เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 25, 2024, 07:30:29 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สิ่งที่เจ้า หน้าที่ธนาคารไม่มีเวลาอธิบาย...แต่เรา จำเป็นต้องรู้  (อ่าน 1268 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PsanP_IT.31(ไพศาล ๓)
๑๙๑๑ เลอะโคลน!!
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 745


« เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 01:32:40 PM »

สวัสดีครับ  จากฟอร์เวอร์ดเมลล์  ลองพิจารณาดูนะครับ ไหว้


สิ่งที่เจ้า  หน้าที่ธนาคารไม่มีเวลาอธิบาย...แต่เรา  จำเป็นต้องรู้
เทคนิคง่ายๆ  ได้ดอกเบี้ย (ออมทรัพย์) มากกว่าที่คิด

ความจริง

บัญชีออมทรัพย์ จะมีดอกเบี้ยปันผลเข้ามา 2 ครั้ง/ปี  คือทุกสิ้นเดือนมิถุนายน  และสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี

สิ่งที่ควรทำ ทุกสิ้นเดือนมิถุนายน (30 มิ.ย.) และ สิ้นเดือนธันวาคม (31  ธ.ค.) จงอย่าเพิ่งถอนเงินออกมาใช้จนกว่าจะสิ้นวัน

หรือถ้าให้ดีรอถอนเงินวันที่หนึ่งเดือนถัดไปดีกว่า เพราะเงินที่เหลือค้างบัญชีในวัน  นั้น จะทำให้คุณได้ดอกเบี้ย  แตกต่างไปจากที่คุณคิด

ตัวอย่าง  ณ 30  มิ.ย.  เหลือเงินติดบัญชีแค่ 5  บาท  ปรากฎว่าดอกเบี้ยปันผลได้แค่ 1  บาทกว่า ขณะที่  บางคนมีเงินในบัญชี 6000  บาท

ได้ดอกเบี้ยไป 50  กว่าบาท  ดังนั้นบางคนมีเงินในบัญชีหลักหมื่น  หรือแสน  ดอกเบี้ยวันนั้นก็แปรผันไปตามจำนวนเช่นกันเหตุนี้เอง

ผู้ใหญ่จึงมักสอนว่าเวลาเงินเดือนออกสิ้นเดือน อย่าเพิ่งกดออกมาใช้  ให้รอถอนวันที่หนึ่งเดือนถัดไป  เพื่อจะได้ดอกเบี้ยธนาคารมากขึ้น

เพราะดอกเบี้ยมาคิด ณ สิ้นเดือนนั่นเอง โดยเฉพาะบัญชีออมทรัพย์  ต้องจำ 30 มิ.ย.  และ 31 ธ.ค. ให้แม่นๆ

 

สาเหตุที่ตู้  เอทีเอ็ม กลืนบัตรเอทีเอ็ม  หรือดูดเงินสดของคุณเข้าไปอีกครั้ง

ความเชื่อ

1.1 ขณะที่ตู้เอทีเอ็ม  เด้งบัตรคืนกลับมา เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น  ...งั้นรับโทรศัพท์ก่อนดีกว่า  เดี๋ยวค่อยหยิบบัตร

1.2 ขณะที่ตู้เอทีเอ็มเด้งเงินสดที่คุณ  ต้องการกดออกมา แต่คุณปวดท้องเบา  ...งั้นแอบทำธุระข้างตู้ก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยหยิบเงิน

ความจริง

ตู้เอทีเอ็ม  จะให้เวลารับเงิน หรือรับบัตรเอทีเอ็มคืน เพียง  15  - 20 วินาทีเท่านั้น  ถ้าไม่รีบดึงเงิน  หรือบัตรออกมา

ทั้งสองอย่างจะถูกตู้ดูดกลับเข้าไปอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของเงินและบัตร  ดังนั้นกรณีที่คุณลืมจริงๆ  คนที่ต่อคิวคุณก็จะหยิบไปไม  ่ได้นั่นเอง

ทางแก้  -  โทร.ติดต่อธนาคารที่คุณเปิดบัญชีไว้ทันทีเพื่ออายัดบัตร  หรือเพื่อขอเงินคืน

 

ใช้บัตรเอทีเอ็ม  ที่ตู้ของธนาคารอื่น แล้วโดนตู้นั้นกลืนบัตรเข้าไป 

ความเชื่อ

แจ้งอายัดบัตรไว้ก่อน  แล้วขอรับบัตรคืนภายหลังได้

ความจริง

ไม่ได้  ธนาคารทุกธนาคารไม่คืนบัตรเอทีเอ็มของต่างธนาคารให้  (ถึงจะอ้างว่าจะไม่  ใช่ความผิดของคุณเลยก็ตาม)

ทั้งนี้เป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีที่อาจได้คืน  คือ หากตู้เอทีเอ็มนั้นตั้งอยู่หน้าธนาคาร  แล้วคุณโชคดีที่พบกับเจ้าหน้าที่มีใจ

(คือทั้งใจดีและเข้าใจ)  ก็อาจให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษให้

 

ขอทำบัตรเอทีเอ็มใบใหม่  โดยไม่ได้บอกความประสงค์ว่าต้องการบัตรประเภทใด

ความเชื่อ

เดี๋ยวจนท.ธนาคารคง  ถามเราเอง ว่าต้องการบัตรแบบไหน  แล้วค่อยทำบัตรให้ตามที่เราต้องการ

ความจริง

จนท.ธนาคาร(อาจ)ไม่ถาม  แล้วเลือกบัตรที่มีค่าแรกเข้า/ค่าธรรมเนียมรายปีแพงที่สุดให้  เพราะถือว่าเป็นคุณค่าที่คุณคู่ควร

สิ่งที่ควรทำ  -  เอ่ยปากถามจนท.หรือศึกษาให้แน่ใจก่อนว่าคุณต้องการบัตรแบบใด  ค่าแรกเข้า/รายปีเท่าไหร่ /เวลาถูก

 

ค่าธรรมเนียมการถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารอื่น

ความเชื่อ

มีค่าธรรมเนียมเฉพาะ  กดถอนเงินที่ตู้ธนาคารอื่น   แต่ตรวจสอบยอดไม่มี  ค่าธรรมเนียม

ความจริง

มีทั้งสองกรณี คือ ในแต่ละรอบเดือน  ทั้งการถอนเงินและสอบถามยอดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารอื่น ครั้ งที่ 5 เป็นต้นไปคิดครั้งละ 5 บาท   

 

บัตรเอทีเอ็มที่มีวงเงินคุ้มครองกรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ

ความเชื่อ

สามารถใช้บัตรนี้  ติดต่อโรงพยาบาล กรณีเกิดอุบัติเหตุ เช่น มีดบาด  น้ำร้อนลวก หกล้มได้

ความจริง

ไม่ได้ การรับเงินค่าชดเชยตามวงเงินคุ้มครอง  ต้องเป็นกรณีตายด้วยอุบัติเหตุเท่านั้น  หรือหากยังไม่ตาย  ต้องพิการถาวร เช่นแขนขาด

ขาขนาด  ตาบอด...ถาวร บางบริษัทประกันอาจมีเงื่อนไขระบุ  ว่า คุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุ  ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์ไม่ว่าจะซ้อนหรือขับขี่ด้วยซ้ำ

จึงต้องตรวจสอบให้ดี

 

เจ้าของบัญชีนอนป่วย  เซ็นชื่อไม่ได้ มอบอำนาจไม่ได้  จะถอนเงินได้หรือไม่  ถ้าไม่มีบัตรเอทีเอ็ม

ความเชื่อ

ธนาคารอาจอนุโลมให้แปะโป้งแทนการเซ็นชื่อได้  เพราะเห็นว่าป่วยอยู่

ความจริง

ไม่ได้  หากเปิดบัญชีด้วยการเซ็นชื่อ  ตัวอย่างลายเซ็นที่สมุดบัญชีเป็นหลักฐานเดียวที่ธนาคารใช้ตรวจสอบตัวบุคคลได้

การแปะโป้งจึงไม่สามารถอนเงินได้เพราะไม่มีตัวอย่างแปะโป้งให้ไว้กับธนาคาร  กรณีที่เจ้าของบัญชีนอนป่วยไม่รู้เรื่องราว  บุคคลอื่นจึงถอนเงินแทนไม่ได้

จนกว่าจะหายเป็นปกติหรือเสียชีวิต  ญาติจึงนำหลักฐานติดต่อรับเงินได้  ได้แก่ 1)หนังสือแต่งตั้งผู้  จัดการมรดก (กทม.ติดต่อศาลแพ่ง  ถ.รัชดา/ต่างจังหวัดติดต่อศาลประจำจังหวัด)

2)  ทะเบียนบ้าน 3) ใบมรณบัตร  4)  สมุดบัญชี

 

หากเผลอแจ้ง  เลขที่บัญชี  และเลขที่บัตรประชาชนให้กับมิจฉาชีพที่โทรมาหลอก

ความเชื่อ

รีบอายัดบัตรเอที  เอ็ม และสมุดบัญชี  เงินในบัญชีจะได้ปลอดภัย

ความจริง

ไม่จำเป็นต้องอายัด  ถ้า..บัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชี และ  บัตรประชาชนตัวจริงทั้งหมดยังอยู่กับตัวคุณเอง มิจฉาชีพไม่สามารถถอนเงินจากบัญชี

ได้อยู่แล้ว เพราะการถอนเงินที่ตู้  ต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม และการถอนเงินที่สาขา  ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริง และสมุดบัญชีตัวจริง  ติดต่อด้วยตนเองเท่านั้น

ปัญหาคือ  ตามแผนของมิจฉาชีพเท่าที่พบคือ   โทรเข้ามาอีกครั้ง  เพื่อหลอกว่ามีเง ินโอนเข้าบัญชี  ขอให้คุณไปตรวจสอบยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม

โดยมันจะคอยบอกวิธีขณะคุณทำรายการ  ที่ตู้ ซึ่งมันหลอกว่าเป็นทางลัดในการตรวจสอบ  แต่ความจริงเป็นการกดโอนเงินออกไปให้บัญชีมิจฉาชีพ

เหยื่อหลงทำตามด้วยความไม่รู้  เพราะหน้าจอเป็นเมนูภาษาอังกฤษ บางครั้งมันก็หลอก(อีก)ว่า ต้องโอนเงินออกมาที่บัญชีเลขที่นี้ก่อน  เพราะเงินในบัญชีเต็ม

(คิดได้ไง) เพื่อจะได้โอนเงิน  เข้าไปในบัญชีเหยื่อได้ ซึ่งความจริง คือ  หลังจากโอนเงินออกไปให้มันแล้วก็ไม่มีเงินโอนเข้ามาเลย

สิ่งที่ควรทำ ต้องมีสติ เมื่อรับโทรศัพท์เสมอ  เห็นว่าท่าไม่ดี  กดวางสายทันที! (คุณลิขิตชีวิตได้ด้วยปลายนิ้ว)

 

การคิดดอกเบี้ยปรับ  สินเชื่อกู้บ้าน (จ่ายช้าไปนิด  ทำไมเบี้ยปรับ..บานกว่าที่คิด)

ความจริง

อัตราดอกเบี้ยปรับ  คิดจาก เพดานดอกเบี้ย ลบ  ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านที่ได้รับ ซึ่งแต่ละธนาคารกำหนดเพดานดอกเบี้ย ไม่เท่ากัน บางธนาคาร 15%

บางธนาคาร  19%  ดังนั้น  ต้องรู้เพดานดอกเบี้ยของธนาคารนั้นก่อน แล้วนำ  เพดานดอกเบี้ย ลบ  ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านที่ได้รับ

สมมติ....ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ได้  คือ 4%  แต่เพดานดอกเบี้ยของ  ธนาคารนั้นๆ อยู่ที่ 19%  เท่ากับว่าดอกเบี้ย  ปรับ ตกวันละ 15%  ต่อปีต่อวัน!!

 

ความบานปลายของดอกเบี้ยปรับ  อยู่ตรงจุดนี้ คือ  คิดจากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดที่กู้มา!!!!

นั่นคือ ถ้ากู้บ้านเป็นเงิน 3.3  ล้าน  และเพิ่งผ่อนไป จนเหลือหนี้ที่ 3  ล้านบาท  ธนาคารจะนำดอกเบี้ยปรับมาคำนวณจากยอดหนี้ตัวนี้  นั่นคือ

(15% x 3,000,000)/365 = ดอกเบี้ยปรับ  1,233 บาท ต่อวัน  แล้วนำยอดนี้ไปคิดดอกเบี้ยในทุกๆวัน  ที่เลยกำหนดมานั่นเอง

ข้อควรระวังคือ ธนาคารอาจบอกคุณว่า สามารถชำระเลยกำหนดได้  7  วัน  ไม่คิดเบี้ยปรับ (ถือเป็น 7  วันทอง) แต่คุณต้องนับให้เป็นคือ

นับวันที่กำหนดชำระ ถือเป็นวันที่  1  เลย  แล้วนับต่อไปอีก 6  วัน  ถ้าจ่ายทันภายในวันดังกล่าวนี้จะไม่ถูกปรับ เช่น  กำหนดชำระทุกสิ้นเดือน

ระยะปลอดดอกเบี้ยปรับคือ  ภายในช่วงวันที่ 31ถึง6  หรือ  30ถึง5 แต่ถ้าช้าไปเพียงวันเดียว   ดอกเบี้ยปรับอาจ  มโหฬาร

เพราะธนาคารเริ่มปรับโดยนับย้อนตั้งแต่วันกำหนดชำระเป็นวันแรกนั่นเลยทีเดียว นี่คือสาเหตุว่าทำไม  จ่ายเกินวันที่ปลอดดอกเบี้ยแค่วันเดียว

แต่ธนาคารกลับคิดดอกเบี้ย เป็น 8  วัน  เพราะเวลาคิดดอกเบี้ย  ถือว่าคิดตั้งแต่วันกำหนดชำระนั่นเอง

 

การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต (เหลือยอดค้าง  ชำระแค่นิด ..เบี้ยปรับกลับ  บานกว่าที่คิด)

ความเชื่อ

คุณรูดไป  900,045  บาท  ชำระไปแล้ว 900,000  บาท  ขาดอีกเพียง 45  บาทค้างชำระไว้  คิดว่าเดี๋ยวค่อยจ่ายรอบหน้า  ดอกเบี้ยคงไม่เยอะ

ความจริง

ธนาคารคิดเบี้ยปรับจากยอดที่คุณรูดไป  (ไม่สนใจดูว่าเหลือ  ยอดค้างชำระไว้เท่าไหร่) ดังนั้น  ดอกเบี้ยปรับคิดจากยอด 900,045  บาท  ไม่ใช่ยอดค้างชำระ 

บันทึกการเข้า

จะสร้างสรรค์วันชื่นคืนสุข ม่ายเอาซานุก ปายเพียงวันๆ ! เอิ๊ก^-^
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 01:37:01 PM »

                  ขอบคุณครับอาศาล  แต่ ..........  เงินในบัญชีผมเหลือไม่เคยเกินร้อยเลยครับ     เศร้า

บันทึกการเข้า

                
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 02:41:16 PM »

                  ขอบคุณครับอาศาล  แต่ ..........  เงินในบัญชีผมเหลือไม่เคยเกินร้อยเลยครับ     เศร้า


ตังค์ของน้าปูไม่รู้ว่าเมีย  หรือพริตตี้ยึดไปหมดครับ   คิก คิก
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 03:07:23 PM »

                  ขอบคุณครับอาศาล  แต่ ..........  เงินในบัญชีผมเหลือไม่เคยเกินร้อยเลยครับ     เศร้า


ตังค์ของน้าปูไม่รู้ว่าเมีย  หรือพริตตี้ยึดไปหมดครับ   คิก คิก

พิมพ์ ทีไร โดนทุกที  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ไหว้
บันทึกการเข้า
PsanP_IT.31(ไพศาล ๓)
๑๙๑๑ เลอะโคลน!!
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 745


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 08:58:43 PM »

เค้าเรียก....คนมีความรับผิดชอบ.................สูง... Grin
บันทึกการเข้า

จะสร้างสรรค์วันชื่นคืนสุข ม่ายเอาซานุก ปายเพียงวันๆ ! เอิ๊ก^-^
Earthworm
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 211
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1359


« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 09:54:55 PM »



            มีข้อสงสัยอีกข้อนึงครับ ธ.แห่งนึงที่สนง.ใหญ่อยู่สีลมนะครับ  ภรรยาผมเปิดบัญชีไว้เรื่องแชร์ในหมู่เพื่อนฝูง แล้วก็ใช้วิธีการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เนทกันเป็นส่วนมาก เลยไม่ค่อยได้อัพเดทสมุดเท่าไหร่ จนเลยไปประมาณเจ็ดแปดเดือน เอาสมุดไปอัพเดท มันก็ขึ้นมาแบบไม่มียอดรวมให้ครับ มีแต่ยอดในเดือนปัจจุบัน พอติดต่อจนท. เค้าก็บอกว่าถ้าจะให้พิมพ์ให้ย้อนหลังก็มีค่าธรรมเนียม 200บาทครับ ถกกับจนท.หน้าเคาน์เตอร์ก็ ไม่รู้เรื่องมีแต่บอกให้ไปพิมพ์เอาเองจากในเนท เขายังไม่เข้าใจว่าที่ผมถามไม่ใช่เรื่องรายละเอียดในเล่มสมุดแต่ผมถามว่าทำไมไม่รวมยอดมาให้ ที่งงก็มีสองเรื่องครับ

                    เรื่องแรก      ทำไมยอดในส่วนที่ทำธุรกรรมทางอินเตอร์เนท ไม่ลงเป็นยอดรวมในสมุดให้
                    เรื่องที่สอง   การที่แบงค์ไม่แจงรายละเอียดยอดผมพอทราบ แต่ของแบงค์อื่น จะเป็นยอดรวมเข้าออกสองยอดมาให้ดู แต่ของแบงค์นี้ ช่วงที่ทำธุรกรรมทางอินเตอร์เนท กลับไม่มียอดรวมจำนวนเงินเข้าออกมาให้ มีแต่ของเดือนปัจจุบัน แต่ในอินเตอร์เนทแบงค์กิ้งกลับมีรายละเอียดที่ผ่านมาทั้งหมด ก็เลยงง งง ว่าที่ไม่แสดงยอดลงสมุดให้อย่างนี้ พอเวลาผ่านเลยไปแล้วถ้าเกิดแบงค์ไม่คิดดอกเบี้ยให้ เราจะรู้ได้อย่างไรครับ เพราะผมคิดดูคร่าวๆจากจำนวนเงินที่อยู่และหมุนเวียน ดอกเบี้ยส่วนที่ไม่ได้แสดงไว้ในสมุด เกือบร้อยบาทนะครับ ไม่ได้เสียดายตรงนี้ แต่ถ้าทำแบบนี้กับหลายๆบัญชี มันก็เป็นเงินหลายอยู่ บวกกับค่าธรรมเนียมมหาโหดอีก ก็กำไรปีนึงหลายอยู่นะครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.086 วินาที กับ 21 คำสั่ง