เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 07, 2024, 07:21:22 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลาก่อนความโกหก  (อ่าน 2552 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 11:48:05 AM »

          บทความดีๆเกี่ยวกับการโกหก.. แม้เราทุกคนจะได้รับการสั่งสอนจากผู้ใหญ่มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ให้พูดแต่ความจริง ไม่ให้พูดโกหก และสำหรับชาวพุทธ การโกหกถือเป็นการผิดศีล แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แทบทุกคนไม่มีใครที่ตลอดชีวิตไม่เคยโกหกเลย ...

การโกหกเป็นสิ่งไม่ดี เราทุกคนรู้และไม่มีใครชอบ แต่เพราะอะไร ทำไมถึงต้องโกหก

ยิ่งใกล้ชิดยิ่งโกหก

นักจิตวิทยาพบว่า มนุษย์เริ่มโกหกเป็นตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเมื่ออายุได้ 5 ขวบ ความสามารถในการโกหกจะได้รับการพัฒนาขึ้นอีกมาก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะในทางจิตวิทยาถือว่าการโกหกเป็นธรรมชาติของเด็กที่เกิดขึ้นอย่างบริสุทธิ์ ไม่มีพิษมีภัย เพราะเด็กยังไม่สามารถแยกแยะจินตนาการออกจากความจริงได้

เด็กมักโกหกเพราะความกลัว ต้องการเลียนแบบและเรียกร้องความสนใจจากผู้ใหญ่

แต่เมื่อโตขึ้น ไม่ว่าหญิงและชาย ประเภทและระดับการโกหกจะยิ่งมากขึ้นและซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

งานวิจัยล่าสุดของ โรเบิร์ต เฟลด์แมน อาจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์ และผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Liar in Your Life พบว่า ระหว่างการสนทนาทุกๆ 10 นาที จะมีการโกหกประมาณ 2-3 ครั้ง และในบางคู่สนทนาอาจเกิดขึ้นได้มากถึง 12 ครั้ง

เจมส์ แพตเตอร์สัน ผู้เขียนหนังสือ The Day America Told the Truth เผยว่า ไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นใครก็ตามแต่ แทบทุกครั้งของการสนทนามักจะมีเรื่องโกหกร่วมอยู่ด้วยเสมอ เป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะพูดความจริงต่อกันทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคนใกล้ชิดอย่างคู่รัก พ่อ แม่ ลูก

โกหกกันเพื่ออะไร
การโกหกเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาตราบเท่าที่มีการสื่อสารกัน แม้กระทั่งการสื่อสารข้อความผ่านอีเมล หรือการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ (sms)ก็เป็นอีกช่องทางยอดฮิตในการโกหก

พอล เอ๊กแมน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งศึกษาเรื่องการโกหกมานานกว่าสี่สิบปี ลงความเห็นว่า “มนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโกหกได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจเรื่องการโกหกจะเป็นผลดีต่อชีวิต”ว่าจะดีขึ้นแค่ไหน เราคงต้องมาพิจารณาดูประเภทของการโกหกก่อน

โกหกสีขาว (White Lie) เป็นการโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง

งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การ “รู้จักโกหก”เพื่อเข้าสังคมนั้น ส่งผลให้บุคคลนั้นๆ เป็นที่ชื่นชอบของคนในสังคมมากกว่าผู้ที่พูดแต่ความจริงเพราะการเข้าสังคมบางครั้งจำเป็นต้องปรุงแต่คำพูดซึ่งต่างไปจากความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อให้คู่สนทนาสบายใจและประทับใจ

โกหกเพื่อปกป้องตนเอง เป็นการโกหกเพื่อการเอาตัวรอด เช่นกลัวความผิด กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวเสียเกียรติ กลัวการเผชิญหน้า กลัวความผิดหวัง ฯลฯ การโกหกประเภทนี้ในบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นโยนความผิด ใส่ความผู้อื่น เป็นพยานเท็จ ฯลฯ

โกหกเพื่อหวังผลประโยชน์ เป็นการโกหกเพื่อทำให้ตนเองได้รับการยอมรับ ความไว้วางใจ ได้โอกาสในการทำงาน มักเป็นในรูปของการปลอมแปลงข้อมูลทางคุณวุฒิ คุณสมบัติ ฐานะการเงิน ฯลฯ

โกหกตนเอง มักเกิดกับคนที่สูญเสียความมั่นใจ สับสน และหวาดกลัวความจริง คนประเภทนี้มักสร้างเรื่อง “หลอกตนเอง”ให้คลายจากความทุกข์ชั่วขณะ เช่นหลอกว่าคนรักที่ทอดทิ้งไปยังมีใจให้อยู่เสมอ และสุดท้ายคนเหล่านี้มักโทษตนเอง อาจเลยไปถึงขั้นทำร้ายร่างกายตนเองหรือตกอยู่ในภาวถซึมเศร้าก็มี

และเมื่อไรก็ตามที่การโกหกลักษณะนี้มีการพัฒนาการมากขึ้น ข้อมูลที่ไม่จริงทั้งหลายก็จะถูกตอกย้ำใส่หูตนเองซ้ำๆ จนตัวเองเริ่มเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จากนั้นจึงนำเรื่องไม่จริง(ที่ตัวเองเชื่อว่าจริง)นี้ไปบอกผู้อื่นต่อ ทางจิตเวชถือว่าอาการเช่นนี้อยู่ในข่ายอันตรายที่ต้องได้รับการบำบัดเยียวยาอย่างเร่งด่วน

ผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีความสามารถในการใช้สมองซีกขวา รวบรวมเรื่อง จัดการอารมณ์และความรู้สึกได้ดีกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมักโกหกเพื่อถนอมความรู้สุก รักษาน้ำใจของคนใกล้ชิด

• ผู้ชาย * มักโกหกเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและมักเห็นว่าการโกหกเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด สถิคิโดยเฉลี่ย ผู้ชายจะโกหกมากถึง 6 ครั้งต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงจะโกหกเพียง 2 ครั้งต่อวัน

• - ประโยคโกหกยอดฮิตของทั้งหญิงและชาย “ไม่เป็นไร… สบายดี”

• - ประโยคโกหกยอดฮิตที่ทำให้คนรักหน้ามืดตามัว “คุณเป็นคนเดียวที่ฉันจะรักจนวันตาย”

• - ประโยคโกหกยอดฮิตที่คนมักใช้กับคนรักเพื่อหวังให้อีกฝ่ายใจอ่อนยอมยกโทษให้ “รับรองจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก…ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย”

จะรู้ได้อย่างไรว่าใครโกหก
นักจิตวิทยาพบสถิติที่น่าสนใจว่า บรรดาคนพูดโกหกจำนวนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ หากพบว่าไม่มีใครจับได้ คนเหล่านั้นก็มีแนวโน้มจะพูดโกหกต่อไปเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าการโกหกเป็นเรื่องธรรมดา

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ไม่ว่าคนคนนั้นจะโกหกได้แนบเนียนอย่างไร ก็ไม่อาจปิดบังปฏิกิริยาในร่างกายขณะโกหกได้ เช่นอัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรจะไม่สม่ำเสมอ เหงื่อจะออกมากขึ้น อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ที่สำคัญระดับความดันโลหิจจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการระคายเคืองในระดับเนื้อเยื่อ เช่นบริเวณจมูก ลำคอ ใบหน้า คนที่กำลังโกหกจึงมักเกาหรือถูผิวหนังบริเวณนั้นบ่อยๆเพื่อลดการระคายเคือง

อาการผิดปกติที่พบเห็นทั่วไปเมื่อเวลาโกหก

1. หลบสายตา กะพริบตาหรือกลอกตามองซ้ายขวาไปมาบ่อยครั้งอย่างไม่จำเป็น
2. กลืนน้ำลายบ่อยกว่าปกติ อาการนี้ผู้ชายจะเป็นมากกว่า
3. น้ำเสียงไม่ปกติ ขึ้นเสียง โวยวายเมื่อถูกถามซ้ำๆเพราะคนโกหกจะไม่สามารถจดจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้นาน หรือเล่าความได้ครบถ้วนเหมือนตอนที่เล่าครั้งแรก
4. ตอบคำถามด้วยการย้ำคำพูดหรือหยุดชะงัก ก่อนจะตอบคำถามแบบยืดยาวด้วยการทวนคำถามอีกรอบ ทั้งนี้เพื่อประวิงเวลาในการสร้างเรื่องโกหก

โกหกแล้วได้อะไร
อันดับแรกคือ ความโล่งอกที่หลุดพ้นภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นมาได้ แต่สิ่งที่จะตามมาติดๆคือ ความกังวลใจ กลัวไปสารพัด เพราะไม่อยากถูกจับได้

แต่ยิ่งกลัวมากเท่าไร โอกาสที่การโกหกจะลุกลามต่อไปก็มีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะเมื่อกลัวว่าที่โกหกไปแล้วจะไม่แนบเนียนก็ย่อมต้องโกหกเรื่องอื่นๆ ตามมาเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือขึ้นอีกเป็นชั้นๆ บางกรณีเมื่อโกหกแล้วยังไม่มีใครจับได้ ก็ได้ใจและทำต่อไปเรื่อยๆ สำหรับบางคนเลยเป็นสิ่งที่กลายเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย

แต่ความลับไม่มีในโลก ดังนั้นไม่ว่าการโกหกจะถูกเปิดโปงด้วยวิทยาการล้ำสมัยหรือเป็นการจนมุมง่ายๆด้วยวิธีใดก็ตามที ผลที่ผู้โกหกจะได้รับคงไม่แตกต่างไปจากเด็กเลี้ยงแกะที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเชื่อถือและให้ความไว้วางใจอีกต่อไป








                             ก๊อปปี้มาจากเวปอื่นครับ  Grin           สวัสดีครับ...  pasta   ไหว้ หลงรัก หลงรัก หลงรัก
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 11:59:41 AM »

ขอบคุณครับ ว่ากันว่าการโกหกไม่ยาก แต่จะยากตรงที่มันต้องโกหกตลอดไปให้เหมือนเดิม เช่นโกหกภรรยาเป็นต้น หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:11:02 PM »

ขอบคุณมาก  + ๑ ให้แล้ว ครับ..  Cheesy
บันทึกการเข้า

pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:19:23 PM »

ขอบคุณมาก  + ๑ ให้แล้ว ครับ..  Cheesy

กราบขอบคุณครับพี่  ไหว้ หลงรัก
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
M 60 - 7 รักในหลวง
๗๗๖๙ "จับตาทุกความเคลื่อนไหว เฝ้าฟังทุกคำพูดของผู้คิดร้ายทำลายชาติ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1562
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2569



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:21:12 PM »

"โกหกสีขาว (White Lie) เป็นการโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง"

 Cheesyผมทำบ่อยครับ เวลากลับบ้านดึกๆ ขอบคุณท่าน pasta ครับ
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:32:02 PM »

"โกหกสีขาว (White Lie) เป็นการโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง"

 Cheesyผมทำบ่อยครับ เวลากลับบ้านดึกๆ ขอบคุณท่าน pasta ครับ


ครับผม  ไหว้ หลงรัก
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:40:58 PM »

ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  คิก คิก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:51:51 PM »

               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   เศร้า        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     บู่



บันทึกการเข้า

                
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:55:21 PM »

               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   เศร้า        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     บู่







พอกันครับพี่ มีแต่สังคมคนเวปนี้เท่านั้นที่ผมกล้าพูดตรงๆด้วย  อาชีพผมเองถ้าพูดตรงหมดได้มีคนฆ่าตัวตายแน่ๆ ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
ฅนบ้านนอก
นำแหน่พ่ออ่าว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 401
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1228


หากินซามฮ้อดมื้อตาย


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 12:58:39 PM »


              ขอบคุณท่านพาสต้ามากครับสำหรับสิ่งดีๆที่คอยบอกคอยเตือนสติ
              แต่บางครั้ง    ผมรู้ว่าเขาโกหกเขาหลอกผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ครับ....(บางกรณี)... ไหว้
บันทึกการเข้า


   แนวนาม เขียดอีโม่นาหน้าต่ำ มันบ่สมส่ำเซื้อเครือเจ่าซาติหงส์ ดอกตี๋
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:12:20 PM »

ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  คิก คิก คิก คิก คิก คิก

 กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
 ภรรยา      นี่ เธอวันนี้จะกินอะไร ดีจ๊ะ หลงรัก
 สามี         อะไรก็ได้จ๊ะ
 ภรรยา      งั้นผัดผัก รวมมิตรนะ
 สามี         ก็ได้
 หลังจากนั้น ภรรยาก็หายเข้าไปในครัว  1 ชั่วโมง
 ภรรยา ตะโกนออกมาจากใน ครัว ว่า            กับข้าวเสร็จแล้ว  พร้อมตักมาให้ สามี ชิม
 สามี         ในขณะที่ชิม    ตกใจ   แบร่ แบร่ แบร่ แบร่ แบร่  หัวเราะร่าน้ำตาริน  หัวเราะร่าน้ำตาริน
 ภรรยา      อร่อยมั้ย  ขาดอะไรบ้าง  
 สามี         เอ่อ.....อืม.....   (ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนที่แล้ว  สถานการณ์นี้เคยกิดขึ้น มาแล้ว 1 ครั้ง ยังจำแม่น กับคำถามที่ว่า  อร่อยมั้ย ขาด   อะไรบ้าง   ตอนนั้นตอบไปว่า " โคตรเค็มเลยอ่ะ" หัวเราะร่าน้ำตาริน    ก็โดนสวนกลับว่า   "ทำไมไม่ทำเองเลย ว่ะ  พอกรูทำก็บ่น" Angry
  ย้อนกลับมา  เวลาปัจุบัน  กับคำถาม เดิมอีกครั้ง กับคำถามที่  ขาดอะไรอีกมั้ย  
 สามี         "ก็อร่อย ดี น่ะ"  ขณะนั้น ความคิดเริ่มแล่น เข้ามาใน สมอง แล้ว เค้าก็  ปิ้ง ๆๆๆ   Grin  พร้อมพูดในใจว่า  ออกไปข้างนอกดีกว่า
                 เดี๋ยวให้แม่ยายกลับมาก่อน  คิก คิก คิก คิก
  สามี      นี่เธอ  ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะ  จะไป  บ้าน ........    เดี๋ยว
 ภรรยา     รีบไปรีบกลับ นะ    หลงรัก หลงรัก
 สามี         จ้า    ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

  ผู้เป็น สามี  ใช้เวลา อยู่ 2 ชั่วโมงกับร้านน้ำชา หน้าปากซอย และคอยดูแม่ยายว่ากลับมาตอนไหน  เมื่อแม่ยายกลับเข้าไปในบ้าน ได้  20 นาที   ผู้เป็นสามี ก็ตามแม่ยายเข้าไปใน บ้าน พร้อมกับได้ยินเสียงว่า
 แม่ยาย        โอ้โห  Shocked นี่กับข้าวหรือ อาหารแมว ว่ะ แบบนี้ใครจะกินลง   อ๋อย บู่
 ภรรยา         ก็เมื่อกี้   พี่เค้าบอกว่าอร่อยดีนี่  Huh
 แม่ยาย        อร่อย ของ มึงคนเดียวซิ                     สามีก็เข้ามาแจม พอดี
 สามี            เถอะน่านะ อะไร ผมก็กินได้   เรื่องแค่นี้เอง  อย่ามีเรื่อง มีราวกันเลย   ยิ้มีเลศนัย
 แม่ยายเลยเอา ผัดผักเข้าครัวเพื่อแก้ รสชาดใหม่ทั้งหมด
 ในขณะที่สามี บอกกับ ภรรยาว่า "  เถอะน่า ปล่อยๆแกบ้าง  แกอยากทำอะไร อย่าไปขัดแก นะ แก แม่เรา นะ "  ยิ้มีเลศนัย
 ภรรยา        เงียบ   หน้างอ   งอนแม่ยาย  เศร้า งอน งอน งอน
สามี   นึกในใจว่า "กูรอดตายแล้วโว้ย   ได้กินกับข้าวอร่อยฝีมือแม่ยาย  แถมไม่ต้อง แดรก ไอ้ผัดผัก นรกนั้น"  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก  
  จบ....
 


บันทึกการเข้า
วุธ อุดร -รักในหลวง~
เชื่อเขา เราเจริญ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 198
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2896



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:21:39 PM »

ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  คิก คิก คิก คิก คิก คิก

 กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
 ภรรยา      นี่ เธอวันนี้จะกินอะไร ดีจ๊ะ หลงรัก
 สามี         อะไรก็ได้จ๊ะ
 ภรรยา      งั้นผัดผัก รวมมิตรนะ
 สามี         ก็ได้
 หลังจากนั้น ภรรยาก็หายเข้าไปในครัว  1 ชั่วโมง
 ภรรยา ตะโกนออกมาจากใน ครัว ว่า            กับข้าวเสร็จแล้ว  พร้อมตักมาให้ สามี ชิม
 สามี         ในขณะที่ชิม    ตกใจ   แบร่ แบร่ แบร่ แบร่ แบร่  หัวเราะร่าน้ำตาริน  หัวเราะร่าน้ำตาริน
 ภรรยา      อร่อยมั้ย  ขาดอะไรบ้าง 
 สามี         เอ่อ.....อืม.....   (ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนที่แล้ว  สถานการณ์นี้เคยกิดขึ้น มาแล้ว 1 ครั้ง ยังจำแม่น กับคำถามที่ว่า  อร่อยมั้ย ขาด   อะไรบ้าง   ตอนนั้นตอบไปว่า " โคตรเค็มเลยอ่ะ" หัวเราะร่าน้ำตาริน    ก็โดนสวนกลับว่า   "ทำไมไม่ทำเองเลย ว่ะ  พอกรูทำก็บ่น" Angry
  ย้อนกลับมา  เวลาปัจุบัน  กับคำถาม เดิมอีกครั้ง กับคำถามที่  ขาดอะไรอีกมั้ย 
 สามี         "ก็อร่อย ดี น่ะ"  ขณะนั้น ความคิดเริ่มแล่น เข้ามาใน สมอง แล้ว เค้าก็  ปิ้ง ๆๆๆ   Grin  พร้อมพูดในใจว่า  ออกไปข้างนอกดีกว่า
                 เดี๋ยวให้แม่ยายกลับมาก่อน  คิก คิก คิก คิก
  สามี      นี่เธอ  ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะ  จะไป  บ้าน ........    เดี๋ยว
 ภรรยา     รีบไปรีบกลับ นะ    หลงรัก หลงรัก
 สามี         จ้า    ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

  ผู้เป็น สามี  ใช้เวลา อยู่ 2 ชั่วโมงกับร้านน้ำชา หน้าปากซอย และคอยดูแม่ยายว่ากลับมาตอนไหน  เมื่อแม่ยายกลับเข้าไปในบ้าน ได้  20 นาที   ผู้เป็นสามี ก็ตามแม่ยายเข้าไปใน บ้าน พร้อมกับได้ยินเสียงว่า
 แม่ยาย        โอ้โห  Shocked นี่กับข้าวหรือ อาหารแมว ว่ะ แบบนี้ใครจะกินลง   อ๋อย บู่
 ภรรยา         ก็เมื่อกี้   พี่เค้าบอกว่าอร่อยดีนี่  Huh
 แม่ยาย        อร่อย ของ มึงคนเดียวซิ                     สามีก็เข้ามาแจม พอดี
 สามี            เถอะน่านะ อะไร ผมก็กินได้   เรื่องแค่นี้เอง  อย่ามีเรื่อง มีราวกันเลย   ยิ้มีเลศนัย
 แม่ยายเลยเอา ผัดผักเข้าครัวเพื่อแก้ รสชาดใหม่ทั้งหมด
 ในขณะที่สามี บอกกับ ภรรยาว่า "  เถอะน่า ปล่อยๆแกบ้าง  แกอยากทำอะไร อย่าไปขัดแก นะ แก แม่เรา นะ "  ยิ้มีเลศนัย
 ภรรยา        เงียบ   หน้างอ   งอนแม่ยาย  เศร้า งอน งอน งอน
สามี   นึกในใจว่า "กูรอดตายแล้วโว้ย   ได้กินกับข้าวอร่อยฝีมือแม่ยาย  แถมไม่ต้อง แดรก ไอ้ผัดผัก นรกนั้น"  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก 
  จบ....
 




นินทาเมียมันบาปนะบัง คิก คิก
บันทึกการเข้า

ลูกต้นแม่น้ำเจ้าพระยา  มาติดปลาร้าอยู่อุดร
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:22:44 PM »

               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   เศร้า        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     บู่





การค้าการขายก็ต้องโกหกเป็นธรรมดา ครับ ลุง ผมก็โกหก ยอมรับ
 ผมไม่กล้าพูดหรอกครับ   สายชารท์ มาเส้น นึง 15-18 บาท ขาย  100  ลูกค้าต่ออย่างมากก็ได้แค่ 80 บาท
โอ้ย นี้ก็เท่าทุนแล้ว ลดไม่ได้  ผมไม่บอกหรอก ครับ  มันมาเส้นนึง 18 บาท ขาย  80 บาทเนี้ย เท่าทุนแล้ว   ขำก๊าก ขำก๊าก
 โดนถีบ เอาง่ายๆ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:25:28 PM »

งั้นโทรศัพท์ที่ว่าซ่อม 400 ก็200 ละกัน Cool
บันทึกการเข้า

RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:28:06 PM »

งั้นโทรศัพท์ที่ว่าซ่อม 400 ก็200 ละกัน Cool

 ตกใจ   ผมยังไม่ได้เห็นเครื่อง เลย อ่ะ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน  ส่งมาซิจะ ฟันให้เละ เล้ย   น้ำลายหก น้ำลายหก ขำก๊าก ขำก๊าก



นินทาเมียมันบาปนะบัง คิก คิก

 ตกใจ  ไหนชื่อเมีย ผม  ม่ายยยมีซักกะนิด    คิก คิก คิก คิก คิก คิก            ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก    ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:29:59 PM โดย ศักดา. » บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.113 วินาที กับ 22 คำสั่ง