แสนสุข
Hero Member
คะแนน 171
ออฟไลน์
กระทู้: 1291
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 11:46:14 AM » |
|
ของผมโดนบังคับทำไฟลท์บังคับเพราะมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลุมพินี08
Hero Member
คะแนน 167
ออฟไลน์
กระทู้: 1438
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 11:55:13 AM » |
|
ในชีวิตประจำวันทุกคนมีความเสี่ยง การประกันชีวิตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบริหารความเสี่ยงเท่านั้น ใครที่รู้สึกเหมือน จขกท ว่าประกันอาเปรียบเราแต่เรายังมีความจำเป็นต้องประกันก็เลี่ยงไปทำแบบประกันที่ไม่เน้นออมทรัพย์ดูครับ เบี้ยประกันต่างกันเยอะแต่ครบสัญญาไม่ได้คืน หรือไม่ก็ทำประเภท PA ปีต่อปีก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
winthai ยาวแค่ไหน ก็ต้องมีปลายสุดเสมอ
ชาว อวป.
Sr. Member
คะแนน 214
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 739
ไม่มีความคิด ใดๆ ในโลกนี้ ที่สมบูรณ์แบบ
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 12:12:45 PM » |
|
ประกันภัยเป็นธุรกิจชนิดหนึ่งครับ..ในเมื่อเป็นธุรกิจก็ต้องหวังผลกำไรเป็นธรรมดา...แต่ต่างจากธุรกิจชนิดอื่นๆตรงที่... บริษัทฯบริหารธุรกิจโดยการแบกรับความเสี่ยงแทนผู้เอาประกัน(โดยการเฉลี่ยความเสีี่ยง)...ยกตัวอย่างเช่น.. ...บริษัทAมีผู้ทำประกัน 100 ราย เก็บเบี้ยประกันรายละ 10000 บาทต่อปี(ยอดเบี้ยประกันจะเท่ากับ 1 ล้านบาท) ทีนี้เกิดปีที่2มีผู้เอาประกันเสียชีวิต 2 ราย ทางบริษัทจ่ายค่าสินไหมให้แก่ทายาท 2 รายๆละ 100,000 บาท(ทั้งๆที่เพิ่งส่งเบี้ยไปแค่ 20,000บาท)..กำไรหรือเปล่าครับแบบนี้ ..เคยมีคนบอกว่าการทำประกันชีวิตถ้าจะให้ได้กำไรจากบริษัทประกัน ก็ให้เสียชีวิตตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่2(ไม่ฮานะครับ) ท่านจขกท.อย่าิคิดมากเลยครับ..ครบสัญญาแล้วได้เงินคืนเท่านี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วล่ะครับ(เมื่อแลกกับความเสี่ยงใน 15 ปีที่ผ่านมา) อีกนิดนึงครับ..เวลาเราทำประกันรถเราก็ไม่อยากจะเคลม(เพื่อเอาคุ้มแต่ไม่คุ้มเมื่อแลกกับการเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง)ถูกต้องมั้ยครับ และถ้าในปีนั้นเราไม่มีอุบัติเหตุเลย แบบนี้จะถือว่าค่า เบี้ยประกันเราเสียเปล่าหรือไม่ครับ...อยากให้ลองพิจารณาดูครับ..ด้วยความเคารพ.. ผมชอบความคิดนี้มาก ขอบคุณครับ เห็นด้วยครับ คิดในเชิงบวก ไม่ได้พาดพิงเจ้าของกระทู้ว่าคิดในเชิงลบนะครับ เพียงแค่เห็นด้วยเฉยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกสิ่งทุกอย่างปรับเปลี่ยนได้ด้วยความคิดของเราเอง
มองโลกให้เป็นอย่างที่เราเห็น อย่ามองโลกให้เป็นอย่างที่เราหวัง
|
|
|
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3700
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 41046
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 01:54:25 PM » |
|
หุๆ "ประกัน" ชื่อก็บ่งบอกครับ
ส่วนจะทำหรือไม่ทำ....สิทธิ์ของเราเต็มๆ(บางรายการ ต้องโดนบังคับให้ทำ เช่นซื้อบ้าน สร้างบ้านกับธนาคารเป็นต้น)
ส่วนประกันอื่นๆ ก็แล้วแต่ว่า เราจะทำหรือไม่ทำ เพราะมันคือประกัน.....
เช่นรถกรณีเกิดอุบัติเหตุ.....เล็กน้อยหรือมาก แล้วแต่กรณี หากเรามีประกัน ก็พอที่จะช่วยเราได้ หลายๆเรื่อง หากไม่มี หรือว่าประกันชั้นตัวเลขมากๆ ก็คิดดูเอาเองว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
ส่วนตัวผม แม้นมีประกัน(รถ)ก็จะระวังมากๆ ที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นมา เพราะมันยุ่งยาก เสียเวลาหลายเรื่อง หลายอย่าง หุๆ
ประกันชีวิต....ก็คิดดูอีกเช่นกัน ว่าหากพอมีเงินเก็บ สมควรที่จะทำหรือไม่ อย่างไร ก็เป็นสิทธิ์ของเราอีกนั่นแหละ....
หากแต่มันไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ถือว่าเป็นบุญแล้วครับ ชีวิตหนึ่งๆ
ในประกันชีวิต มันยังมีแยกย่อยไปอีกเยอะนี่ครับ แต่รายละเอียดผมไม่ทราบหรอก...มันยังมีแยกเป็นอุบัติเหตุ ค่ายา ค่ารักษา (อันนี้ผมรู้ไม่จริงน๊ะครับ เพราะมิใช่ตัวแทนประกัน)
สรุปง่ายๆ ส่วนตัวผมว่า"มี" ดีกว่าไม่มีครับ แม้นว่าค่าตอบแทนจะน้อย แต่มันมีคำว่าประกัน ให้กับเรา
แล้วอย่าไปคิดว่า เวลาจะเอาเงินจากประกัน แสนยากเย็น เช่นที่ใครว่า ประกันก็คือการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง หากเขาจ่ายง่ายเกินไป เขาก็เจ้ง และมีหลายๆคน ที่คิดจะโกงประกัน ยากครับ เพราะกว่าที่เขาจะจ่าย เขาต้องสืบหารายละเอียดที่ชัดเจนแน่นอน โดนมาหลายรายแล้ว ที่ทำ....เพื่อหวังเงินประกัน หุๆๆ
ด้วยความเคารพ...อ้างอิงไม่ได้ น๊ะครับเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ขออภัย จขกท.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน รักมิตร รักเพื่อน
|
|
|
ลุมพินี08
Hero Member
คะแนน 167
ออฟไลน์
กระทู้: 1438
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 03:07:45 PM » |
|
ธุรกิจนี้ถึงจำเป็นต้องมีตัวแทนอธิบายให้ผู้สนใจเข้าใจในรายละเอียดไงครับ มีไม่น้อยครับที่ซื้อประกันโดยไม่เข้าใจรายละเอียด เพื่อนผมคนนึงละซื้อแต่แบบออมทรัพย์ไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพ เวลาป่วยนอนโรงพยาบาลมาแล้วโวยวายว่าเบิกค่ารักษาไม่ได้ เพื่อนผมที่ว่านี้จบ ป. ตรีด้วยนะ ผมรำคาญเลยถามไปว่าเองกินข้าวหรือกินหญ้ากันแน่ สมองถึงทึบขนาดนี้ ที่เจอมาตัวแทนก็มั่วๆเยอะหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
คะแนน 366
ออฟไลน์
กระทู้: 6023
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 03:47:31 PM » |
|
ประกันภัยเป็นธุรกิจชนิดหนึ่งครับ..ในเมื่อเป็นธุรกิจก็ต้องหวังผลกำไรเป็นธรรมดา...แต่ต่างจากธุรกิจชนิดอื่นๆตรงที่... บริษัทฯบริหารธุรกิจโดยการแบกรับความเสี่ยงแทนผู้เอาประกัน(โดยการเฉลี่ยความเสีี่ยง)...ยกตัวอย่างเช่น.. ...บริษัทAมีผู้ทำประกัน 100 ราย เก็บเบี้ยประกันรายละ 10000 บาทต่อปี(ยอดเบี้ยประกันจะเท่ากับ 1 ล้านบาท) ทีนี้เกิดปีที่2มีผู้เอาประกันเสียชีวิต 2 ราย ทางบริษัทจ่ายค่าสินไหมให้แก่ทายาท 2 รายๆละ 100,000 บาท(ทั้งๆที่เพิ่งส่งเบี้ยไปแค่ 20,000บาท)..กำไรหรือเปล่าครับแบบนี้ ..เคยมีคนบอกว่าการทำประกันชีวิตถ้าจะให้ได้กำไรจากบริษัทประกัน ก็ให้เสียชีวิตตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่2(ไม่ฮานะครับ) ท่านจขกท.อย่าิคิดมากเลยครับ..ครบสัญญาแล้วได้เงินคืนเท่านี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วล่ะครับ(เมื่อแลกกับความเสี่ยงใน 15 ปีที่ผ่านมา) อีกนิดนึงครับ..เวลาเราทำประกันรถเราก็ไม่อยากจะเคลม(เพื่อเอาคุ้มแต่ไม่คุ้มเมื่อแลกกับการเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง)ถูกต้องมั้ยครับ และถ้าในปีนั้นเราไม่มีอุบัติเหตุเลย แบบนี้จะถือว่าค่า เบี้ยประกันเราเสียเปล่าหรือไม่ครับ...อยากให้ลองพิจารณาดูครับ..ด้วยความเคารพ.. ผมชอบความคิดนี้มาก ขอบคุณครับ เห็นด้วยครับ คิดในเชิงบวก ไม่ได้พาดพิงเจ้าของกระทู้ว่าคิดในเชิงลบนะครับ เพียงแค่เห็นด้วยเฉยๆ -เรื่องคิดเชิงบวก-เชิงลบนี่ ผมมีอุธาหรณ์ครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง เวียนไปคุยครั้ง 2 ครั้ง พอสืบดูถึงรู้ว่าเธอเคยแต่งงานมีผัวมาแล้ว และตอนที่ผมสนใจก็มีทอมบอยมาคบหากะเธออยู่ พ่อบุญธรรมของเธอบอกผมว่าแกเห็นแล้วว่ามีทอมบอยมาติดพันแต่ท่านคิดเชิงบวก ไม่คิดอกุศล ผมเลยได้ข้อสรุปทันทีว่าเราต้องมองปัญหาตามข้อเท็จจริง ชั่วก็ต้องว่าชั่ว ดีก็ว่าดี ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรก็คิดเชิงบวกอยู่เรื่อย -กรณีของ บ.ประกันชีวิต และประกันภัย หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์วิเคราะห์ออกมาว่า สัดส่วนระหว่างสินไหมทดแทน : เบี้ยประกันภัย ของทั้งระบบในแต่ละปี มีนิ้ดเดียว แตกต่างจากธุรกิจประกันภัยของต่างประเทศอย่างเทียบกันไม่ได้ หมายความว่าธุรกิจนี้ในบ้านเรากำไรมาก จ่ายน้อย ไม่แฟร์เมื่อเทียบกับในต่างประเทศ พอมาเจอะกับตัวเองถึงได้เข้าใจยิ่งขึ้น เลยไม่สงสัยที่(ในภาพยนต์โฆษณา)คนทั่วไปจะมอง บ.พวกนี้เหมือนแมลงสาบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แสนสุข
Hero Member
คะแนน 171
ออฟไลน์
กระทู้: 1291
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 05:40:30 PM » |
|
นอกเรื่องนิดนึงครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้บริษัทประกันภัยรถยนต์บางบริษัททำตัวเหมือน เจ้ามือฉลากกินรวบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 06:45:21 PM » |
|
ทำมา8ปี ก็ไม่เคยใช้เช่นกันครับ ยังไม่รู้เลยจะได้เงินคืนเท่าไหร่บ้าง ส่วนนี่เป็นอุธาหรคนขายประกันนะครับ น่าสงสาร ดันเจอคนร้าย รวบหนุ่มฆ่าทุบหัวสาวAIAหมกป่า 12 พย. 2553 12:46 น. สนับสนุนโดย NECTEC
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา จอดทิ้งไว้ข้างทางลูกรังในป่าละเมาะทางขึ้นไปวัดเขาถ้ำพระ ม.7 ต.วังคัน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นรถของนางสุจิตตา ชนปทาธิป อายุ 34 ปี ตัวแทนประกันชีวิตปริษัท เอไอเอ จนกระทั่งวันที่ 5 พ.ย.ได้มีชาวบ้านพบศพนางสุจิตตา ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทิ้งศพในป่าละเมาะทางขึ้นถ้ำเขาพระ ห่างจากจุดที่พบรถประมาณ 100 เมตร
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พ.ย. พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี และ พ.ต.ท.นภดลฎ์ อรัญศรี รอง ผกก.สส.สภ.ด่านช้าง ได้นำกำลังจับกุมตัวนายสมศักดิ์ หรือเก่ง สุขศรี อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 544/2553 ลงวันที่ 11 พ.ย.53 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ได้พร้อมของกลาง ซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 ซิม เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง เปื้อนคราบเลือด 1 ตัว ที่แคมป์คนงานก่อสร้างย่านนทบุรี
ผู้ต้องหาสารภาพว่า มีอาชีพคนงานก่อสร้าง ได้รู้จักกับผู้ตายเมื่อประมาณเดือนต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะไปหาหมอที่ รพ.ปทุมธานี และผู้ตายได้เข้ามาพูดคุยและให้ทำประกันชีวิต แต่ตนยังไม่พร้อม จึงให้ผู้ตายช่วยตามหาภรรยาและลูก จนกระทั่งวันที่ 1 พ.ย.ผู้ตายได้พาไปหาหมอไสยศาสตร์ที่วัดเขาถ้ำพระ เพื่อจะดูว่าลูกเมียอยู่ที่ไหน ระหว่างจอดรถไว้ที่ทางขึ้นวัด และเดินเท้าขึ้นไปผู้ตายได้หยอกล้อโดยใช้ก้อนหินปาที่เท้า ทำให้ตนรู้สึกเจ็บและโมโห จึงบันดาลโทสะ ใช้ท่อนไม้ฟาดผู้ตายแต่ไม่โดน เมื่อผู้ตายวิ่งหนี จึงตามไปใช้ก้อนหินทุบที่ศรีษะและใบหน้าจนถึงแก่ความตาย จากนั้นได้ค้นหาทรัพย์สินในรถ ได้เงินสดจำนวน 20 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวจนกระทั่งถูกจับได้ดังกล่าว
ผู้ต้องหาเคยถูกจับดำเนินคดีและติดคุก จึงมีประสบการณ์ในด้านการกระทำผิดและการต่อสู้คดี พยายามเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงและปกปิดพยานหลักฐาน แต่ตำรวจมีความเชื่อมั่นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะนำไปพิสูจน์ในชั้นศาล เพื่อพิจารณาพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาตามความผิดได้" พ.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าว
วันเดียวกันตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ได้นำเงินสินไหมสดแทนจำนวน 1.5 ล้านบาท มอบให้กับสามีผู้ตายด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 857
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 6569
เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 03:06:58 PM » |
|
เนื้อความของกรมธรรม์ครอบคลุมอะไรบ้างครับ จ่ายชดเชยในกรณีไหนบ้าง..
ถ้าเกิดแล้ว ค่าชดเชยเกินกว่าวงเงินที่จ่ายหรือไม่ อย่างไร..
เบี้ยประกันมีหลายแบบ พวกที่จ่ายทุกปี เป็นเบี้ยทิ้งก็มี จ่ายแล้วสะสมก็มี
อยู่ที่ว่าจะเลือกแบบใด..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
|
|
|
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 218
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1293
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:08:04 PM » |
|
เท่าที่ศึกษามา ในกรมธรรม์ประกันชีวิต 1 ฉบับมักจะประกอบด้วยส่วนที่สำคัญที่สุดคือ "สัญญาชีวิต"
สัญญาชีวิต แล้วแต่รูปแบบแห่งกรมธรรม์ เช่น ความคุ้มครอง+เน้นการออมทรัพย์(ผลตอบแทนสูงอาจมีปันผลมากหรือเงินเอาประกันเพิ่มขึ้นตามอายุกรมธรรม์) เบี้ยประกันก็สูงด้วย หรือเน้นเอา เฉพาะความคุ้มครองพวกนี้เบี้ยจะต่ำกว่า สัญญาชีวิตโดยทั่วไป หากดูที่เวลา จะมีประเภท จ่ายเบี้ยประกันเท่ากับอายุกรมธรรม์ เช่น 10/10 15/15 หรือ 21/21 และประเภทจ่ายเบี้ยกรมธรรม์ในเวลาที่กำหนดแต่คุ้มครองนานกว่าเช่น 7/10 10/15 หรือ 20/(จนอายุ99ปี) หรือ จ่ายเบี้ยจนอายุ 60/คุ้มครองถึงอายุ 99 กรมธรรม์ประกันชีวิตทั่วไปจะเป็นแบบมีมูลค่า นั่นคือเมื่อถึงเวลาหนึ่งอาจจะเป็น 2 หรือ 3 ปีแล้วแต่แบบแห่งกรมธรรม์ นับจากวันเริ่มทำกรมธรรม์ หากมีการจ่ายเบี้ยประกันจามปกติและกรมธรรม์ยังมีผลใช้บังคับอยู่ ตัวกรมธรรม์จะเริ่มมีมูลค่า
อะไรคือมูลค่า.........นั่นคือเงินเบี้ยประกันที่จ่ายไปเมื่อบริษัทใช้ "คณิตศาสตร์ประกันภัย" คำนวณค่าความเสี่ยงในช่วงแรกซึ่งบริษัทต้องจ่ายค่าคอมฯให้ตัวแทน(ปีแรก % สูงบางแบบ 40% บางแบบอาจสูงถึง 50 %) และในปีที่ 2 หรืออาจเป็นปีที่ 3 แล้วมีเงินเหลือ มูลค่านั้นจะเป็นเงินสะสมของกรมธรรม์แบบนั้น ๆ
หลังจากกรมธรรม์มีมูลค่าแล้ว ผู้ถือกรมธรรม์ต้องการยุติกรมธรรม์ฉบับนี้ก็สามารถทำได้โดย
ก. เวณคืนกรมธรรม์ จะได้เงินในส่วนมูลค่าของกรมธรรม์คืนตามตารางเงินเวณคืนในแต่ละแบบที่แนบในกรมธรรม์ทุกฉบับ
ข. ขอเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์แบบใช้เงินสำเร็จ โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยอีก โดยมูลค่าเงินที่มีอยู่เปลี่ยนเป็นความคุ้มครองตามจำนวนเงินเอาประกันที่ทำไว้ แต่เวลาที่เหลือจะลดลงเท่าที่มูลค่าเงินที่มีอยู่ซึ่งก็สามารถดูในตารางแนบท้ายกรมธรรม์ได้เช่นกัน
เช่น กรมธรรม์แบบ 21/21 เงินเอาประกัน 100000 บาทต้องการหยุดส่งเบี้ยในสิ้นปีที่ 5 ให้นำกรมธรรม์ไปที่บริษัทแจ้งความประสงค์เปลี่ยนเป็น "ใช้เงินสำเร็จ" ท่านไม่ต้องส่งเบี้ยอีก ความคุ้มครองยังอยู่ 100000 บาท แต่ระยะเวลาอาจเหลืออีกเพียง 2-3 ปี มูลค่านั้นก็จะแปลงเป็นความคุ้มครองแล้วหมดไป
ค. ขอเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ "แบบขยายเวลา" แบบนี้ท่านไม่ต้องจ่ายเบี้ยอีกเช่นกัน ระยะเวลาความคุ้มครองจะเท่าเดิม เช่น 21 ปีนับจากวันเริ่มอายุกรมธรรม์ แต่เงินเอาประกันจะลดลงตามที่มูลค่ากรมธรรม์มีอยู่
เช่น กรมธรรม์แบบ 21/21 เงินเอาประกัน 100000 บาท ต้องการหยุดส่งเบี้ยในสิ้นปีที่ 5 บริษัทยังคงคุ้มครองต่อไปจนครบ 21 ปี แต่เงินเอาประกันอาจเหลือเพียง 9พันกว่าบาทหรือหมื่นเศษ ๆ ก็ได้ แต่หากเราหยุดส่งและขอเปลี่ยนในปีหลัง ๆ แล้ว จำนวนเงินเอาประกันจะมากขึ้น จนถึงปีที่ 21 ก็คือส่งครบ จำนวนเงินเอาประกันเต็ม
การเลิกกรมธรรม์ทั้ง 3 แบบมีตารางแนบท้ายกรมธรรม์เสมอ แต่ไม่เคยมีตัวแทนคนใดพูดถึงเลย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:10:07 PM โดย birdwhistle...รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
|
|
|
Guu-mumm-รักในหลวงครับ
ชาว อวป.
Full Member
คะแนน 28
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 287
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:27:11 PM » |
|
ของผมเมื่อ2เดือนที่แล้ว บ.ส่งยอดที่ต้องชำระ มาผิดปลายทางเลยไม่ถึง(ปกติส่งมาถูกนะครับ) คราวนี้ผมไม่รู้ว่าเลยเวลารึยัง จึงโทรไปสอบถามทางตัวแทนที่ทำ ทางตัวแทนแจ้งมาว่า "เลยเวลาแล้ว แต่ไม่เป็นไรทางบ.ทำเรื่อง กู้ให้อัตโนมัติ" ผมงงเลย จึงสอบถามทางตัวแทนว่า "ใครสั่ง" ตัวแทนแจ้งมาว่า "มันเป็นระเบียบ ของบ. ดอกเบี้ยไม่กี่ตังส์หรอก" พอได้ยินแบบนี้ผมฟิวส์ขาดเลย เลยพูดไปว่า "ทางตัวแทนรึบ. เป็นฝ่ายที่ผิด ที่อยู่ส่งเคยส่งมาถูกแต่ตอนนี้ที่อยู่กลับจ่าหน้าผิด ทั้งที่ผมไม่เคยเปลี่ยนประวัติ แล้วจะให้ผมเสียค่าโง่แทนพวกคุณ ทำยั้งนี้แฟร์กับลูกค้ารึเปล่า อีกอย่างคุณมาหาผมนะไม่ใช่ผมไปหาคุณ ลองไปคุยกับคุณบXXXดู(เจ้าของตัวแทนที่ทำ)" ตอนจบทางตัวแทนรับผิดชอบด้วยการเสียดอกเบี้ยแทนและเช็คที่อยู่ใหม่และขอโทษ(ซึ่งสำคัญที่สุด) จริงอยู่ที่ดอกเบี้ยไม่เท่าไหร่ แต่ความรู้สึกสิครับ ผิดพลาดแต่จะให้ลูกค้ารับผิดชอบ ของขึ้นเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 218
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1293
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:30:22 PM » |
|
มาเรื่องสัญญาแนบท้าย สัญญาเหล่านี้เป้นส่วนหนึ่งของกรมธรรม์แต่ผลบังคับใช้แยกออกจากสัญญาชีวิต
1. อุบัติเหตุ ท่านอาจซื้อสัญญาชีวิต 100000 บาท ซื้อสัญญาอุบัติเหตุ 100000 หรือ 200000 ก็ได้ตามข้อกำหนดของแต่ละบริษัท เมื่อท่านเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุผู้รับผลประโยชน์ของท่านจะได้ เงินสัญญาชีวิต 100000 บาท และเงินจากสัญญาอุบัติเหตุอีก 100000 หรือ 200000 บาทตามที่ชื้อเอาไว้ สัญญาอุบัติเหตุเป็นสัญญาแบบไม่มีมูลค่าเมื่อหมด 1 ปี จำนวนเงินที่จ่ายสำหรับสัญญานี้ก็หมดไป เหมือนประกันรถ
2. สุขภาพ ทั้งรักษาแบบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และค่ารักษาต่าง ๆ เป็นแบบปีต่อปีไม่มีมูลค่าเช่นกัน สิ้นปีก็หมดสิ้นมูลค่า
3. บางบริษัทอาจสัญญามี ฆาตกรรม จราจล เพิ่มขึ้นอีกโดยคุ้มครองการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บอันเนื่องจาก ฆาตกรรมและจราจลโดยตนเองมิได้เป็นผู้มีส่วนร่วม สัญญานี้ก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกับสัญญาอุบัติเหตุนั่นคือไม่มีมูลค่าเมื่อสิ้นปี
ในกรมธรรม์ 1 ฉบับจะมีหลายสัญญา
หากซื้อสัญญาชีวิตเพียงอย่างเดียว เวลาเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ จะเคลมอะไรไม่ได้เลย เพราะสัญญาชีวิตจะได้เมื่อ "ตาย" หลังจาก 1 ปีแรก และเมื่อกรมกำหนดเวลาในกรมธรรม์เท่านั้น แต้หากแบบใดมีเงินปันผลก็จะได้เงินปันผล และหรือ เงินเอาประกันเพิ่มในปีต่อ ๆ ไปแล้วแต่แบบแห่งกรมธรรม์
โดยปกติหากซื้อครบทุกตัวแล้ว เงินที่จ่ายทั้งหมดมักจะมากกว่าเงินที่ได้กลับมาเสมอ เพราะสัญญาแนบท้ายตัวอื่น ๆ นอกจากสัญญาชีวิต ล้วนไม่มีมูลค่าทั้งสิ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
|
|
|
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 218
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1293
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:41:00 PM » |
|
ถูกต้องแล้วครับ
เมื่อกรมธรรม์มีมูลค่า สิ้นปีใดที่เราลืมส่งเบี้ย บริษัทจะเอามูลค่าของกรมธรรม์ของเรามาให้เรากู้เพื่อชำระเบี้ยไปพลางก่อน ทั้งนี้เพื่อผลของความคุ้มครองที่ต่อเนื่องครับ เช่นท่านชำระช้าไป 2 เดือน เวลาชำระต้องจ่ายดอกเบี้ยที่คิดจากเวลา 2 เดือนนั้นด้วย
หากบริษัทไม่ทำ สมมุติวันครบกำหนดในแต่ละปีของกรมธรรม์เป็นวันที่ 31 ต.ค. แล้วยังไม่ได้จ่ายเบี้ย แต่ดันโชคร้ายประสบอุบัติเหตุร้ายแรงในวันที่ 13 พ.ย. แบบนี้ท่านจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากมูลค่าของกรมธรรม์ แต่เมื่อบริษัทนำมูลค่ากรมธรรม์ของท่าน สมมุติว่ามีอยู่ 5000 บาท แต่ท่านต้องจ่ายเบี้ย 28000 บาท มูลค่า 5000 บาทจะถูกกู้มาต่ออายุความคุ้มครองซึ่งอาจจะได้ 35-40 วัน ดังนั้นความคุ้มครองเลยวันที่ 31 ต.ค. ไปอีก 35-40 วัน
แต่หากกรมธรรม์ของท่านมีมูลค่ามากกว่านั้น เช่นในปีหลัง ๆ อาจมีค่าหลายหมื่นบาท ก็จะกู้คุ้มครองต่อได้นานขึ้นตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
กรณีนี้เป็นกรณีที่ผู้เอาประกันลืม หรือไม่ได้ส่งเบี้ยตามกำหนด
แต่เรื่องส่งที่อยู่ผิด เป็นเรื่องของตัวแทนกับบริษัท เป็นความบกพร่องครับ ลองไล่เบี้ยดูเดี๋ยวก็เจอ "บ่อ"
แต่โดยปกติบริษัทจะส่งตามที่อยู่ในกรมธรรม์ ปัญหาจะเกิดได้ก็จากการย้ายบ้านแล้วไม่แจ้งที่อยู่ใหม่ให้ทางบริษัท หรืออาจแจ้งตัวแทนแล้ว ตัวแทนดันทะลึ่งลืมส่งเรื่อง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 13, 2010, 05:08:38 PM โดย birdwhistle...รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
|
|
|
lek
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1594
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 13942
การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:56:37 PM » |
|
ผมประกันอุบัติเหตุปีละประมาน30000บาท เสียทิ้งเลยเมื่อวานถ้าเบรคไม่ทันแถวโคกกรวดนี่แย่เลย กำลังง่วงๆแซงซ้ายเจอ10ล้อไฟมัวๆ ทำไว้เถอะเผื่อคนอื่นจะได้ไม่มาบ่นทีหลัง ว่าตายไปแล้วมีแต่หนี้เหลือให้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
noomrider
Hero Member
คะแนน 74
ออฟไลน์
กระทู้: 4574
ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2010, 05:39:33 AM » |
|
ส่วนตัวมีความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับประกันทุกชนิด ผมชอบเเบบสะสมทรัพย์บีบตัวเองยังมีเงินเก็บ ไม่งั้นค่าปืนค่ากระสุนดึงไปหมดครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
|
|
|
|