มีจริงหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ เรื่องที่เกิดในครอบครัวผม ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร
ตอนผมอายุได้ 4-5 ขวบ น้องบุญธรรมของพ่อ ค่อนข้างเป็นคนหลักลอย งานการไม่ค่อยทำ รับจ้างเล็กๆน้อยๆ มีเงินก็กินเหล้า เมาแล้วก็โดนตังเกไล่ตี หัวร้างข้างแตก มาปลุกให้แม่ทำแผลดึกๆดื่นๆ อยู่เป็นประจำ วันนึงตอนกลางวันแกแวะมากินข้าวเที่ยงในโรงครัว ผมนั่งเล่นบนดินใกล้แก แกคายสิ่งนึง ลักษณะเป็นโลหะเกือบกลม(เป็นปุ่มปม คลายก้อนเมฆ) สีดำแวววับ ลงบนฝ่ามือแกโชว์ให้ผมดู เค้าเรียกเหล็กไหล ถ้ามึงโตเป็นหนุ่มแล้วกูจะให้
ผ่านไปอีกหลายปี ผมมาเรียน ป.2 ในกรุงเทพฯ พ่อโทรบอกว่า อาถูกตำรวจซ้อมให้รับว่าขโมยของ ทั้งคืนจนตาย (โดนสงสัย เพราะแกไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เมาไปวันๆ) พ่อผมก็เป็นธุระจัดงานศพให้ พอมาถึงเวลาเผา(ยังไม่มีเมรุ) เผาศพด้วยถ่านไม้นับเป็นจำนวนกระสอบ เมื่อถ่านกระสอบสุดท้ายหมดปรากฎว่า อวัยวะภายในตรงกลางๆมันไม่ยอมไหม้ ต้องเพิ่มถ่านอีก จนกระทั่งมืดประมาณหนึ่งทุ่ม ถ่านหมดอีกกระสอบกว่า ก้อนเนื้อที่ว่าแค่หดเล็กลง สัปปะเหร่อ ใช้มีดเฉือนดูข้างนอกดำปี๋ ข้างในเนื้อยังแดงสดอยู่ พอสองทุ่มพ่อให้เลิก ให้เอาส่วนที่ยังเหลือขุดหลุมฝัง
เมื่อผมเริ่มมีงานมีการทำ ผมถึงได้รู้เรื่องนี้ เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ พ่อกับพี่ชายเป็นคนเล่าให้ฟัง สภาพศพฟกช้ำ ดำเขียว น่วมไปทั้งตัว โดนสาระพัดวิธีที่คนทำจะคิดขึ้นได้ แต่ไม่มีรอยแตก แต่เมื่อผมถามพ่อกับพี่ว่า ก่อนอาเสียเคยบอกเรื่องเหล็กไหลมั๊ย ปรากฎว่าไม่มีใครทราบเรื่องนี้เลย หรือแกกลืนลงท้องไปหว่า
พ่อผมก็โกรธนะครับ เพราะรู้ตัวตำรวจที่ทำด้วย แต่เดี๋ยวนี้แกเลิกโกรธแล้ว เพราะแกไปเห็นสภาพตำรวจคนนั้นกำลังชดใช้กรรมอยู่
แต่หากถามผมในปัจจุบัน ผมเฉยๆ แขวนพระแค่ไว้ยึดเหนี่ยวไม่ให้ทำชั่ว เกจิต่างๆ พระเครื่องต่างๆเลิกแสวงหา เลิกสะสมมาเกือบยี่สิบปีแล้ว หากให้ชอบจริงๆคงเป็นพระเก่าๆ ที่คนโบรณทำไว้สืบทอดพระศาสนามากกว่า แต่ราคาก็เกินทำใจรับได้ ส่วนสมัยนี้ พระจริงๆ ปฏิบัติจริงๆ มีน้อยมากๆครับ คนไม่กลัวบาป ยังพอทน แต่พระไม่กลัวบาปนี่เยอะนะครับผมบวชแทนคุณพ่อแม่มาแล้ว (ทั้งพระทั้งเณร) กว่าจะหาวัดในอุดมคติเจอ ทั้งผมกับน้องหากันมา สองปีเศษ ไปบวชวันแรก อยากจะลาสิขาบทซะวันนั้นเลย จนพี่ชายต้องมาปลอบว่า ไม่ใช่เรื่องของเรา คิดให้ดีก่อนเรามาเพื่ออะไร เลยปิดหูปิดตาซะ ทนอยู่ทำกุศลให้พ่อแม่ได้สิบกว่าวัน
ผมว่าก่อนจะถามว่า อะไร-มีจริงมั๊ย ที่สำคัญต้องสำรวจใจตัวเองกันก่อน ที่เราอยากได้ของดีเพราะอะไร
อยากรวย แขวนแล้วทำมาค้าขายดี
กลัวตาย อยากได้อำนาจพิเศษคุ้มครอง อยู่ยงคงกระพัน
อยากให้คนเมตตา ที่รวยอยู่แล้วก็ขอให้มั่นคงยั่งยืน
คนทำพระให้เช่า เค้าก็รู้สิ่งที่ท่านตามหาเหมือนกัน ออกโฆษณาหน้าหนังสือพิมพ์ที ก็ครอบคลุมทุกสิ่งที่ท่านอยากได้นั่นแหละ
พระก็รวย วัดก็ได้ คนคิดก็รวย ธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวเนื่องก็รวย โรงงานรับปั๊มพระบางทีเค้าก็ปั๊มเผื่อดังไว้เหมือนกัน รุ่นไหนดังเค้ามีเสริมไม่อั้น
คนจะวิ่งเข้าวัดสองกลุ่มใหญ่ๆครับ รวยมากๆ(อยากรวยต่อ รวยนานๆ รวยยิ่งๆขึ้น)-จนมากๆ(ขอหวย อยากรวยมั่ง)
คนจะวิ่งเข้าวัดสองช่วงเวลา ดังนี้ครับ เศรษฐกิจดีๆ ก็จะก่อกำเนิดเกจิดังๆ องค์ใหม่ๆขึ้นเยอะ เค้าหาใครไม่ได้ เค้าก็ไปหาพระอายุมากๆมาแต่งประวัติให้แหวกแนวพิศดารก็มีมาก
เศรษฐกิจแย่ๆ ไปหาพระเพื่อดับทุกข์ ไปดูดวง ไปสะเดาะเคราะห์ ไปขอหวย