เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 05:51:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเจอด่าน เราจะปฎิเสธการขอตรวจค้นได้ไหมครับ  (อ่าน 13570 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
CNN รักในหลวง
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 10:51:06 PM »

ถ้าเราพกปืนแบบพกซ่อนติดตัวอยู่แล้วและลงจากรถ แล้วให้เขาตรวจค้นรถตามปกติ
จะได้ไหมครับ
บันทึกการเข้า
TAE-tae
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน -6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 115



« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 11:13:59 PM »

ตั้งแต่ผมขับรถมาเป็นสิบปี ไม่เคยถูกค้นรถเลยครับ อยากรู้เหมือนกันว่าตำรวจจะค้นในกรณีใด
(เข้ามาแชร์ครับ อาจไม่เกี่ยวกับกระทู้)

แต่ถ้ามีตำแหน่งใหญ่ๆ และปืนถูกกฎหมาย ก็ไม่น่าจะต้องกลัวนะครับ ที่นี่ประเทศไทย ใครใหญ่ใครอยู่


อยากรู้เช่นกันครับ ขับรถมาเป็นสิบปียังไม่เคยเจอค้นรถเหมือนกัน เคยเจอด่านตรวจอาวุธ (ทราบเพราะเจ้าหน้าที่บอก) แต่ก็ไม่ถึงขนาดค้นตัวค้นรถ แค่สอบถามตามปกติ  แต่ดูจากสายตาเจ้าหน้าที่ ตั้งใจจับพิรุธเต็มที่เลย แต่ก็รอดมาทุกครั้ง สงสัยว่าไม่มีปืนในรถ พิรุธเลยไม่ออกมาให้จับ Grin
บันทึกการเข้า
วายุ - รักในหลวง
เย็นศิระ เพราะพระบริบาล
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9149


พระเจ้าสร้างมนุษย์ แต่โคลท์ทำให้มนุษย์เท่าเทียมกัน


« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 11:17:35 PM »

ถ้าเจ้าหน้าที่ตั้งด่านแล้วจะตรวจค้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ ขืนปฏิเสธโวยวาย ...จนท.เค้ายิ่งสงสัย ยิ่งไม่ปล่อย แล้วยิ่งไปถามเค้าว่า "ลื้อรู้ไม๊... ว่าอั๊วะเป็นใคร" อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ Grin
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป...
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 11:27:25 PM »

เรื่องค้นตัวมีท่านผู้ใดพอจะทราบขอบเขตอำนาจของจนท.ตร.ที่ชัดเจนบ้างครับ เคยดูหนัง (CSI) เค้าจะค้นตัวใครเห็นถามก่อนว่าในกระเป๋ามีอะไร ขอดูได้มั้ย อะไรประมาณนี้ ถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอมก็ไม่ค้น ในเรื่องจริงผมเคยเจอลักษณะนี้คือนายดาบแกถามว่าในย่ามมีอะไร ดูได้มั้ย ผมบอกว่ามีกล้องกับหนังสือครับ แต่ก็ไม่ได้เปิดให้ดู ก็ไม่มีอะไร Smiley
บันทึกการเข้า

SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 11:27:59 PM »

ผมมองว่าถึงฏิเสธ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้เราอยู่ในฐานะที่เหนือกว่าเลยครับ
แต่ถ้าเราไม่ได้กระทำความผิดสิครับ นั้นละครับ ที่ทำให้เราอยู่ในฐานะที่เหนือกว่าทั้งปวง  Grin
บันทึกการเข้า
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 12:12:07 AM »


เข้าข่ายการขัดขืนการปฎิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่ ครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 12:59:48 AM »

เข้ามาอ่านครับ  Grin
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
VENDY
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1482
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6755



« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 01:00:43 AM »

ไอ้ผิดนะ มันแน่นอนอยู่แล้วครับ

ถ้ากลัวว่าผิดก็อย่าพก ถ้าจะพกมีความผิดมาก็รับผิดชอบตามนั้นค่ะ Smiley
บันทึกการเข้า
Yoshiki_Silencer - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 278
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ลูกศิษย์ครูหมู (ด้วยอีกคน)


« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 01:09:58 AM »

          โดยหลักแล้วกฎหมายห้ามมิให้ค้นในที่สาธารณสถาน  เว้นแต่เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคล

นั้นมีสิ่งของเพื่อใช้ในการกระทำความผิด  ได้มาโดยการกระทำผิด  หรือมีไว้เป็นความผิด  ซึ่งเป็นข้อ

ยกเว้น  เพียงแต่คำว่าเหตุอันควรสงสัยนั้นมีความหมายกว้างมาก  จนดูเหมือนกับว่าให้อยู่ในดุลพินิจ

ของเจ้าพนักงานว่าจะตรวจค้นหรือไม่ก็ได้  แต่เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติเนื่องจากถ้าเจ้าหน้าที่

ตรวจค้นไม่เจออะไรก็ปล่อยผ่านไป  ประชาชนก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะถือว่าเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่

ตามปกติ  แต่ถ้าตรวจค้นแล้วเจอของผิดกฎหมายขึ้นก็ถูกจับกุมดำเนินคดีไป  ซึ่งก็สมกับที่เจ้าพนักงาน

สงสัยว่าในรถยนต์คันนี้มีสิ่งของผิดกฎหมาย  เว้นเสียแต่ในกรณีที่เจ้าพนักงานคนนั้นมีสาเหตุโกรธเคือง

กับเจ้าของรถมาก่อน  เจอรถคันนี้ทีไรก็แกล้งค้นอย่างละเอียดทุกทีโดยไม่มีเหตุหรือพฤติการณ์อะไรอัน

ควรสงสัยเป็นพิเศษ  อย่างนี้ก็อาจมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้เช่นกัน  ซึ่ง

ต้องว่ากันอีกที  แต่ในกรณีที่ท่านถูกเรียกตรวจค้นตามปกติถ้าท่านบริสุทธิ์ใจจริงก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะปฏิ

เสธเพราะเจ้าพนักงานก็ทำไปตามหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง  ไม่แน่ว่าอาวุธปืน

เถื่อนที่ตำรวจตรวจค้นได้จากเด็กวัยรุ่นก่อนหน้านี้อาจจะเป็นอาวุธปืนที่เตรียมเอาไปเพื่อใช้ยิงคนที่ท่านรัก

ก็เป็นได้  

          เท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้าก็มีวิธีสังเกตุอยู่เหมือนกันว่ารถประเภทที่ต้องสงสัยเป็นพิเศษ

ไม่ใช่ว่าจะค้นดะไปทุกคัน  เพียงแต่ไม่อาจนำมาเปิดเผยได้เพราะอาจกลายเป็นการชี้โพรงให้กระรอก

และโดยส่วนตัวผมแล้วเมื่อถูกเรียกตรวจค้นก็จะให้ความร่วมมือด้วยการปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟภายใน

รถเพื่อแสดงความบริสุทธิ์  โดยที่ผมไม่เคยใช้ตำแหน่งหน้าที่หรือแสดงตัวว่าเป็นใครในลักษณะที่เบ่งทับ

อยากตรวจตรงไหนก็ตรวจเพราะถือว่าเค้าทำตามหน้าที่  แต่ถ้าจะตรวจละเอียดก็ต้องแสดงเหตุผลเป็น

พิเศษ  ถ้าแสดงเหตุผลให้ผมพอใจได้ผมก็ยินยอมให้ตรวจค้น  แต่ส่วนมากก็แค่ชะโงกหน้าเข้ามาดูในรถ

แล้วก็ปล่อยผ่านไป  อาจเป็นเพราะเห็นว่าหน้าตาผมเจี๋ยมเจี๊ยมไม่น่าจะเป็นพิษเป็นภัยกับคนอื่นก็เป็นได้  คิก คิก

          แต่ถ้าเป็นประเภทจ้องจะหาเรื่องลูกเดียวโดยผมไม่ได้ทำอะไรผิดผมก็จะใช้วิธีแสดงใบขับขี่พร้อม

แสดงตำแหน่งอย่างสุภาพ  เป็นการปรามไปในตัวว่าข้าไม่ผิด  แต่ถ้าเอ็งคิดว่าข้าผิด  ก็คงต้องรบกันยาว

หน่อย   เยี่ยม
บันทึกการเข้า

ไม่ว่าจะเกลียดขี้หน้าใครขนาดไหน... แต่ตราบใดที่เขายังถูกต้องตามหลักการ ก็จะต้องปกป้องเขา เพราะสิ่งที่ปกป้องมันมากกว่า บุคคล แต่มันคือหลักการที่จะทำให้ระบบดำเนินต่อไปได้
Narongsak Kwan
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 30
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 469


ONE SHOT ONE KILL


« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 06:13:56 AM »

 ตกใจผมเคยโดนเรียกตรวจครับ ผมมีปืนอยู่ในรถ ตกใจ  ไหว้ตำรวจเรียกตรวจถามว่าไปไหนมาครับ ผมก็ทำเป็นปกติ  คิก คิกสวัสดีครับผมไปอาบ อบ .... คิก คิกมาครับตำรวจยิมแล้วก็หัวเราะ แล้วแอบมีแซวด้วยครับว่าคราวหลังก็ชวนกันบ้างนะน้อง ( ถ้าเราไม่แสดงท่าทีผิดสังเกตุตำรวจก็ไม่สงสัยหลอกครับ ) แล้วตำรวจก็ปล่อยผมไป ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 06:43:18 AM »

ในเรื่องนี้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วน สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล
กำหนดไว้ว่า "การค้นตัวบุคคลหรือการกระทำใดอันกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง
(บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย) จะกระทำมิได้  เว้นแต่มีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติ"

ซึ่งเหตุตามที่กฎหมายบัญญัตินั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๙๓ บัญญัติวิธีในการตรวจค้นว่า
"ห้ามมิให้ทำการค้นบุคคลใดในที่สาธารณสถาน เว้นแต่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้น
ในเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด
หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด " ซึ่งมันกว้างๆมากครับ ตามท่านโยชิกิได้ให้ความเห็นข้างต้นไว้  เยี่ยม

บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 06:47:56 AM »

อันนี้คุยสนุกๆนะครับ Grin

การที่เราขับรถยนต์ส่วนบุคคลไปตามทางหลวง ทางสาธารณะ แล้วเจอด่าน
หากเจ้าพนักงานตำรวจขอตรวจค้นตัวโดยให้ลงมาจากรถ แน่นอนครับ ย่อมเป็นการค้นบุคคลใดในที่สาธารณสถานตามกฎหมาย

แล้วการขอตรวจค้นในรถยนต์ละ จะถือว่าเป็นการค้นตัวบุคคลใดในที่สาธารณสถานด้วยหรือไม่

รถยนต์เป็นทรัพย์สินส่วนตัว มีประตู กระจก และเจ้าของมีสิทธิที่จะให้ใครเข้ามาในรถหรือไม่ก็ได้
เมื่อมองตามความหมายของคำว่า "ที่รโหฐาน" หมายความถึงที่ต่าง ๆ ซึ่งมิใช่ที่สาธารณสถาน ดั่งบัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา
นอกจากนี้ พจนานุกรม ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำว่าที่รโหฐาน หมายถึง ที่เฉพาะส่วนตัว 
ซึ่งมองแล้ว รถยนต์น่าจะเป็นที่รโหฐานด้วยซ้ำ

ซึ่งสมัยยังเป็นนักศึกษา เคยได้ถกเถียงแบบว่าเอาหลักกฎหมายมาว่ากัน ยกเหตุผล บางครั้งก็ยกแม่น้ำทั้งห้ามาว่ากัน คิก คิก

ถ้าสมมุติ ให้ถือว่ารถยนต์ เป็นที่รโหฐาน การค้นภายในรถยนต์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วย คือ

การค้นในที่รโหฐานจะต้องมีหมายค้นหรือคำสั่งของศาล เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้น และ....
(๔) เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการ กระทำความผิด หรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมา ได้สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทำลายเสียก่อน

แต่ก็จะเห็นได้ว่า ตาม (๔) ก็ยังมีช่องให้ใช้ดุลยพินิจอีก

แต่แนวปฏิบัติ และการตีความปัจจุบันนี้ ยังคงถือว่า รถยนต์ ไม่ใช่เป็นที่รโหฐาน เว้นเสียแต่ว่า รถยนต์นั้นจอดอยู่ในเขตบ้านเรา (ฮา)

ซึ่งต่อไปในอนาคตไม่แน่ครับ อาจมีการตรากฎหมายระบุชัดเจนว่า การค้นตัวบุคคล จะทำได้ต้องมีหมายจากศาล เว้นแต่ผู้ถูกตรวจค้นยินยอมเท่านั้น
แต่ตรงนี้ สำหรับบ้านเรา อาจจะเป็นผลเสียมากว่าผลดีในการปราบปรามอาชญากรรม


ทีนี้เรื่องราวเดินต่อครับ ปรากฎว่าค้นแล้ว พบอาวุธปืนในรถหรือสิ่งผิดกฎหมายอื่นในรถ
เราสามารถอ้างได้หรือไม่ว่า เราไม่ยินยอมให้ค้น แต่เจ้าพนักงานยังเข้ามาตรวจค้นจนเจอปืน
ถือว่าการค้นตัว ค้นรถยนต์ ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมทำให้การได้มาซึ่งหลักฐานในการพิสูจน์ความผิด (ในกรณีนี้ปืน) ไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย
ส่งผลให้ไม่สามารถนำปืนหรือสิ่งที่พบ ใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ตรงนี้จะอ้างได้หรือไม่

ตามกฎหมายในเรื่องนี้ เดิม บัญญัติไว้ว่า  พยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานบุคคลซึ่งน่า จะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์ ให้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ แต่ต้องเป็นพยานชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจ มีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวงหรือโดยมิชอบประการอื่น ....

คำว่าโดยมิชอบประการอื่น น่าจะรวมถึงการค้นโดยมิชอบด้วย เมื่อหลักฐานได้มาจากการค้นโดยมิชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ก็ไม่สามารถอ้างหลักฐาน ที่ได้มาจากการค้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดของจำเลยต่อศาลได้

จะเห็นได้ว่า ถ้าปืนอยู่ในรถเราจริง แต่การค้นกระทำไปโดยไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ก็ไม่สามารถเอาปืน ที่ได้จากการตรวจค้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาเป็นหลักฐานพิสูจน์ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดต้วโดยไม่ได้รับอนุญาตของเราได้
ผลก็คือ เมื่อรับฟังไม่ได้ ก็ถือว่าไม่มีหลักฐาน เมื่อไม่มีหลักฐานศาลต้องยกฟ้อง

ซึ่งหากเป็นอย่างบางประเทศ เท่าที่ทราบมาคือ สหรัฐ ไม่ทราบทุกรัฐหรือเปล่า จะใช้ระบบของหลักของผลไม้ของต้นไม้มีพิษ
คือไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของต้นไม้มีพิษแล้ว ผลที่ออกมาย่อมมีพิษด้วย ซึ่งหมายถึง หากส่วนใดส่วนหนึ่งของคดี มีการปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ย่อมทำให้ส่วนที่ตามมา ไม่ว่าการสอบสวน การพิจารณาและพิพากษา และพยานหลักฐานที่ได้มาจากการกระทำที่ไม่ชอบ เป็นพิษ คือไม่ชอบตามกฎหมายไปด้วย

ซึ่งหากดูหนังฝรั่งเกี่ยวกับศาล อย่างซีเอสไอเวกัส ก็ได้ มีอยู่ตอนหนึ่งครับ
เจ้าพนักงานตำรวจเรียกผู้ต้องสงสัยซึ่งขับรถตามถนนให้หยุดเนื่องจากไฟท้ายแตก
แต่ผู้ต้องสงสัยมีพิรุธ จึงให้เจ้าหน้าที่มาทำการตรวจค้นภายในรถ พบผ้าขาวห่อมีดที่มีเลือด พิสูจน์ดีเอ็นเอแล้ว ตรงกับศพของผู้ตาย
ในศาล ทนายความจำเลย ใช้คำถามเดียวว่า การตรวจค้นมีดดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขอหมายค้นรถยนต์คันเกิดเหตุหรือไม่
ซึ่งปรากฎว่าในเรื่อง ไม่ได้ขอ ซึ่งผลก็คือ แม้มีดอยู่ในรถยนต์ผู้ต้องหาก็ตาม แต่เมื่อการได้มาซึ่งผ้าและมีดเปื้อนเลือดในรถยนต์ ทำไปโดยไม่มีหมายค้น
ถือว่าการได้มาซึ่งผ้าและมีดเปื้อนเลือด ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องถือว่าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความผิดของจำเลย

แต่ของไทยยังไม่ได้เคร่งครัดขนาดนั้นครับ  บู่ แม้หลักฐานได้มาโดยวิธีการค้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และเมื่อมีการสอบสวนชอบ และหลักฐานนั้นมีอยู่จริง (อยู่ที่จำเลยจริงๆ) ไม่ได้ยัด แอบใส่ จากผู้ไม่หวังดี โดยตัวหลักฐานนั้นสามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้จริงแล้ว  และจำเลยกระทำความผิดจริง ศาลมีอำนาจรับฟังหลักฐานนั้นและลงโทษจำเลยได้


แม้ปัจจุบันมีการเพิ่มเติมกฎหมาย และมีลักษณะบังคับมากกว่าเดิมว่า หากพยานหลักฐาน ไม่ว่าของกลาง หรือสิ่งอื่นใด ได้มาโดยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ไม่สามารถเอาหลักฐานของกลางดังกล่าว มาพิสูจน์ความผิดของเราได้ก็ตาม
แต่เมื่อวิธีการ" ค้น" ในที่สาธารณะ ยังคงอาศัย "เหตุอันควรสงสัย" เหมือนเดิม  มองๆแล้ว การปฏิเสธไม่ให้ค้น ส่งผลในทางที่ไม่ดีแก่เรามากกว่า

นั้นละครับ ผมจึงมองว่าถึงฏิเสธ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้เราอยู่ในฐานะที่เหนือกว่าเลยครับ
แต่ถ้าเราไม่ได้กระทำความผิดสิครับ นั้นละครับ ที่ทำให้เราอยู่ในฐานะที่เหนือกว่าทั้งปวง  Grin

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2010, 10:30:30 AM โดย นายสิงห์กลิ้ง » บันทึกการเข้า
Theerachai
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 159


« ตอบ #27 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 08:02:02 AM »

ถ้าเป็นด่านตรวจที่ถูกต้องก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เถอะครับ  ท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน
แต่ประเภทด่านลอยมาดักไถเงินเนี่ยก็ไม่ต้องยอมครับ  ให้แจ้งว่าเกรงไม่ปลอดภัยขอให้ไปคุยกันที่ป้อมข้างหน้าแล้วกัน

ส่วนตัวเคยโดนตรวจค้นสองครั้ง เป็นด่านตรวจพวกขนคนไปเลือกตั้ง
วันนั้นของผมเยอะก็แจ้งไปว่ากรุณาอย่ารื้อผมเก็บยาก   ท่านก็แค่ดูๆเท่านั้นแล้วปล่อยให้ผ่าน

อีกครั้งเป็นด่านตรวจค้นสายส่งยาเสพติดที่ ปส.ร่วมกับท้องที่
วันนั้นโดนค้นละเอียดครับ แล้วก็เจอปืนขึ้นลำลดนกอยู่ในกระเป๋ากางเกงขวา
ตำรวจปส.เดินหนีเลยเรียกตำรวจท้องที่มา  ผมก็คุยกันถึงเหตุที่ต้องพกมา ดูเอกสารต่างๆนามบัตรที่ทำงาน
สุดท้ายก็ปล่อยครับ  ผมยังเชื่อเสมอว่า ตำรวจมีหน้าที่จับคนร้ายครับไม่ใช่จับคนดีอย่างพวกเรา
บันทึกการเข้า
Manus รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 36
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 408


^^ไอยะะละกะ^^


« ตอบ #28 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 08:51:09 AM »

ถ้าเราปฏิเสธการตรวจค้น...

เจ้าหน้าที่ก้อจะเห็นว่าเรามีพิรุธครับ...

ยิ่งจะทำให้อยากตรวจค้นมากขึ้น....

แต่ถ้าเราเป็นเจ้าหน้าที่ด้วย..

เขาก็จะถามก่อนครับว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่หรือเปล่า....

พูดตามที่ผมเคยเจอมาครับ
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #29 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:08:28 AM »

ตั้งแต่ผมขับรถมาเป็นสิบปี ไม่เคยถูกค้นรถเลยครับ อยากรู้เหมือนกันว่าตำรวจจะค้นในกรณีใด
(เข้ามาแชร์ครับ อาจไม่เกี่ยวกับกระทู้)

แต่ถ้ามีตำแหน่งใหญ่ๆ และปืนถูกกฎหมาย ก็ไม่น่าจะต้องกลัวนะครับ ที่นี่ประเทศไทย ใครใหญ่ใครอยู่
เหมือนกันครับ โดยปกติเวลาเจอด่าน ผมก็เปิดกระจก มีอะไรให้ช่วยครับ ท่านก็ก้มๆเงยๆแล้วก็บอกเชิญครับ Grin
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 22 คำสั่ง