เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 10:15:56 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากแบ่งปัน ครับ  (อ่าน 2082 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 11:18:06 AM »



หลายเวอร์ชั่น
แต่ สิ่งที่ทำให้คิด
คือ ความไร้เดียงสาของเด็ก
การแสดงออก ที่จริงใจ ไม่แต่งเติม


มุมมอง ภาวะวุฒิ การมีโทสะครอบงำ
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 11:23:44 AM »




วิธีคิด ดีมากๆ... 




ลิงค์ที่รูปครับ
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 11:27:06 AM »




วิธีคิด ดีมากๆ... 




ลิงค์ที่รูปครับ
เยี่ยมแบบนี้ซิของจริง  เยี่ยม  ไหว้
+1ให้พี่ยอดครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 01:23:25 PM »

ผมก๊อบมาให้อ่านเล่นๆครับ
หลักการ 90/10 จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ (หรืออย่างน้อยก็ปฏิกิริยาของคุณในสถานการณ์ต่างๆ)

หลักการนี้บอกว่า 10% ของชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ อีก 90% คือสิ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของคุณ

แปลว่าอะไร? แปลว่าเราไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถป้องกันรถไม่ให้เสีย เราไม่มีทางห้ามเครื่องบินที่มาสาย ทำให้แผนการเราพังไปหมด รถคันอื่นอาจตัดหน้าเรากลางถนน เราไม่มีอำนาจควบคุม 10% นี้

แต่อีก 90% ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตเราไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนตัดสินอีก 90% ด้วยปฏิกิริยาของคุณ จริงอยู่ คุณห้ามไฟแดงไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของคุณ(ต่อไฟแดงนั้น)ได้ อย่ายอมให้คนอื่นหลอก คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของตัวเองได้

ลองมาดูตัวอย่างกัน คุณกำลังรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ลูกสาวคุณปัดถ้วยกาแฟหกใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของคุณ คุณไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตัวคุณเอง คุณสบถ คุณด่าลูกสาวใหญ่โต ทำให้เธอร้องให้โฮ หลังจากนั้นคุณก็หันไปดุภรรยาของคุณว่าทำไมวางถ้วยไว้ชิดกับขอบโต๊ะขนาดนี้ ทำให้คุณกับเธอปะทะคารมกัน คุณวิ่งขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อคุณกลับลงมาใหม่ ก็พบว่าลูกสาวมัวแต่ร้องไห้จนทานอาหารเช้าไม่เสร็จและเตรียมตัวไปโรงเรียนไม่ทัน ก็เลยไปไม่ทันรถโรงเรียน ภรรยาของคุณต้องออกจากบ้านไปทำงานแล้ว คุณวิ่งไปที่รถ ขับไปส่งลูกสาว เพราะคุณกำลังจะไปทำงานสาย คุณก็เลยขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง เลยอัตรา 30 ไมล์ต่อชั่วโมงตามกฎหมาย

หลังจากที่เสียเวลา 15 ไปกับตำรวจจราจร ที่เรียกปรับคุณ $60 ฐานขับรถเร็ว คุณก็ไปถึงโรงเรียนลูกจนได้ ลูกสาวคุณวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ร่ำลา หลังจากที่ไปถึงที่ทำงานสายไป 20 นาที คุณก็นึกขึ้นได้ว่า คุณลืมกระเป๋าเอกสารไว้ที่บ้าน วันนี้ของคุณเริ่มต้นได้แย่มากๆ และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

คุณอยากเลิกงานเร็วๆ จะได้กลับบ้าน เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับภรรยาและลูกสาวเริ่มมีรอยร้าว ทำไม? ก็เพราะปฏิกิริยาของคุณตอนเช้า ทำไมวันนี้ของคุณจึงแย่นัก?

A) เพราะกาแฟเป็นต้นเหตุ
B) เพราะลูกสาวเป็นต้นเหตุ
C) เพราะตำรวจเป็นต้นเหตุ
D) เพราะคุณเป็นต้นเหตุ

คำตอบคือ “D” คุณไม่มีทางป้องกันไม่ให้กาแฟหกได้ แต่ปฏิกิริยาของคุณในช่วง 5 วินาทีหลังจากนั้น คือสาเหตุที่คุณมีวันแย่ๆ อย่างนี้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กาแฟหกใส่เสื้อคุณ ลูกสาวคุณทำหน้าเบ้เตรียมจะร้องไห้ คุณบอกเธอเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกแค่ต้องพยายามระวังกว่านี้นะ” คุณฉวยกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นข้างบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อและหยิบกระเป๋าเอกสารลงมาข้างล่าง คุณก็มาทันเห็นลูกสาวกำลังขึ้นรถโรงเรียน เธอหันมาและโบกมือให้ คุณถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลางาน 5 นาที ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างร่าเริง เจ้านายคุณบอกว่าดูเหมือนวันนี้ของคุณกำลังไปได้สวย

เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ? สถานการณ์สองแบบที่เริ่มต้นเหมือนกันเป๊ะ แต่ลงท้ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไม? เพราะปฏิกิริยาของคุณ คุณไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีก 90% ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของคุณแน่ๆ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีใช้หลักการ 90/10 ถ้ามีใครพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ อย่าซึมซับมันไว้เหมือนฟองน้ำ ปล่อยให้คำโจมตีนั้นไหลลงไปเหมือนหยดน้ำบนใบหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องให้คำพูดนั้นมีผลกับคุณ! มีปฏิกิริยาที่ถูกต้อง แล้วมันจะไม่ทำให้วันของคุณกลายเป็นวันแย่ๆ ปฏิกิริยาที่ผิดพลาดอาจทำให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก รู้สึกเครียด ฯลฯ

คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเจอรถตัดหน้าบนถนน? คุณจะอารมณ์เสียหรือเปล่า? ทุบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย? เพื่อนผมคนหนึ่งทำให้พวงมาลัยหลุดเพราะอย่างนี้ คุณจะสบถหรือเปล่า? ความดันคุณพุ่งสูงปรี๊ดเลยหรือเปล่า? คุณพยายามขับตามไปชนหรือเปล่า? มีใครบ้างล่ะที่จะแคร์ถ้าคุณถึงที่ทำงานสายไป 10 วินาทีเพราะโดนตัดหน้า? ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นทำลายวันดีๆ? จำหลักการ 90/10 ให้ดี อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้

เจ้านายเดินมาบอกว่าคุณถูกบริษัทเชิญออก ทำไมต้องอดหลับอดนอนและอารมณ์เสีย? ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอาพลังงานและเวลาที่หมดไปกับการนั่งกังวลไปหางานใหม่ดีกว่า เครื่องบินมาช้า กำลังจะทำให้แผนการของคุณพัง ทำไมต้องไประเบิดอารมณ์ใส่แอร์โฮสเตส? เธอไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะทำแบบนั้น ใช้เวลาไปทำความรู้จักเพื่อนร่วมทางของคุณดีกว่า ไปเครียดกับมันทำไม? ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง

ตอนนี้คุณก็รู้จักหลักการ 90/10 แล้ว ลองใช้หลักการนี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ ไม่มีอะไรที่คุณจะเสียถ้าคุณลองใช้ เพราะมันเป็นหลักการที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยคนที่รู้จักและใช้หลักการนี้ ผลน่ะหรือ? คนเป็นล้านๆ คนต้องประสบปัญหาเครียด วิตกจริต และปวดใจโดยไม่จำเป็นเลย เราทุกคนต้องเข้าใจและใช้หลักการ 90/10 เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้.
บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 02:18:37 PM »

 ไหว้ ขอบคุณครับ +ให้คุณ.ศักดา และคุณ.ยอด ครับ
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 02:33:28 PM »

ผมก๊อบมาให้อ่านเล่นๆครับ
หลักการ 90/10 จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ (หรืออย่างน้อยก็ปฏิกิริยาของคุณในสถานการณ์ต่างๆ)

หลักการนี้บอกว่า 10% ของชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ อีก 90% คือสิ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของคุณ

แปลว่าอะไร? แปลว่าเราไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถป้องกันรถไม่ให้เสีย เราไม่มีทางห้ามเครื่องบินที่มาสาย ทำให้แผนการเราพังไปหมด รถคันอื่นอาจตัดหน้าเรากลางถนน เราไม่มีอำนาจควบคุม 10% นี้

แต่อีก 90% ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตเราไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนตัดสินอีก 90% ด้วยปฏิกิริยาของคุณ จริงอยู่ คุณห้ามไฟแดงไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของคุณ(ต่อไฟแดงนั้น)ได้ อย่ายอมให้คนอื่นหลอก คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของตัวเองได้

ลองมาดูตัวอย่างกัน คุณกำลังรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ลูกสาวคุณปัดถ้วยกาแฟหกใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของคุณ คุณไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตัวคุณเอง คุณสบถ คุณด่าลูกสาวใหญ่โต ทำให้เธอร้องให้โฮ หลังจากนั้นคุณก็หันไปดุภรรยาของคุณว่าทำไมวางถ้วยไว้ชิดกับขอบโต๊ะขนาดนี้ ทำให้คุณกับเธอปะทะคารมกัน คุณวิ่งขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อคุณกลับลงมาใหม่ ก็พบว่าลูกสาวมัวแต่ร้องไห้จนทานอาหารเช้าไม่เสร็จและเตรียมตัวไปโรงเรียนไม่ทัน ก็เลยไปไม่ทันรถโรงเรียน ภรรยาของคุณต้องออกจากบ้านไปทำงานแล้ว คุณวิ่งไปที่รถ ขับไปส่งลูกสาว เพราะคุณกำลังจะไปทำงานสาย คุณก็เลยขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง เลยอัตรา 30 ไมล์ต่อชั่วโมงตามกฎหมาย

หลังจากที่เสียเวลา 15 ไปกับตำรวจจราจร ที่เรียกปรับคุณ $60 ฐานขับรถเร็ว คุณก็ไปถึงโรงเรียนลูกจนได้ ลูกสาวคุณวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ร่ำลา หลังจากที่ไปถึงที่ทำงานสายไป 20 นาที คุณก็นึกขึ้นได้ว่า คุณลืมกระเป๋าเอกสารไว้ที่บ้าน วันนี้ของคุณเริ่มต้นได้แย่มากๆ และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

คุณอยากเลิกงานเร็วๆ จะได้กลับบ้าน เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับภรรยาและลูกสาวเริ่มมีรอยร้าว ทำไม? ก็เพราะปฏิกิริยาของคุณตอนเช้า ทำไมวันนี้ของคุณจึงแย่นัก?

A) เพราะกาแฟเป็นต้นเหตุ
B) เพราะลูกสาวเป็นต้นเหตุ
C) เพราะตำรวจเป็นต้นเหตุ
D) เพราะคุณเป็นต้นเหตุ

คำตอบคือ “D” คุณไม่มีทางป้องกันไม่ให้กาแฟหกได้ แต่ปฏิกิริยาของคุณในช่วง 5 วินาทีหลังจากนั้น คือสาเหตุที่คุณมีวันแย่ๆ อย่างนี้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กาแฟหกใส่เสื้อคุณ ลูกสาวคุณทำหน้าเบ้เตรียมจะร้องไห้ คุณบอกเธอเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกแค่ต้องพยายามระวังกว่านี้นะ” คุณฉวยกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นข้างบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อและหยิบกระเป๋าเอกสารลงมาข้างล่าง คุณก็มาทันเห็นลูกสาวกำลังขึ้นรถโรงเรียน เธอหันมาและโบกมือให้ คุณถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลางาน 5 นาที ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างร่าเริง เจ้านายคุณบอกว่าดูเหมือนวันนี้ของคุณกำลังไปได้สวย

เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ? สถานการณ์สองแบบที่เริ่มต้นเหมือนกันเป๊ะ แต่ลงท้ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไม? เพราะปฏิกิริยาของคุณ คุณไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีก 90% ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของคุณแน่ๆ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีใช้หลักการ 90/10 ถ้ามีใครพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ อย่าซึมซับมันไว้เหมือนฟองน้ำ ปล่อยให้คำโจมตีนั้นไหลลงไปเหมือนหยดน้ำบนใบหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องให้คำพูดนั้นมีผลกับคุณ! มีปฏิกิริยาที่ถูกต้อง แล้วมันจะไม่ทำให้วันของคุณกลายเป็นวันแย่ๆ ปฏิกิริยาที่ผิดพลาดอาจทำให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก รู้สึกเครียด ฯลฯ

คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเจอรถตัดหน้าบนถนน? คุณจะอารมณ์เสียหรือเปล่า? ทุบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย? เพื่อนผมคนหนึ่งทำให้พวงมาลัยหลุดเพราะอย่างนี้ คุณจะสบถหรือเปล่า? ความดันคุณพุ่งสูงปรี๊ดเลยหรือเปล่า? คุณพยายามขับตามไปชนหรือเปล่า? มีใครบ้างล่ะที่จะแคร์ถ้าคุณถึงที่ทำงานสายไป 10 วินาทีเพราะโดนตัดหน้า? ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นทำลายวันดีๆ? จำหลักการ 90/10 ให้ดี อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้

เจ้านายเดินมาบอกว่าคุณถูกบริษัทเชิญออก ทำไมต้องอดหลับอดนอนและอารมณ์เสีย? ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอาพลังงานและเวลาที่หมดไปกับการนั่งกังวลไปหางานใหม่ดีกว่า เครื่องบินมาช้า กำลังจะทำให้แผนการของคุณพัง ทำไมต้องไประเบิดอารมณ์ใส่แอร์โฮสเตส? เธอไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะทำแบบนั้น ใช้เวลาไปทำความรู้จักเพื่อนร่วมทางของคุณดีกว่า ไปเครียดกับมันทำไม? ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง

ตอนนี้คุณก็รู้จักหลักการ 90/10 แล้ว ลองใช้หลักการนี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ ไม่มีอะไรที่คุณจะเสียถ้าคุณลองใช้ เพราะมันเป็นหลักการที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยคนที่รู้จักและใช้หลักการนี้ ผลน่ะหรือ? คนเป็นล้านๆ คนต้องประสบปัญหาเครียด วิตกจริต และปวดใจโดยไม่จำเป็นเลย เราทุกคนต้องเข้าใจและใช้หลักการ 90/10 เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้.


โอ้... เยี่ยมครับ, เห็นด้วยทั้งหมด...
บันทึกการเข้า
บ้านชายหาด
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7435



« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 03:07:13 PM »

ผมก๊อบมาให้อ่านเล่นๆครับ
หลักการ 90/10 จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ (หรืออย่างน้อยก็ปฏิกิริยาของคุณในสถานการณ์ต่างๆ)

หลักการนี้บอกว่า 10% ของชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ อีก 90% คือสิ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของคุณ

แปลว่าอะไร? แปลว่าเราไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถป้องกันรถไม่ให้เสีย เราไม่มีทางห้ามเครื่องบินที่มาสาย ทำให้แผนการเราพังไปหมด รถคันอื่นอาจตัดหน้าเรากลางถนน เราไม่มีอำนาจควบคุม 10% นี้

แต่อีก 90% ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตเราไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนตัดสินอีก 90% ด้วยปฏิกิริยาของคุณ จริงอยู่ คุณห้ามไฟแดงไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของคุณ(ต่อไฟแดงนั้น)ได้ อย่ายอมให้คนอื่นหลอก คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของตัวเองได้

ลองมาดูตัวอย่างกัน คุณกำลังรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ลูกสาวคุณปัดถ้วยกาแฟหกใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของคุณ คุณไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตัวคุณเอง คุณสบถ คุณด่าลูกสาวใหญ่โต ทำให้เธอร้องให้โฮ หลังจากนั้นคุณก็หันไปดุภรรยาของคุณว่าทำไมวางถ้วยไว้ชิดกับขอบโต๊ะขนาดนี้ ทำให้คุณกับเธอปะทะคารมกัน คุณวิ่งขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อคุณกลับลงมาใหม่ ก็พบว่าลูกสาวมัวแต่ร้องไห้จนทานอาหารเช้าไม่เสร็จและเตรียมตัวไปโรงเรียนไม่ทัน ก็เลยไปไม่ทันรถโรงเรียน ภรรยาของคุณต้องออกจากบ้านไปทำงานแล้ว คุณวิ่งไปที่รถ ขับไปส่งลูกสาว เพราะคุณกำลังจะไปทำงานสาย คุณก็เลยขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง เลยอัตรา 30 ไมล์ต่อชั่วโมงตามกฎหมาย

หลังจากที่เสียเวลา 15 ไปกับตำรวจจราจร ที่เรียกปรับคุณ $60 ฐานขับรถเร็ว คุณก็ไปถึงโรงเรียนลูกจนได้ ลูกสาวคุณวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ร่ำลา หลังจากที่ไปถึงที่ทำงานสายไป 20 นาที คุณก็นึกขึ้นได้ว่า คุณลืมกระเป๋าเอกสารไว้ที่บ้าน วันนี้ของคุณเริ่มต้นได้แย่มากๆ และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

คุณอยากเลิกงานเร็วๆ จะได้กลับบ้าน เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับภรรยาและลูกสาวเริ่มมีรอยร้าว ทำไม? ก็เพราะปฏิกิริยาของคุณตอนเช้า ทำไมวันนี้ของคุณจึงแย่นัก?

A) เพราะกาแฟเป็นต้นเหตุ
B) เพราะลูกสาวเป็นต้นเหตุ
C) เพราะตำรวจเป็นต้นเหตุ
D) เพราะคุณเป็นต้นเหตุ

คำตอบคือ “D” คุณไม่มีทางป้องกันไม่ให้กาแฟหกได้ แต่ปฏิกิริยาของคุณในช่วง 5 วินาทีหลังจากนั้น คือสาเหตุที่คุณมีวันแย่ๆ อย่างนี้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กาแฟหกใส่เสื้อคุณ ลูกสาวคุณทำหน้าเบ้เตรียมจะร้องไห้ คุณบอกเธอเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกแค่ต้องพยายามระวังกว่านี้นะ” คุณฉวยกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นข้างบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อและหยิบกระเป๋าเอกสารลงมาข้างล่าง คุณก็มาทันเห็นลูกสาวกำลังขึ้นรถโรงเรียน เธอหันมาและโบกมือให้ คุณถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลางาน 5 นาที ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างร่าเริง เจ้านายคุณบอกว่าดูเหมือนวันนี้ของคุณกำลังไปได้สวย

เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ? สถานการณ์สองแบบที่เริ่มต้นเหมือนกันเป๊ะ แต่ลงท้ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไม? เพราะปฏิกิริยาของคุณ คุณไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีก 90% ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของคุณแน่ๆ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีใช้หลักการ 90/10 ถ้ามีใครพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ อย่าซึมซับมันไว้เหมือนฟองน้ำ ปล่อยให้คำโจมตีนั้นไหลลงไปเหมือนหยดน้ำบนใบหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องให้คำพูดนั้นมีผลกับคุณ! มีปฏิกิริยาที่ถูกต้อง แล้วมันจะไม่ทำให้วันของคุณกลายเป็นวันแย่ๆ ปฏิกิริยาที่ผิดพลาดอาจทำให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก รู้สึกเครียด ฯลฯ

คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเจอรถตัดหน้าบนถนน? คุณจะอารมณ์เสียหรือเปล่า? ทุบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย? เพื่อนผมคนหนึ่งทำให้พวงมาลัยหลุดเพราะอย่างนี้ คุณจะสบถหรือเปล่า? ความดันคุณพุ่งสูงปรี๊ดเลยหรือเปล่า? คุณพยายามขับตามไปชนหรือเปล่า? มีใครบ้างล่ะที่จะแคร์ถ้าคุณถึงที่ทำงานสายไป 10 วินาทีเพราะโดนตัดหน้า? ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นทำลายวันดีๆ? จำหลักการ 90/10 ให้ดี อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้

เจ้านายเดินมาบอกว่าคุณถูกบริษัทเชิญออก ทำไมต้องอดหลับอดนอนและอารมณ์เสีย? ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอาพลังงานและเวลาที่หมดไปกับการนั่งกังวลไปหางานใหม่ดีกว่า เครื่องบินมาช้า กำลังจะทำให้แผนการของคุณพัง ทำไมต้องไประเบิดอารมณ์ใส่แอร์โฮสเตส? เธอไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะทำแบบนั้น ใช้เวลาไปทำความรู้จักเพื่อนร่วมทางของคุณดีกว่า ไปเครียดกับมันทำไม? ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง

ตอนนี้คุณก็รู้จักหลักการ 90/10 แล้ว ลองใช้หลักการนี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ ไม่มีอะไรที่คุณจะเสียถ้าคุณลองใช้ เพราะมันเป็นหลักการที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยคนที่รู้จักและใช้หลักการนี้ ผลน่ะหรือ? คนเป็นล้านๆ คนต้องประสบปัญหาเครียด วิตกจริต และปวดใจโดยไม่จำเป็นเลย เราทุกคนต้องเข้าใจและใช้หลักการ 90/10 เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้.



 เยี่ยม

 ไหว้
บันทึกการเข้า
binlaart @ รักในหลวงด้วยคนครับ
Full Member
***

คะแนน 8
ออฟไลน์

กระทู้: 148


« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 03:20:33 PM »

ในฐานะคนมีลูกสาว 4 ขวบ  อ่านแล้วซึมเหมือนกัน  เพราะผมเวลาโมโหจะตีลูก เจ็บทุกครั้ง(โดยเฉพาะเวลาลืมตัว  มีแต่หัวกับใส้)
บางที ก็เสียใจที่ตีลูกไป   แต่ยังไงก็ยังต้องตี  ไม่อยากให้ลูกกลายเป็นลูกเทวดา

แต่ช่วงหลังนี้ จะไม่ตีพร่ำเพรื่อ เพราะว่า ตอนนี้แค่ดุ ลูกก็กลัวแล้ว
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 03:27:26 PM »



สติมาปัญญาเกิด

สติเตลิดมักเกิดปัญหา




สิ่งของ มีไว้ให้ใช้งาน

ควรใช้ให้สมราคาค่าตัว
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 22 คำสั่ง