เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
เมษายน 08, 2025, 01:07:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หนังสือ/ภาพยนตร์ เด็กดู(สนุก)ดี ผู้ใหญ่ดูได้ (ความรู้)  (อ่าน 15267 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #30 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 03:14:23 AM »

ผมกลับชอบ หนังจักรๆวงค์ๆ  มันสอนอะไรให้เรามาก  เนื้อเรื่องส่วนใหญ่มาจากของอินเดีย  ซึ่งสอดคล้องกะวัฒนธรรมแนวคิดของบ้านเรา
มีคติสอนใจ จะให้ตีความในวงแคบสำหรับเด็ก หรือตีความในลึกซึ้งสำหรับผู้ใหญ่ มองได้ถึงรากฐานความเป็นมาของกลุ่มชนในชาติพันธุ์
ตอนนี้ ให้ลูกดู เคเบิล  ช่อง ดาราวีดีโอ

สำหรับหนังสือ  สำหรับเด็ก 
ผมจำได้ว่า หนังสือเล่มเรื่องแรกที่ผมอ่านเป็นและอ่านจนจบ   คือเรื่อง กัปตันทมิฬ  ต่อมา ทอมซอวเยอร์ และ ฮัคเคอเบอรรี่ฟีน 

ส่วนที่เป็นหนัง และรู้สึกดีเมื่อดูตอนเป็นเด็ก 
ป่าเล็กในป่าใหญ่  (จำชื่อเรื่องภาษาอังกฤษไม่ได้)
หนูน้อยฟันนี่โน๊ต  หนังญี่ปุ่น ที่เล่าเรื่องราวของเด็กประถมที่อยากรู้เรื่องตัวไหม  ครู ก็นำนักเรียนออกศึกษาด้วยตัวเอง ทดลองเลี้ยงเอง ตลอดจนถึงขั้นตอนสาวไหม  หนังเรื่องนี้ทำได้น่ารักมาก ไม่ได้ดำเนินเรื่องเหมื่อนสารคดี  คนดูแน่นโรง   เสียดายผมไม่ทราบชื่อภษาสากลของหนังเรื่องนี้ เพราะตอนนั้นยังเด็ก  แต่เห็นเทศกาลภาพยนต์ ก็พูดถึงหนังเรื่องนี้อยู่บ่อย

อีกเรื่อง ที่ทำเป็นหนังแล้วผมชอบ " ลอดจ์จิม"   ชอบมาก ดูสนุก  แม้เรื่องราวจะเป็นเรื่องฆ่าๆแกงๆกันก็ตาม แต่ภาพที่ทำออกมา ดูเหมือนทำให้เด็กดูได้  ผมชอบสีสัน ของคนทำหนังในยุค 60
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #31 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 03:47:58 AM »

Lemony Snickett's นี่ ดิฉันอ่านเล่มแรกแต่ไม่จบ (ไม่ได้ซื้อมาเองก็เช่นนี้ เฮ้อ) มารู้ตอนจบของเรื่องก็ตอนที่เป็นภาพยนตร์ไปแล้ว  ยิ้มีเลศนัย

ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณหมอ rute กับคุณสิงห์กลิ้งนะคะ ที่ว่าเรื่องนี้เน้นเรื่องครอบครัวและความสามัคคีได้ดี ดิฉันว่าสิ่งที่น่ารักอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ คือคนแต่งให้บทแสดงกับน้องตัวเล็กสุดด้วย (น้องซันนี่ ฟันคม) เพราะหนังสือเด็ก หรือแม้แต่การ์ตูนไม่ค่อยสนใจตัวละครที่เป็นเด็กทารกเท่าไร เพราะมันเขียนยาก ไม่มีอารมณ์ให้แสดงมาก แต่ในความเป็นจริง หนังสือเด็กที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องก็ไม่ควรจะละเลยน้องเล็กที่เป็นเด็กทารก เพราะว่าเด็กจะได้รู้สึกสนุกที่จะจินตนาการว่า น้องคนเล็กที่ตอนนี้อาจจะพูดไม่รู้เรื่องเดินไม่ค่อยได้เนี่ย จริงๆ แล้วอาจมีอะไรพิเศษอยู่ และจะได้อยากให้น้องเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยของตัวเอง ดูเป็นการส่งเสริมความสามัคคีในครอบครัวดีค่ะ   Cheesy ส่วนเด็กที่เป็นลูกคนเดียว อ่านเรื่องนี้ก็น่าจะได้ภาพว่าการช่วยเหลือกันของพี่น้อง การรับผิดชอบ มีกันและกันของพี่กับน้อง และเมื่อสามารถนึกภาพออกแล้ว เด็กก็จะเกิดความเข้าใจบทบาทตัวเองและจะได้รู้ว่าจะคบกับเด็กที่แก่กว่าหรืออายุน้อยกว่าอย่างไร Smiley

สำหรับตัวร้ายของเรื่อง ดิฉันมองว่า โรคจิตไปนิดสำหรับเป็นหนังสือเด็ก ไม่รู้ว่าอ่านตอนเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า เลยรู้สึกอึ้งไปหน่อยกับมุขจะให้ตัวร้ายหลอกแต่งงานกับพี่สาวในเรื่อง (ดูหัวงู pervert) และมุขการหลอกจะเอาเงินครอบครัวก็ดูชั่วร้ายไปหน่อย เช่น ให้เด็กๆ ถูกรถไฟชน จุดไฟเผา ฯลฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้ต้องการสร้างบรรยากาศแนวโกธิคที่ดูลึกลับ ให้เหมือนกับที่ว่าครอบครัวนี้เหมือนต้องคำสาป คนเขียนก็เลยคงเอาแรงบันดาลใจมาจากความน่ากลัวของเทพนิยายยุโรปยุคกลาง หรือเทพนิยายกริมม์ (พี่น้องกริมม์ เป็นผู้รวบรวมเรื่องนิทานพื้นบ้านเยอรมันที่มีอยู่แล้วมาเล่าใหม่ ไม่ได้แต่งเองหมด) เพียงแต่แทนที่ในเรื่องนี้จะให้ผู้ร้ายเป็นพ่อมด แม่มด ยักษ์ แปลงร่างมา ก็ให้เป็นคน และเป็นญาติห่างๆ ที่ชั่วร้าย และปลอมตัวไปมาได้แทน ซึ่งจะว่าไปก็ใกล้กับชีวิตคนจริงๆ ที่ผู้ใหญ่ตีหลายหน้าหลายบทบาทเพื่อหาประโยชน์จากคนอื่น นั้น น่ากลัวทีเดียว  อ๋อย

สำหรับตัวละครคุณป้า Josephine นั้น ก็เป็นตัวละครที่น่าสงสารเพราะเป็นผู้ใหญ่ก็จริง แต่ดูช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กลัวอะไรประหลาดๆ และก็อ่อนต่อโลกยิ่งกว่าเด็กเสียอีก ถ้าจำไม่ผิด หนังสือเขียนเหมือนให้เด็กรู้สึกเห็นใจผู้ใหญ่ที่อาจเป็นคนดีแต่ทำอะไรไม่ได้ และให้เด็กเรียนรู้ที่จะไม่คาดหวังอะไรจากผู้ใหญ่มากเกินไป ซึ่งก็พอเห็นได้ในชีวิตจริง เพราะผู้ใหญ่บางคนก็ดูหน่อมแน้มเหลือเกิน จนไม่น่าจะช่วยเหลือใครได้ เพราะตัวเองยังดูแลตัวเองไม่รอด   กิ๊วก๊าว

ตัวละครผู้ใหญ่แบบที่ไว้ใจไม่ได้นี้นับว่าค่อนข้างแหวกแนว เพราะส่วนใหญ่ตัวละครผู้ใหญ่ในหนังสือผจญภัยของเด็กๆ มักไม่สนใจเด็กๆ และปล่อยเด็กๆ ตามลำพัง เช่น
ซีรีส์ชุดนาร์เนีย ที่ลุง (?) เจ้าของบ้านที่มีตู้เสื้อผ้าแทบจะไม่สนใจว่าหลานๆ หายไปไหน หรือปีเตอร์แพนที่ลูกในบ้านแอบบินไปถึงเนเวอร์แลนด์ พ่อแม่ก็ยังไม่รู้เลย ไม่ค่อยมีตัวละครที่ประสงค์ดีแต่ไม่มีประโยชน์ หรือประสงค์ร้ายแต่เป็นญาติ ถือว่าเป็นความสลับซับซ้อนมีมิติของหนังสือซีรีส์นี้

สำหรับผู้ใหญ่ หนังสือ/ภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เห็นว่า สติปัญญาของเราสามารถช่วยเราแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง เหมือนกับว่า ถ้าเด็กๆ เหล่านี้ทำได้ ทั้งๆ ที่เป็นเพียงเด็ก เราก็น่าจะทำได้เหมือนกัน ก็พอจะเข้าใจได้ที่คุณสิงห์กลิ้งหยิบเรื่องนี้มาดูตอนเหนื่อยๆ แต่สำหรับดิฉันแล้ว เรื่องนี้ดูมืดๆ หมองๆ ไปหน่อย เหมือนบรรยากาศอังกฤษยุคโกธิควิคทอเรียน เป็นบรรยากาศวังเวงๆ ซึ่งก็คงไม่แปลกเพราะถ้าจะพูดถึงเรื่องโชคลาง ของขลัง และความโชคร้าย อังกฤษก็เป็นประเทศหัวโบราณที่เชื่อถือโชคลางที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรป (หากลองศึกษาดู คนอังกฤษเชื่ออะไรแปลกๆ เยอะแยะไปหมด ตั้งแต่ไม่ให้กางร่มในบ้าน ไม่ให้เอารองเท้าใหม่วางบนโต๊ะ ฯลฯ) ดังนั้น จะเขียนแนวนี้ เลยต้องเอาบรรยากาศอย่างนี้ละมั๊งคะ  Wink






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2010, 03:50:55 AM โดย bluebunny รักในหลวง » บันทึกการเข้า

For King & For Country!
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #32 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 03:55:12 AM »

เรื่องจักรๆ วงศ์ๆ ดิฉันก็ชอบค่ะ อิอิ แต่ก่อนก็เคยดู สี่ยอดกุมาร มาเหมือนกัน แต่จำไม่ได้แล้ว เพราะเด็กมาก... ส่วนบ้านเล็กในป่าใหญ่ (ใช่ไหมคะ?) ของลอร่า อิงเกิลล์ ไว้เขียนจบซีรีส์ แฮรี่ พอตเตอร์ จะค่อยคุยกันค่ะ

ขอกลับเข้าเรื่อง Harry Potter ก่อนนะคะ
บันทึกการเข้า

For King & For Country!
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #33 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 04:47:57 AM »

Harry Potter and the Goblet of Fire

ภาคนี้ เป็นภาคที่ยาวพิเศษ อ่านแล้วเหนื่อยมากค่ะกว่าจะจบ แต่ก็เป็นภาคที่เข้าใจว่าเขียนยาก เพราะว่าต้องเล่าหลายๆ เรื่องพร้อมกัน ตั้งแต่การเป็นวัยรุ่นแตกเนื้อหนุ่มสุดขีด จนถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่เดิมเป็นเด็ก แต่ตอนนี้โตขึ้นมาและเริ่มมีอัตตา เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น จนถึงต้องสร้างโลกเวทย์มนตร์ที่กว้างใหญ่ขึ้น มีประเทศอื่นๆ และโรงเรียนเวทย์มนตร์อื่นๆ ด้วย

ในเรื่องนี้ JK Rowling พูดถึงความรู้สึกอิจฉาทีเกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเองของคน ไม่ว่าจะในตัวแฮรี่ ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด หล่อที่สุด เด่นดังที่สุด หรือมีคนชื่นชมที่สุดแล้ว เพราะมีคู่แข่งที่ดีพอๆ กัน หรือไม่ก็ดีกว่า เช่น Viktor Krum ที่ดังด้าน Quidditch กว่า หรือ Cedric ที่หล่อกว่าแถมได้เป็นแฟนกับสาวที่แฮรี่แอบชอบอยู่ด้วย แม้แต่รอน เพื่อนสนิทของแฮรี่ที่แม้จะรักกันอย่างไรก็อดแสดงอาการอิจฉาไม่ได้ ไม่อิจฉาแฮรี่ก็อิจฉา Krum ฯลฯ อาการอิจฉานี้ เป็นเรื่องธรรมชาติของวัยรุ่น ซึ่งเกิดจากความไม่มั่นใจ แฮรี่เอาชนะความรู้สึกนี้ได้ เพราะเป็นคนที่เข้มแข็ง แต่รอนจะลำบากกว่า เพราะใจอ่อนกว่า 

แต่หัวใจหลักของเรื่องในภาคนี้ คือ เรื่องการรับมือกับชื่อเสียงและการเป็นวีรบุรุษ เพราะ Goblet of fire หรือถ้วยอัคคี ก็คือถ้วยรางวัลชนะเลิศอะไรสักอย่างที่สังคมยอมรับ
หนังสือเรื่องนี้มีความน่าสนใจตรงที่แสดงให้เห็นด้านลบของการมีชื่อเสียงด้วย โดยให้มีตัวละคร Rita Skeeter ที่คอยรายงานข่าวโคมลอยเกี่ยวกับแฮรี่ สร้างความวุ่นวายตั้งแต่ภาคนี้จนถึงภาคต่อๆ ไป

สำหรับเกร็ดที่น่าสังเกตก็คือ ภาคนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า quidditch ก็คือฟุตบอลในโลกมนุษย์นั่นเอง เพราะคุณ JK Rowling ก็เป็นคนอังกฤษ ซึ่งไม่เอาความบ้าฟุตบอลมาใช้เล่าเรื่องที่มีตัวละครเด็กผู้ชายก็คงจะแปลก ส่วนการที่โรงเรียนเวทย์มนตร์มีแค่สองโรงเรียน จากฝรั่งเศสกับบัลแกเรีย (?) ก้อน่าจะสะท้อนความจริงที่ว่า คนอังกฤษชอบล้อเลียนคนฝรั่งเศส (blame the germans and make fun of the french) เพราะสำหรับอังกฤษที่เป็นเกาะแล้ว เพื่อนบ้านยุโรปที่ใกล้ที่สุด และระดับบทบาทพอกัน ก็คือฝรั่งเศส (ดัดจริตน่าหมั่นไส้มากสำหรับคนอังกฤษ) ดังนั้น จะเขียนอะไรเชิงหยิกแกมหยอกก็ไม่ยาก  Grin

ส่วนเยอรมันนั้น อังกฤษเป็นคู่แข่งกับเยอรมันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระราชินีควีนวิคตอเรีย (ซึ่งเป็นพระญาติผู้ใหญ่ของ Kaiser Wilhelm II) เพียงแต่ว่าจะเอามาใช้เลยก็ดูไม่ขลัง เพราะโรงเรียนเวทย์มนตร์ในเยอรมันที่แสนจะสะอาดเป็นระเบียบโมเดิร์น คงเขียนออกมาแล้วไม่น่าเชื่อถือ (ทำเป็นโรงเรียนแข่งต่อรถอาจพอได้) นอกจากนี้ จะเป็นการขัดใจคนอังกฤษเล็กน้อย หากจะไปยกยอให้คนเยอรมันเก่งระดับโลก (เวทย์มนตร์) และกีฬา (quidditch) มากกว่าคนอังกฤษ เลยต้องเขียนให้เป็นนาย Krum จากบัลแกเรียแทน เพื่อถนอมน้ำใจอังกฤษที่แพ้ฟุตบอลเยอรมันอยู่บ่อยๆ และอังกฤษก็ช้ำใจประจำ (......ไม่ได้ว่านะค้า)  ยิ้มีเลศนัย ส่วนตอนกีฬา Quidditch World Cup อ่านแล้วดูแล้วก็เหมือนกับบอลโลก บวกเทศกาล Glastonbury festival ที่เป็นคอนเสิร์ตฮิปปี้ใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งก็สอดคล้องกับวัยของคนแต่งทีน่าจะผ่านยุค 60 ต่อเนื่อง 70  Smiley


ภาพยนตร์ภาคนี้ ในแง่ของการกำกับศิลป์ ทำได้ดี เพราะว่า ทำออกมาตรงกับหนังสือในส่วนของการประลองยุทธต่างๆ ของแฮรี่ จะดูต่างไปหน่อยก็ตรงฉากเต้นรำ ที่อ่านแล้วรู้สึกว่าสวยกว่านี้


นอกจากนั้น หนังสือภาคนี้ยังพูดถึงสิ่งที่ทำให้คนๆ นึงเป็นวีรบุรุษจริงๆ ซึ่งได้แก่การเสียสละเพื่อคนอื่น การเห็นใจคนอื่นและการแสดงความรับผิดชอบ เช่นตอนที่แฮรี่ยอมเสียเวลาไปช่วยน้องสาวเฟลอร์ เดอ ลากูร์ เพราะนึกว่าเธอจมน้ำตายไปจริงๆ จนตัวเองแพ้การแข่งขันกระโดดน้ำ หรือการที่แฮรี่พยายามที่จะพาศพของเซดริกกลับไปที่โรงเรียน แม้จะถูก Voldermort ไล่ทำร้าย
บันทึกการเข้า

For King & For Country!
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #34 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 10:05:24 AM »

เรื่องจักรๆ วงศ์ๆ ดิฉันก็ชอบค่ะ อิอิ แต่ก่อนก็เคยดู สี่ยอดกุมาร มาเหมือนกัน แต่จำไม่ได้แล้ว เพราะเด็กมาก... ส่วนบ้านเล็กในป่าใหญ่ (ใช่ไหมคะ?) ของลอร่า อิงเกิลล์ ไว้เขียนจบซีรีส์ แฮรี่ พอตเตอร์ จะค่อยคุยกันค่ะ

ขอกลับเข้าเรื่อง Harry Potter ก่อนนะคะ

เอ้า ... แล้วทำไมไม่ขึ้นกระทู้ Harry Potter  ไปเลยละครับ   คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #35 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 11:11:19 PM »

แหม ก็เผื่อสมาชิกท่านอื่นๆ อยากจะยกเรื่องอื่นมาคุยด้วยไงคะ..  Grin ไหว้
บันทึกการเข้า

For King & For Country!
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #36 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 12:42:41 AM »

ผมกลับมองว่า The Goblet of Fire นั้นเจ๊ JK แกจงใจแต่งเพื่อให้สร้างหนังครับ...

โดยการเน้นให้เห็นฉากต่างๆที่สามารถใช้ CG สร้างความอลังการ์ขึ้นมาได้...

ไม่ว่าจะเป็นฉากการแข่งควิชดิชเวิร์ดคัพ ฉากตรามารฉายขึ้นฟ้า ฉากถ้วยคัดเลือกตัวแทน ฉากผ่านด่านมังกร ฉากใต้ทะเลสาป ฉากในเขาวงกต และสุดท้ายฉากสู้กับโวลเดอร์มอทครับ...

ในเรื่องของแง่คิดนั้น ตอนนี้เป็นการยืนยันถึงความสามารถของแฮรี่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นวีรบุรุษด้วยตัวเองอย่างเต็มที่...

โดยอาศัยความช่วยเหลืออื่นๆเพียงไม่มาก...

แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นตอนที่สนุกและน่าอ่านไม่แพ้ตอนอื่นๆครับ... เยี่ยม
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #37 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 12:45:42 AM »

สารภาพตามตรงว่าเป็นแฮรี่ พอร์เตอร์ ตอนแรกที่ซื้อเล่มภาษาอังกฤษ...

ก่อนหน้านี้อ่านภาษาไทยมาตลอด พอถึงตอนที่สี่รอแปลไม่ไหวเลยกัดฟันซื้อมาอ่าน...

แต่ก็ดีครับ อ่านช้ามากกว่าจะจบภาษาไทยก็พิมพ์ออกมาพอดี...ฮา...  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #38 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 01:34:33 AM »

หนังสือดีอีก(หลายๆ)เล่มที่ผมประทับใจ... และอ่านหลายรอบ... คือเพชรพระอุมาครับ... ภาคแรกครับ... ภาคสองนั้น Grin Grin Grin




บันทึกการเข้า
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #39 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 05:36:32 PM »

อืม น่าจะเป็นไปได้เหมือนกันค่ะ เพราะพอเล่มแรกๆ เริ่มดัง เริ่มได้รางวัล มีคนกล่าวถึง JK Rowling ก็อาจจะเริ่มคิดแล้วว่าจะเขียนเล่ม 4 อย่างไร  แต่ก็อย่างที่บอก ดิฉันก็ว่า แกก็คงอดไม่ได้เอาความบ้าฟุตบอลใส่ไปในหนังสือแกด้วย เพราะเป็นหนังสือเด็กที่มีตัวละครผู้ชาย ที่อยู่ในวัยโรงเรียน จะไม่ให้มีกีฬาเลยคงไม่ได้

ผมกลับมองว่า The Goblet of Fire นั้นเจ๊ JK แกจงใจแต่งเพื่อให้สร้างหนังครับ...

โดยการเน้นให้เห็นฉากต่างๆที่สามารถใช้ CG สร้างความอลังการ์ขึ้นมาได้...

ไม่ว่าจะเป็นฉากการแข่งควิชดิชเวิร์ดคัพ ฉากตรามารฉายขึ้นฟ้า ฉากถ้วยคัดเลือกตัวแทน ฉากผ่านด่านมังกร ฉากใต้ทะเลสาป ฉากในเขาวงกต และสุดท้ายฉากสู้กับโวลเดอร์มอทครับ...

ในเรื่องของแง่คิดนั้น ตอนนี้เป็นการยืนยันถึงความสามารถของแฮรี่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นวีรบุรุษด้วยตัวเองอย่างเต็มที่...

โดยอาศัยความช่วยเหลืออื่นๆเพียงไม่มาก...

แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นตอนที่สนุกและน่าอ่านไม่แพ้ตอนอื่นๆครับ... เยี่ยม
บันทึกการเข้า

For King & For Country!
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #40 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 05:38:16 PM »

อืม เพชรพระอุมา รู้สึกมีการคุยในกระทู้อื่นแล้วนะคะ คงไม่ต้องพูดซ้ำที่นี่ และจะว่าไปออกจะดูเป็นหนังสือผู้ใหญ่ไปสักนิดนึงมั้งคะ เลยขอไม่แตะแล้วกันนะคะ ไหว้ (ไม่นับที่ว่า อ่านไปรอบเดียวและลืมไปแล้ว คงไม่สันทัดพอจะคุยได้ดีพอกับท่านสมาชิกอื่นๆ )  Cheesy

หนังสือดีอีก(หลายๆ)เล่มที่ผมประทับใจ... และอ่านหลายรอบ... คือเพชรพระอุมาครับ... ภาคแรกครับ... ภาคสองนั้น Grin Grin Grin





บันทึกการเข้า

For King & For Country!
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #41 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 05:40:28 PM »

เพชรพระอุมามีฉากวาบหวิวครับ...

เด็กเล็กอ่านไม่เหมาะครับ... Cheesy
บันทึกการเข้า
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #42 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 06:08:22 PM »

Little House (on the prairies) หรือ หนังสือชุดบ้านเล็กในป่าใหญ่

ในเมื่อมีท่านสมาชิกเอ่ยถึง ก็เลยขอพูดถึงสักนิดนะคะ

หนังสือเซ็ตนี้ ต่างกับหนังสือเด็กอื่นๆ ที่เอ่ยถึงในข้างต้น เพราะมีลักษณะเป็นอัตชีวประวัติค่อนข้างสูง และคนเขียนเลือกจะเล่าเรื่องในทำนองการเล่าวิถีชีวิตและประวัติชีวิตอย่างค่อนข้างละเอียด ต่างจากโต๊ะโตะจัง ที่แม้จะเป็นอัตชีวประวัติ แต่คนเขียนก็มีความตั้งใจพอควรที่จะสื่อสารถึงความรู้สึก หรือมุมมอง หรือแง่คิด ที่ตัวเองได้สัมผัสในวัยเด็ก  หนังสือชุดนี้ไม่ได้พยายามสื่ออะไรนอกจากเป็นการเล่าเรื่องประสบการณ์และการผจญภัยของลอร่า อิงเกิลส์ เมื่อเป็นเด็ก จนกระทั้งแต่งงาน มีครอบครัว

อย่างไรก็ตาม หนังสือที่เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดีเหมือนกันค่ะ (ดิฉันอ่านครั้งแรกวางไม่ลงจนไม่ยอมไปทานข้าว โดนดุเสียยกใหญ่) และแม้จะไม่ได้มีความตั้งใจจะสื่อสารอะไรเป็นพิเศษ ผู้อ่านก็น่าจะได้อะไรจากหนังสือพอควรนอกจากความสนุกสนาน จินตนาการที่แทบจะสมจริง (โดยเฉพาะเรื่องการบรรยายวิว อากาศความอุ่นความหนาว สัตว์เลี้ยงในฟาร์ม และเรื่องสูตรอาหารต่างๆ) สิ่งที่ผู้อ่านน่าจะพอสัมผัสได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องของความรักในครอบครัว ความเสียสละ ความอดทนต่อความยากลำบาก การทำงานหนัก และการให้อภัยซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ครอบครัวลอร่า พยายามสอนลูกๆ และลอร่าก็พยายามทำตาม  Smiley

ในด้านการเมือง-สังคม หนังสือชุดนี้ ออกจะว่าไปแสดงภาพของสังคมในอุดมคติพอสมควร ซึ่งค่อนข้างต่างจากสภาพความเป็นจริงในสหรัฐฯ ตอนนั้นพอสมควร ที่เป็นช่วงที่สงครามเหนือใต้เพิ่งเลิกได้สักพัก อันที่จริงแล้วควรจะมีความซอมซ่อ ท้อแท้ ไม่เท่าเทียมในสังคมให้เห็นมากกว่าในหนังสือ แต่ในขณะเดียวกัน ก็คงจะตำหนิคนเขียนไม่ได้ เพราะหนังสือชุดนี้ เป็นประสบการณ์ของคนแต่งเอง ที่เป็นผู้หญิงและโตขึ้นมาอย่างแม้จะไม่ร่ำรวยแต่พ่อแม่ก็เลี้ยงดูมาดีพอสมควร ไม่มีการออกนอกลู่นอกทางให้ไปเจออะไรไม่ดีหรือด้านมืดของสังคมอเมริกาในยุคนั้นสักเท่าไร

สำหรับภาพยนตร์ซีรีส์ จำได้ว่ามีหลายเวอร์ชั่นพอควร แต่รุ่นที่ดิฉันดูครบที่สุดเห็นจะเป็นรุ่นที่ ไมเคิลล์ แลนดอน แสดง ซึ่งก็เก่าพอควร ซีรีส์นี้ทำได้ค่อนข้างดี แต่ปัญหาคือไม่ค่อยตรงกับหนังสือเท่าไร โดยเฉพาะบทบาท เรื่องราวของตัวละครบางตัวผิดไปเยอะ เช่น เนลลี คู่ปรับของลอร่า แต่ถ้าดูเพื่อให้ได้เห็นภาพช่วยจินตนาการอเมริกาในยุคนั้น ก็นับว่าดูได้ค่ะ ไม่ถึงกับผิดประหลาดเกินไป

ถ้าจำไม่ผิด หนังสือของไทยที่คล้ายๆ กันคือเรื่อง ลูกอีสาน ของคุณคำพูน บุญทวี ที่ได้รางวัลหนังสืออาเซียนด้วย และรู้สึกจะมีทำเป็นภาพยนตร์ (แต่ดิฉันยังไม่เคยดู เลยคงชวนคุยไม่ได้)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 03, 2010, 06:10:21 PM โดย bluebunny รักในหลวง » บันทึกการเข้า

For King & For Country!
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #43 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 06:17:26 PM »

เรื่องลูกอีสาน ก็เป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มค่ะ นานๆ ทีจะมีหนังสือให้เด็กอ่านที่ผู้ใหญ่อ่านได้และมีกลิ่นอายความเป็นไทย สักเล่มผ่านมา ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหนังสือที่เขียนในมุมมองเด็กเมืองกรุงเสียเยอะ

เรื่องลูกอีสานก็เป็นประสบการณ์การใช้ชีวิตจริงของคนแต่ง ซึ่งก็เล่าเรื่องจากมุมมองการใช้ชีวิตธรรมดาๆ แต่ละวัน หนังสือไม่ได้พยายามสื่ออะไรเป็นพิเศษ แต่เขียนด้วยภาษาที่ดี อ่านง่าย เข้าใจง่าย นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้อ่านน่าจะสัมผัสได้ในแง่ของเนื้อหา ก็คือความรู้สึกภูมิใจของเด็กอีสานในชีวิตและความเป็นตัวตนของเขา สำหรับคนที่ไม่ใช่ลูกอีสาน หนังสือเล่มนี้น่าจะช่วยให้เข้าใจมุมมองและวิถีชีวิตเรียบง่ายของคนอีสานพื้นบ้านได้ โดยเฉพาะเรื่องการหาอาหารกิน การช่วยเหลือกัน และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติของคนอีสาน ซึ่งบ่อยครั้ง เราคนกรุงก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร

บันทึกการเข้า

For King & For Country!
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 06:24:23 PM »

ขยายความเรื่อง "เหมาโหลถูกกว่า" บ้างสิครับ

ผมชอบตอนที่ลูกชายเพิ่งเกิด แดดไปเยี่ยมที่ รพ. แล้วบอกลูกชายในเปลก่อนกลับบ้านว่า "ดูแลแม่ให้ดีด้วยนะ" คิก คิก
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.146 วินาที กับ 20 คำสั่ง