จากไทยรัฐ on line ครับ
รายการฮอตทีวีญี่ปุ่น เฉือนชนะ4ชาติใหญ่ สามสาวไทย นักเรียนทุนในญี่ปุ่นคว้าแชมป์ประกวด "ยิ้ม" จัดโดยสถานีฟูจิทีวี รักษาเอกลักษณ์ "ยิ้มสยาม" ให้คงอยู่คู่กับคนไทย โดยโค่นคู่แข่งจาก 4 ชาติยักษ์ใหญ่ ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ-รัสเซีย-ฝรั่งเศส ลงราบคาบ ได้คะแนนรวมสูงสุด หัวหน้าทีมเปิดใจ ขั้นตอน การแข่ง ให้ยิ้มหน้าเครื่องวัดรอยยิ้มดิจิตอลนาน 1 นาที รับรู้สึกกดดันหากแพ้ชาติอื่น แต่สุดท้ายก็เอาชนะด้วย กลเม็ด "ยิ้มด้วยใจและใบหน้า" ภูมิใจรักษาภาพลักษณ์ สยามเมืองยิ้มไว้ได้
สาวไทยได้สร้างชื่อให้ประเทศในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายสรรเสริญ เงารังษี รอง ผอ.ททท.ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก น.ส.เบญจวรรณ สุเนตรวรกุล ผอ.ททท.สำนักงานโตเกียว มอบช่อดอกไม้และประกาศเกียรติคุณให้กับ น.ส.อาภาพร เนาสราญ อายุ 27 ปี นักเรียนทุนปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยโตเกียวศึกษาต่างประเทศ ที่นำทีมสาวไทยในญี่ปุ่นประกอบด้วย น.ส.เกศินี ผาติเสถียร อายุ 27 ปี นางกมลรัตน์ โคมิเนะ (สุวรรณกมล) อายุ 29 ปี คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดยิ้ม "อินเตอร์ สไมล์ คอนเทสต์" (International Smile Contest) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ในรายการ mezamashi terebi รายการข่าวและวาไรตี้ยอดนิยม ทางสถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี ของญี่ปุ่น โดยเฉือนเอาชนะผู้เข้าแข่งขัน 4 ชาติยักษ์ใหญ่ มหาอำนาจ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และฝรั่งเศส ทั้งนี้ ทางกรรมการ ซึ่งเป็นครูสอนการยิ้มญี่ปุ่น ได้ให้ทีมไทยได้คะแนนเฉลี่ยรวมสูงที่สุด คือ 91 เปอร์เซ็นต์
น.ส.อาภาพรกล่าวว่า ทาง ททท.สำนักงานโตเกียว มอบหมายให้เป็นตัวแทนหาคนไทยไปประกวด จึงชวนเพื่อนๆ นักเรียนทุนในญี่ปุ่นไปร่วม เนื่องจากต้องการรักษาสมญา "แลนด์ ออฟ สไมล์" ไว้ สำหรับวิธีการแข่งขันนั้น ทางกรรมการจะให้แต่ละทีมซึ่งมีทั้งสิ้น 3 คน ไปนั่งยิ้มต่อหน้าเครื่องวัดรอยยิ้มระบบดิจิตอล หรือสไมล์สแกน ที่มีใช้ในประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลานาน 1 นาที โดยมีคณะกรรมการชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นครูสอนการยิ้ม ทำหน้าที่เป็นคนพิจารณาอีกครั้ง ว่าเป็นรอยยิ้มที่สมบูรณ์ตามที่เครื่องวัดออกมาหรือไม่ สำหรับการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้น เพราะทางรายการมองว่าคนในประเทศญี่ปุ่นนั้นยิ้มยาก จึงอยากให้มีการแข่งขันขึ้นเพื่อกระตุ้นรอยยิ้มของคน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยอมรับมีความกดดันในการแข่งขันครั้งนี้เล็กน้อย เพราะหากแพ้ชาติอื่น ก็จะทำให้ไทยเสียตำแหน่งสยามเมืองยิ้มไป และใช้วิธีการยิ้มแบบไทย คือยิ้มด้วยใจและยิ้มด้วยใบหน้า ภูมิใจที่สามารถรักษาภาพลักษณ์ไว้ได้ ให้คนชาติอื่นรู้ว่าคนไทยไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรคนไทยก็จะยิ้มไว้ก่อน แม้คนชาติอื่นยังภูมิใจ อยากให้คนไทยช่วยกันรักษารอยยิ้มสยามไว้ ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งอะไร ขอช่วยกันใช้รอยยิ้มเป็นสื่อในการปรองดองกัน
ขณะที่ น.ส.เบญจวรรณ สุเนตรวรกุล ผอ.ททท. สำนักงานโตเกียวกล่าวว่า สำนักงาน ททท.ญี่ปุ่น ภูมิใจกับรางวัลที่คนไทยได้ในครั้งนี้ เนื่องจากสถานีโทรทัศน์ ฟูจิทีวี มีชาวญี่ปุ่นรับชมเป็นจำนวนหลายล้านคน เท่ากับเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีกลับมาสู่ประเทศไทย ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังคงเป็นประเทศสยามเมืองยิ้มอยู่ ทั้งนี้ ในส่วนของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ททท.สำนักงานโตเกียว ประเมินว่า ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 65 มาเที่ยวประเทศไทย แบบไม่ผ่านกรุ๊ปทัวร์นั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไม่ส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แต่กลุ่มที่เรากังวลคือร้อยละ 35 ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว ทางสำนักงาน ททท.ในญี่ปุ่น พยายามประชาสัมพันธ์ภาพ-ลักษณ์ประเทศผ่านสื่อต่างๆในญี่ปุ่น การที่มีคนไทยชนะรอยยิ้มทางโทรทัศน์ญี่ปุ่นถือว่าช่วยเรื่องการทำตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ ดังนั้นหากสถานการณ์ในประเทศไม่มีปัญหา คาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้ จะมียอดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มมากกว่าเดิม หรือในราว 1 ล้านคนเศษ ซึ่งจะสร้างรายได้จำนวนมากกลับคืนมาให้ประเทศ.