เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 02, 2024, 05:29:10 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดสิเรียมพุทธาราม ครับ  (อ่าน 13354 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:05:49 PM »

จังหวัดผมเองครับ   เศร้า 

ขนาดชื่อตัวเองยังเปลี่ยน นางสิภาภัสส์ หรือ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ แล้ววัดไปตั้งตามชื่อเก่าอีก
เป็นบุคคลธรรมดา มีสามีที่แต่งงานอย่างออกหน้าออกตา 2คน มีข่าวชู้สาวกับน้องชาย นช.ทักษิณ จนต้องหลบหน้าไปอเมริกา  (อ่านคอมเม้นในลิ้งค์ด้วยนะครับ)

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000161745

“สิเรียม” ดาราดังทอดกฐินพระราชทานวัดศรีสะเกษ - ไร้เงาน้องชาย “นช.แม้ว” เคียงข้าง 
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2553 15:28 น.
 
ศรีสะเกษ- “สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” ดารานักแสดงชื่อดัง นำกฐินพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดถวายที่วัดสิเรียมพุทธาราม อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เผยเปลี่ยนชื่อใหม่ จาก “วัดเนรมิต บ้านสังกัน” เป็น “วัดสิเรียมพุทธาราม” ด้านดาราดังปลื้มที่ทางวัดใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อวัด เผยไร้เงา “พายัพ” น้องชาย “นช.แม้ว” ร่วมเคียงข้างทอดกฐินเช่นปีที่แล้ว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่วัดสิเรียมพุทธาราม บ.สังกัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้ากฐิน ให้ นางสิภาภัสส์ หรือ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง เป็นผู้แทนพระองค์ทอดถวาย ซึ่งพิธีกรรมในช่วงเช้า นางสิภาภัสส์ หรือ สิเรียม และคณะเจ้าภาพ ได้ร่วมพิธีปักเขตวิสุงคามสีมาอุโบสถพระราชทาน โดยมี พระราชวชิรโมลี รองเจ้าคณะภาค 10 กล่าวสัมโมทนียกถา พระสงฆ์อนุโมทนา
       
       จากนั้นเวลา 13.00 น.นายสมศักด์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้อ่านหมายรับสั่งถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อัญเชิญผ้ากฐินพระราชทานมอบให้ นางสิเรียม เจ้าภาพทอดถวาย จากนั้นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ อ่านประกาศการเปลี่ยนแปลงชื่อวัด จากเดิมชื่อ “วัดเนรมิต บ้านสังกัน” เป็น “วัดสิเรียมพุทธาราม” เนื่องจากเห็นว่า ชื่อเดิมนั้นไม่เป็นมงคล จึงได้ขอเปลี่ยนชื่อโดยผ่านความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามประกาศวันที่ 21 ก.ย.2553       
       นางสิภาภัสส์ หรือ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้อ่านแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นกล่าวกับผู้ที่มาร่วมพิธีทอดกฐินพระราชทานว่า รู้สึกภูมิใจมากที่ทางวัดใช้ชื่อสิเรียมเป็นชื่อวัด ซึ่งตนพร้อมที่จะร่วมทำบุญเพื่อพัฒนาวัดแห่งนี้อย่างเต็มที่ แต่ไม่อยากให้คิดว่าเป็นวัดของตนคนเดียว แต่ให้คิดว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดของทุกคนที่จะมาทำบุญกุศลร่วมกัน
       
       ด้าน นายรุ่ง มะปรางค์ อายุ 48 ปี ชาวบ้านสังกัน ม.9 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า คุณสิเรียมได้เข้ามาเป็นโยมอุปถากวัดสิเรียมพุทธาราม ซึ่งเดิมชื่อวัดเนรมิตบ้านสังกัน เป็นเวลาร่วม 3 ปีแล้ว รู้สึกดีใจ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณสิเรียม ซึ่งเป็นดาราชื่อดังได้เข้ามาในหมู่บ้านและได้มาพัฒนาวัดประจำหมู่บ้านให้เจริญรุ่งเรือง ทำให้วัดในหมู่บ้านเล็ก ๆ เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป
       
       ทั้งนี้ แม้จะมีแขกมาเยี่ยมเยียนวัดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะคุณสิเรียมจะมาบ่อยมากและส่วนใหญ่มาแบบเงียบๆ แต่ชาวบ้านก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ที่ต้องรับแขกบ้านแขกเมือง และยินดีต้อนรับผู้ที่จะมาพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองดำรงพุทธศาสนาของเราให้อยู่สืบถอดไปชั่วลูกหลาน
       
       หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว นางสิภาภัสส์ หรือ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ได้มอบทุนการศึกษา และมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ผู้สูงอายุ โดยมีชาวบ้านสังกัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ที่มาร่วมพิธีมารอรับผ้าห่มกันหนาวกันเป็นจำนวนมาก
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วัดสิเรียมพุทธาราม บ.สังกัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ หรือชื่อเดิม “วัดเนรมิตบ้านสังกัน” เป็นวัดที่ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ดาราชื่อดังสร้างความฮือฮาเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศด้วยการควง นายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย (พท.) น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดีอยู่ต่างประเทศ มาร่วมกันทำบุญทอดกฐินอย่างชื่นมื่น ณ วัดแห่งนี้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ไร้เงาน้องชาย นช.ทักษิณ เคียงข้างกายร่วมทอดกฐินเช่นปีที่แล้ว
       
       ประวัติวัดบ้านสังกัน หรือวัดสิเรียมพุทธาราม ตั้งอยู่ที่เลขที่ 94 หมู่ 4 บ้านสังกัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้เริ่มตั้งเป็นที่พักสงฆ์เมื่อปี พ.ศ.2541 บริเวณที่ตั้งจะมีเสาหลักศิลาโบราณและป่าหวาย มีต้นโพธิ์อายุประมาณ 100 ปี ชาวบ้านสันนิษฐานว่าเป็นเมืองโบราณยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมัน อายุประมาณ 1,200 ปี เป็นที่อยู่ของปู่ตา และมีเทวดาผู้หญิงดูแลรักษาวัด
       
       ในการตั้งที่พักสงฆ์ขณะนั้น มีหลวงพ่อสี จันทโชโต เป็นผู้ริเริ่ม โดยมีนายชำ ศรีดาชาติ อดีตผู้ใหญ่บ้านสังกัน นายเสีย พิมูลชาติ และชาวบ้านสังกัน พร้อมใจกันสร้างศาลา กุฏิมุงด้วยหญ้าคาพอเป็นที่พำนักของพระสงฆ์ สามเณร
       
       ต่อมา พระปลัดสุวิทย์ฐานวโร ในฐานะที่เป็นผู้เกิดที่หมู่บ้านสังกัน ได้ประสานกับคณะญาติโยมในกรุงเทพฯ จ.ปทุมธานี จัดเป็นผ้าป่าสามัคคี และกฐินสามัคคี เพื่อมาจัดซื้อที่ดินจากนางเทียน สุพรรณ์ จำนวน 2 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา และจากนางมาลา อุ่นแก้ว จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 471 ตารางวา เพื่อสร้างวัดและสร้างกุฏิสงฆ์หลังใหญ่ สร้างศาลา ห้องน้ำพอเป็นที่พำนักสงฆ์ สามเณร
         
       จากนั้น พระปลัดสุวิทย์ ฐานวโร ได้มอบหมายให้ นายเสย พิมูลชาติ เป็นตัวแทนชาวบ้านสังกันในการยื่นเรื่องขออนุญาตสร้างวัดต่อกรมการศาสนา ได้รับอนุญาตสร้างวัดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2545 ต่อมานายเสย พิมูลชาติ ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตสร้างวัดได้เสียชีวิตไป และพระปลัดสุวิทย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการชาวบ้านสังกัน ได้มอบหมายให้นายชำ ศรีดาชาติ ผู้ใหญ่บ้านสังกัน เป็นตัวแทนชาวบ้านสังกันในการยื่นเรื่องต่อราชการขออนุญาตตั้งวัดแทน
       
       สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีประกาศตั้งวัดเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 และคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้พระปลัดสุวิทย์ เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านสังกัน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2548 และวัดได้รับอนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อประดิษฐานที่หน้าบันอุโบสถวัดบ้านสังกัน โดยมีมูลนิธิชัยพัฒนา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานแบบพระอุโบสถวัดพระราม 9  กาญจนาภิเษก เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 เพื่อนำไปเป็นต้นแบบในการก่อสร้างอุโบสถของวัดบ้านสังกัน
       
       พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้ประทานผ้าพระกฐินทอดถวายวัดบ้านสังกัน เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอุโบสถ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานผ้าพระกฐินประจำปี 2552 ทอดถวาย ณ วัดบ้านสังกัน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2552
       
       ต่อมาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อวัดบ้านสังกัน เปลี่ยนเป็นวัดสิเรียมพุทธาราม ซึ่งมีความหมายว่า วัดที่มีศรีสง่าสมกับเป็นอารามที่ประทับของพระพุทธเจ้า และเป็นที่มาแห่งความยินดี มีความรู้ตื่น รู้เบิกบาน
       
       สำหรับ เหตุผลที่ใช้ชื่อวัดสิเรียมพุทธาราม เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าชื่อเดิมคือวัดบ้านสังกันไม่เป็นมงคล ขณะเดียวในช่วงที่ก่อตั้งวัดขึ้นใหม่ แอน สิเรียม ได้เข้ามาในหมู่บ้านเพื่อเสาะหาวัดเล็กๆ ที่จะทะนุบำรุง หรือเป็นโยมอุปัฏฐาก พร้อมทั้งได้พาญาติโยมมาร่วมทำบุญอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านจึงเห็นชอบให้ใช้ชื่อสิเรียมเป็นชื่อวัดดังกล่าว

 

 
บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
ตึก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 150
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2042


บิดามารดาคือพระประจำตัวลูก


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:08:49 PM »

อ่านแล้วก็ต้องส่ายหน้า แต่จริงๆเนื้อข่าวมันออกไปทางการเมืองซะเยอะนะครับน่าจะอยู่ห้องการเมือง ไหว้
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:09:00 PM »

อืมมมม

มาดอนน่า  หรือโจลี่ เขาก็ทำนะ
บันทึกการเข้า
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 05:48:00 AM »

เมืองไทย เอาชื่อเสียงกับเงินนำหน้า
ประวัติกับพฤติกรรมเอาไว้ทีหลัง
บันทึกการเข้า
SEEZ ..รักในหลวง..
Hero Member
*****

คะแนน 108
ออฟไลน์

กระทู้: 1453


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 07:10:34 AM »

เมืองไทย เอาชื่อเสียงกับเงินนำหน้า
ประวัติกับพฤติกรรมเอาไว้ทีหลัง
  เห็นด้วยครับ   สำหรับเมืองไทย ใครมีเงินเยอะ คนนั้นเป็นคนดี  พูดอะไรเป็นที่น่าเชื่อถือ สำหรับคนไม่มีเงินพูดอะไรไปก็ไม่ค่อยมีคนเชื่อและไม่ค่อยมีคนฟัง เศร้า เศร้า   น่าเศร้าที่คนเรา(ส่วนใหญ่)เห็นแก่เงินมากกว่าความดี
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 07:16:53 AM »

รู้สึกไม่ดีเลย หน้าด้านจัง ทำไมไม่สร้างใหม่ไปเลยครับ
เกรงว่าต่อไปนี้ก็เป็นวัฒนธรรมสำหรับพวกคนรวย คนโกง คนชั่ว จะเอาเยี่ยงอย่างไป Take over
วัดจนๆแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อมาล้างภาพพจน์ตัวเอง แลบลิ้น
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 07:59:32 AM »

น่าประหลาดกับเรื่องแปลกของคน
บันทึกการเข้า

dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 08:16:01 AM »

ได้ข่าวอยู่เหมือนกัน... ไม่ค่อยสบายใจเลย... ต่อไปใครมีเงินหน่อยก็สามารถฝากชื่อไว้กับป้ายวัด นอกจากโบสถ์ ศาลา กำแพงวัด...

เงินเปลี่ยนได้หลายๆอย่าง แม้แต่ความน่าเลื่อมใสศรัทธา...
บันทึกการเข้า

your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 08:46:29 AM »

คนในพื้นที่เขายังอนุโมทนาด้วยเลย กฐินก็เป็นกฐินพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ เงินที่ได้มาก็มาจากศรัทธาที่จะบำรุงพุทธศาสนาของมหาชน คนที่เป็นผู้รวบรวมจนนำมาสร้างวัดพัฒนาได้ขนาดนี้ต้องมีความตั้งใจและศรัทธาอย่างสูง สูงจนคนในท้องถิ่นยอมรับ ดีกว่าพวกที่อยากมีชื่อเป็นที่ระลึกแต่ไม่เคยลงเงินลงแรงอีกหลายต่อหลายคน ไอ้ที่พากันวิจารณ์ด้านบนมันคับแคบจริงๆ
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
มะเอ็ม
Hero Member
*****

คะแนน 348
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4749


"ปักษ์ใต้บ้านเรามันเหงาจังไม่มีคนนั่งแลหนังโนราห์"


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 08:51:24 AM »

ได้ข่าวอยู่เหมือนกัน... ไม่ค่อยสบายใจเลย... ต่อไปใครมีเงินหน่อยก็สามารถฝากชื่อไว้กับป้ายวัด นอกจากโบสถ์ ศาลา กำแพงวัด...

เงินเปลี่ยนได้หลายๆอย่าง แม้แต่ความน่าเลื่อมใสศรัทธา...

ผมว่าชั่งเขาเถอะครับ....วัดก็ไม่ได้อยู่แถวบ้านเรา  ชาวบ้านคิดแล้วว่าเปลี่ยนชื่อสบายใจ
ก็ยอมให้เขาเถอะครับ..อยู่ที่การปฎิบัติของพระในวัดที่อยู่ในศีลธรรมมากกว่า
หากปฎิบัติตนนอกศีลต่อให้วัดชื่ออะไรดังแค่ไหนก็เสื่อมครับ...ศรัทธาอยู่ที่ตัวเรา ไหว้
----------------------------------------------------------------------------------------------------
คนในพื้นที่เขายังอนุโมทนาด้วยเลย กฐินก็เป็นกฐินพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ เงินที่ได้มาก็มาจากศรัทธาที่จะบำรุงพุทธศาสนาของมหาชน คนที่เป็นผู้รวบรวมจนนำมาสร้างวัดพัฒนาได้ขนาดนี้ต้องมีความตั้งใจและศรัทธาอย่างสูง สูงจนคนในท้องถิ่นยอมรับ ดีกว่าพวกที่อยากมีชื่อเป็นที่ระลึกแต่ไม่เคยลงเงินลงแรงอีกหลายต่อหลายคน ไอ้ที่พากันวิจารณ์ด้านบนมันคับแคบจริงๆ

คงไม่ใจแคบหรอกครับ...ทุกคนมีสิทธิที่จะพูดหรือวิจารณ์ ซึ่งมันก็เป็นแค่ความเห็นของบุคคลไม่ไปห้ามเปลี่ยนชื่อซ่ะเมื่อไหร่  เศร้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 17, 2010, 08:56:42 AM โดย มะเอ็ม » บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 09:13:27 AM »

คนในพื้นที่เขายังอนุโมทนาด้วยเลย กฐินก็เป็นกฐินพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ เงินที่ได้มาก็มาจากศรัทธาที่จะบำรุงพุทธศาสนาของมหาชน คนที่เป็นผู้รวบรวมจนนำมาสร้างวัดพัฒนาได้ขนาดนี้ต้องมีความตั้งใจและศรัทธาอย่างสูง สูงจนคนในท้องถิ่นยอมรับ ดีกว่าพวกที่อยากมีชื่อเป็นที่ระลึกแต่ไม่เคยลงเงินลงแรงอีกหลายต่อหลายคน ไอ้ที่พากันวิจารณ์ด้านบนมันคับแคบจริงๆ

งั้นใครมีเงินก็เปลี่ยนชื่อวัดเป็นว่าเล่นได้ใช่มั้ยครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 09:33:35 AM »

อืมมมม

มาดอนน่า  หรือโจลี่ เขาก็ทำนะ
แลบลิ้น แลบลิ้น
ผู้ชายมีเมียหลายคน....เค้าเรียกว่า....ขุนแผน น้ำลายหก เยี่ยม
ผู้หญิงมีสามี(ผัว)หลายคน....แถวบ้านผมเค้าเรียก......วันทองครับ แลบลิ้น
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 09:35:08 AM »

 เศร้า เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 09:35:50 AM »

อืมมมม

มาดอนน่า  หรือโจลี่ เขาก็ทำนะ
แลบลิ้น แลบลิ้น
ผู้ชายมีเมียหลายคน....เค้าเรียกว่า....ขุนแผน น้ำลายหก เยี่ยม
ผู้หญิงมีสามี(ผัว)หลายคน....แถวบ้านผมเค้าเรียก......วันทองครับ แลบลิ้น

แต่เค้ารักเด็กนะ

รักแต่ละที เขาทำให้เป็นข่าวไปทั่วโลก   

อย่างเรา รักเด็กแต่ละที เมียที่บ้านยังไม่ให้รู้เลย
บันทึกการเข้า
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 09:40:41 AM »

คนในพื้นที่เขายังอนุโมทนาด้วยเลย กฐินก็เป็นกฐินพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ เงินที่ได้มาก็มาจากศรัทธาที่จะบำรุงพุทธศาสนาของมหาชน คนที่เป็นผู้รวบรวมจนนำมาสร้างวัดพัฒนาได้ขนาดนี้ต้องมีความตั้งใจและศรัทธาอย่างสูง สูงจนคนในท้องถิ่นยอมรับ ดีกว่าพวกที่อยากมีชื่อเป็นที่ระลึกแต่ไม่เคยลงเงินลงแรงอีกหลายต่อหลายคน ไอ้ที่พากันวิจารณ์ด้านบนมันคับแคบจริงๆ

งั้นใครมีเงินก็เปลี่ยนชื่อวัดเป็นว่าเล่นได้ใช่มั้ยครับ   Cheesy
ยังพยายามนะครับ...คนมีเงินแต่ไม่คิดสร้างประโยชน์ให้สังคมเยอะแยะ แล้วคุณสิเรียมฯ(ตามชื่อเดิม)นั่นก็ไม่ได้เอาเงินฟาดหัวคนในชุมชนให้เปลี่ยนชื่อวัดตามชื่อแกที่ไหน เพราะความตั้งใจในการทำความดีและไม่ใช่ครั้งเดียว ชาวบ้านจึงยอมรับ พวกที่ไม่ใช่คนในพื้นที่เดือดร้อนทำไม แถมยังไปเอาข่าวมาจากสื่อมั่ว-ชั่วเอียงๆอีกเลยเบี่ยงประเด็นไปใหญ่ เอาเป็นว่าดีพวกสอพลอเอานามสกุลบางคนไปตั้งชื่อสะพานข้ามไปภูเก็ตก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
หน้า: [1] 2 3 4 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.105 วินาที กับ 22 คำสั่ง