ผมได้ยินเรื่องนี้ ครั้งแรก ต้องขอบอกแบบนี้ ครับ บ่อน้ำตาแตก ครับ
ผมรู้แต่ว่า สิ่งที่ผมทำวันนี้ ต้องยอมรับ ครับว่า ทำงานเพื่อลูกและครอบครัวจริงๆ แต่ ผมกลับไม่ให้เวลากับลูกเลย
แต่กลับมานั่งคิดเรื่องงาน เรื่องการเป็นอยู่ ของครอบครัว ว่า เราจะสร้างอะไรเพิ่ม และเพิ่มเท่าไหร่ พรุ่งนี้ จะมีกินหรือไม่
ร้านเรา จะดีขึ้นหรือไม่ แต่... สิ่งที่ผมลืมคิด ครับ ว่า ลูกรอเราสอนการบ้านหรือไม่เค้าอยากให้เราสอนการบ้านหรือไม่
เค้าอยากจะไปไหนในวัน สุดสัปดาห์
ผมเคยตีลูกเพราะเค้าใช้ปากกาเคมี เขียนในรถถึงแม้ว่าวันนั้น จะตีไม่แรงแต่เด็ก เมื่อรู้ว่าถูกตี ก็ต้องร้องเป็นธรรมดา
วันนั้นผมตีกับ ไม้บรรทัด อันละ1บาท(พลาสติก) ไม่มีแม้แต่รอยแดงๆซึ่ง เป็นเรื่องที่เหมือนเรื่องนี้ ดีครับที่ลูกผมไม่เลือดตกยางออก
ทุกวันนี้ รอยปากกาเคมี นั้นยังคงอยู่และเป็น เหมือนตราบาปเล็กๆของผม
กิจวัตร ประจำวันผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตื้นมา ต้องไปส่งลูกไปโรงเรียน กลับมา ลูกจะซื้อขนมมาฝาก นั่งกินกัน 2คน
ผมป้อนเค้า เค้าป้อนผม ก่อนนอน ผมต้องไปนวดเค้าจนหลับ หรือเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง วันหยุดก็ชวนเค้าไปกินไอติม
สอนเค้าทำการบ้านถ้ามีเวลา ถ้าไม่มีเค้าก็จะมานั่งทำการบ้านอยู่ใกล้ๆ ถ้าผมว่างก็จะเล่นเกมส์คอม กับเค้า
ชีวิตคนเราก็มีเท่านี้ครับ 80ปีที่แล้ว อาจจะมีเราแต่80 ปีข้างหน้าไม่มีเราแน่ๆ วันนี้เราทำอะไรที่เป็นความทรงจำที่ดี
และห่วงใย คนที่เรารัก คนที่รู้จัก ได้มากพอที่จะทำให้เค้าจดจำเราไปตราบนานเท่านานแล้วหรือยัง ครับ