เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 02:50:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 13 14 15 [16] 17 18 19 20
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมชาวนาไทยยังยากจน  (อ่าน 56480 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 16 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #225 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 02:45:26 PM »

เพราะเป็นชาวนาในประเทศไทยครับ ถ้าเป็นชาวนาในญี่ปุ่นก็รวยสะดือปลิ้นไปนานแล้ว ทำไงได้ This is Thailand
บันทึกการเข้า
aniki
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 232
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3074


สังคมดีไม่มีขาย...ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง


« ตอบ #226 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 08:09:21 AM »

ชาวเกษตรญี่ปุ่นก็ไม่ได้รวยนะครับ  เพียงแต่ว่ารัฐเขาใส่ใจดูแลให้เต็มที่  เรื่องพันธ์  เรื่องปุ๋ย เรื่องเครื่องมือ  การตลาดจนถึงสวัสดิการของชาวบ้าน พื้นที่ทำกินมีน้อย  ประชากรผู้ทำเกษตรลดลงเรื่อยๆอย่างน่าเป็นห่วง 
มีเรื่องเหลือเชื่อนะครับ  ที่นี่ไม่มีพ่อค้าคนกลางรับซื้อข้าว(โรงสีข้าว)แม้แต่แห่งเดียว  ชาวบ้านจะเก็บข้าวไว้แค่พอกินเหลือนั้นจะเอามารวมกันที่สหกรณ์.
บันทึกการเข้า

ขอคืนคุณสู่แผ่นดิน  รักในหลวง
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #227 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:10:02 AM »

ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นกันจีนมาเห็นชาวบ้านเขามีที่น้อยนิดข้างๆบ้านเขาก็ปลูกพืชผักสวนครัวกันหมดจะไม่มีที่รกร้างว่างเปล่าเหมือนบ้านเรา ไปเห็นที่จีนมาพวกวัชพืชจำพวกมีเนื้อหน่อยเขาตัดมาตากแดดแล้วเก็บใว้เป็นเชื้อเพลิงส่วนพวกที่ไม่มีเนื้อทำปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์เรียกว่าใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่อย่างเต็มที่ บ้านเราใช้ควายเหล็กไถ่โล้ด ทุกอย่างซื้อเอาไม่ว่าปุ๋ยยาพันธุ์พืชแม้แต่แรงงาน
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #228 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 12:04:54 PM »

ชาวเกษตรญี่ปุ่นก็ไม่ได้รวยนะครับ  เพียงแต่ว่ารัฐเขาใส่ใจดูแลให้เต็มที่  เรื่องพันธ์  เรื่องปุ๋ย เรื่องเครื่องมือ  การตลาดจนถึงสวัสดิการของชาวบ้าน พื้นที่ทำกินมีน้อย  ประชากรผู้ทำเกษตรลดลงเรื่อยๆอย่างน่าเป็นห่วง 
มีเรื่องเหลือเชื่อนะครับ  ที่นี่ไม่มีพ่อค้าคนกลางรับซื้อข้าว(โรงสีข้าว)แม้แต่แห่งเดียว  ชาวบ้านจะเก็บข้าวไว้แค่พอกินเหลือนั้นจะเอามารวมกันที่สหกรณ์.

ที่ญี่ปุ่น  มีข้าวสารที่วางขายติดยี่ห้อหลากหลายมาก
เหมือนกับมาจากโรงสีเล็กๆ หรือหมู่บ้านเขาทำกันเอง
คุณสนธ์ พอมีข้อมูลตรงนี้ป่าวครับ
การผลิตข้าวสารขายมีกี่ราย รายใหญ่ รายเล็ก เป็นแบบไหนครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

aniki
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 232
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3074


สังคมดีไม่มีขาย...ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง


« ตอบ #229 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 12:24:06 PM »

ชาวเกษตรญี่ปุ่นก็ไม่ได้รวยนะครับ

ที่ญี่ปุ่น  มีข้าวสารที่วางขายติดยี่ห้อหลากหลายมาก
เหมือนกับมาจากโรงสีเล็กๆ หรือหมู่บ้านเขาทำกันเอง
คุณสนธ์ พอมีข้อมูลตรงนี้ป่าวครับ
การผลิตข้าวสารขายมีกี่ราย รายใหญ่ รายเล็ก เป็นแบบไหนครับ

เมื่อข้าวมารวมกันที่โกดังของสหกรณ์ท้องที่แล้ว  จะถูกสีขัดเปลือกออกใส่กระสอบกระดาษขนาด30โล  ไว้รอจำหน่าย
ไม่ว่าขายในห้างเล็กห้างน้อย  ราคาจะไม่ต่างกัน  และจะแจ้งเสมอว่าเป็นข้าวมาจากจังหวัดไหน  ร้านจำหน่ายต้องมาขอซื้อจากสหกรณ์
ยี่ห้อที่เห็นคือยี่ห้อของบริษัทจำหน่าย  ราคายี่ห้อไหนก็ไม่ต่างกัน

การจะทำนา...ต้องไปลงทะเบียนก่อนว่าจะทำกี่ไร่ ทำตรงไหน  ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ได้  ทำตรงไหนก็ได้ ทางการจะจัดหาพันธ์และปุ๋ยให้  ที่ทำนาต้องเป็นพื้นที่น้ำชลประทานเข้าถึงเท่านั้น  เสียค่าน้ำด้วยนะครับ

คนญี่ปุ่นไม่มีบัตรประชาชน  ไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน  ไม่มีโฉนดที่ดิน  ทุกๆอย่างที่มีนั้นข้อมูลจะอยู่ที่อำเภอ  อยากได้ก็เดินไปขอเอาแปบเดียว   

เกิดมาแล้วทุกคนจะได้เพียงแค่บัตรประกันสุขภาพคนละใบ
บันทึกการเข้า

ขอคืนคุณสู่แผ่นดิน  รักในหลวง
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #230 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 12:42:43 PM »

อ่านมาตั้งแต่ต้นพอจะสรุปว่าชาวนาไทยที่ยังยากจนมี 2 สาเหตุ
1. ต้นทุนของชาวนา, ค่านิยมต่างๆ
2. การบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกการเข้า
pehtor
เลือกปืนก็เหมือนเลือกแฟน นอกจากนิสัยดี ยังต้องหน้าตาดี เข้ากับเราได้
Full Member
***

คะแนน 1201
ออฟไลน์

กระทู้: 265


โอกาสเป็นของคนที่เตรียมพร้อม


« ตอบ #231 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 03:03:42 PM »

... ขออนุญาตครับ ... ผมไม่เคยทำนา ... แต่อยู่ ตจว. รู้จักและเคยคุยกับชาวนา ... หลายคน ...หลายพื้นที่ ... แล้วนี้ก็เป็นอีกมุมหนึ่งของชาวนาภาคอีสานครับ ...

... โดยที่ผมมองว่า ... ปัญหาแต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไป ... เช่น ... ด้วยพื้นฐานเลยก็คือ ที่ดิน น้ำ และพันธ์ข้าว ... นาภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน มีความแตกต่างกัน ... ทั้งดิน ทั้งขนาดการถือครองผืนที่นา และน้ำ... หรือแม้แต่ภูมิภาคเดียวกัน ... แค่ดินและน้ำต่างกัน ... ก็เป็นปัจจัย ที่ทำให้วิธีการและต้นทุนในการผลิตต่างกัน ... ในขณะที่ราคาผลผลิตใกล้เคียงราคาเดียวกันทั้งประเทศ ...

... พ่อของแฟนผม ... มีผืนที่นารวมกัน 3 แปลงเกือบร้อยไร่ ... แต่ทำนาได้ปีละครั้ง ... นาแต่ละแปลงอยู่ในละแวกเดียวกัน ... แต่ดินไม่เหมือนกันทั้ง 3 แปลง ... ต้องสูบน้ำบาดาลมาตกกล้าไว้รอฝน ...สระขุดไว้ 3 ที่ ลึกประมาณ5-6 เมตรได้ ... หน้าแล้งจริงๆ เก็บไม่อยู่ ... ลำห้วยใกล้ๆ ที่ลึกกว่า ยังแห้งขอด ... ระบบส่งน้ำจากชลประทานก็ไม่มี ... อาศัยว่าแกพอเพียงจึงอยู่ได้ ... หมดฤดูทำนา แกก็รับซ่อม ชุน ตัดเย็บ แต่งเสื้อผ้าเก่า ... ได้วันละประมาณ 100 บาท ก็ยังดี ...

... เมื่อก่อนใช้ควายดำนา ... ญาติพี่น้องลงแขกช่วยกัน ... เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ... ต่างอายุมากขึ้น ... แรงก็ถดถอย ... ไม่มีแรงพอที่จะใช้ควายไถนาได้ ...  ต้องพึ่งพารถไถ ... ญาติพี่น้องที่ทำนาเป็น ... ก็อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ... ลูกหลานก็ไม่สืบทอดเจตนา ...  หันไปเอาดีทางวิชาชีพอื่นเป็นหลัก ... การทำนาเป็นงานรอง ที่จำเป็นต้องทำ ...

... เลยเป็นสาเหตุ ... ให้ในปีต่อๆมาต้องจ้างทำนา ... ทำเองบางส่วน... และต้องใช้เครื่องจักรทุ่นแรง ... แกก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่คุ้ม ... แต่จะกำไรมากหรือน้อย... แกก็ต้องทำ  ... ถึงอย่างไรเสียก็ยังมีข้าวกิน ... อีกที่เหลือก็เก็บไว้แจกจ่ายพี่น้องคนอื่น ... ที่ไม่มีนา ...

... แกบอกผมว่า ... ทำนาแบบเรามันไม่มีทางรวยหรอก ... เราไม่มีทุน(แกคงจะหมายถึง เงิน แรงงาน เครื่องจักร ปุ๋ย ... ในชนบททางภาคอีสานส่วนใหญ่จะอาศัยยืมหรือกู้ในการทำนา ทำการเกษตร) ... แต่ก็ต้องทำ ... ถึงไม่มีเงิน ... แต่เราก็ยังมีกิน ...

... แกบอกอีกว่า ... ไม่เคยบังคับลูกหลานให้มาทำนา ... แกทำมาเกือบทั้งชีวิต ทำทุกแบบที่หลวงแนะนำและพาทำ ... ก็ยังทำได้แค่นี้ ... บางทีคนของหลวงก็หนีหายไปเฉยๆ  ... บางทีคนใหม่มาก็ไม่เหมือนคนเก่า ...  

... แล้วทีนี้ทำนามันได้เงินปีละครั้ง ... แต่ค่าใช้จ่ายต้องมี ต้องใช้จ่ายทุกเดือน ... เจ็บไข้ได้ป่วย ... เสื้อผ้า ... น้ำมันรถ ... ค่าเล่าเรียน ... อื่นๆอีกจิปาถะ ...  แกเลยไม่บังคับให้ใครมาเอาดีทางทำนา ...

...ถึงแม้แกจะอายุมากแล้ว ... แกก็ยังบอกว่าจะไม่หยุดทำนา เพราะต้นตระกูลแกเป็นชาวนา ... ทำนาปลูกข้าวให้คนไทยได้กินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ... และแกจะทำต่อไป ...    ไหว้

อันนี้น่าสนใจครับ นาเกือบหนึ่งร้อยไร่ ทำนาปีละครั้ง ถ้าได้ข้าวประมาณ 1000 กก.ต่อไร่ น่าจะมีกำไรประมาณ 350,000 บาทต่อปี คิดที่ราคาประมาณ 7000 บาท ต่อตัน ( ราคา ณ วันนี้ ข้าวความชื้น 20 % ราคา 8000 บาท ความชื้น 25% ราคา 7500 บาท ความชื้น 30% ราคา 7000 บาท)
อันนี้คิดที่ได้ข้าว 1000 กก.ต่อไร่ ซึ่ง จริงๆแล้วอาจไม่ถึง ทีนี้ต้องมาวิเคราะห์ดูว่า สาเหตุที่ชาวนาลำบากเพราะเหตุผลอะไร จริงๆแล้วอาชีพชาวนา เป็นอาชีพที่รวยได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำนาแล้วจะต้องรวย เหมือนการลงทุนทำอาชีพอื่นๆ ร้านอาหาร ค้าขายแล้วรวยก็เยอะ เจ๊งก็เยอะ อยู่ที่การปรับตัว และการวิเคราะห์ปัญหา แล้วกำหนดแนวทางแก้ปัญหาในอาชีพนั้นๆมากกว่า
ถ้าเป็นไปได้ลองฝากคำถามถึงพ่อแฟนด้วยครับ เผื่อได้แนวทางแก้ปัญหา
-   ข้าวที่ปลูกเป็นพันธุ์อะไร เอาเมล็ดพันธุ์จากไหน เปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ทุกกี่ปี  บางครั้งชาวนาใช้พันธุ์ซ้ำติดต่อกันหลายรอบเกินครับ ทำให้ข้าวเกิดการกลายพันธุ์ผลผลิตต่ำ คุณภาพไม่ดี
-   ได้ผลผลิตต่อไร่เป็นเท่าไร จะเป็นตัวที่บอกว่าขาดทุนหรือกำไรเลยก็ว่าได้
-   การทำนามีการใช้ปุ๋ยอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง รวมค่าคนฉีด เฉลี่ยต่อไร่เท่าไร มีการลดการใช้ปุ๋ยเคมี แล้วเพิ่มสัดส่วนการใช้ปุ๋ยอินทรีย์บ้างหรือเปล่า
-   ราคาข้าวที่ขายได้ ได้ตันละเท่าไร
-   การเกี่ยวข้าว เกี่ยวครบตามอายุข้าวหรือเปล่า เช่นข้าวครบอายุที่ 110 วัน เกี่ยวตอนข้าวอายุ 100 วัน 110 หรือ 120 วัน โดยทั่วไปข้าวที่เกี่ยวก่อนอายุประมาณ 5 วัน จะได้ความชื้นประมาณ 30 %  ถ้าเกี่ยวครบตามกำหนดความชื้นจะประมาณ 27 %  แต่ถ้าเกี่ยวหลังอายุประมาณ 10 วัน ความชื้นจะอยู่ที่ประมาณ 22-23 %  ซึ่งถ้าเทียบเป็นราคาข้าวแล้ว  ส่วนต่างจะอยู่ที่ 800-1000 บาท ต่อตันทีเดียวครับ แล้วแต่ภาวะตลาด
-   ที่บอกว่าปัญหาแต่ละแปลงไม่เหมือนกัน ลองแจงว่ามีอะไรบ้าง และได้แก้ปัญหาไปแล้วโดยวิธีใด ปัญหาที่พบคืออะไร กำหนดแนวทางแก้ปัญหาใหม่คืออะไร
-   เคยเอาดินไปให้หน่วยงานเกษตรวิเคราะห์ดินรึยังครับ  เพราะดินแต่ละแปลงสภาพไม่เหมือนกันครับ ต้องวิเคราะห์ดูว่าดินนั้นเป็นดินชนิดไหน เหมาะปลูกข้าว หรือพืชชนิดไหน และวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินด้วยว่ามีชนิดไหนมาก หรือชนิดไหนขาด เพื่อกำหนดแนวทางการใช้ปุ๋ยได้ถูกครับ ปัญหาที่เคยเจอคือชาวนาชอบใส่ปุ๋ยยูเรียมากๆ เพื่อให้ข้าวเขียว ทีนี้ดินก็จะมีแต่ธาตุไนโตรเจนเยอะ แต่ธาตุอื่นไม่มี การใส่ปุ๋ยยูเรียเพื่อเพิ่มธาตุไนโตรเจนจึงไม่มีประโยชน์ ต้องหาปุ๋ยที่สามารถเพิ่มธาตุอื่นมาใส่ครับ
-   ที่บอกว่าทำนาทุกแบบที่หลวงแนะนำให้ทำและพาทำ ทำแบบไหนครับ ได้ผลอย่างไร ปัญหาที่พบคืออะไร กำหนดแนวทางแก้ปัญหายังไงครับ
-   ถามตรงๆ ว่าได้หมักฟางมั้ยครับ การหมักฟางจะเป็นการเพิ่มอินทรีย์ในดิน โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ เพราะมันอยู่ในนาอยู่แล้ว แต่การหมักฟางต้องใช้เวลารอให้ฟางเน่าเปื่อย ถ้าต้องการทำนาให้ได้สามรอบจะไม่ทันครับ ต้องเผาอย่างเดียว
-   ค่าใช้จ่ายในการทำนาทั้งสามแปลงลองแยกออกมาแต่ละรายการเป็นเท่าไรครับ ค่าไถ ค่าเกี่ยว ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมันสำหรับสูบน้ำ ค่าจ้างแรงงานฉีดยา ค่าเมล็ดพันธุ์ เฉลี่ยต่อไร่ต้นทุน เท่าไรครับ
-   ลองหาพืชอื่นมาปลูกช่วงที่ไม่ได้ทำนาหรือเปล่าครับ เพื่อหารายได้เสริม อาจจะไม่ต้องปลูกทั้งร้อยไร่ก็ได้ครับ ถ้าปลูกผัก ปลูกถั่วฝักยาว ผักบุ้ง คะน้า ประมาณนี้ เนื้อที่ซักสองไร่ก็พอครับ เพราะต้องดูเรื่องน้ำประกอบด้วย ถ้าได้กำไรดี ค่อยขยายเพิ่ม
ผมก็ไม่เคยทำนาครับ แต่เคยเห็นชาวนาหลายๆคน ทำนาแบบวัดดวงครับ เคยทำแบบไหนก็ทำแบบนั้น ปีนี้เจอปัญหาแบบนี้ พอทำอีกรอบก็ทำแบบเดิมอีก โดยไม่ได้ทำอะไรเพื่อป้องกันปัญหาหรือแก้ปัญหานั้นเลย  ซึ่งปัญหาบางเรื่องมันก็แก้ได้ครับถ้าจะทำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 15, 2011, 03:07:11 PM โดย pehtor » บันทึกการเข้า

มีชีวิตให้กว้างขวาง ดีกว่ามีชีวิตให้ยืนยาว
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #232 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 03:21:25 PM »

ชาวเกษตรญี่ปุ่นก็ไม่ได้รวยนะครับ

ที่ญี่ปุ่น  มีข้าวสารที่วางขายติดยี่ห้อหลากหลายมาก
เหมือนกับมาจากโรงสีเล็กๆ หรือหมู่บ้านเขาทำกันเอง
คุณสนธ์ พอมีข้อมูลตรงนี้ป่าวครับ
การผลิตข้าวสารขายมีกี่ราย รายใหญ่ รายเล็ก เป็นแบบไหนครับ

เมื่อข้าวมารวมกันที่โกดังของสหกรณ์ท้องที่แล้ว  จะถูกสีขัดเปลือกออกใส่กระสอบกระดาษขนาด30โล  ไว้รอจำหน่าย
ไม่ว่าขายในห้างเล็กห้างน้อย  ราคาจะไม่ต่างกัน  และจะแจ้งเสมอว่าเป็นข้าวมาจากจังหวัดไหน  ร้านจำหน่ายต้องมาขอซื้อจากสหกรณ์
ยี่ห้อที่เห็นคือยี่ห้อของบริษัทจำหน่าย  ราคายี่ห้อไหนก็ไม่ต่างกัน

การจะทำนา...ต้องไปลงทะเบียนก่อนว่าจะทำกี่ไร่ ทำตรงไหน  ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ได้  ทำตรงไหนก็ได้ ทางการจะจัดหาพันธ์และปุ๋ยให้  ที่ทำนาต้องเป็นพื้นที่น้ำชลประทานเข้าถึงเท่านั้น  เสียค่าน้ำด้วยนะครับ

คนญี่ปุ่นไม่มีบัตรประชาชน  ไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน  ไม่มีโฉนดที่ดิน  ทุกๆอย่างที่มีนั้นข้อมูลจะอยู่ที่อำเภอ  อยากได้ก็เดินไปขอเอาแปบเดียว   

เกิดมาแล้วทุกคนจะได้เพียงแค่บัตรประกันสุขภาพคนละใบ

รัฐดูแลดีจัง  แล้วแบบนี้ เกิด ตร.สงสัยเกี่ยวกับคน คนนี้ ปกติเมืองไทยยจะขอดูบัตรประชาชน แต่ที่ญี่ปุ่นทำไงครับ
ในการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยของ ตร.
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #233 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 03:49:04 PM »

ถ้าเป็นไปได้ลองฝากคำถามถึงพ่อแฟนด้วยครับ เผื่อได้แนวทางแก้ปัญหา

.... ขอบคุณครับ ... ท่าน pehtor ...  ไหว้

... ข้อปัญหา ... ที่ ท่าน ได้สอบถามมาทั้งหมด ... ผมจะค่อย ๆ ทะยอยนำคำตอบ มาให้ นะครับ ... เนื่องจากผมและแฟนผม กับพ่อของแฟน อยู่คนล่ะ พื้นที่ ... มีโอกาสแวะไปเยี่ยมท่านเดือน-สองเดือน/ครั้ง ... ยังไม่ได้เห็น กระบวนการจัดการของท่านแบบเต็มๆ สักที ...  
... เท่าที่ได้คุยกัน ก็ เสมือนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ ปรับทุกข์ กัน ... ท่านเป็นคนขยัน ไม่ย้อท้อ ครับ ... แต่ขาดปัจจัยด้านความรู้ การจัดการและวิทยาการสมัยใหม่ ... ซึ่งปีนี้ท่านก็ 72 ขวบ แล้ว ...  Grin ...

...ลองหาพืชอื่นมาปลูกช่วงที่ไม่ได้ทำนาหรือเปล่าครับ เพื่อหารายได้เสริม อาจจะไม่ต้องปลูกทั้งร้อยไร่ก็ได้ครับ ถ้าปลูกผัก ปลูกถั่วฝักยาว ผักบุ้ง คะน้า ประมาณนี้ เนื้อที่ซักสองไร่ก็พอครับ เพราะต้องดูเรื่องน้ำประกอบด้วย ถ้าได้กำไรดี ค่อยขยายเพิ่ม...

... ข้อนี้ พอจะตอบได้ ครับ ... เพราะเห็นท่านลองทำบ่อย ... ปัญหานี้ผมพอจะมองออกว่า ... ผลผลิตมันไม่ตรงตาม ความต้องการของตลาดในขณะนั้น ขายไม่ได้ราคา ... เป็นลักษณะการทำลองผิดลองถูกอย่างที่ ท่าน pehtor ว่า ... ปัจจัยหนึ่งก็คงเป็นเพราะ  ไม่รู้เรื่องความต้องการของตลาดสินค้าการเกษตร ... ผมเองก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน เพราะไม่รู้เหมือนกัน ... ไหว้

... ผมก็ไม่เคยทำนาครับ แต่เคยเห็นชาวนาหลายๆคน ทำนาแบบวัดดวงครับ เคยทำแบบไหนก็ทำแบบนั้น ปีนี้เจอปัญหาแบบนี้ พอทำอีกรอบก็ทำแบบเดิมอีก โดยไม่ได้ทำอะไรเพื่อป้องกันปัญหาหรือแก้ปัญหานั้นเลย  ซึ่งปัญหาบางเรื่องมันก็แก้ได้ครับถ้าจะทำ ...

... เห็นทีผมจะต้องขอคำปรึกษาจากท่านแล้วล่ะครับ ...  ไหว้ ... เพราะในอนาคตแฟนผมคงต้องกลับไปอยู่จุดนั้น ... แทน 2 ตายาย ... ซึ่งหมายความว่า ผมก็คงต้องตามไปด้วยโดยปริยาย ... คิก คิก คิก คิก คิก คิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 15, 2011, 06:25:35 PM โดย สหายเล็กน้อย » บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
aniki
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 232
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3074


สังคมดีไม่มีขาย...ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง


« ตอบ #234 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 05:41:59 PM »

อ้างจาก: submachine -รักในหลวง- link=topic=93348.msg2997112#msg2997112 date=12950796
[/quote

รัฐดูแลดีจัง  แล้วแบบนี้ เกิด ตร.สงสัยเกี่ยวกับคน คนนี้ ปกติเมืองไทยยจะขอดูบัตรประชาชน แต่ที่ญี่ปุ่นทำไงครับ
ในการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยของ ตร.
ผมไม่เคยเห็นตำรวจตรวจค้นเลยครับ  เมืองผมอยู่มีประชากร3หมื่นปลายๆ  ยังไม่มีสถานีตำวจเลย  ปัญหาอาชญากรรม  อยู่นี่มา20ปีผมยังไม่เคยได้ยินเมืองนี้มีการฆ่ากันเลย  มีขโมยบ้างไม่กี่ครั้ง  ถ้ามีการตรวจกันส่วนมากจะมีใบขับขี่กันทุกคน  หรือบัตร เอทีเอ็ม  บัตรนักเรียน  หรือโทรไปหาผู้ปกครอง  เขาเชื่อใจกันครับ  เพราะพื้นฐานของคนยุ่นไม่ตอแหล  แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีนะครับ

ผมเคยถูกจังๆครั้งหนึง  กลางคืนเข้าไปเที่ยวในจังหวัด  ขอกลับออกมาเจอด่านตรวจ  วันนั้นผมลืมเอาเอกสารไป  หลังจากที่โดนจับเป่าแล้วเค้าขอดูเอกสารผม  แค่บอกชื่อเค้าไป  เค้าว.ในรถไปถามที่ศูนย์ ไม่กี่วินาที  ข้อมูลผมก็ออกมาหมดครับ
บันทึกการเข้า

ขอคืนคุณสู่แผ่นดิน  รักในหลวง
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #235 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 06:21:03 PM »


แค่บอกชื่อเค้าไป  เค้าว.ในรถไปถามที่ศูนย์ ไม่กี่วินาที  ข้อมูลผมก็ออกมาหมดครับ

ผมอยากให้เมืองไทยมีตรงนี้แหละ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

aniki
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 232
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3074


สังคมดีไม่มีขาย...ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง


« ตอบ #236 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 07:11:17 PM »


แค่บอกชื่อเค้าไป  เค้าว.ในรถไปถามที่ศูนย์ ไม่กี่วินาที  ข้อมูลผมก็ออกมาหมดครับ

ผมอยากให้เมืองไทยมีตรงนี้แหละ
มันจะมีได้อย่างไรครับ  ใบขับขี่ขนส่งทำ  คนดูเป็นตำรวจ??  ที่นี่ตำรวจคุมหรือดูแลทั้งหมด  ไปต่อใบขับขี่  ไปต่อที่สถานีตำรวจในจังหวัดที่เราอาศัยอยู่สถานีไหนก็ได้  ตอนทำครั้งแรกต้องไปทำที่  คาร์ ไลเซ่น  เซนเตอร์  มีจังหวัดละแห่ง  ตำรวจทั้งนั้น
แต่ตำรวจฝ่ายนี้ไม่ได้เป็นตำรวจจับโจรจับขโมย  จึงไม่เคยจับปืนหรือพกปืน  แต่เชี่ยวชาญด้านจราจร  เรียกว่าแค่เห็นรอยยุบ  เค้าก็บอกได้เลยว่าใช้ความเร็วเท่าไหร่  อุ้ย  กระทู้กลายแหละน้องซับ. 
บันทึกการเข้า

ขอคืนคุณสู่แผ่นดิน  รักในหลวง
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #237 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 10:04:51 PM »

หลายอย่างที่อ่านมา โดยเฉพาะเรื่องเล่าจากญี่ปุ่นของพี่สน

... ทำให้เกิดคำถามในใจ .......... ทำไมของดีๆ ที่เอาเป็นแบบอย่างมาจัดการปัญหาในบ้านเมืองได้

มันไม่ทำกัน ... เสียดาย "งบประมาณไปดูงาน" จัง  ...  หัวเราะร่าน้ำตาริน

... สหกรณ์ไม่มีทางเข้มแข็งในประเทศนี้ได้ ... ตราบใดพวกนายทุนยังบริหารประเทศ ขูดเลือดขูดเนื้อประชาชนอยู่

เอาแค่ "ปฏิรูปที่ดิน" ก็พอ ... ป่านนี้ถึงไหนแล้วไม่รู้  โดนชก
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
พ่อน้องนะโม
คิดดี ทำดี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 60
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1711


ยิงดี แต่ศรีภรรยาไม่สนับสนุน


« ตอบ #238 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 12:23:21 PM »

 ไหว้ ไหว้ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 17, 2011, 12:25:11 PM โดย พ่อน้องนะโม » บันทึกการเข้า

ฉันเป็นลูกหลานชาวนา ฉันเลือกเกิดไม่ได้ แต่ฉันเลือกที่จะเป็นคนดีของสังคมได้
ที่บ้านฉัน ในหลวงท่านพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างตึกในโรงพยาบาล
และท่านพระราชทานชื่อตึกว่า "ตึกพิทักษ์ไทย"
jane1
Full Member
***

คะแนน 42
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 406



« ตอบ #239 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 04:30:17 PM »

กลับบ้านที่อยุธยา พ่อกับแม่ ทำนาปีไว้ 2 ไร่
ได้ผลผลิตไม่ถึง ครึ่ง ตัน(เกวียน)ครับ
ไม่ทราบว่าพี่ๆพอจะทราบเรื่องที่ รัฐบาลจะช่วยเหลือชาวนา
ที่ประสบภัยแล้งบ้างไหมครับ ว่าได้ค่าช่วยเหลือไร่ละเท่าไร

                    ขอบคุณครับ


ปีนี้หน้าน้ำ น้ำท่วมหนัก หน้าแล้งก็แล้งจริง ครับ
บันทึกการเข้า

ตึกยังรู้พัง
สตางค์ยังรู้หมด
แต่ไมตรีอันสวยสด
ไม่มีหมดเหมือนสตางค์
หน้า: 1 ... 13 14 15 [16] 17 18 19 20
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.154 วินาที กับ 22 คำสั่ง