เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 05, 2024, 06:21:13 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป  (อ่าน 2956 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:42:38 PM »

แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป

โดยพิษณุ นิลกลัด

สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548
ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขามา
ยาวนาน 30 ปี ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติ

ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า
สวดสามวันแล้วเผา ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้
ทุกคนต้องมีวันนี้เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน

แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดสามวันเผา

งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คนคือเมีย ลูก หลาน
เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก

เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด

วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน
สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น
คนหนึ่งเป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตางค์จ่าย เลยเอาล็อตเตอรี่
ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคนหนึ่ง

และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น

ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน

หลังฌาปนกิจพระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่าเจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวด พระอภิธรรม แล้วหรือยัง

พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก



บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:43:57 PM »

จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตางค์
ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยจนเกษียณอายุที่
ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย แต่ด้วยความที่รักและศรัทธา
อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ
จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือนร้อน - แม้กระทั่งวันตาย

ผมสนิทกับเขาเพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบไม้เมืองเดิม

ที่เขาเคยนั่งเหลาดินสอและวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้

เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้
พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าวก็เลยถูกชะตาและให้ความเมตตา

การมีโอกาสได้พูดได้คุยกับเขาตามวาระโอกาสตลอด 30 ปีทำให้ได้แง่คิดดีๆ
มาใช้ในการดำรงชีวิต

วันหนึ่งเขารู้ว่าขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท
เขาปลอบใจผมว่า ' ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา
แต่มันอาจเป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา
คิดซะว่าได้ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์ '

เขามีวิธีคิด ' เท่ๆ ' แบบผมคิดไม่ได้มากมาย

เป็นต้นว่าสุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา
อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร

คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข
ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์

และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น
แถมยัง สามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์โดยที่ตัวเองต้อง
หิ้วถุงปัสสาวะไปด้วยตลอดเวลาเนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้

6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาลสามวันนอนบ้านสี่วันสลับกันไป

เวลาลูกหลาน หรือเพื่อนของลูกรวมทั้งผมด้วยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที แต่ 10 นาทีที่พูดมีแต่เรื่องสนุกสนานเรียก

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุกคนพูดตรงกันว่า
' คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม '

พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่าทำไมคุยแต่เรื่องตลก

เขาตอบว่า ' ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก '
บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:45:54 PM »

เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คนไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้หรืออยู่บนรถแท็กซี่

บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว
แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้านเพราะยังคุย
ไม่จบเรื่อง แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์


4 เดือนสุดท้ายของชีวิตแพทย์ที่รักษาโรคไตมาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์น

จนกระทั่งเป็นหัวหน้าแผนกแนะนำให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แข็งแรง

แล้วค่อยกลับบ้าน

แต่อยู่ได้ 4 วันเขาวิงวอนหมอว่าขอกลับบ้าน
หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม
เขาพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า
' ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ ผมอยากฟังเสียงนกร้อง
คุณหมอไม่รู้หรอกว่าคนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร
เพราะ พอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน '

หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน
แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง

1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด
เคลื่อนไหวได้อย่างเดียวคือกะพริบตา
แต่แพทย์บอกว่าสมองของเขายังดีมาก
เวลาลูกเมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า ' ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที '

เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง

เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย

เขายังรับรู้ แต่พูดไม่ได้
นี่กระมังที่เรียกว่าถูกขังในร่างของตนเอง

สิบวันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า ' พ่อสู้นะ '

เขาไม่กะพริบตาซะแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สองเดือนเคยตอบว่า ' สู้ '

เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค
สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า ' คุณลุงแกสู้จริงๆ '

ตอนที่วางดอกไม้จันทน์
ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า

' โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว
อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย '

' แง่คิดดีๆ จากชายชราที่จากไป '

สอนให้เรารู้ว่า...

เราเกิดมาพร้อมกับจิตใจบริสุทธิ์ และมันสมองมหัศจรรย์

ที่จะสามารถเรียนรู้ แยกแยะเรื่องดีๆและสิ่งร้ายๆในชีวิต

จงใช้โอกาสดีๆที่ร่างกายและจิตใจของเรา

ยังทำอะไรๆได้อย่างที่สมองสั่ง

จงเรียนรู้ และสร้างประโยชน์สุข

ให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างพอเพียง

และดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางเศรษฐกิจ

หากทุกๆครั้งที่เรียนรู้ เราล้ม เราพลาด...

อาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที

แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที

แต่ข้อให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป

ถ้าเราเรียนรู้...ก็จะทำให้เราพบว่า

การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป

เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม :-)


                                    ขอบคุณครับ    ไหว้

บันทึกการเข้า

                
uncle_oud-รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 232


« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:48:13 PM »

เป็นงานศพที่อยู่ในความตั้งใจของผมเช่นกันครับอยากให้เรียบง่ายและประหยัด
มากที่สุดผมสั่งเมียและลูกไว้ว่าอย่าให้คนตายขายคนเป็นทำให้เงียบที่สุดและ
ไม่ควรไปรบกวนใครเขามากอยากจากไปอย่างสงบและเป็นสุขครับ
บันทึกการเข้า
สหายแป๋ง คนดง
ถึงตัวเจ้าจะจากไปแต่ชื่อและความดีของเจ้าจะอยู่ในใจพี่เสมอ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53136


ป่าสร้างคนแต่คนกลับสร้างป่า ด้วยลมปาก


« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:52:44 PM »

  ผมก็ตั้งใจว่าจะทำแบบนี้แหละครับลุงเพราะ                                                                                                         ผมไม่มีเงินมากพอที่จะรับรองแขก
บันทึกการเข้า

รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 
ยืนหยัดในความเป็นไทย


  เกิดเป็นเซื้อซาดแฮ้ง  อย่าเหม็นสาบกุยกัน.......
  ข้าราษฎรประจำไทยควรคำนึง
http://www.youtube.com/watch?v=gM1D0xIwLVo
ต้นคระกูลไทย
http://www.youtube.com/watch?v=
Steel90
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 153
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2630



« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 07:01:40 PM »

ใบอ่อนเลยครับ
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club ขยับจะยิงแต่รักจริง นะจ๊ะจุ๊บๆ
แสนสุข
Hero Member
*****

คะแนน 171
ออฟไลน์

กระทู้: 1291



« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 07:10:55 PM »

 " โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว
อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย "


  ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 07:21:31 PM »

 ไหว้ ขอบคุณครับพี่ปู เกือบจะครบปีพอดีที่ คุณ.Major โพสไว้ เรื่องดีๆ อ่านแล้วให้แง่คิด อ่านกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=77064.0
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
kon tung kru 91
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 07:52:14 PM »

แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป

โดยพิษณุ นิลกลัด

สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548
ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขามา
ยาวนาน 30 ปี ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติ

ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า
สวดสามวันแล้วเผา ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้
ทุกคนต้องมีวันนี้เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน

แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดสามวันเผา

งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คนคือเมีย ลูก หลาน
เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก

เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด

วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน
สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น
คนหนึ่งเป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตางค์จ่าย เลยเอาล็อตเตอรี่
ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคนหนึ่ง

และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น

ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน

หลังฌาปนกิจพระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่าเจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวด พระอภิธรรม แล้วหรือยัง

พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก





                คำว่า "เพื่อน คนรัก หรือคนสนิท" สำคัญมากครับ ผมนับถือพี่ PU ที่ขนาดเขาสิ้นลมหายใจ ก็ยังไม่ลืมและอุตสาห์

ร่วมใจให้เขาไปสู่สุคติ จะมีเพื่อนแบบนี้อยู่อีกกี่คนบนโลกหนอ
บันทึกการเข้า
FCUK
Full Member
***

คะแนน 50
ออฟไลน์

กระทู้: 319


« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 08:17:57 PM »

สาระแห่งชีวิต  อยากให้มีกระทู้สร้างสรรค์ปัญหาและความคิดมรณานุสติแบบนี้มากๆ
บันทึกการเข้า
ฅนบ้านนอก
นำแหน่พ่ออ่าว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 401
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1228


หากินซามฮ้อดมื้อตาย


« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 08:20:39 PM »


                       มาอ่านมาหาประสบการณ์และมาหาความรู้....จากทุกๆเวปครับ....จารย์ ไหว้
บันทึกการเข้า


   แนวนาม เขียดอีโม่นาหน้าต่ำ มันบ่สมส่ำเซื้อเครือเจ่าซาติหงส์ ดอกตี๋
EAK1980 รักในหลวง
ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอย่างไร
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1197


ไปได้ทุกที่.....ที่มีทาง ฅ.ฅนสร้างทาง


« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 08:32:44 PM »

ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

Long Live The King

~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 09:57:43 PM »

ขอบคุณครับน้าปู   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 10:08:50 PM »

ตีมอกาเซะ ไหว้
บันทึกการเข้า
neunang-นิ้วนาง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 278
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5893



« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 02:26:55 PM »

ขอบคุณครับท่านปู
บันทึกการเข้า

logo maker" border="0
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 21 คำสั่ง