ทัพเรือ คุ้มกันเรือสินค้ากว่า 550 ลำในทะเล แล้ว
ตลอด ระยะเวลา ๑๓ วันของการลาดตระเวนภารกิจแรกของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดระยะทางกว่า ๓,๖๘๐ ไมล์ ร.ล.สิมิลัน และร.ล.ปัตตานีให้การคุ้มครองเรือสินค้าในอ่าวเอเดน กว่า ๕๕๐ ลำแล้วในการคุ้มกันเรือสินค้า และเรือประมงในอ่าวเอเดนภารกิจของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดได้ให้ความคุ้มกัน เรือสินค้าและเรือประมงในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียเริ่มขึ้นตั้งแต่วัน ที่ ๑ ต.ค.๕๓ โดย ร.ล.ปัตตานีลาดตระเวนในช่องทางแนะนำการเดินเรือนานาชาติ ส่วน ร.ล.สิมิลันจะลาดตระเวนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสนับสนุน ร.ล.ปัตตานีและเตรียมการคุ้มกันเรือสินค้าไทยที่ได้ประสานว่าจะเดินทางผ่าน อ่าวเอเดน จำนวน ๔ ลำได้แก่
เรือ Thor Achiever , เรือ Thor Pilot,
เรือ Thor Harmony, และเรือ Orient
ระหว่าง การลาดตระเวนในพื้นที่ได้ทำการคุ้มกันเรือสินค้าที่ผ่านเข้าพื้นที่ลาด ตระเวนจำนวนประมาณ๔๐ – ๕๐ ลำในแต่ละวัน และมีขบวนเรือคุ้มกันสินค้าของเรือรบญี่ปุ่น,อินเดีย, จีน,รัสเซียและเกาหลีใต้แล่นผ่านในพื้นที่ลาดตระเวน
เมื่อวันที่ ๓ ต.ค. เวลา ๑๙.๔๓ เรือสหรัฐอเมริกาชื่อUSS OSCAR USTIN ได้แจ้งว่าตรวจพบ เรือ Dhowต้องสงสัย ๒ ลำ แต่เนื่องจาก ฮ. ไม่สามารถขึ้นปฏิบัติการได้ กองกำลังผสมนานาชาติได้แจ้งให้ ร.ล. สิมิลัน ปิดระยะและทำการส่ง ฮ.ขึ้นตรวจสอบเป้าดังกล่าว การปฏิบัติการร่วมระหว่าง ฮ. และเรือต่างชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เนื่องจากหมดเวลาบินของ ฮ.และท้องฟ้ามืดมาก จึงนำ ฮ. ลง และได้สั่งการให้ ร.ล.ปัตตานีติดตามเป้าดังกล่าวต่อไป ผลการตรวจสอบไม่มีพฤติกรรมเป็นโจรสลัด
จน กระทั่งในวันที่ ๕ ต.ค.๕๓ ร.ล.สิมิลัน ได้คุ้มกันเรือไทยลำแรก ชื่อMV THOR ACHIEVER เพื่อมุ่งหน้าจากอ่าวเอเดนไปสู่ทะเลแดงซึ่งระหว่างการเดินทาง ร.ล.สิมิลัน ก็ได้ตรวจพบกลุ่มเรือSkiff จำนวนมากกว่า ๔๐ ลำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
บางลำแล่นด้วยความเร็วสูงในลักษณะ เข้าหาเรือ MV THOR ACHIEVER หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดจึงส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นปฏิบัติเพื่อสกัดกั้น และพิสูจน์ทราบกลุ่มเรือดังกล่าวแต่ไม่สามาน จากการตรวจสอบพบว่ามีอุปกรณ์การประมงน้อยมากมีคนประจำเรือ๓ -๕ คน ใช้เครื่องยนต์ติดท้ายขนาด ๔๐ แรงม้า ๑ – ๒ เครื่อง เมื่อคนประจำเรือเห็นเฮลิคอปเตอร์ ได้แสดงการโบกมือ ยกธงและปลา เพื่อแสดงตนว่าไม่ได้เป็นโจรสลัด
เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดไม่พบอาวุธ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำอันเป็นโจรสลัด อาทิเช่นบันได ถังน้ำมัน หรือ ตะขอเกี่ยว จึงบินวนให้การคุ้มครอง เรือ MVTHOR ACHIEVER จนพ้นจากกลุ่มเรือ Skiff ดังกล่าว
ขณะ เดียวกันที่บริเวณใกล้เคียง ประมาณ ๑๐ ไมล์ ทางด้านเหนือเรือสินค้าชื่อ MV ULLA SCANกลุ่มเรือSkiffรายงานการตรวจพบโจรสลัดให้เรือรบเยอรมัน ชื่อ FGS KOELN ว่าถูกเรือ kiff ไล่ติดตามและเรือรบเยอรมันได้ส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าสกัดกั้น ผลการสกัดกั้นเรือสินค้าปลอดภัย
จากเหตุการณ์นี้ สันนิษฐานได้ว่ากลุ่มเรือ Skiffน่าจะเป็นกลุ่มเรือโจรสลัดที่แฝงตัวเป็นชาวประมงเนื่องจากแต่ละลำมีถัง น้ำมันขนาดเล็กอยู่ในเรือประมาณ ๕ – ๖ ถังตัวเรือบริเวณกลางลำมีห้องปิดทึบคล้ายห้องสำหรับเก็บกลุ่มเรือปลาและ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากฝั่งเกือบ ๑๐๐ ไมล์ทะเล น้ำมันในเรือไม่น่าจะพอเพียงต่อการออกมาทำประมงและแล่นกลับเข้าฝั่ง
ส่วน วิธีการทำประมงค่อนข้างแปลกคือใช้วิธีการวางเบ็ดจึงไม่น่าจะคุ้มค่าต่อการ ออกเรือซึ่งน่าจะเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ของกลุ่มโจรสลัดที่แฝงตัวหรืออำพราง ว่าเป็นเรือประมงแต่เมื่อสบโอกาสก็จะทำการปล้นยึดเรือที่ผ่านเข้ามาใน พื้นที่หากเรือลำใดไม่มีการป้องกันอย่างเพียงพอ แล่นด้วยความเร็วต่ำกราบเรือต่ำใกล้น้ำเดินทางเพียงลำพังแน่นอนว่าเรือ สินค้าลำนั้นจะเปิดโอกาสให้โจรสลัดปล้นยึดได้
หลัง จากนั้นหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดได้มีการขึ้นตรวจเยี่ยมเรือ MV THOR ACHIEVERซึ่งเป็นเรือสินค้าไทยลำแรกที่หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดให้การคุ้ม กันตลอดเส้นทาง IRTCโดยมีการสอบถามถึงความรู้สึกของนายชัยพันธุ์ จันทร์น้อยกัปตันเรือสินค้าและลูกเรือในขณะเดินทางผ่านอ่าวเอเดนและน่านน้ำ โซมาเลียและประโยชน์ที่จะได้รับจากการที่ ทร.ส่งกำลังทางเรือมาให้การคุ้มกันเรือสินค้าครั้งนี้ กัปตันเรือกล่าวว่า “ทางบริษัท ได้แจ้งให้ทางเรือทราบเรื่องโจรสลัดในบริเวณชายฝั่งโซมาเลียแต่การเดินทางใน ครั้งนี้มีกองทัพเรือไทยมาทำการตรวจการณ์เฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับทางเรือ ทำให้ผมและคนประจำเรือรู้สึกอุ่นใจมากที่กองทัพเรือไทยได้ส่งเรือรบมาช่วย ดูแลความปลอดภัยเรือสินค้าระหว่างประเทศ”
ซึ่งปัญหาโจรสลัด เป็นปัญหาที่สำคัญมากทีเดียวเกี่ยวกับเจ้าของเรือคนประจำเรือ รวมทั้งครอบครัวของพวกเขาด้วยต้องได้รับความเดือดร้อนมากถ้าโจรสลัดจับยึด เรือไปได้ก็จะมีการเรียกค่าไถ่คนประจำเรือและครอบครัวก็ต้องประสบปัญหาและ บริษัทต้องประสบปัญหาในเรื่องของสินค้าที่ไม่สามารถนำไปส่งผู้รับได้ความ เสียหายค่อนข้างมาก ถ้าเป็นเรือสินค้าที่มีมูลค่ามากหรือเรือน้ำมันก็จะมีมูลค่าความเสียหายมาก ผมรู้ว่าเป็นความร่วมมือระหว่าง UNกับกองทัพเรือไทยที่ให้ความช่วยเหลือบริษัทในการเดินเรือผ่านบริเวณนี้ให้ เกิดความปลอดภัย
ผมขอขอบคุณ รัฐบาลไทยและกองทัพเรือไทยที่ให้ความช่วยเหลือทางบริษัทเดินเรือระหว่าง ประเทศในการส่งสินค้าไปมาระหว่างประเทศในการเดินเรือทางชายฝั่งโซมาเลีย และผมจะบอกกับเรือทุกลำให้มีการเฝ้าระวังเพราะเรือบางลำอาจจะไม่โชคดีเหมือน เรือของผมที่เรือรบมาช่วยตรวจการณ์ให้กับเรือของผมทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้ เรือทุกลำได้ความร่วมมือในการปรับแต่งเวลา เข้า – ออก ให้ตรงกับตาราง
เมื่อ ๗ ต.ค.๕๓ขณะที่ ร.ล.สิมิลัน ได้ทำการคุ้มกันเรือสินค้า ALMAATA สัญชาติตุรกี ซึ่งได้ประสานขอร่วมเดินทางผ่านอ่าวเอเดนไปทิศตะวันออก ผ่านทาง Website Maritime ecurity Center Horn Of Affrica
วัน ที่ ๗ ต.ค.๕๓ เวลา ๑๐.๑๕ น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือเวลา๑๓.๑๕ ตามเวลาประเทศไทย ร.ล.ปัตตานีได้รับรายงานขอความช่วยเหลือจากเรือ MV ALMUKHATARAHว่าถูกโจรสลัดไล่ล่าด้วยเรือ Skiff ๑ ลำ ความเร็ว ๒๐ นอตปิดระยะเข้าหาเรือเรื่อย ๆ เมื่อตรวจสอบด้วยสายตา พบโจรสลัด๖ คน พร้อมจรวด อาร์ พี จี ๑ กระบอก ที่ตำบลที่ แลต ๑๓องศา ๒๓ ลิปดาเหนือ ลอง ๐๔๙ องศา ๕๗ ลิปดา ตะวันออก
หมู่ เรือปราบปรามโจรสลัด จึงสั่งการให้เฮลิคอปเตอร์ของร.ล.ปัตตานี พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ขึ้นสกัดกั้นเป็นผลให้เรือ MV ALMUKHATARAH ปลอดภัยจากการถูกปล้นยึดจากนั้นเมื่อเวลา ๑๐.๔๕ ซึ่งห่างกันเพียงครึ่งชั่วโมงร.ล.ปัตตานีได้รับรายงานอีกครั้งจากเรือ MV ALMUKHATARAHและ MV SPILIANI ว่าตรวจพบเรือแม่โจรสลัดพร้อมเรือ Skiff จำนวน๑ ลำ ตำบลที่ ๒ ไมล์ จากแลต ๑๓ องศา ๒๖ ลิปดาเหนือ ลอง ๐๕๐องศา ๐๘ ลิปดาตะวันออก หน่วยบินหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดจากร.ล.ปัตตานี จึงบินเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบเรือ Dhow ๑ ลำ พร้อมคนในเรือ ๕ คน เมื่อบินเข้าไปตรวจสอบโดยละเอียดไม่พบสิ่งผิดปกติอย่างใด จึงได้แจ้งเรือสินค้าทั้ง ๒ ลำทราบและให้ความคุ้มครองการเดินทางจนพ้นพื้นที่อันตราย จึงเดินทางกลับ ร.ล.ปัตตานี
เมื่อวันที่ ๘ ต.ค. ๕๓มปจ.ได้คุ้มกันเรือลำเลียงยุทโธปกรณ์ของกองกำลังเฉพาะกิจ ๙๘๐ไทย / ดาร์ฟูร์ กองบัญชาการกองทัพไทย ชื่อ MV Kapitan Danikinพร้อมด้วยเรือสินค้าที่ขอร่วมขบวนอีก ๒ ลำ ชื่อ Pioneer Sea สัญชาติMonta และ เรือPitalaga สัญชาติ Hongkongจากทางเข้าปากอ่าวเอเดน ตามเส้นทางการเดินเรือนานาชาติรวมระยะทาง ๖๐๐ ไมล์
จน เดินทางถึงจุดสิ้นสุดของช่องทาง และได้ส่งเรือสินค้าทั้ง ๒ ลำ เดินทางต่อไป ร.ล.สิมิลันทำการคุ้มกัน เรือ Kapitan ต่อไปจนถึงปากทางเข้าทะเลแดง หรือ BabAl Mandeb ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่นอก IRTC ไม่มีกองกำลังของชาติต่างๆ คุ้มกันและเป็นบริเวณที่มีเรือสินค้ารายงานว่ามีการกระทำอันเป็นโจรสลัดหลาย ครั้ง ในระหว่างเดินทางผ่านพื้นที่ดังกล่าว ร.ล.สิมิลันได้ตรวจพบเรือ Skiff หลายลำมีพฤติกรรมน่าสงสัยเนื่องจากทำการประมงใกล้เส้นทางเดินเรือสินค้าและ ใช้ความเร็วสูงแล่นเข้าหา เรือ Kapitan จึงได้บันทึกตำบลที่ไว้เมื่อส่งเรือ Kapitan
เป็นที่เรียบร้อยจึงได้กลับมาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง
เมื่อ เวลา ๑๖.๓๐ มปจ.ได้ตรวจกลุ่มเรือ Skiff จำนวน ๘– ๙ ลำ บริเวณ แลต ๑๒ องศา ๒๓ ลิปดาเหนือ ลอง ๔๓องศา ๔๙ ลิปดาตะวันออก จึงได้ส่ง ฮ. แบบ Bell – ๒๑๒เข้าทำการพิสูจน์ทราบ ขณะที่ ฮ. กำลังปฏิบัติการ เรือ Skiffซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้เพิ่มความเร็วเหมือนมีทีท่าว่าจะหลบหนีมปจ . จึงสั่ง ฮ. ติดตามเพื่อสกัดกั้น โดย ฮ. ได้ทำการบินรอบเป้าและทิ้งทุ่นควันดักหน้า จนเรือหยุดเครื่องลอยลำ จากนั้น มปจ. ได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ ด้วยเรือ Rib ๒ ลำ เข้าทำการตรวจค้น เรือSkiff จำนวน ๓ ลำ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ผลการตรวจค้นเรือ Skiff ดังกล่าว เป็นเรือประมงสัญชาติ YEMEN มีคนประจำเรือลำละ ๔ – ๖ คน จากการตรวจค้นโดยละเอียดไม่พบสิ่งต้องสงสัยอื่นๆ จึงได้ปล่อยตัวไป เสร็จสิ้นปฏิบัติการเมื่อ ๑๗.๔๕ ต่อมาเมื่อวันที่๑๑ ต.ค.๕๓ ร.ล.สิมิลันได้ทำการคุ้มครองเรือไทยจำนวน ๑ ลำและเรือต่างชาติที่ขอรับการคุ้มกันจาก มปจ. จำนวน ๕ ลำ ได้แก่
เรือ Orient สัญชาติไทย
เรือ ROSE GAS สัญชาติปานามา
เรือ TH SOUND สัญชาติสิงคโปร์
เรือ LADY CHIARA สัญชาติ Liberia
เรือ BELUGA EXPECTATION สัญชาติ Antigua&Barbuda
เรือ ALF AMAR สัญชาติตุรกี
โดย เริ่มเดินทางจากทางฝั่งตะวันตกของอ่าวเอเดน เมื่อวันที่ ๑๑ ต.ค.๕๓ เวลา ๐๗.๐๐ ท้องถิ่น ไปยังทางฝั่งตะวันออกระหว่างทาง ร.ล.ปัตตานีลาดตระเวนพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายร่วมคุ้มกันกระบวนเรือคอนวอย ขณะเดินทางผ่านพื้นที่และ มปจ. ก็สิ้นสุดภารกิจผลัดแรกในวันที่ ๑๓ ต.ค.๕๓โดย ร.ล.สิมิลัน แล่นเข้าจอดเรือที่เมืองท่าซาลาล่าห์รัฐสุลต่านโอมานส่วน ร.ล.ปัตตานีจอดเรือที่ประเทศจิบูติ เรียบร้อยแล้ว
http://news.mthai.com/general-news/90977.html
