ผมขอออกความเห็นเฉพาะเรื่องทางครับ
การที่ทางในที่ดินเอกชน จะตกเป็นทางสาธารณะได้นั้น มีอยู่กรณีเดียวครับ (นอกจากถูกเวนคืน)
คือเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นเอกชน ได้ยกหรืออุทิศให้ทางดังกล่าว เป็นทางสาธารณะ
ไม่ว่าจะโดยนิติกรรม หรือโดยวาจา และไม่สำคัญว่าจะได้จดหรือขึ้นทะเบียนเป็นทางสาธารณะหรือไม่
หากเจ้าของที่ดิน มีเจตนายกให้ทางเป็นทางสาธารณะประโยชน์แล้ว ทางดังกล่าวย่อมตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทั้นที
ซึ่งเรื่องนี้ จึงมิใช่เรื่องภาระจำยอมในที่ดินของผู้อื่นที่จะเอาอายุความ ๑๐ ปี มาใช้บังคับ ดั่งเช่นท่านโยชิกิได้แนะนำไว้แล้ว เพราะคนละเรื่องกัน
และไม่เกี่ยวกับเรื่องการบ้านจัดสรร หรือ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร เพราะในกฎหมายดังกล่าว แม้จะมีคำว่าทางสาธารณะก็ตาม
แต่เป็นเพียงนิยามและข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าอย่างไรคือ ทางสาธารณะ เท่านั้น ซึ่งไม่แน่นอนเสมอไป
หากมีข้อเท็จจริงอื่นแสดงให้เห็นนอกเหนือจากบทสันนิษฐานของกฎหมายครับ
แต่ในบางกรณี (บางคดี) การที่เจ้าของที่ดินยอมให้ประชาชนทั่วไปใช้ทางในที่ดินของตน สัญจรไปมาเป็นเวลานานหลายสิบปี
ศาลฎีกามองว่า
เจ้าของที่ดินได้อุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว ไม่ใช่เรื่องใช้ทางมาแล้วกี่ปี กี่เดือน
แต่ก็ไม่ใช่ทุกรณี ที่ประชาชนทั่วไปใช้ทางในที่ดินเอกชนแล้ว ทางดังกล่าวจะตกจะเป็นทางสาธารณะทุกกรณีครับ
ในความเห็นผม จุดสำคัญคือ พฤติการณ์ที่ให้ชาวบ้านใช้ทาง ของเจ้าของที่ดินครับ
เมื่อปรากฎว่าทางดังกล่าว เจ้าของที่ดินทำไว้เพื่อประโยชน์ในกิจการเกษตรของตน
มีการดูแลซ่อมแซมด้วยกำลังของเจ้าของที่ดินเอง มีการตรวจตรา และมีการควบคุมบุคลเข้าออกพอสมควรแล้ว
เพียงแต่ทางในที่ดินของตนนั้น พอเหมาะกับทางที่ชาวบ้านสามารถใช้ทางดังกล่าว เข้าออกได้สะดวกขึ้นจากเดิม
นอกจากนี้ หากการที่ให้ราชฎรใช้ทางนั้น เป็นเพียงการ
อนุญาตให้เข้าสัญจรเพื่อความสะดวกแก่ชาวบ้านเท่านั้น
ตรงนี้จะถือว่าเจ้าของที่ดินอุทิศทางให้เป็นสาธารณะประโยชน์โดยปริยายไม่ได้ครับ
ยังคงต้องถือว่าทางดังกล่าวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดิน ไม่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน
แต่อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาล หรือคำสั่งทางปกครองใด อันเป็นที่สุดว่า ทางดังกล่าวเป็นทางสาธารณะแล้ว
ต้องถือไว้ก่อนครับ ว่าทางดังกล่าว ยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองหรือเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ทางนั้นอยู่ครับ
ผมจึงมีความเห็นในทำนองเดียวกับที่ท่านโยชิกิให้ความเห็นไว้ในเรื่องทางครับ
ปล. ที่ท่านโยชิกิเคยกล่าวไว้ว่า เรื่องแพ่งและพาณิชย์สนิมขึ้นแล้ว ไม่จริงเลย