เมื่อกลางวันมีคนใจดีเอาพระมาให้องค์นึง เนื้อเงิน " หลวงปู่คำพันธ์ " ใครพอทราบประวัติบ้างครับ
มีบุญได้กราบนมัสการอยู่ครั้งหนึ่งครับ ท่านรับกิจนิมนต์จากญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนสนิท
หลวงปู่ใจดี มีเมตตาสูงมากครับ ผมได้รับสายสิญณ์จากมือท่านด้วย
พระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)
หลวงปู่สอนว่า...........
น้ำร้อนลวกลิ้น..............
พระรูปหนึ่งเป็นพระชองปฏิบัติมีการสำรวมในการฉันอาหทานมากในการฉันอาหารของท่านนั้น
ท่านจุฉันเฉพาะในบาตรเมื่อตักอาหารในบาตรเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงใช้น้ำเปล่าเทลงไปในบาตร
เพื่อจะให้อาหารนั้นไม่มีรสแล้วจึงค่อยฉันก่อนเข้าเพรรษา 1 เดือน
ในปี พ.ศ. 2529 ภิกษุรูปนั้นได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่ก็มากราบนมัสการและจอฟังธรรมกับหลวงปู่
เมื่อเกรามนมัสการเรียบร้อยแล้วจึงกล่าวว่า
ภิกษุรูปนั้น... หลวงปู่ครับผมอยากจะขอธรรมะจากหลวงปู่สักข้อเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติด้วยครับ
หลวงปู่... ทางหลวงปู่เองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง และวก็กล่าวว่า นี่คุณ มีพระรูปหนึ่งนะเมื่อเวลาฉันอาหาร
ในบาตรเขาจุต้องเอาน้ำเปล่าเทลงไปในบาตรเพื่อละลายรสในอาหารเพื่อสำรวมลิ้นไม่ให้ลิ้นสำผัส
อาหารตามธรรมชาติของลิ้นนั้น หน้าที่ของมันคือรู้รสจะห้ามมันไม่ให้รู้รสไม่ได้แต่เมื่อรู้รสแล้ว
ไม่ให้ไปติดในรสต่างหาก ถ้าไม่อยากให้ลิ้นรู้รสก็เอาน้ำร้อนลวกลิ้นเสียก็สิ้นเรื่องจะได้ไม่ต้อลำบาก
ในการเอาน้ำเปล่าเทใส่บาตรตลอดไป
ภิกษุรูปนั้นก็เลยได้เกิดปัญญาในการฉันอาหารมีความประทับในใจธรรมะของหลวงปู่ได้ชี้ทางปัญญา
ให้เกิดความทึ่งในตัวหลวงปู่มากว่าท่านรู้ได้อย่างไร
ปลดหนี้..................
มีลูกศิษย์ได้ทำวัตถุมงคลรุ่น"ปลดหนี้"มาให้หลวงปู่อธิษฐานจิตให้ญาติโยมได้นำไปบูชา มีโยมคนหนึ่งถามหลวงปู่ว่า......
โยม... หลวงปู่ค่ะ พระรุ่นปลดหนี้จะช่วยให้หนูหมดหนี้ได้หรือเปล่าค่ะ
หลวงปู่... ได้ซิ เราก็ทำมาหากินไปเรื่อยๆ เมื่อมีค่อยนำไปใช้หนี้เขาแต่อย่าเอาหนี้มาไว้ข้างหน้าล่ะ
ให้เอาหนี้ไปไว้ข้างหลัง ใจก็ส่วนใจ หนี้ก็ส่วนหนี้ อย่าให้หนี้มันมีอำนาจเหนือใจ
ถ้าเป็นหนี้แล้วทำอะไรก็ไม่ดี ไม่มีวันที่จะปลดหนี้ให้หมดหรอก จำไว้
ภิกษุผู้มีความมักมาก....................
ในวันลงอุโบสถเพื่อการฟังสวดพระปาฏิโมกข์ภิกษุในอาวาสต่างๆที่อยู่ใกล้วเคียงต่างพากีนมาร่วมลง
อุโบสถที่วัดหลวงปู่มีหลวงพ่อรูปหนึ่งชอบติเตียนในทานของญาติโยมมาร่วมฟังพระปาฏิโมกข์ด้วย
เมื่อสวดเสร็จแล้วหลวงปู่ได้ถามหลวงพ่อรูปนั้นว่า....
หลวงปู่... เป็นยังไงหลวงพ่อ อยู่ที่วัดเป็นอย่างไรบ้าง
หลวงพ่อ... โอ้ย...ไม่ค่อยสบายเท่าไร ญาติโยมก็มาวัดน้อยขาดแคลนปัจจัยใช้สอยไปสวดมนต์
ตามบ้านญาติโยมก็ถวายปัจจัยไม่คุ้มค่าเหนื่อย
หลวงปู่... นี่หลวงพ่อตอนสมัยที่หลวงพ่อเป็นฆราวาสนั้นเมื่อเวลามีบุญมีทานหลวงพ่อเคยถวายปัจจัย
ให้พระมากเท่าไร เมื่อบวชเป็นพระทำไมถึงอยากให้ญาติโยมถวายมากนักล่ะ
นับตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อรูปนั้นไม่มาร่วมลงอุโบสถที่วัดหลวงปู่อีกเลย..........
ใส่บาตรพระ....................
วันหนึ่งหลวงปู่พร้อมด้วยศิษย์รูปหนึ่งไปสวดมนต์เย็นที่บ้านของโยมคนหนึ่งโยมคนนี้แก่เคยบวช
เป็นพระปฏิบัติมาก่อนรุ้จักระเบียบวินัยของพระดีได้กล่าวกับหลวงปู่ว่า...
โยม... หลวงปู่ครับ ทุกวันนี้ไม่รู้เป็นยังไง ผมไม่ค่อยอยากใส่บาตรพระเลยเพราะพระในเมืองส่วนมาก
ทำตัวไม่เหมาะสมกับเพศสมณะเลยผมจึงต้องเลือกใส่บาตรพระเป็นบางรูปเท่านั้นจะทำยังไงดี
หลวงปู่... คุณโยมอย่าไปมอบที่ตัวบุคคลสิให้ทำใจตัวเองเข้าถึงพระถ้าเราทำใจได้อย่างนี้ใจเรา
ก็บริสุทธิ์ เห็นคนนุ่งเหลืองห่มเหลืองเป็นพระไปบริสุทธิ์ไปหมดทานของเราก็บริสุทธิ์
ตั้งแต่นั้นมาโยมคนนี้ก็เลยใส่บาตรพระได้ทุกรูปโดยไม่ต้องเลือกว่าจะใส่บาตรพระรูปใดอีกเลย
วันเกิด....................
หลวงปู่นั้นชอบอบรมสั่งสอนลูกศิษย์เกี่ยวกับพระคุณของแม่อยู่เสมอว่า...
หลวงปู่... การจะดูคนว่าคนไหนเป็นคนกตัญญูต่อแม่หรืออกตัญญูให้ดูที่วันเกิดของคนๆ นั้น
ลูกศิษย์... ดูยังไงครับ
หลวงปู่... คนที่มีความกตัญยูต่อมารดานั้นเมื่อถึงวันเกิดของเขาเขาจะเข้าวัดทำบุญทำกุศล
และอุทิศส่วนกุศลให้มารดาของเขาและละเว้นสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย
ลูกศิษย์... แล้วคนอกตัญญูละครับดูยังไงล่ะครับ
หลวงปู่... คือคนที่ถึงวันเกิดก็จัดเลี้ยงฉลองกันกินเหล้าเมายาสนุกสนานไม่คิดทำบุญทำกุศลให้กับแม่ ของตัวเองเพราะความหลงมาปิดบังตาไว้เขาไม่รู้หรอกว่าวันที่มันเขาเกิดนั้นเป็นวันที่แม่ของตัวเอง เจ็บที่สุด ต้องเสียเลือดต้องเอาชีวิตเข้าแลกถึงจะได้เราออกมาดูโลกหรือบางทีก็ตายไปเลยก็มี นี่แหละอกตัญญู...
ปล่อยนก...............
ในวันหนึ่ง หลวงปู่ได้พาลูกศิษย์ไปนมัสการพระธาตุพนมในบริเวณนั้นมีพวกจับนกขังไว้ในกรง
เพื่อให้ผู้ที่มาแสวงบุญได้ซื้อนกไปปล่อยมีคนขายนกผู้หนึ่งเดินมาหาหลวงปู่แล้วพูดว่า.......
คนขายนก... หลวงปู่ครับ ไม่ซื้อนกไปปล่อยเอาบุญบ้างหรือครับ
หลวงปู่... ไม่หรอกโยม หลวงปู่ไม่ปล่อยมันหรอก เพราะหลวงปู่ไม่ได้ทำบาป ไม่ได้จับมันมา
โยมนั้นแหละควรที่จะปล่อยมันเองเพราะเป็นการไถ่บาป เพราะโยมเป็นผู้ทำบาปจับมันขังไว้
http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-060826212204853*******************************************************************************
อิทธิบารมีเหรียญพระสมเด็จ หลวงปู่คำพันธ์
จากนิตยสารโลกลี้ลับ ปีที่ 20 ฉบับที่ 223 ประจำเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2546
พิมพ์เรื่องส่งมาให้โดย คุณ Lilly
************************************
ในบรรดาพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั่วทั้งพุทธจักร ย่อมรู้จักนามของ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ นักบุญผู้มีเมตตาธรรมสูงแห่ง วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีศีลาจารวัตรอันงดงาม พรหมวิหารธรรม ของท่านประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยเฉพาะอิทธิมงคลของหลวงปู่คำพันธ์ ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์สูงล้ำหลายด้าน จึงได้รับความนิยมจากวงการพระเครื่องอย่างรวดเร็ว ด้วยท่านเป็นผู้อุทิศชีวิตให้กับการปฏิบัติธรรมจนบรรลุผลทางใจกลายเป็นพระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาอันสูงสุด ทั้งยังเป็นแสงสว่างแห่งปัญญาวิสุทธิ์ ของชาวพุทธ ท่านมิใช่เกจิอาจารย์ธรรมดา แต่หลวงปู่นี้คือ ยอดเกจิอาจารย์ผู้รุ่งเรืองด้วยพุทธิปัญญาโดยแท้ ด้วยคำสอนอันเรียบง่ายของท่าน แต่ลึกซึ้งด้วยแก่นแท้แห่งธรรมที่นักปราชญ์ทั้งทางโลกและทางธรรมยอมรับว่าท่านมี ดวงตาที่สาม สามารถรู้แจ้งในพระธรรมของพระพุทธเจ้า เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในธรรม สมกับที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น พหูสูตทางศาสนา ผู้หนึ่ง
ในช่วงกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2535 ทางวัดธาตุมหาชัยกำลังพัฒนา หลวงปู่คำพันธ์จึงได้สร้างอิทธิมงคล ชุด มหาชัยมงคล ขึ้น เพื่อนำปัจจัยมาสมทบทุน มูลนิธิสังฆศาสน์ และเป็นทุนพัฒนาวัดธาตุมหาชัย ซึ่งผมเองก็ได้เดินทางไปขอเช่าวัตถุมงคลด้วย เป็น พระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อ และล็อกเกตอุดผงตะกรุดทองคำ เพื่อไว้บูชาและความเป็นสิริมงคล โดยที่ได้นำเอาพระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อจัดใส่กรอบแขวนห้อยคอตัวเอง ส่วนล็อกเกตอุดผงได้ให้ภรรยาแขวนคอไว้บูชา ซึ่งหลวงปู่คำพันธ์ได้ทำ พิธีอธิษฐานจิต ปลุกเสกมหามนตราศักดิ์สิทธิ์วัตถุมงคล นี้เป็นกรณีพิเศษ
หลังจากที่ได้พระสมเด็จปรกโพธิ์ของหลวงปู่คำพันธ์ มาบูชา โดยคล้องคออยู่ตลอดเวลา จนมาช่วงหลายเดือนมกราคม ปี 2540 ผมได้เดินทางไปเข้าร่วมอบรมสัมมนาทางวิชาการฯ ของโรงเรียนในกลุ่มเขตการศึกษา 10 ที่จังหวัดอุบลราชธานี หลังเสร็จสิ้นภารกิจการอบรมฯ ที่จัดขึ้น 3 วันแล้ว วันสุดท้ายจึงได้ไปเที่ยวฟังเพลงในคาเฟ่แห่งหนึ่งในตัวจังหวัดเพียงคนเดียว จนกระทั่งเกิดเหตุทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นที่เมาสุรา และเหมือนคราวเคราะห์ เนื่องจากเหตุการณ์ณ์บานปลาย ขณะนั้นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ชักปืนขนาด .38 ออกมายิงใส่ตัวผมจำนวน 5 นัดซ้อน ในระยะเผาขน จนเป็นเหตุให้ผมล้มฟุบลงด้วยความเจ็บ ก่อนที่วัยรุ่นกลุ่มนั้นจะแตกกระเจิงหลบหนีไปคนละทิศละทาง และจากความแรงของวิถีกระสุนทำให้ผมมีอาการเจ็บปวดระคนจุกเสียดบริเวณหน้าอกและกลางหลังเหมือนกับจะหมดสติ และนอนนิ่งกองกับพื้นหมดสติไปในที่สุด ณ ที่ตรงนั้น ชั่วอึดใจได้มีผู้คนเห็นเหตุการณ์แห่มามุงดู พอผมตั้งสติได้จึงขยับตัวพยายามลุกขึ้นยืนท่ามกลางความงุนงงของผู้คนเหล่านั้น
เวลานั้นผมบอกอะไรไม่ถูก เหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่และแทบไม่น่าเชื่อว่าผมจะยังมีชีวิตอยู่ ผมรอดตายมาได้ยังไง? ด้วยมีรอยกระสุนที่ถูกยิงบริเวณหน้าอก ชายโครง และท้องน้อย 5 จุด ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยไหม้และแผลเป็นลึกบุ๋มลงไปเล็กน้อยเท่านั้น คงเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อ ของหลวงปู่คำพันธ์แน่เลยที่ช่วยให้ผมรอดพ้นจากความตายมาได้อย่างน่าอัศจรรย์เพียงนี้
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์นี่เอง ผมจึงได้ห้อยพระสมเด็จฯ ติดตัวเป็นประจำด้วยความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้า และมีความมั่นใจกับพระเครื่อง ของหลวงปู่คำพันธ์ที่ท่านได้สร้างขึ้นว่า เป็นพระแท้ที่เปี่ยมด้วยพลังเมตตา แคล้วคลาดสูงสุด ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระปรมาจารย์ หรือพระเกจิอาจารย์องค์สำคัญใดๆ ในแผ่นดินธรรมนี้เลย
http://www.lekpluto.com/suksit/suksit_04.htm**************************************************************