เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 02:55:25 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12 13 14 ... 20
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมชาวนาไทยยังยากจน  (อ่าน 56512 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 15 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #150 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:43:41 PM »

คำตอบมันมีอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว เศร้า

การใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย แลบลิ้น
การใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ไม่รู้จักประมาณตน
ที่สำคัญ ตำข้าวสารกรอกหม้อ ยังพบได้ในชุมชนเกษตรของไทย เศร้า
หมดฤดูทำนา เข้าป่าอ้อย เข้าป่าข้าวโพด เก็บถั่วรับจ้าง เบิกเงินนายทุนมากินก่อน แล้วถึงไปทำงานใช้เงินเค้า แลบลิ้นเงินหมดก็ออกหางานใหม่ เศร้าไอ้จะมีเงินเก็บอย่าหวัง
ปีหนึ่งๆ รายได้หลายหมื่นบาท แต่การฟุ้งเฟ้อ ทำให้ไม่มีเงินเก็บ คิก คิก

ชาวนามาตอบเองเลยครับ ว่าทำไมชาวนาถึงได้ยังยากจนอยู่... คำตอบตามข้างบน...

นายสมชายมีประเด็นให้ตัวเองคิดต่อ ว่าในเมื่อ"ทำนาเดี๋ยวนี้มันง่าย" ง่ายแค่ไหน ง่ายถึงขั้นที่ข้าราชการท่านหนึ่งสามารถใช้เวลาว่างจากงานประจำมาทำนา... แล้วชาวนาที่ทำนาอย่างเดียวเขาเอาเวลาไปไหนเสียหมดตั้งหลายชั่วโมงต่อวันเล่าครับ... แฮ่ๆ...
อ่านดูแล้วก็ได้แต่ร้องอ๋อ ทำมัยคุณพี่ท่านนี้ถึงได้มีเวลามาทำนาได้ เพราะเวลาราชการแท้ๆ คุณพี่ยังมีเวลามานั่งโพสต์กระทู้นี้อยู่เลย ข้าราชการหน่วยไหนของสาธารณสุขหรือครับเนี่ยะ???
แต่ถ้าเป็นวันหยุดของท่านดังกล่าว ผมก็ต้องขอภัยมา  ณ ที่นี้ด้วยครับ..
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ ไหว้
หลายๆท่าน อาจจะสงสัยว่า ผมเอาเวลาไหนไปทำนา Huh
คืออย่างนี้ครับ ผมเรียนไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมทำเสาร์ อาทิตย์ ตอนเช้า เย็นครับ
ผมทำนาปีครับ เป็นนาหว่าน ไม่ใช่นาดำ ผมทำนา 90 ไร่ ผมจัดการดังนี้ครับ
30 ไร่แรก ผมหว่านอาทิตย์ที่ 1  อีกอาทิตย์ต่อมา ก็หว่านอาทิตย์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3 ตามลำดับ ไม่ต้องสงสัยนะครับว่า 30 ไร่ ทำวันเดียวได้อย่างไร  คิก คิก
การบริหารระยะเวลาดังกล่าว มันจะมีผลถึงช่วงเก็บเกี่ยวด้วยครับคือ ข้าวมันจะสุกไม่พร้อมกัน Winkเวลาฉีดยา ผมก็จ้างเค้าครับ เลือกคนที่ไว้ใจ ไม่ต้องไปคุม หว่านปุ๋ยก็เช่นกัน พวกนี้ เค้ามีทีมครับ 4 - 5 คน วันเดียวก็เรียบร้อย
         เช้า-เย็นที่ผมว่าคือ
        ตอนเช้า 6 โมงเช้า ผมเดินตรวจสภาพที่นากับข้าวที่หว่าน ว่าเป็นอย่างไรจะได้ดำเนินการได้ (ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว)7 โมงครึ่งกลับมาอาบน้ำแต่งตัว ไปทำงาน(ห่างจากบ้าน 4 กม.)รถยนต์วิ่งแป๊บเดียวถึงครับ
        ส่วนช่วงเย็น เลิกงาน 4 โมงครึ่ง ผมก็ไปดูใหม่ครับ อีกแปลงหนึ่ง เดินวันละ กิโลฯเป็นการออกกำลังกายไปในตัว
        ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว สมช.ทุกท่านเชื่อไหมครับว่า รถเกี่ยวสมัยใหม่ สมรรถนะในการทำงาน ได้วันละเท่าไหร่ ครับ วันละ 50 ไร่สบายๆ แล้วแต่ความสามารถของคนขับครับ
ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยนะครับว่า การทำนาสมัยใหม่มันง่ายแค่ไหน ที่สำคัญ ขอให้มีน้ำสำหรับปลูกข้างก็พอ ข้าวไม่งามก็อัดปุ๋ยเข้าไปครับ คิก คิก
        เกษตรกรสมัยใหม่ เค้ามีคำพูดอยู่ว่า
"ทำนาวันเดียว" ความหมายคือขั้นตอนละวัน(หว่าน เก็บเกี่ยว)ก็เสร็จครับ
"ทำนาคนเดียว"คือสามีทำคนเดียวก็ได้ ส่วนภรรยาไม่ต้องช่วยครับ เยี่ยม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 03, 2010, 12:45:47 PM โดย renold:รักในหลวง » บันทึกการเข้า
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #151 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:48:25 PM »

คำตอบมันมีอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว เศร้า

การใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย แลบลิ้น
การใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ไม่รู้จักประมาณตน
ที่สำคัญ ตำข้าวสารกรอกหม้อ ยังพบได้ในชุมชนเกษตรของไทย เศร้า
หมดฤดูทำนา เข้าป่าอ้อย เข้าป่าข้าวโพด เก็บถั่วรับจ้าง เบิกเงินนายทุนมากินก่อน แล้วถึงไปทำงานใช้เงินเค้า แลบลิ้นเงินหมดก็ออกหางานใหม่ เศร้าไอ้จะมีเงินเก็บอย่าหวัง
ปีหนึ่งๆ รายได้หลายหมื่นบาท แต่การฟุ้งเฟ้อ ทำให้ไม่มีเงินเก็บ คิก คิก

ชาวนามาตอบเองเลยครับ ว่าทำไมชาวนาถึงได้ยังยากจนอยู่... คำตอบตามข้างบน...

นายสมชายมีประเด็นให้ตัวเองคิดต่อ ว่าในเมื่อ"ทำนาเดี๋ยวนี้มันง่าย" ง่ายแค่ไหน ง่ายถึงขั้นที่ข้าราชการท่านหนึ่งสามารถใช้เวลาว่างจากงานประจำมาทำนา... แล้วชาวนาที่ทำนาอย่างเดียวเขาเอาเวลาไปไหนเสียหมดตั้งหลายชั่วโมงต่อวันเล่าครับ... แฮ่ๆ...
อ่านดูแล้วก็ได้แต่ร้องอ๋อ ทำมัยคุณพี่ท่านนี้ถึงได้มีเวลามาทำนาได้ เพราะเวลาราชการแท้ๆ คุณพี่ยังมีเวลามานั่งโพสต์กระทู้นี้อยู่เลย ข้าราชการหน่วยไหนของสาธารณสุขหรือครับเนี่ยะ???
แต่ถ้าเป็นวันหยุดของท่านดังกล่าว ผมก็ต้องขอภัยมา  ณ ที่นี้ด้วยครับ..

เอ่อ... คุยกันแบบนี้ชักไม่อยากคุยด้วยแล้วครับ... หากจะออกลูกค่อนแคะใคร ก็ไม่ควรอ้างถึงข้อความของผู้อื่นมาเป็นตัวนำเรื่องนะครับ...

ใครเขาจะใช้เวลาในเวลาราชการมา Post อะไรนั่นเป็นเรื่องของเขาบริหารจัดการเวลา, ในกระทู้นี้กำลังคุยกันเรื่องชาวนาฯ หากจ้องจับผิดกันทุกเรื่องมันก็สามารถจับผิดกันได้ทั้งนั้นแหละ... ตัวอย่างเช่นเห็นคนไทยไปทำงานที่เกาหลี หากมองแง่ดีก็สู้อุตส่าห์ยอมพลัดที่นาคาที่อยู่ไปทำมาหากินให้ชาติอื่นรับรู้ความสามารถคนไทย เป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ, แต่ถ้ามองแง่ไม่ดี มันก็สามารถค่อนแคะได้ว่าเป็นคนไทย ทำไมไม่ใช้ความรู้ความสามารถตนเองสร้างประโยชน์แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย...

ดังนั้นหากจ้องจะค่อนแคะ มันก็มีเรื่องได้ทั้งนั้นแหละ... ทุกคนมีเหตุผลของตนเอง, หากค่อนแคะแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไรแก่ชีวิต ไม่ได้ประโยชน์อะไรแก่สังคม ไม่น่าจะค่อนแคะให้ผู้อื่นรู้สึกพิลึก...
+1 ท่านสมชายครับ
บันทึกการเข้า
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #152 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:57:44 PM »

คำตอบมันมีอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว เศร้า

การใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย แลบลิ้น
การใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ไม่รู้จักประมาณตน
ที่สำคัญ ตำข้าวสารกรอกหม้อ ยังพบได้ในชุมชนเกษตรของไทย เศร้า
หมดฤดูทำนา เข้าป่าอ้อย เข้าป่าข้าวโพด เก็บถั่วรับจ้าง เบิกเงินนายทุนมากินก่อน แล้วถึงไปทำงานใช้เงินเค้า แลบลิ้นเงินหมดก็ออกหางานใหม่ เศร้าไอ้จะมีเงินเก็บอย่าหวัง
ปีหนึ่งๆ รายได้หลายหมื่นบาท แต่การฟุ้งเฟ้อ ทำให้ไม่มีเงินเก็บ คิก คิก

ชาวนามาตอบเองเลยครับ ว่าทำไมชาวนาถึงได้ยังยากจนอยู่... คำตอบตามข้างบน...

นายสมชายมีประเด็นให้ตัวเองคิดต่อ ว่าในเมื่อ"ทำนาเดี๋ยวนี้มันง่าย" ง่ายแค่ไหน ง่ายถึงขั้นที่ข้าราชการท่านหนึ่งสามารถใช้เวลาว่างจากงานประจำมาทำนา... แล้วชาวนาที่ทำนาอย่างเดียวเขาเอาเวลาไปไหนเสียหมดตั้งหลายชั่วโมงต่อวันเล่าครับ... แฮ่ๆ...
อ่านดูแล้วก็ได้แต่ร้องอ๋อ ทำมัยคุณพี่ท่านนี้ถึงได้มีเวลามาทำนาได้ เพราะเวลาราชการแท้ๆ คุณพี่ยังมีเวลามานั่งโพสต์กระทู้นี้อยู่เลย ข้าราชการหน่วยไหนของสาธารณสุขหรือครับเนี่ยะ???
แต่ถ้าเป็นวันหยุดของท่านดังกล่าว ผมก็ต้องขอภัยมา  ณ ที่นี้ด้วยครับ..
ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ ไม่ใช่เฉพาะสาธารณสุขหรอกครับ ที่ทำเกษตร ตำรวจ ทหาร ครู ก็มีมากมายครับ
ดูได้จากเวปนี้ http://kasetporpeang.com/porpeang_agreement.htm
บอกแล้วครับว่า ใช้เงินจ้างคนครับ ไม่ต้องลงมือเองทุกขั้นตอน เยี่ยม
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #153 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 01:49:46 PM »

คนใช้สมองทำงานก็สบายแบบนี้แหละ   แบบนี้ต้องเรียกว่า  "ใช้เงินทำงาน"   เยี่ยม
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #154 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 09:12:09 PM »

อยากให้อาชีพชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน และเกษรกรอื่นๆ  มีสส.เป็นของตนเองครับ จะได้คอยรักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องเหล่านั้น

ถ้าหากเกษตรกรทั้งหลายไม่สามารถรวมตัวกันได้ จะมีใครที่จะมีความจริงใจในการชวยเหลือเกษตรกรเหล่านั้น (พ่อค้าคนกลางคงไม่ช่วย) อดีตที่ผ่านมากับปัจจุบันนี้ก็เห็นๆกันอยู่


ผมคิดว่าถ้าเกษตกรทั้งหลายมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี กิจการอาชีพอื่นๆก็จะดีตามไปด้วย รวมถึงประเทศก็จะสงบสุขครับ  อิอิ
บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
แจ็ค
"กำบ่มีอย่าไปอู้...กำบ่ฮู้อย่าได้จ๋า"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 461
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7529


« ตอบ #155 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 10:05:34 PM »


.... ปีนี้ถือได้ว่าดีขึ้นมากแล้วนะครับผม  ราคาข้าวก็ดี  ข้าวโพดก็ดี ดีจนไม่ได้รับเงินประกันรายได้เลยสำหรับข้าวโพด แล้วก็ข้าวเหนียว ราคาสูงอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน .... จากนี้ไปถ้าเกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยที่ทำใช้เองบ้างเพื่อลดค่าใช้จ่าย  และรู้จักพอประมาณก็คงอยู่ได้อย่างสบาย (ปีหน้าผมก็จะทำนาเองแล้วครับผม) ....
บันทึกการเข้า

... เมื่อความกลัวถึงขีดสุด  มันจะเกิดเป็นความกล้าที่บ้าบิ่น ...
สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #156 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 10:05:51 AM »


.... ปีนี้ถือได้ว่าดีขึ้นมากแล้วนะครับผม  ราคาข้าวก็ดี  ข้าวโพดก็ดี ดีจนไม่ได้รับเงินประกันรายได้เลยสำหรับข้าวโพด แล้วก็ข้าวเหนียว ราคาสูงอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน .... จากนี้ไปถ้าเกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยที่ทำใช้เองบ้างเพื่อลดค่าใช้จ่าย  และรู้จักพอประมาณก็คงอยู่ได้อย่างสบาย (ปีหน้าผมก็จะทำนาเองแล้วครับผม) ....

... เอาใจช่วย ... ขอให้ราคาสินค้าการเกษตรทุกอย่าง ดีขึ้น ทุก ๆ ปี ครับ ...  ไหว้
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4752


ย่อง


« ตอบ #157 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 11:04:33 AM »

อ่าน คคห. ของบางท่านแล้ว รู้สึกจุกเจ็บจริงๆครับ   เนื่องจากคนรุ่นปู่ย่าตายายผมขึ้นไป ทำนา ทำสวนกัน  ย่าผมมีลูก ๗ คน ยายผมลูก ๓  ย่าผม ทำนาทำสวน เลี้ยงหมูกับไก่ รายจ่ายก็มีแค่ น้ำมันตะเกียง กับ เกลือ น้ำตาล น้ำปลา  สมัยนั้น ฝนตก น้ำท่วม ถูกต้องทุกปี  แมลง หนู หอยเชอรี่ไม่ค่อยมี ได้มากได้น้อยก็ผ่านไปได้ทุกปี บวชลูกได้ทุกคน   เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเจริญศิวิไลซ์  ธรรมชาติผิดเพี้ยนโยนกันไปมา หาคนรับผิดชอบไม่ได้  คนที่พึ่งพาธรรมชาติมากก็ต้องกระทบมาก

พอมารุ่นพ่อผม ก็ทำนา แต่กินขายไม่พอใช้  อาจเป็นเพราะสังคมมันเปลี่ยน เงินทองมีความสำคัญมากขึ้น สุดท้ายก็ต้องเข้ากรุงเทพมาหางานทำ  มีครอบครัว มีภาระ วิถีชีวิตแบบคนเมือง  ที่ดินก็ขายให้โรงสีที่อยู่ติดกัน

คำว่าขี้เกียจ หรือเกียจคร้าน ถ้าใช้กับคนๆนึงคือคำตำหนิพอรับฟังได้  แต่ถ้าเอามาใช้กับคนหมู่มาก ผมคิดว่ามันไม่สมควรครับ  เราควรมองภาพรวมว่า กลไกอะไรที่ผลักดันและดึงให้คนเป็นเช่นนั้น  คนเรามีกิเลสพอๆกันทั้งนั้นแหละ  ถ้าเป็นชาวนามีที่ ๕ไร่ แต่ต้องอดออมถึงจะอยู่รอด กับเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดากลางๆมีบ้าน ๕๐ ตารางวา แล้วต้องเลือกผมว่าน้อยนักที่จะเลือกเป็นชาวนา  หรืออย่างเรารณรงค์ให้ทำโน้นทำนี่  แต่คนทำต้องลำบาก  มันก็พอได้ผลบ้างตอนแรกๆเท่านั้นแหละ  ถ้าไม่สร้างกลไกอะไร มันไปต่อไม่ได้หรอกครับ

สมัยก่อนเราเป็นเกษตรกันทั้งประเทศ  เพื่อนบ้านก็จนพอกัน  เงินทองมีนิดหน่อยก็อยู่ได้   พอเราไปเปิดโลกทัศน์เห็นประเทศอื่นเขาเจริญ เราก็อยากเจริญทันสมัยแบบเขาบ้าง  วัตถุนิยมที่หลับอยู่ในจิตใจก็ออกมาทันที  อุตสาหกรรม ส่งออก ท่องเที่ยว เอาหมด   กดราคากันเอง  ว่ากันตั้งแต่ข้าราชการ  แรงงาน เกษตร เพื่อลดต้นทุนการพัฒนาประเทศเอาไว้  กดนานจนลืมและชินชา  ที่จะต้องแก้ไข ไม่งั้นข้าราชการจะไม่มีคนทำ  แรงงานก็ต้องเอาต่างด้าวมาแทน  ชาวนาก็ต้องขายกิจการหรือให้คนเช่า

ถ้ามีคนจะไหลออกก็อย่าว่ากันเลยครับ  คนธรรมดาทั่วๆไป มีธรรมชาติที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเป็นนิสัยอยู่แล้ว  ถ้าเขาต้องเปลี่ยนแปลง  แสดงว่ามันไม่ไหวจริงๆ  ไหว้

  ไหว้   เคยเห็น เคยทำมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ จนท้ายสุด บอกว่า ฉันจะเป็นชาวนารุ่นสุดท้าย   ไหว้

เพราะฉะนั้นอย่าไปถามเลยครับว่า ทำไม Huh ชาวนาไทยยังยากจน เศร้า

  นับถือพี่ renold:รักในหลวง ตอนนี้ ผมพยายามกลับไป ทำไร่ทำนาอีก เพราะองค์ความรู้ที่เรามี ทำให้แนวคิดเปลี่ยนไป พี่renold:รักในหลวง ทำได้เพราะพี่มีความรู้ไงครับ บ้านเราชาวนา ชาวสวนอีกมาก ที่ขาดความรู้ที่จะไปแตกยอด  ไหว้
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #158 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 11:53:44 AM »


        เกษตรกรสมัยใหม่ เค้ามีคำพูดอยู่ว่า
"ทำนาวันเดียว" ความหมายคือขั้นตอนละวัน(หว่าน เก็บเกี่ยว)ก็เสร็จครับ
"ทำนาคนเดียว"คือสามีทำคนเดียวก็ได้ ส่วนภรรยาไม่ต้องช่วยครับ เยี่ยม
ว่าไปท่านเรโนลด์ มีที่ดินเป็นของตัวเอง ไม่ต้องเช่า  ไม่ลองปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ดูบ้างเหรอครับ
ชาวนาที่เช่านาเขาทำ ไม่กล้าทำอินทรีย์เพราะกลัวว่าปีหน้าอาจไม่ได้เช่าแปลงเดิม  ลงทุนฟรี

แต่ที่ดินตัวเอง ไม่น่าเป็นปัญหา


อันนี้ ยืนยันท่านเรโนลด์ครับ คน ตจว. เวลาวันหนึ่ง24ชั่วโมง เยอะกว่าคน กทม.ครับ
แค่เวลาที่รถติดใน กทม. ช่วงมาทำงานและกลับบ้าน คน ตจว.ทำอะไรได้เยอะ
ผมเคยคุยโทรกับเพื่อนตจว.ตอนอยู่ในรถขณะกลับบ้านตอนเย็น เขาคุยไปเก็บยอดชะอมไป
ผมยังไม่ถึงบ้านเลย เขาเก็บเสร็จแล้ว ขอวางสายเพื่อทำการมัดช่อชะอมส่งตลาด
เวลานั้นต้องใช้สองมือ ไม่สามารถถือโทรคุยได้เหมือนตอนเก็บ แค่กรรไกรตัดใส่ตะกร้าทำมือเดียวได้

อ้อ..เขาเก็บชะอมพอขายส่งกำละ2บาท ได้สัก300บาท ทุกวัน
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #159 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 12:18:52 PM »

Ha H a  ฮา  ยายคิดว่า ข้อมูลด้านล่าง  น่าจะบอกอะไรเราได้บ้างน๊ะคร๊า  ฮา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1291437575&grpid=00&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #160 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 01:28:18 PM »

เปิปข้าว
บันทึกการเข้า
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #161 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 01:31:32 PM »

แฮมเมอร์ (Hammer) / ลูกสาวชาวนา
บันทึกการเข้า
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #162 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 01:35:51 PM »

แฮมเมอร์ (Hammer) / นาแล้ง
บันทึกการเข้า
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #163 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 09:47:45 PM »


        เกษตรกรสมัยใหม่ เค้ามีคำพูดอยู่ว่า
"ทำนาวันเดียว" ความหมายคือขั้นตอนละวัน(หว่าน เก็บเกี่ยว)ก็เสร็จครับ
"ทำนาคนเดียว"คือสามีทำคนเดียวก็ได้ ส่วนภรรยาไม่ต้องช่วยครับ เยี่ยม
ว่าไปท่านเรโนลด์ มีที่ดินเป็นของตัวเอง ไม่ต้องเช่า  ไม่ลองปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ดูบ้างเหรอครับ
ชาวนาที่เช่านาเขาทำ ไม่กล้าทำอินทรีย์เพราะกลัวว่าปีหน้าอาจไม่ได้เช่าแปลงเดิม  ลงทุนฟรี

แต่ที่ดินตัวเอง ไม่น่าเป็นปัญหา


อันนี้ ยืนยันท่านเรโนลด์ครับ คน ตจว. เวลาวันหนึ่ง24ชั่วโมง เยอะกว่าคน กทม.ครับ
แค่เวลาที่รถติดใน กทม. ช่วงมาทำงานและกลับบ้าน คน ตจว.ทำอะไรได้เยอะ
ผมเคยคุยโทรกับเพื่อนตจว.ตอนอยู่ในรถขณะกลับบ้านตอนเย็น เขาคุยไปเก็บยอดชะอมไป
ผมยังไม่ถึงบ้านเลย เขาเก็บเสร็จแล้ว ขอวางสายเพื่อทำการมัดช่อชะอมส่งตลาด
เวลานั้นต้องใช้สองมือ ไม่สามารถถือโทรคุยได้เหมือนตอนเก็บ แค่กรรไกรตัดใส่ตะกร้าทำมือเดียวได้

อ้อ..เขาเก็บชะอมพอขายส่งกำละ2บาท ได้สัก300บาท ทุกวัน

เยี่ยม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 04, 2010, 10:12:42 PM โดย renold:รักในหลวง » บันทึกการเข้า
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #164 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 10:09:52 PM »


        เกษตรกรสมัยใหม่ เค้ามีคำพูดอยู่ว่า
"ทำนาวันเดียว" ความหมายคือขั้นตอนละวัน(หว่าน เก็บเกี่ยว)ก็เสร็จครับ
"ทำนาคนเดียว"คือสามีทำคนเดียวก็ได้ ส่วนภรรยาไม่ต้องช่วยครับ เยี่ยม
ว่าไปท่านเรโนลด์ มีที่ดินเป็นของตัวเอง ไม่ต้องเช่า  ไม่ลองปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ดูบ้างเหรอครับ
ชาวนาที่เช่านาเขาทำ ไม่กล้าทำอินทรีย์เพราะกลัวว่าปีหน้าอาจไม่ได้เช่าแปลงเดิม  ลงทุนฟรี

แต่ที่ดินตัวเอง ไม่น่าเป็นปัญหา


อันนี้ ยืนยันท่านเรโนลด์ครับ คน ตจว. เวลาวันหนึ่ง24ชั่วโมง เยอะกว่าคน กทม.ครับ
แค่เวลาที่รถติดใน กทม. ช่วงมาทำงานและกลับบ้าน คน ตจว.ทำอะไรได้เยอะ
ผมเคยคุยโทรกับเพื่อนตจว.ตอนอยู่ในรถขณะกลับบ้านตอนเย็น เขาคุยไปเก็บยอดชะอมไป
ผมยังไม่ถึงบ้านเลย เขาเก็บเสร็จแล้ว ขอวางสายเพื่อทำการมัดช่อชะอมส่งตลาด
เวลานั้นต้องใช้สองมือ ไม่สามารถถือโทรคุยได้เหมือนตอนเก็บ แค่กรรไกรตัดใส่ตะกร้าทำมือเดียวได้

อ้อ..เขาเก็บชะอมพอขายส่งกำละ2บาท ได้สัก300บาท ทุกวัน

ขอบคุณท่านsubฯนะครับ ที่กรุณาแนะนำ
       ผมจะท้าวความให้ฟังครับ ที่ดินผม ๆซื้อราวๆปี2549 ครับ ที่ซื้อเพราะทำเลครับ เป็นที่ติดถนนราดยาง ห่างจากบ้านผม ไม่ถึงกิโล แต่อยู่ระหว่างบ้านผมกับที่ทำงาน แปลงแรกซื้อ 16 ไร่ ราคาแค่ 10k/ไร่ เพราะเจ้าของเค้าต้องการเงินไปใช้หนี้ค่าค้างชำระงวดรถยนต์ ไม่กี่เดือนต่อมา แปลงติดกันด้านตะวันตกอีก 22 ไร่ เจ้าของเค้ามาติดต่อขายในราคาเดียวกัน จ่ายเงินสองงวดๆละ 1 ปี
       อีก 2 ปีถัดมา แปลงทิศตะวันตกของแปลงแรก เจ้าของเค้าก็ขายให้อีก 22 ไร่ ในราคาไร่ละ 15k
สมช.ทุกท่านเชื่อหรือไม่ครับ ว่าที่นาสามแปลงติดกัน เป็นสามแถว สภาพดินนี่คนละเรื่องเลยครับ แปลงแรก ดินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทำนาได้ข้าวทุกปี แปลงที่สองนี่เป็นดินทราย แต่เดิม ปล่อยรกร้างว่างเปล่า หญ้ายังไม่ขึ้นเลยครับ มีการเผาหน้าดินทุกปี ให้เขาเช่าทำนา 22 ไร่ ได้ข้าว 6 กระสอบป่าน คิก คิกส่วนแปลงที่สาม พอไปได้ครับ  คิก คิก
     
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12 13 14 ... 20
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 22 คำสั่ง