27 ตค. 2553 19:47 น.
พ.ต.ท.วิริยะ สุจริต พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งพบศพในห้องพัก โรงแรมบ้านรถไฟรีสอร์ท ในหมู่บ้านป่าสักหางเวียง หมู่ 9 ต.เวียง อ.เชียงแสน ที่เกิดเหตุเป็นรีสอร์ทชั้นเดียว ด้านหน้ามีร้านอาหารให้บริการผู้เข้าพัก ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่ริมรั้วของรีสอร์ทติดกับแม่น้ำโขง พบศพนางสุธิลักษณ์ ชุมสาย ณ อยุธยา อายุ 63 ปี หรือ "คุณเล็ก" เจ้าของรีสอร์ทที่เกิดเหตุ สภาพศพที่ศีรษะและใบหน้าถูกของมีคมฟันจนเป็นแผลฉกรรจ์มีร่องรอยถูกฟันไม่ต่ำกว่า 5-6 นอกจากนี้แขนทั้งสองข้างยังมีร่องรอยถูกฟันโดยเฉพาะแขนข้างซ้ายถูกฟันจนเกือบขาดจนห้องรุ่งริ่ง เบื้องต้นคาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ที่เกิดเหตุพบมีพร้าตัดหญ้ายาวป30 ซ.ม.เปื้อนเลือดตกอยู่คาดว่าเป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุด้วยจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบยังพบว่าพบรอยลากศพมาจากห้องพักหมายเลข 2 ของโรงแรมซึ่งเป็นห้องพักของนางสุธิลักษณ์ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบภายในห้องมีเลือดนองพื้นและมีร่องรอยข้าวของภายในห้องพักถูกรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย นอกจากนี้ห้องพักข้างๆ ราว 1-2 ห้องก็ถูกรื้อค้นด้วยเช่นกัน โดยมีทรัพย์สินหายไปเป็นพระเครื่อง โทรศัพท์มือถือ เงินสด ฯลฯ แต่ยังไม่ทราบจำนวนชัดเจน
สอบสวนทราบว่านางสุธิลักษณ์เป็นคนมีฐานะมาจากกรุงเทพฯ และหลังจากเลิกกับสามี ได้ไปประกอบกิจการโรงแรมดังกล่าวอยู่ริมแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน โดยได้พามารดาอายุประมาณ 80 ปีไปพักอาศัยในวัยชราอยู่ด้วย
สำหรับกิจการเริ่มแรกมีการทำแค่ร้านอาหารด้านนอกจากนั้นจึงค่อยๆ ขยายเป็นรีสอร์ทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีสภาพดังกล่าว ในเดือนนี้ทางโรงแรมมีโครงการก่อสร้างถนนทางเชื่อมอาคารโดยมีการเทคอนกรีต จึงได้มีการว่างจ้างแรงงานต่างด้าว30 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพม่าให้ไปก่อสร้าง โดยหนึ่งในคนงานชื่อว่านาย "เหลา" อายุประมาณ 30-35 ปีมาจากประเทศพม่า โดยเย็นวันก่อนเกิดเหตุคนงานได้รับประทานอาหารเย็นและดื่มเหล่าร่วมกันเป็นกลุ่มและนายเหลาก็อยู่ในกลุ่มด้วย
กระทั่งช่วงดึกได้มีคนเห็นนายเหลาสภาพมีบาดแผลที่มือและใช้ผ้าพัน จากนั้นได้ออกจากโรงแรมและไปว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างขับขี่ไปทางสามเหลี่ยมทองคำและหายไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมสังหารว่าเกิดจากการฆ่าชิงทรัพย์จากคนต่างด้าว เพราะก่อนหน้านี้ร่วม 15 ปีผู้ตายไม่เคยถูกคุกคามจากใครมาก่อน กระทั่งมีการว่าจ้างแรงงานให้ไปก่อสร้างและมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับนายเหลาจึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการฆ่าชิงทรัพย์ โดยคนร้ายเห็นผู้ตายสูงวัยและเป็นผู้หญิงรวมทั้งมีทรัพย์สินต่างๆ โดยเฉพาะภายในห้องพักโรงแรมที่ว่างอยู่ จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมกระทั่งกลางคืนเห็นว่าปลอดคนจึงถือมีดเข้าไปทำร้ายด้วยการฟันผู้ตาย เพื่อหวังให้เสียชีวิตจากนั้นจะเข้ารื้อค้นทรัพย์สิน แต่ขณะลงมือฟันผู้ตายได้ดิ้นรนขัดขืนเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด จึงได้ใช้มือปัดป้องจากมีดที่คนร้ายฟันจนทำให้แขนและมือถูกฟันหลายแห่งโดยเฉพาะแขนขวามีสภาพเกือบขาดดังกล่าว
จากนั้นคนร้ายได้เข้ารื้อค้นทรัพย์สินเล็กๆ น้อยๆ ได้บางส่วนดังกล่าว ก่อนลากศพไปข้างริมแม่น้ำโขงเพื่อเตรียมโยนลงแม่น้ำเพื่ออำพราง แต่เนื่องจากคงทำคนเดียวไม่ไหวรวมทั้งกลัวว่าจะมีคนไปพบเห็นจึงทิ้งศพไว้ริมน้ำจากนั้นได้หลบหนีไป
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=476361http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000151563