เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 27, 2024, 05:13:54 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ  (อ่าน 5337 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 12:24:30 AM »

นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  

 ตกใจ ตกใจ  เรียกน้องก็พอ ครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน  ผม ยังวัยรุ่นอยู่ ครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน                       Grin                     ไหว้

บันทึกการเข้า
chai_ay
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 21



« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 12:40:58 AM »

ถ้าเป็นเรื่องที่ดีเราก็ควร สนับสนุนไม่ใช่หรือครับ
ผมเองกลับมองว่า ปล่อยให้เด็ก ได้ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองบ้างก็ดี ครับ เมื่อเรียนจบแล้ว เค้าก็พร้อมที่จะสร้างรายได้ สร้างฐานะ
ของเค้าเองได้  ไม่ใช่ เอะอะ ก็หวังแต่ของพ่อแม่ หวังแต่ ทรัพท์สมบัติ มรดก
อย่างน้อยเค้าจะได้รู้ว่าพ่อแม่ ทำงานหาเงินให้เค้าใช้นั้นเหนื่อย อย่างไร   อย่างน้อยเค้าจะได้ สำนึกถึงคำว่า "เลือดตาแทบกระเด็น " เป็นอย่างไร
 การไป ทำเป็นงานพาสทาม ไม่ว่า  เซเว่น หรือ สเวนเซ่น หรืออะไรก็ตาม  มันเป็นก้าวแรกในการ หาเลี้ยงตัวเอง

  ในมุมมองของผม นะครับ
สมัยนี้พ่อแม่ ผิดพลาดอยู่อย่างหนึ่ง ครับก็คือ โอ๋ลูกเกินไป    ไม่อยากให้ลูกทำงานหนักๆ อยากให้ลูกทำงานสบาย ซึ่งจริงๆ ผมเองก็หวังเช่นนั้น ผมก็มีลูกสาว
เหมือนกัน   ข้อผิดพลาดนี้ จากการที่เราหวังดี กลับส่งผลร้ายในภายภาคหน้า  เพราะลูกจะคิดว่า ยังไงๆ เค้าก็จะมีพ่อแม่คอยพึ่งพาเค้าตลอดชีวิต   
              มุมมองนี้ ชีวิตจริงเลย นะครับ  เศร้า   
         

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ  แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินครับ เพียงแต่อยากให้เด็กเรียนจบอย่างคนทำงานเป็น แต่ไม่เป็นอย่างทีคิดครับ  เขาใช่เด็กเราทำงานเป็น3กระ กระเช้ารับไดัครับ กระบ่ายทำถึง4ทุ่มก็รับได้ครับ แต่ให้เด็กทำงาน4ทุ่ม-7.00น ผมเป็นห่วงเด็กว่าต้องออกจากบ้านไปทำงานในเวลาดึกจไม่ปลอดภัย จึงสอบถามไป เขาบอกว่าไม่ทำเด็กจะไม่ผ่าน เด็ก ปวช ปี2 อายุ17ปี เด็กบอกว่ามาเรียนแล้วไม่เป็นไรลูกทำได้  ผมน้ำตาไหลเลยครับ
บันทึกการเข้า
chai_ay
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 21



« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 01:21:58 AM »

นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  

 ตกใจ ตกใจ  เรียกน้องก็พอ ครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน  ผม ยังวัยรุ่นอยู่ ครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน                       Grin                     ไหว้


ขอโทษครับไม่เห็นหน้าเรียกอาไว้ก่อนครับ ผนเลยหลักสี่จะถึงดอนเมืองอยู๋แล้ว ที่บอกมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับร.ร เขาหลอกครับ เพียงแต่เสียใจที่วางทางเลือกให้ลูกผิดไป  ลูกเป็นเด็กเรียนดีได้3กว่าตลอดจนจบม3 ผมเห็นว่าเรามีกิจการของเราเอง จึงบอกเด็กว่าให้เรียนที่นี่ด้วยเหตุผลว่า การเรียนทื่นื่ต้องง่ายกว่า และจะให้ลงรามไปด้วย ปวชไม่เป็นปัญหาได้4ตลอดรามก็สอบผ่าน ผมให้รับผิดชอบการเรียนและการทำงานด้วยตัวเองตลอด เด็กทำงานมา1ปี6เดือนไม่สายไม่ลาไม่ป่วย ผมถามไปว่าเด็กไม่ทำกลางคืนถึงเชาไม่ได้หรือ ได้คำตอบว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาที่จะเรียนที่นี่ ฟังแล้วคิดถึงเวลา2ปีของลูก+กับลูกเคยพูดกับผมว่า ทำไมหนูตัองมาเรียนที่นี่ด้วย เพื่อนหนูเรียนเตียม หนูก็มีความสามาถรเรียนได้แต่ หนูเชื่อพ่อน๊ะ ผมคงเสียใจไปตลอดกับการตัดสินใจครังนี้  ขอโทษลูกจริงๆ  ขอบคูณทุกท่านที่ให้ผมได้ระบายความทุกใจของผม  ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 08:27:58 AM »

ลูกมีความสามารถน่าจะให้ลูกต่อสายสามัญนะ  มีกิจการของตัวเองเรียนบริหารก็ได้ครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:13:26 AM »

ร้านสะดวกซื้อฯ ใช้งานพนักงาน โหดกว่าที่ใคร ๆ คิด  กว่าจะฝ่าฟันขึ้นไปถึงระดับสูงได้

ถ้าไม่เข้าไปสำผัส เพียงมองผ่านผิวเผิน จะมองไม่ออกเลย

คนใกล้ชิดผม เคยไปทำงานอยู่ครึ่งปี ทั้งที่เขาเป็นประเภท สู้งานมาก ๆ

เขายังบอก มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน ถ้าไม่สิ้นไร้งานจริง ๆ แล้ว อย่าไปทำ....
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:21:29 AM »

ร้านสะดวกซื้อฯ ใช้งานพนักงาน โหดกว่าที่ใคร ๆ คิด  กว่าจะฝ่าฟันขึ้นไปถึงระดับสูงได้

ถ้าไม่เข้าไปสำผัส เพียงมองผ่านผิวเผิน จะมองไม่ออกเลย

คนใกล้ชิดผม เคยไปทำงานอยู่ครึ่งปี ทั้งที่เขาเป็นประเภท สู้งานมาก ๆ

เขายังบอก มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน ถ้าไม่สิ้นไร้งานจริง ๆ แล้ว อย่าไปทำ....

จริงแท้แน่นอน ครับ เพื่อนผม(เด็กเก่า) ทำเซเว่น อยู่ 2 ปี สภาพ ดูไม่ได้เลย ครับ
เปลี่ยนกะ ทุกอาทิตย์  อาทิตย์ นี้ อยู่ กลางวัน อีกอาทิตย์อยู่กลางคืน ปรับตัวไม่ทัน 
งานเซเว่น ถ้าไม่มีงานทำจริงๆเน้น ไม่มีงานทำจริงๆ หลีกได้หลีก ครับ  ไหว้   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

สวัสดีตอนเช้า ครับ Grin ไหว้
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:24:43 AM »

ถ้าเป็นเรื่องที่ดีเราก็ควร สนับสนุนไม่ใช่หรือครับ
ผมเองกลับมองว่า ปล่อยให้เด็ก ได้ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองบ้างก็ดี ครับ เมื่อเรียนจบแล้ว เค้าก็พร้อมที่จะสร้างรายได้ สร้างฐานะ
ของเค้าเองได้  ไม่ใช่ เอะอะ ก็หวังแต่ของพ่อแม่ หวังแต่ ทรัพท์สมบัติ มรดก
อย่างน้อยเค้าจะได้รู้ว่าพ่อแม่ ทำงานหาเงินให้เค้าใช้นั้นเหนื่อย อย่างไร   อย่างน้อยเค้าจะได้ สำนึกถึงคำว่า "เลือดตาแทบกระเด็น " เป็นอย่างไร
 การไป ทำเป็นงานพาสทาม ไม่ว่า  เซเว่น หรือ สเวนเซ่น หรืออะไรก็ตาม  มันเป็นก้าวแรกในการ หาเลี้ยงตัวเอง

  ในมุมมองของผม นะครับ
สมัยนี้พ่อแม่ ผิดพลาดอยู่อย่างหนึ่ง ครับก็คือ โอ๋ลูกเกินไป    ไม่อยากให้ลูกทำงานหนักๆ อยากให้ลูกทำงานสบาย ซึ่งจริงๆ ผมเองก็หวังเช่นนั้น ผมก็มีลูกสาว
เหมือนกัน   ข้อผิดพลาดนี้ จากการที่เราหวังดี กลับส่งผลร้ายในภายภาคหน้า  เพราะลูกจะคิดว่า ยังไงๆ เค้าก็จะมีพ่อแม่คอยพึ่งพาเค้าตลอดชีวิต   
              มุมมองนี้ ชีวิตจริงเลย นะครับ  เศร้า   
         

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ  แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินครับ เพียงแต่อยากให้เด็กเรียนจบอย่างคนทำงานเป็น แต่ไม่เป็นอย่างทีคิดครับ  เขาใช่เด็กเราทำงานเป็น3กระ กระเช้ารับไดัครับ กระบ่ายทำถึง4ทุ่มก็รับได้ครับ แต่ให้เด็กทำงาน4ทุ่ม-7.00น ผมเป็นห่วงเด็กว่าต้องออกจากบ้านไปทำงานในเวลาดึกจไม่ปลอดภัย จึงสอบถามไป เขาบอกว่าไม่ทำเด็กจะไม่ผ่าน เด็ก ปวช ปี2 อายุ17ปี เด็กบอกว่ามาเรียนแล้วไม่เป็นไรลูกทำได้  ผมน้ำตาไหลเลยครับ
อืม... จริงด้วย ซิครับ  ถ้าลูกผู้หญิง นี้ก็น่ากลัว มากๆ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:28:57 AM »

การฝึกฝนให้เด็กรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ รู้ทันโลก รู้ทันเรื่องแรงงาน การที่เด็กได้ลงมือทำงานด้วยตนเองก็เป็นวิธีการที่ได้ผลค่อนข้างสูงครับ
อีกไม่กี่ปีไทยมีพันธะต้องเปิดเสรีในการค้าระหว่างกันใน Asian ตอนนี้คนไทย นักธุรกิจไทย โรงเรียน วิทยาลัยแล้วก็มหาวิทยาลัยมีการปรับการเรียนการสอนให้ทันโลกบ้างไหมหนอ
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:30:04 AM »


ขอโทษครับไม่เห็นหน้าเรียกอาไว้ก่อนครับ ผนเลยหลักสี่จะถึงดอนเมืองอยู๋แล้ว ที่บอกมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับร.ร เขาหลอกครับ เพียงแต่เสียใจที่วางทางเลือกให้ลูกผิดไป  ลูกเป็นเด็กเรียนดีได้3กว่าตลอดจนจบม3 ผมเห็นว่าเรามีกิจการของเราเอง จึงบอกเด็กว่าให้เรียนที่นี่ด้วยเหตุผลว่า การเรียนทื่นื่ต้องง่ายกว่า และจะให้ลงรามไปด้วย ปวชไม่เป็นปัญหาได้4ตลอดรามก็สอบผ่าน ผมให้รับผิดชอบการเรียนและการทำงานด้วยตัวเองตลอด เด็กทำงานมา1ปี6เดือนไม่สายไม่ลาไม่ป่วย ผมถามไปว่าเด็กไม่ทำกลางคืนถึงเชาไม่ได้หรือ ได้คำตอบว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาที่จะเรียนที่นี่ ฟังแล้วคิดถึงเวลา2ปีของลูก+กับลูกเคยพูดกับผมว่า ทำไมหนูตัองมาเรียนที่นี่ด้วย เพื่อนหนูเรียนเตียม หนูก็มีความสามาถรเรียนได้แต่ หนูเชื่อพ่อน๊ะ ผมคงเสียใจไปตลอดกับการตัดสินใจครังนี้  ขอโทษลูกจริงๆ  ขอบคูณทุกท่านที่ให้ผมได้ระบายความทุกใจของผม  ขอบคุณครับ

สบายใจเถอะครับ  คนแถวนี้ ใจดี ทั้งนั้น มีอะไร ก็บอกกล่าวกัน  ทุกความเห็น คือ 1 ความคิดครับ  เยี่ยม
มีเพื่อน 1000 คน พลัดแจกเงิน คนละบาท  ผลสุดท้ายกลับบ้านก็เหลือ เงิน 1 บาท
มีเพื่อน1000 คนพลัดแลกเปลี่ยนคนละ1 ความคิด กลับบ้าน ได้ 999 ความคิด  ครับ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2010, 09:34:46 AM โดย ศักดา. » บันทึกการเข้า
chai_ay
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 21



« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 11:08:22 AM »

การฝึกฝนให้เด็กรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ รู้ทันโลก รู้ทันเรื่องแรงงาน การที่เด็กได้ลงมือทำงานด้วยตนเองก็เป็นวิธีการที่ได้ผลค่อนข้างสูงครับ
อีกไม่กี่ปีไทยมีพันธะต้องเปิดเสรีในการค้าระหว่างกันใน Asian ตอนนี้คนไทย นักธุรกิจไทย โรงเรียน วิทยาลัยแล้วก็มหาวิทยาลัยมีการปรับการเรียนการสอนให้ทันโลกบ้างไหมหนอ
ใช่ครับ ผมไปเทียวสิงค์โป ได้ไปคุยกับเด็กที่นั้น ผนถามภเษาจีนเด็กตอบจีน แม่บ้านถามภาษาอังกฤษเด็กตอบพาษาอังกฤษ ทำให้ผมสนใจการศึกษาสิงค์โป ได้สอบถามจึงได้รู้ว่าเขาเน้นเด็กมีความรู้และทำงานได้ด้วย พอกลับมาเมืองไทยผมก็มาดูการศึกษาของเรา ลูกผมเรียนดีสอบเข้าโรงเรียนอันดับต้นๆของเราได้ทั้งสองคน แต่ผมรู้ศึกว่าเด็กเรามุ่งแต่เรียนและสอบแข่งกันมากกว่า การมีความสามารถในการมีความรู้ในการทำงาน กว่าจะจบ แล้วมาฝึกงานสามารถทำงานได้ใช้เวลาอีกหลายปี และได้เห็นหลักสูตรของเขาจึงคิดว่าถ้าเรียนแบบนี้ ปวชเด็กจะเรียนอย่างสบายๆ และใช้ความสามารถที่มีอยู่เรียนม.รามไปด้วย คุยกับลูกว่าระหว่างที่เรียนปีแรกให้ลูกไปดูว่าเวลาเรียนเป็นอย่างไร แล้วปี2หนูลงม.ราม เราตั้งเป้าว่าลงรามสองปีครึง เก็บหมดจะจบ ปวช3ปี และอีก7เดือนก็จบราม จะลัดได้สองปีกว่า หนูจะได้ประสบการทำงานมา3ปี+ป.ตรี อายุ18ปีครึ่ง แล้วจะส่งไปทำงานกับญาติในต่างประเทศ 2 ปีกลับมาหนูจะมีป.ตรี+ประสบการทำงาน5ปี พร้อมเพื่อนที่จบป.ตรีแต่ยังไม่เคยทำงานเลย แต่ลูกจะไม่มีชีวิตเด็กมหาลัยเลย เพราะจะต้องรับผิดชอบตัวเองอย่างมาก ลูกบอกว่า หนูทำได้ ผมจึงให้มาอยู่ในกรุงเทพ โดยอยู่ด้วยตัวเอง ตื่นเอง ซักผ้าเอง ไปเรียนเอง โดยบอกลูกว่า ต้องฝึกไว้เวลาไปต่างประเทศ หนูต้องช่วยตัวเอง ลองทำดูมีปัญหาอะไรจะได้แก้ก่อน หนึ่งปีผ่านไปได้ตามแผน. จนเมื่อเข้าปีสองเด็กทำแผนการเรียนว่า อีก1ปีข้างหน้า จะเรียนปวชอย่างไร สอบรามวันไหน เพื่อจะจัดการให้สอดคล้องกับการทำงาน แล้วไปบอกผู้จัดการว่า หนูจะมีวันสอบวันไหนบ้าง. จะขอเลือนเวลาทำงานไม่ตรงวันสอบ(เลือนไม่ได้หยุด) ผู้จัดการให้เด็กทำเข้าทำงาน4ทุ่มออก7โมงเช้า แล้วไปสอบตอน9โมง เด็กก็ไม่ไดว่าอะไร แต่บนมาว่าไม่รู้ว่าจะสอบรู้เรืองหรือปล่าว ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่. กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นด้วยความเสียใจของพ่อและลูกที่พยามทำการบ้านอย่างดีที่สุดแล้ว (ปล ลูกคนสาวเล็กผมส่งไปเรียนไฮสกูลทื่ประ อินเดียแล้วอายุ14ปี บินไปกลับเองได้แล้ว)
บันทึกการเข้า
RTCO
Full Member
***

คะแนน 50
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 286


Military Technical Training School


« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 02:17:44 PM »

นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  

 ตกใจ ตกใจ  เรียกน้องก็พอ ครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน  ผม ยังวัยรุ่นอยู่ ครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน                       Grin                     ไหว้




ขอโทษครับไม่เห็นหน้าเรียกอาไว้ก่อนครับ ผนเลยหลักสี่จะถึงดอนเมืองอยู๋แล้ว ที่บอกมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับร.ร เขาหลอกครับ เพียงแต่เสียใจที่วางทางเลือกให้ลูกผิดไป  ลูกเป็นเด็กเรียนดีได้3กว่าตลอดจนจบม3 ผมเห็นว่าเรามีกิจการของเราเอง จึงบอกเด็กว่าให้เรียนที่นี่ด้วยเหตุผลว่า การเรียนทื่นื่ต้องง่ายกว่า และจะให้ลงรามไปด้วย ปวชไม่เป็นปัญหาได้4ตลอดรามก็สอบผ่าน ผมให้รับผิดชอบการเรียนและการทำงานด้วยตัวเองตลอด เด็กทำงานมา1ปี6เดือนไม่สายไม่ลาไม่ป่วย ผมถามไปว่าเด็กไม่ทำกลางคืนถึงเชาไม่ได้หรือ ได้คำตอบว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาที่จะเรียนที่นี่ ฟังแล้วคิดถึงเวลา2ปีของลูก+กับลูกเคยพูดกับผมว่า ทำไมหนูตัองมาเรียนที่นี่ด้วย เพื่อนหนูเรียนเตียม หนูก็มีความสามาถรเรียนได้แต่ หนูเชื่อพ่อน๊ะ ผมคงเสียใจไปตลอดกับการตัดสินใจครังนี้  ขอโทษลูกจริงๆ  ขอบคูณทุกท่านที่ให้ผมได้ระบายความทุกใจของผม  ขอบคุณครับ


ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่พ่อเป็นผู้วางเส้นทางชีวิตไว้ให้อย่างที่พ่ออยากเห็น

จนวันหนึ่งผมแหกคอกเสียเวลาไปสองปี แต่ก็เป็นพ่อที่ให้โอกาสผมอีกครั้ง

ผมจึงสัญญากับตัวเองว่า ผมจะไม่บังคับให้ลูกเป็นอย่างที่ผมอยากให้เป็น

แต่จะคอยส่งเสริมในสิ่งที่เค้าชอบและอยากจะเป็น

เพราะพ่อแม่ไม่นานก็ตายสุดท้ายลูกก็คือคนที่จะต้องอยู่กับสิ่งที่เค้าเลือกไปทั้งชีวิต
บันทึกการเข้า

"สุ จิ ปุ ลิ วินิมุตโต กถัง โส ปํณฑิโต ภเว"
ผู้ปราศจาก สุ จิ ปุ ลิ จะเป็นบัณฑิตได้อย่างไร
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 02:47:25 PM »


......

 ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่.

.......


รู้แล้วหรือยังครับ ว่า ยักษ์ใหญ่อย่างซีพี มองผู้บริโภคอย่างไร

เขาไม่สนหรอก ว่า ใครจะเป็นยังไง
บันทึกการเข้า
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 03:07:23 PM »

การฝึกฝนให้เด็กรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ รู้ทันโลก รู้ทันเรื่องแรงงาน การที่เด็กได้ลงมือทำงานด้วยตนเองก็เป็นวิธีการที่ได้ผลค่อนข้างสูงครับ
อีกไม่กี่ปีไทยมีพันธะต้องเปิดเสรีในการค้าระหว่างกันใน Asian ตอนนี้คนไทย นักธุรกิจไทย โรงเรียน วิทยาลัยแล้วก็มหาวิทยาลัยมีการปรับการเรียนการสอนให้ทันโลกบ้างไหมหนอ
ใช่ครับ ผมไปเทียวสิงค์โป ได้ไปคุยกับเด็กที่นั้น ผนถามภเษาจีนเด็กตอบจีน แม่บ้านถามภาษาอังกฤษเด็กตอบพาษาอังกฤษ ทำให้ผมสนใจการศึกษาสิงค์โป ได้สอบถามจึงได้รู้ว่าเขาเน้นเด็กมีความรู้และทำงานได้ด้วย พอกลับมาเมืองไทยผมก็มาดูการศึกษาของเรา ลูกผมเรียนดีสอบเข้าโรงเรียนอันดับต้นๆของเราได้ทั้งสองคน แต่ผมรู้ศึกว่าเด็กเรามุ่งแต่เรียนและสอบแข่งกันมากกว่า การมีความสามารถในการมีความรู้ในการทำงาน กว่าจะจบ แล้วมาฝึกงานสามารถทำงานได้ใช้เวลาอีกหลายปี และได้เห็นหลักสูตรของเขาจึงคิดว่าถ้าเรียนแบบนี้ ปวชเด็กจะเรียนอย่างสบายๆ และใช้ความสามารถที่มีอยู่เรียนม.รามไปด้วย คุยกับลูกว่าระหว่างที่เรียนปีแรกให้ลูกไปดูว่าเวลาเรียนเป็นอย่างไร แล้วปี2หนูลงม.ราม เราตั้งเป้าว่าลงรามสองปีครึง เก็บหมดจะจบ ปวช3ปี และอีก7เดือนก็จบราม จะลัดได้สองปีกว่า หนูจะได้ประสบการทำงานมา3ปี+ป.ตรี อายุ18ปีครึ่ง แล้วจะส่งไปทำงานกับญาติในต่างประเทศ 2 ปีกลับมาหนูจะมีป.ตรี+ประสบการทำงาน5ปี พร้อมเพื่อนที่จบป.ตรีแต่ยังไม่เคยทำงานเลย แต่ลูกจะไม่มีชีวิตเด็กมหาลัยเลย เพราะจะต้องรับผิดชอบตัวเองอย่างมาก ลูกบอกว่า หนูทำได้ ผมจึงให้มาอยู่ในกรุงเทพ โดยอยู่ด้วยตัวเอง ตื่นเอง ซักผ้าเอง ไปเรียนเอง โดยบอกลูกว่า ต้องฝึกไว้เวลาไปต่างประเทศ หนูต้องช่วยตัวเอง ลองทำดูมีปัญหาอะไรจะได้แก้ก่อน หนึ่งปีผ่านไปได้ตามแผน. จนเมื่อเข้าปีสองเด็กทำแผนการเรียนว่า อีก1ปีข้างหน้า จะเรียนปวชอย่างไร สอบรามวันไหน เพื่อจะจัดการให้สอดคล้องกับการทำงาน แล้วไปบอกผู้จัดการว่า หนูจะมีวันสอบวันไหนบ้าง. จะขอเลือนเวลาทำงานไม่ตรงวันสอบ(เลือนไม่ได้หยุด) ผู้จัดการให้เด็กทำเข้าทำงาน4ทุ่มออก7โมงเช้า แล้วไปสอบตอน9โมง เด็กก็ไม่ไดว่าอะไร แต่บนมาว่าไม่รู้ว่าจะสอบรู้เรืองหรือปล่าว ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่. กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นด้วยความเสียใจของพ่อและลูกที่พยามทำการบ้านอย่างดีที่สุดแล้ว (ปล ลูกคนสาวเล็กผมส่งไปเรียนไฮสกูลทื่ประ อินเดียแล้วอายุ14ปี บินไปกลับเองได้แล้ว)

บ้านเราแข่งกันเรียนจะเป็นจะตาย จันทร์ถึงศุกร์ไปโรงเรียนปกติ เลิกจากปกติก็ไปติว เสาร์อาทิตย์ก็ไม่เว้น เด็กๆเลยได้ใส่แว่นสายตาสั้นตั้งแต่ชั้นประถม บ้านเรามันวัดกันที่สอบเข้ามหาลัยดังได้หรือไม่ ถ้าได้พ่อแม่ก็หน้าบานแต่ไม่รู้ว่าจบมาจะมีคุณภาพหรือเอาตัวรอดทางสังคมหรือไม่ ไม่ค่อยได้ฝึกเด็กให้หางานทำ

ส่วนตัวผมไม่ได้ตั้งเป้าว่าลูกจะต้องสอบเข้ามหาลัยดังๆได้ จะขอเล่าสู่กันฟัง ลูกน้องที่ทำงานจบจากมหาลัยชั้นแนวหน้าทั้งนั้น ความรู้ความสามารถเหลือหลายแต่เชื่อหรือไม่ครับ แต่ละคนไม่กล้าที่จะสู้หน้าคนต่างชาติ การทำมาค้าขายเราจำเป็นที่จะต้องติดต่อเจรจากับคู่ค้าต่างชาติบ่อยๆแต่เหลือเชื่อครับ ปริญญาไม่ได้ช่วยให้คนเหล่านี้มีความกล้าหาญเลยแม้แต่น้อย
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 07:43:15 PM »


......

 ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่.

.......


รู้แล้วหรือยังครับ ว่า ยักษ์ใหญ่อย่างซีพี มองผู้บริโภคอย่างไร

เขาไม่สนหรอก ว่า ใครจะเป็นยังไง
ไม่ต้องผู้บริโภค หรือครับ  แค่ ร้านเซเว่น ก็พอ   บางครั้งที่ผมเห็น เปิดเยื้องๆกัน เท่านี้คนซื้อ แฟนชายก็ จุกแล้ว ครับ
แย่ง ลูกค้ากันเอง    เซเว่นแพงกว่า ร้านโชว์ห่วยก็จริง แต่ ....  มีแอร์   มีคน สวัสดีค่ะ  สวัสดีครับ     รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่ม มั้ย ค่ะ  หลงรัก
ฟังแล้ว ระรื่นหู  ไม่เหมือน ข้าง บ้านผม    เฮ้ย มึรงเอาไร ว่ะ   อยู่ ตรงโน้น มึรงหยิบเอง  กรูจะดูบอล     ไม่ระรื่นหูเลย ครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน คิก คิก

  ถ้าซีพี ใจถึงจริง ให้เปิดได้  1 สาขา ต่อ  1 รัศมี 1 ก.ม ซิครับ  จะรวยทั้งซีพีแล้ว  เจ้าของร้าน เซเว่น สาขานั้น   
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 08:25:29 PM »

 ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจำเลยในกรณีนี้จะเป็นใครดีเพราะผมก็ทราบข้อมูลไม่ตลอดเลยกลัวว่าอาจจะด่าจำเลยผิดตัว

 เอาเท่าที่ผมทราบร้าน 7-11 นั้นเป็นร้านสะดวกซื้อระบบแฟรนไชส์ที่ใครอยากมีก็มีได้โดยกำเงินไปบอกซีพีว่าอยากเปิดเซเว่นพอได้แล้วซีพีก็มาออกแบบร้าน
ชั้นวางของเอาของมาวางฝึกอบรมพนักงานให้ แต่ที่ผมไม่ทราบคือระบบการบริหารจัดการพนักงาน การจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ นั้นทำโดยเจ้าของคนซื้อแฟรนไชส์หรือยังคงบริหารโดยซีพี

 และพนักงานนั้นมีแบ่งเป็นพนักงานประจำ คือคนที่ทำร้านเซเว่นเป็นงานหลัก กับ นักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ ซึ้งต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน พนักงานประจำนั้นก็ว่ากันไปว่าแบ่งเป็นกะและหมุนเวียนกันกะละแปดชั่วโมงหรืออะไรก็แล้วแต่
 แต่ส่วนนักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่มาทำงานหาหารายได้พิเศษจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและไม่เป็นกะและไม่ควรทำงานติดต่อกันเกินสี่ชั่วโมง
อาจจะเช้าหรือบ่ายช่วงที่ไม่มีเรียนเพราะยังมีภาระหลักคือการเรียนไม่ใช่ใช้แรงงานยังกะเขาเป็นพนักงานประจำ และอาจจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง

  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสงสัยคือเจ้าของหรือซีพีกันแน่ที่ทำแบบนี้ ซึ่งซีพีเป็นบริษัทใหญ่การทำอะไรที่ละเมิดกฏหมายแรงงานนั้นไม่น่าจะกล้ากระทำ ซึ่งผมอยากเพ่งเล็ง
ไปที่ผู้บริหารโรงเรียนนี้หรือเจ้าของร้านนี้ว่า เอาเปรียบเด็กหรือเปล่า ต้องการประหยัดค่าจ้างของพนักงานประจำแล้วเอาการเรียนของเด็กมาเป็นตัวประกันบังคับให้เด็กทำงานให้ร้านค้าของตัวเองหรือของโรงเรียนหรือเปล่า

  จริงๆวัฒธรรมให้นักศึกษาไปหารายได้พิเศษจาก ร้านค้า ห้างร้าน นั้นเมืองนอกทำมานานแล้วและความต้องการตรงกันทุกฝ่ายคือ
เด็กมีรายได้เพราะเด็กฝรั่งชอบออกจากบ้านมาอยู่หาทุนช่วยตัวเองเรียนเองและระบบสังคมเอื้ออำนวยเด็กจึงหางานทำได้
และร้านค้ามีคนทำงานและเขารู้ดีว่าเด็กมาทำเพื่อส่งตัวเองเรียนไม่ใช่มาขายแรงงาน ชั่วโมงทำงานจึงไม่มากเช่น สามหรือสี่ชั่วโมงในแต่
ละวันก็พอแล้ว ร้านก็ไม่มีปัญหาหรอกเพราะเด็กมีเยอะ
 ถ้าร้านไหนทำกับเด็กแบบนี้ผมอยากประณามว่าชั่วช้าเอาเปรียบเด็กถ้าเป็นลูกผมๆได้เฉ่งกะ ผอ. แน่ๆ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.102 วินาที กับ 22 คำสั่ง