จริง ๆ เรื่องนี้ผมเคยตอบไปแล้วครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งก่อนนั้นเป็นเรื่องของมีปืนขนาด .357 แม็กนั่ม
แต่มีลูกกระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล แต่กระทู้นี้ถามถึง .22 แม็กนั่ม / .22 แอลอาร์ และ .38 ซุปเปอร์ /
9 มม. ด้วย เลยขออนุญาตตอบใหม่อีกครั้งหนึ่งรวมเป็นกระทู้เดียวกันไปเลยนะครับ
ก่อนอื่นผมขออธิบายขั้นตอนการทำงานของพนักงานสอบสวนก่อนนะครับ สมมติเจ้าพนักงานตำรวจ
จับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมด้วยอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ขั้นตอนปฏิบัติต่อจากนั้นพนักงานสอบ
สวน ( ซึ่งก็คือร้อยเวรเจ้าของคดีนั่นแหละครับ ) จะส่งอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์
ซึ่งในต่างจังหวัดส่วนมากก็จะเป็นวิทยาการจังหวัด สำหรับกรุงเทพมหานครปกติก็เป็นกองพิสูจน์หลักฐาน ( แต่
ระยะหลังก็เห็นมีบ้างที่ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่หน่วยงานอื่นซึ่งมีความชำนาญในเรื่องอาวุธปืน ) ซึ่งในหนังสือนำส่ง
ของกลางก็จะระบุวัตถุประสงค์ของการตรวจพิสูจน์หัวข้อหลัก ๆ ว่าของกลางเป็นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน
ตามกฎหมายหรือไม่ เป็นแบบที่นายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ( เพราะอัตราโทษระหว่าง
แบบที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ได้กับแบบที่ออกใบอนุญาตให้ไม่ได้มีอัตราโทษหนักเบาต่างกัน ) และ
อาวุธปืนกับเครื่องกระสุนของกลางสามารถใช้ยิงร่วมกันได้หรือไม่ ซึ่งในรายงานการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยว
ชาญก็จะมีรายงานผลการตรวจพิสูจน์ว่าอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนของกลางใช้ยิงร่วมกันได้หรือไม่ด้วย
ทีนี้ก็ย้อนกลับมาสู่คำถามที่ว่าท่านมีปืนขนาด .22 แม็กนั่ม แต่มีลูกกระสุนขนาด .22 แอลอาร์ ไว้
ในครอบครอง , มีปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ แต่มีลูกกระสุนขนาด 9 มม. ไว้ในครอบครอง หรือมีปืนขนาด
.357 แม็กนั่ม แต่มีลูกกระสุนขนาด .38 สเปเชียล ไว้ในครอบครอง จะผิดกฎหมายหรือไม่เพียงไร
ในส่วนของการทำงานของพนักงานอัยการนั้นจะดูจากผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญที่พนักงาน
สอบสวนรวบรวมเข้ามาในสำนวนเป็นหลักครับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวสามารถใช้ยิงร่วมกัน
ได้หรือไม่ ถ้าใช้ยิงร่วมกันได้ก็ถือว่าไม่มีความผิดครับเพราะถือว่าเป็นการมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งสามารถใช้ยิง
กับอาวุธปืนของตนเองได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 8
ซึ่งในกรณีของปืนลูกโม่ขนาด .357 แม็กนั่ม และ .22 แม็กนั่ม ก็เป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไปว่าสามารถ
ใช้ลูกกระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล และ .22 แอลอาร์ ยิงทดแทนกันได้ หรือแม้กระทั่งปืนขนาด .38
ซุปเปอร์ ก็สามารถใช้ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยิงทดแทนได้เช่นเดียวกัน แต่จะแม่นหรือไม่แม่น หรือว่า
ปืนจะทำงานได้ตามปกติหรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำคัญตรงที่ว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว
สามารถใช้ยิงร่วมกันได้หรือไม่ ถ้าใช้ยิงร่วมกันได้ ก็ไม่มีความผิดดังกล่าวข้างต้น
แต่อย่างไรเสียก็มีข้อควรระวังนิดนึ่งถ้าเป็นปืนของท่านเป็นปืนลูกโม่ หรือปืนที่บริหารกลไกการยิงด้วย
มืออย่างเช่นปืนระบบคานเหวี่ยง ( lever action ) หรือระบบลูกเลี่ยน ( bolt action ) ก็มักจะไม่ค่อยมีปัญหา
เท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดอาวุธปืนที่ท่านมีเป็นปืน Desert Eagle ขนาด .357 แม็กนั่ม แต่ท่านมีกระสุนปืนขนาด
.38 สเปเชียล ไว้ในครอบครอง อาจจะเป็นไปได้ว่าเมื่อส่งไปตรวจพิสูจน์แล้วอาจจะใช้ยิงร่วมกันไม่ได้ อย่าง
นี้ก็มีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ครับ ต้องดูอาวุธปืนเป็นราย
กระบอกไป ไม่ใช่ว่ามีปืนขนาด .357 แม็กนั่ม แล้วจะสามารถครอบครองกระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล ได้
เสมอไป ยังไงก็ต้องระวังตรงจุดนี้ด้วยนะครับ