ผมชอบเสียงกลองใบใหญ่ๆหนักๆอย่างทั้งสองคลิปนี้ครับ
คล้ายๆมันกระตุ้นการเต้นหัวใจเราให้เป็นจังหวะได้ดีขึ้น
เคยมีคนวิจารณ์ kitaro ไว้ว่า
คีทาโร่ไม่เรียกว่าคลาสสิคนะจ๊ะ อยู่ในประเภทเวิร์ลมิวสิคมากกว่า เราไปดูคอนเสิร์ตตอนมาเมืองไทยด้วยเล่นที่สวนหลวงร.9 บรรายากาศดีมากๆ แต่ขากลับแย่งรถแท็กซี่กันคนเยอะมากๆ
สมัยเรียนเคยฟังบรรยายเกี่ยวกับ ศิลปะนามธรรมและรูปธรรม อ.ปรีชา เถาทอง เปิดเพลงพี่แจ้ให้ฟังก่อนแล้วก็ปิดบอกว่านี้คือรูปธรรมคือมีเนื้อหา ฟังแล้วเข้าใจ ไพเราะ แล้วแกก็เปิดคีทาโร่ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเพลงซิลล์โรดอันโด่งดัง แกบอกนี้คือนามธรรม คือไม่มีเนื้อเพลงแต่ฟังไพเราะได้อารมณ์ อธิบายได้เก็ตมาก
ตั้งแต่นั้นก็สามารถดู-ฟังอะไรที่มันเป็นนามธรรมได้ดียิ่งขึ้น ไม่เกี่ยวกับมืออาชีพหรือสมัครเล่นครับ อารมณ์ล้วนๆ
ลองฟังข้าล่างนี้ก้ได้ตลาดกว่าอีก น่าจะขายได้มากกว่าด้วย เพลงประเภทเดียวกันตลาดกว่า
และอีกคำวิจารณ์
Kitaro จัดว่าเป็นศิลปินระดับโลก เพลงที่เขาแต่ขึ้นมานั้นได้แรงบัลดาลใจมาจากธรรมชาติ คล้ายกับเพลงของบีโทเฟนที่มาจากเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าแหล่ะเลยอาจมีส่วนคล้าย กับเพลงคลาสสิคอยู่บ้าง แต่ Kitato จะแต่งเพลงมาจากภูเขา สายลม สายน้ำ ทะเล ที่เขาสัมผัสจากประสบการณ์จริงของตนเอง บางครั้งไปแต่งเพลงไนธรรมชาติจริงๆเลยด้วยซ้ำ แต่ที่ไม่นับว่าเป็นคลาสสิคเพราะเครื่องดนตรีของเขาเป็นเครื่องสังเคราะ เสียงจากไฟฟ้า ที่เรียกว่า Synthesizer ที่มีคนบอกว่าถูกจัดอยู่กลุ่มของเพลงแนว World คงเป็นเพราะเขาแต่งโดยใช้แรงบัลดาลจากธรรมชาติกระมัง แต่จริงๆแล้วถูกจำแนกให้เป็นดนตรีแขนงใหม่เรียกว่า New Edge เนื่องจากเครื่องดนตรีกับเสียงที่เขาใช้จากเครื่องนี้น่ะแหล่ะ (จริงๆแล้วไอ้เครื่องดนตรีชนิดนี้มันทำได้สารพัดเสียงเลยทีเดียว เสียงกลองยังทำได้เลยแต่ Kitaro เลือกใช้เสียงที่รู้สึกถึงธรรมชาติ)
ปล.Kitaro ได้เห็นเครื่องนี้จาก Klaus Schulze ก่อนแล้วถูกใจเครื่องนี้แล้วเรียนรู้วิธีการเล่นด้วยตัวเองจนออกมาเป็น อัลบั้มที่ได้ฟังกัน
แต่ผมเอามาจากเว็บไหนคงจำไม่ได้ครับ เห็นเขาวิจารณ์ไว้ เลยก็อปมาไว้อ่านเล่นๆครับ