ้นชั่วคราวเท่านั้น   กล้ามเนื้อจะกลับคืนเป็นปกติ เมื่อกลับมาสู่พื้นโลกเพียง 2-3 เดือน มนุษย์อวกาศอาจจะหลีกเลี่ยงการตกเป็นคนอ่อนแอ   โดยการค้นคว้าและหาอุปกรณ์ออกกำลังในห้องพลศึกษาบนสถานีอวกาศให้มากขึ้น

อาจารย์โรเบิร์ตกับคณะได้ศึกษาจากการตัดชิ้นเนื้อของมนุษย์อวกาศสหรัฐฯและรัสเซีย   ที่กลับลงมาจากการประจำอยู่บนสถานีอวกาศมา 6 เดือน เพื่อตรวจดูกล้ามเนื้อ ได้ทราบผลว่า มนุษย์อวกาศจะสูญเสียพลังของกล้ามเนื้อน่องลงไป   ซึ่งจำเป็นกับการทรงตัวและท่าทางทรงตัว   ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 และดูเหมือนจะเป็นส่วนของร่างกายที่บอบช้ำจากการเดินทางในอวกาศมากกว่าส่วนอื่น กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงลงไปนี้จะมีเรี่ยวแรงเท่ากับผู้ที่มีอายุแก่กว่า 2  เท่า   ทั้งๆที่พวกเขาเหล่านี้ออกกำลังประจำวันวันละ 1-2 ชม.

การเดินทางในอวกาศไกลๆ  อย่างเช่น  ไปยังดาวอังคาร  จะต้องใช้เวลาเดินทางอย่างต่ำนานถึง  3  ปี.


http://www.thairath.co.th/content/life/106473
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 12:07:27 AM »

วิชาวิทยาศาตร์เบื้องต้นครับ
โลกเรานี้แต่ก่อนแต่ไร ก็ไม่มี O2 แต่พอเริ่มมีพืชสีเขียว พืชก็สังเคราะแสงโดยบริโภค CO2 เข้าไป และคาย O2 ออกมา นั้นใช้เวลาหลายร้อยล้านปีกว่าจะมี O2 พอจะให้สิ่งมีชีวิตอื่นมาใช้ O2 ในการดำรงชีวิต
ข้อสอบ เคยออกมาว่าสิ่งแรกถ้าจะไปอยู่บนดาวอังคารคืออะไร
คำตอบคือ ต้องเอาพืชไปปลูกบนดาวอังคาร
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 01:16:03 AM »

ดาวอังคารมีแรงดึงดูดครับ...

ผมไม่ทราบว่าอ.อาจองเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า...

แต่แรงดึงดูดของดาวอังคารอยู่ที่ 0.376 g ครับ...

คือราวๆ 1/3 ของโลกเรา...

ถ้าหากดาวอังคารไม่มีแรงดึงดูด...

โฟบอสกับไดมอสคงลอยเท้งเต้งไปที่อื่นแล้วครับ... Cheesy
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 01:18:05 AM »

ปล. โฟบอส กับ ไดมอส เป็นชื่อม้าเทียมรถศึกของเทพ มาร์ ครับ

เอ นอกเรื่องหรือเปล่าเนี่ย? อิ อิ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 01:18:26 AM »

อีกอย่าง...

แร่เหล็กไม่ต้องไปหาที่ดวงจันทร์ทั้งสองดวงของดาวอังคารหรอกครับ...

ผิวดาวอังคารทั้งดวงเป็นออกไซด์ของเหล็กครับ...

เราจึงว่า Red Planet ครับ... Cheesy
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 01:29:29 AM »

"ไปสร้างเมืองกระจกทำให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนกับอยู่บนโลกได้"

สงสัยความหมายครับ? ตกคำว่า "และ" ก่อน "ทำให้" หรือเป่ล่า? มีเทคนิกการสร้างแรงโน้มถ่วงอย่างไร?
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 02:07:26 AM »

อย่างที่ผมเรียนไปแล้วครับน้องต๊อก...

ดาวอังคารมีแรงโน้มถ่วงอยู่ราวๆ 1/3 ของโลก...

ถ้าหากไปลงหลักปักฐานอยู่กันนานๆ ไม่จำเป็นต้องสร้างสนามแรงโน้มถ่วงขึ้นมาใหม่ครับ...

แต่กลาสโดมคงต้องสร้าง เพื่อเก็บออกซิเจนไว้ให้หายใจ...

เพราะกว่า 90% ของบรรยากาศของดาวอังคารเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ครับ...

ที่สำคัญต้องหาน้ำมาให้พอด้วย...

เพราะบนผิวดาวอังคารมีน้ำแค่กระจุกเดียว คือนอร์ทแค็ปครับ... Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 22 คำสั่ง