ช่วยเหลือน้ำท่วม -

เตือนระวัง!น้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง-ลำเชียงไกร-ลำจักราช
นครราชสีมา-ผู้ว่าฯ โคราชเผยขนย้ายผู้ป่วยหนักจากโรงพยาบาลมหาราชไปรักษาในโรงพยาบาลจังหวัดใกล้ เคียงได้แล้วร่วม 20 ราย ส่วนคนไข้ที่เหลือในโรงพยาบาล มทบ.ที่ 21 ช่วยลำเลียงอ๊อกซิเจน เครื่องอุปโภค - บริโภค สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นบรรเทาความเดือดร้อนจนน่าพอใจ อธิบดีกรมชลฯเตือนประชาชนเฝ้าระวังผลกระทบน้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง,ลำเชียงไกร และลำจักราชที่จะไหลสู่ลำน้ำทางใต้ของจังหวัดนครราชสีมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (19 ต.ค.) ณ ห้องแถลงข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน พลตรี ต่อศักดิ์ เหลืองตระกูล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 พล.ต.ต. ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้า สถานการณ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะ นี้จังหวัดนครราชสีมาสามารถแก้ไขปัญหาของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้แล้ว หลายประการ เช่น การขนย้ายคนไข้หนักเพื่อส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลข้างเคียง โดยมีผู้ป่วยหนักที่สามารถขนย้ายได้ 17 ราย ภาคเช้าได้ขนย้ายแล้ว 3 ราย เพื่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้เคียง

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก มณฑลทหารบกที่ 21 จัดกำลังทหารลำเลียงออกซิเจน เครื่องอุปโภค - บริโภค สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับคนไข้ทำให้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สามารถดำเนินการตามระบบได้ตามปกติ ทำให้คลายกังวลได้ในส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับสภากาชาดไทย ตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครราชสีมา ณ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้จากประชาชนทั่วไป ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 044-255993-4,044-25996-8 และที่บัญชี เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2553 เลขที่บัญชี 694-0-13486-7 โดยผู้บริจาคเงินส่งโทรสารใบโอนเงินไปที่หมายเลข 044-259988

สำหรับการช่วยเหลือจังหวัดได้รับความร่วมมือจากทุกส่วน ทั้งส่วนกลางและองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

ด้านนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ขณะนี้ ได้มีปริมาณน้ำตามท้องทุ่งในพื้นที่ต่างๆเต็มท้องทุ่งทั้งหมด ได้มีการประเมินสถานการณ์คาดว่าปริมาณน้ำในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา สถานการณ์จะดีขึ้นภายใน 10-15 วัน แต่ถ้ามีพายุหรือฝนเข้ามาต่อจากนี้ไปก็จะขยายเวลาออกไปอีกระยะหนึ่ง

ส่วนน้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง ลำเชียงไกร และลำจักราช ที่จะไหลสู่ลำน้ำทางใต้ของจังหวัดนครราชสีมาประชาชนต้องระมัดระวังผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวแล้ว

ปิดการจราจรเด็ดขาด2จุดงดเดินรถไฟ

พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวถึงเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่จะผ่านไปยังจังหวัดใกล้เคียง ว่า เจ้าหน้าที่ยังคงปิดการจราจรเด็ดขาดใน 2 จุด เพราะระดับน้ำยังคงท่วมขังสูง คือ ถนนทางหลวงหมายเลข 204 เส้นทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ถนนเชื่อมแยกจอหอ และทางหลวงหมายเลข 205 โนนชัย-ชัยภูมิ ผ่านได้เฉพาะรถใหญ่เท่านั้น และเจ้าหน้าที่ยังได้ปิดการจราจรในทางหลวงหมายเลข 290 ทางเลี่ยงเมืองสูงเนิน-ปักธงชัย ทางหลวงหมายเลข 201 สีคิ้ว-ชัยภูมิ ที่จะผ่านได้เฉพาะรถใหญ่เท่านั้น สำหรับผู้ที่จะสัญจรผ่านถนนทางหลวงหมายเลข 224 โชคชัย-ครบุรี ต้องใช้ทางเลี่ยง โชคชัย-หนองบุญมาก หนองกี่ เข้าครบุรี

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังทำการปิดการจราจรเส้นทางหลวงหมายเลข 224 ครบุรี-เสิงสาง และทางหลวงหมายเลข 226 นครราชสีมา-จักราช ด้วย

ส่วนเส้นทางเดินรถไฟจาก จ.นครราชสีมา ไปยัง จ.ขอนแก่น นั้น เจ้าหน้าที่ปิดการเดินรถช่วงสถานีบ้านเกาะ ถึงสถานีบ้านหนองแมว ใน อ.โนนสูง เป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร เนื่องจากระดับน้ำท่วมรางรถไฟประมาณ 10 เซนติเมตร

ชาวบ้าน 3 ตำบลขอความช่วยเหลือด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านจากบ้านกล้วย ต.พุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร้องเรียนเข้ามาว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.พุดซา ต.ละลม ต.สีมุม ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 10 กิโลเมตร เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมและถูกตัดไฟมาแล้ว 3 วัน ประชาชนออกนอกบ้านไม่ได้

ส่วนพระสงฆ์-สามเณร ก็ออกบิณฑบาตรไม่ได้ แต่ทางจังหวัดยังไม่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ มีองค์การบริหารส่วนตำบลเท่านั้นที่นำข้าวกล่องมาแจกให้กับประชาชน จึงอยากให้จังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือเป็นการ ด่วน เพราะล่าสุดได้รับแจ้งว่าจะมีการระบายน้ำเข้ามาอีกจึงเกรงว่าจะทำให้เดือด ร้อนหนักมากขึ้น

ทร.ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบกช่วย

หลังจากน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิงล้นทะลักเข้าท่วม ถนน อาคารบ้านเรือนประชาชน ในเขตเทศบาลตำบลปักธงชัย อ.ปักธงชัย ซึ่งถือว่าวิกฤตที่สุดในรอบหลายปีและปริมาณน้ำยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง มีประชาชนติดอยู่ภายในบ้านเรือนไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้เป็นจำนวนมาก

โดย พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชา การทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พล.ร.ท.พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน สนับสนุนรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) เพื่อเป็นยานพาหนะลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และขนย้ายราษฎรที่ติดค้างอยู่ตามบ้านเรือนที่ยานพาหนะโดยทั่วไปไม่สามารถ เข้าถึง พร้อมนำอาหารและสิ่งของแจกจ่ายให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบกับอุทกภัย หลังเคยประสบความสำเร็จในการนำรถสะเทินน้ำสะเทินบกเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ ประสบภัยสึนามิในพื้นที่ภาคใต้มาแล้ว

ทั้งนี้ พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ได้จัดรถ AAV 2 คัน จากกองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก และกองพันทหารช่าง สนับสนุนรถบรรทุกชานต่ำ 2 คัน พร้อมกำลังพลและอุปกรณ์ เดินทางจากกองพลนาวิกโยธิน ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เข้าให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ อ.ปักธงชัย ซึ่งก่อนหน้านี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้กองทัพเรือ สนับสนุนเรือท้องแบน 8 ลำ เข้าให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้แล้ว

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ช่วยเหลือน้ำท่วม - (อ่าน 5534 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้