มิติใหม่วงการข้าวครับ
ข้าวไผ่เป็นข้าวผสมข้ามสายพันธุ์ ที่เกิดจากการผสมข้ามระหว่าง ข้าว และ ไผ่ ครับ ไม่ใช่ข้าวลูกผสม ไฮบริด
ระหว่างข้าวด้วยกันเอง เป็นการคิดนอกกรอบที่ออกจะน่าทึ่งของนักวิชาการเกษตรจีนนายหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้
รับการขนานนามเป็น บิดาแห่งข้าวไผ่ เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว ข้าวไผ่ นี้ได้รับการเปิดตัวในงานสังสรรค์
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเกษตรครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้น ณ. เมือง จี่หนาน (济南) มณฑล ซานตง (山东)
ทางตอนเหนือของประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2007 จากการนำเสนอของโรงเรียนเกษตรกรรม ไหมเจา
หนงแอย๊ะเซวียะเซี่ยว (梅州农业学校) และนักวิชาการเกษตรนามว่า จง จางไหม่ (钟章美) ผู้ทำการผสมพันธุ์
ข้าวไผ่ 2 สายพันธุ์ คือ จู๊ต้าว 966 และ จู๊ต้าว 989 (竹稻 966 竹稻 989) คุณ จง จางไหม่ เป็นเจ้าหน้าที่นัก-
วิชาการเกษตรที่เกษียณจากหน้าที่การงานแล้ว ในวัย 70 นี้ยังคงทำงานวิจัยนี้ในศูนย์วิจัยข้าวไผ่ที่ตั้งอยู่ใน
หมู่บ้าน อ่ายหลิง (霭岭村) อำเภอ เจียวหลิง (蕉岭县) อย่างต่อเนื่อง คุณ จง จางไหม่ สังเกตุเห็นถึงลักษณะ
ธรรมชาติของต้นไผ่นั้นมีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมและภูมิ อากาศที่กว้างขวาง ทนอากาศหนาวเย็น ทน
อากาศร้อน แห้งแล้งได้ดี ทนน้ำท่วมขัง ทนทานทั้งโรคและแมลงได้เป็นอย่างดี มีระบบรากที่หนาแน่น ปลูก
ที่ไหนก็งอกงามที่นั่น จึงมีความคิดในการที่จะนำเอาคุณสมบัติของต้นไผ่มารวมไว้ในต้นข้าว ซึ่งงสามารถนำ
ไปปลูกในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ เช่นตามไหล่เขาเป็นต้น จากความมุนานะพยามยามกว่าสิบปี จึงประสบกับ
ความสำเร็จในการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ไผ่ กับ ข้าว ได้สำเร็จ
ในปี 1971 จง จางไหม่ เริ่มทำการวิจัยทดลองโดยการปลูกข้าวสายพันธุ์หนึ่งเป็นแม่พันธุ์ และปลูกไผ่ไว้
กอหนึ่ง ตระเตรียมให้ต้นไผ่ออกดอกตรงกับระยะเวลาที่ต้นข้าวแทงช่อดอก โดยวิธีทรมานต้นไผ่ให้อดน้ำ
ขาดอาหารจนต้นไผ่เจียนตาย (ต้นไผ่จะไม่ออกดอก ถ้าไม่ประสบพบความแห้งแล้งจนถึงขั้นวิกฤต เพื่อเตรียม
การสืบพันธุ์ด้วยเมล็ดต่อไป) แล้วให้ปุ๋ยให้น้ำจนกระทั่งต้นไผ่ออกดอกในระยะเวลาเดียวกันกับที่ต้นข้าวแทง
ช่อดอก จึงทำการผสมเกษรจนได้เมล็ดข้าวไผ่ที่สมบูรณ์จำนวน 3 เมล็ด จากการนำเมล็ดข้าวไผ่ที่ได้ทั้ง 3
นี้ไปทำการเพาะ ได้ต้นกล้า 3 ต้น แต่เฉาตายไป 2 ต้น คงเหลือที่เติบโตได้ดีเพียง 1 ต้น เป็นถือเป็นข้าวไผ่
รุ่นที่ 1 ที่เกิดจากการผสมระหว่างข้าวเคอเฉิน (科程) เป็นต้นแม่ และไผ่เขียวชิงจู๊ (青竹) ชนิดหนึ่งเป็นต้น
พ่อ ต้นข้าวไผ่ที่เหลือเพียงต้นเดียวนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับต้นไผ่ แตกใบตามข้อ จนกระทั่งอายุได้ 549 วัน
จึงแทงช่อดอกให้เห็น แต่ทว่าไม่ติดเมล็ด จึงทำการตัดทิ้งไป บำรุงเลี้ยงดูจนเวลาผ่านพ้นไป 736 วัน ข้าวไผ่
กอนี้จึงแทงช่อดอกอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ให้เมล็ดข้าวไผ่ที่สมบูรณ์ถึง 136 เมล็ด ปีถัดมา จง จางไหม่ จึงนำ
เมล็ดข้าวไผ่ทั้งหมดไปปลูกลงแปลงนา แต่งอกเพียง 80 ต้นเท่านั้น ในปี 1976 เดือนธันวาคม จง จางไหม่
ได้นำเมล็ดข้าวรุ่นที่ 2 นี้กลับไปยังศูนย์วิจัยจังหวัด เจียวหลิง (蕉岭县农科所) ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ข้าว
เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปี 1993 ทำการผสมพันธุ์ข้าวไผ่ได้ถึงรุ่นที่ 13 จากระยะเวลาเก็บเกี่ยว 700 กว่าวัน หดสั้น
ลงเหลือ100 วันเศษๆ ซึ่งมีอายุเก็บเกี่ยวไล่เรี่ยกับพันธุ์ข้าวทั่วๆไป ปี 2000 จง จางไหม่ ได้ผสมปรับปรุงพันธุ์
ข้าวไผ่ที่มีกรรมพันธุ์คงมั่นอยู่ตัวแตกต่างกันหลาย ลักษณะ
ปี 2003 จง จางไหม่ ได้นำเมล็ดข้าวไผ่ทั้งหมดไปมอบให้โรงเรียนเกษตรกรรมอันเป็นสถานศึกษาที่ตนเอง
ได้สำเร็จการเรียนมา เพื่อให้ทางโรงเรียนได้ทำการวิจัยทดสอบในเชิงลึกต่อไป ปี 2004 ด้วยความร่วมมือของ
โรงเรียนเกษตรกรรม ไหมเจาหนงแอย๊ะเสวียะเซี่ยว (梅州农业学校) กับ สำนักงานวิชาการเมือง ไหมเจาสื้อ
(梅州市科技局) ทำการทดสอบปลูก ข้าวไผ่ ในพื้นที่ทดลอง 320 โหม่ว (133 ไร่) รวมทั้งไร่นาของเกษตรกร
12,000 โหม่ว (5,000 ไร่) ผลผลิตที่ได้อยู่ระหว่าง 500 ~ 600 กิโลกรัม / โหม่ว (1,200 ~ 1,440 กก. / ไร่)
บางแห่งได้ถึง 800 กิโลกรัม / โหม่ว (1,920 กก. / ไร่) คุณสมบัติพิเศษของข้าวไผ่นี้มิได้ให้ผลผลิตที่สูงเท่านั้น
แต่ยังมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ข้าวที่หุงสุกมีกลิ่นหอมของไผ่อ่อนๆ มีประกายมันวาว เนื้อนุ่ม อร่อยลิ้น ขณะนี้
ทางรัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกันขนานใหญ่ เนื่องจากเป็นข้าวพิเศษที่แตกต่างจากข้าวโดย
ทั่วไป ขณะนี้ทางมณฑลอื่นๆต่างได้ขอพันธุ์ข้าวไผ่ไปปลูกยังท้องที่ของตนเอง เพื่อปรับปรุงพัฒนาพันธุ์ให้
เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ
จง จางไหม่ กับกอข้าวไผ่ที่ได้ผสมปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมา (กระถางหน้า)
ข้าวไผ่ 989 ที่เป็นข้าวสาร (ซ้าย) และข้าวสวย (หุงแล้วด้านขวา)
จาก
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=24475.0