ขออนุญาตนอกเรื่องปืน ถามเรื่องรถยนต์

[FCUK]

เบนซ์ซีคลาส C200 kompressor กับ BMW 320 ป้ายแดงทั้งคู่ ราคาสองล้านต้นๆ ควรเลือกรุ่นไหนดี ในความเข้าใจของผม เบนซ์น่าจะขายต่อหลังจากใช้งานไม่เกินสองแสนโล ได้ในราคาดีกว่าบีเอ็ม
ส่วนเรื่องของสมรรถนะและการทรงตัว  ท่านใดมีประสบการณ์ข้อแตกต่างของสองรุ่นนี้บ้าง   ขอบคุณล่วงหน้า

[Southlander]

ไม่เคยใช้ทั้งคู่แต่จากที่พอทราบข้อมูลบ้าง ถ้าเป็นผมจะหลีกเลี่ยงรถเบ็นซ์ที่มีระบบ kompressor ทุกรุ่นถึงแม้ตัวเลขแรงม้าดูน่าพอใจ
แต่ kompressor ก็อาศัยหลักการอัดอากาศให้เครื่องยนต์คล้ายเทอร์โบ ขับด้วยสายพานเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้ไอเสียมาปั่นแบบเทอร์โบ
ตัว kompressor ทั้งชุดราคาแพงเป็นแสนค่าซ่อมก็ไม่ถูกเป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเพราะมีการเคลื่อนไหวของโรเตอร์ซึ่งต้องหมุนเพื่อ
การอัดอากาศ
 เพราะรถเบนซ์ที่ซีซีน้อยมักติดตั้ง kompressor เพื่อเรียกแรงม้าจะได้ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับเอาซีซีสูง มาขายเพราะกำแพงภาษี
  ถ้าอยากได้แรงม้าแรงบิดที่ดี เลือกรุ่นที่ไม่มี  kompressor แต่เอาเครื่องใหญ่ ซีซีสูงไว้ก่อนดีกว่าครับ

ส่วน BMW 320  ก็น่าสนที่มีรุ่น 320d ที่เป็นเครื่องดีเซลให้เลือก

[อรชุน-รักในหลวง]

สอบถามต่ออีกนิดครับ ทั้ง2รุ่นป้ายแดงที่ว่า เป็นโฉมไหนครับ

[FCUK]

สอบถามต่ออีกนิดครับ ทั้ง2รุ่นป้ายแดงที่ว่า เป็นโฉมไหนครับ

รุ่นปี 2009 ครับ

[ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ]

ถ้าเป็นตัวดีเซลผมเลือกBMWครับ ถ้าตัวเบนซิลผมเลือกC Class

[อรชุน-รักในหลวง]

จากที่ไปเช็คราคา+ข้อมูลมา 2รุ่นนี้ถ้าป้ายแดงไม่2ล้านต้นนะครับ 2ล้านกลาง-แก่

ราคาตัวเบนซิน
C-200 CGI  2,499,000 บาท แรงม้าสูงสุด 184/5250  แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm)  270/1800–4600 
320i SE  2,599,000 บาท แรงม้าสูงสุด156/6,400 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 200/3,600

เบนซ์ให้กำลังดีพอสมควร แต่ให้อัตราบริโภคเชื้อเพลิงใกล้เคียงกัน ทางBMW มีเกียร์อัตโนมัติ6จังหวะมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน น้ำหนักตัวก็เบากว่ากัน
320อยู่ที่ 1,435กิโลกรัม  C200หนัก 1,505กิโลกรัม ทำให้อัตราเร่งไม่หนีกันมากนัก ทางเบนซ์จะทำได้ดีกว่า0-100ทำได้ 8.5วินาที 320ทำได้ 9.8วินาที
เครื่องเบนซิน C200ดูจะคุ้มค่ากว่าครับ


ราคาตัวดีเซล
C-250 CDI ทะลุไป 3,099,000 บาท แรงม้าสูงสุด 204/4200 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 500/1600–1800
320d 2,699,000 บาท แรงม้าสูง184/4,000 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 380/1,900-2,750

เรื่องกำลัง คล้ายกับทางเบนซินเบนซ์ให้กำลังดีกว่า แต่อัตราเร่งทางเบนซ์ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย 0-100 ทำได้7.0 วินาที 320d ทำได้ 7.6 วินาที
การบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 320dทำได้ดีกว่าเฉลียที่ 18.9กิโลเมตร/ลิตร  C200ทำได้ 17.3 กิโลเมตร/ลิตร เพราะเครื่องใหญ่กว่า น้ำหนักตัวมากกว่า
เครื่องดีเซล เทียบกันแล้ว 320d คุ้มกว่าแน่นอนเพราะราคาต่างกันเยอะทีเดียว



ให้เทียบกันแล้วถ้าเป็นผมเองมีกำลังเหลือซักนิดจะเลือก BMW320d ครับ เพราะทั้งราคา สมรรถนะ ความคุ้มค่า เทียบกับราคาแล้วคุ้มค่าที่สุด


หวังว่าข้อมูลที่หามาให้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ 

[บ้านชายหาด]

จากที่ไปเช็คราคา+ข้อมูลมา 2รุ่นนี้ถ้าป้ายแดงไม่2ล้านต้นนะครับ 2ล้านกลาง-แก่

ราคาตัวเบนซิน
C-200 CGI  2,499,000 บาท แรงม้าสูงสุด 184/5250  แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm)  270/1800–4600 
320i SE  2,599,000 บาท แรงม้าสูงสุด156/6,400 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 200/3,600

เบนซ์ให้กำลังดีพอสมควร แต่ให้อัตราบริโภคเชื้อเพลิงใกล้เคียงกัน ทางBMW มีเกียร์อัตโนมัติ6จังหวะมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน น้ำหนักตัวก็เบากว่ากัน
320อยู่ที่ 1,435กิโลกรัม  C200หนัก 1,505กิโลกรัม ทำให้อัตราเร่งไม่หนีกันมากนัก ทางเบนซ์จะทำได้ดีกว่า0-100ทำได้ 8.5วินาที 320ทำได้ 9.8วินาที
เครื่องเบนซิน C200ดูจะคุ้มค่ากว่าครับ


ราคาตัวดีเซล
C-250 CDI ทะลุไป 3,099,000 บาท แรงม้าสูงสุด 204/4200 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 500/1600–1800
320d 2,699,000 บาท แรงม้าสูง184/4,000 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 380/1,900-2,750

เรื่องกำลัง คล้ายกับทางเบนซินเบนซ์ให้กำลังดีกว่า แต่อัตราเร่งทางเบนซ์ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย 0-100 ทำได้7.0 วินาที 320d ทำได้ 7.6 วินาที
การบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 320dทำได้ดีกว่าเฉลียที่ 18.9กิโลเมตร/ลิตร  C200ทำได้ 17.3 กิโลเมตร/ลิตร เพราะเครื่องใหญ่กว่า น้ำหนักตัวมากกว่า
เครื่องดีเซล เทียบกันแล้ว 320d คุ้มกว่าแน่นอนเพราะราคาต่างกันเยอะทีเดียว



ให้เทียบกันแล้วถ้าเป็นผมเองมีกำลังเหลือซักนิดจะเลือก BMW320d ครับ เพราะทั้งราคา สมรรถนะ ความคุ้มค่า เทียบกับราคาแล้วคุ้มค่าที่สุด


หวังว่าข้อมูลที่หามาให้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ 

 

[naisomchai]

ไม่เคยใช้ทั้งคู่แต่จากที่พอทราบข้อมูลบ้าง ถ้าเป็นผมจะหลีกเลี่ยงรถเบ็นซ์ที่มีระบบ kompressor ทุกรุ่นถึงแม้ตัวเลขแรงม้าดูน่าพอใจ
แต่ kompressor ก็อาศัยหลักการอัดอากาศให้เครื่องยนต์คล้ายเทอร์โบ ขับด้วยสายพานเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้ไอเสียมาปั่นแบบเทอร์โบ
ตัว kompressor ทั้งชุดราคาแพงเป็นแสนค่าซ่อมก็ไม่ถูกเป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเพราะมีการเคลื่อนไหวของโรเตอร์ซึ่งต้องหมุนเพื่อ
การอัดอากาศ
 เพราะรถเบนซ์ที่ซีซีน้อยมักติดตั้ง kompressor เพื่อเรียกแรงม้าจะได้ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับเอาซีซีสูง มาขายเพราะกำแพงภาษี
  ถ้าอยากได้แรงม้าแรงบิดที่ดี เลือกรุ่นที่ไม่มี  kompressor แต่เอาเครื่องใหญ่ ซีซีสูงไว้ก่อนดีกว่าครับ

ส่วน BMW 320  ก็น่าสนที่มีรุ่น 320d ที่เป็นเครื่องดีเซลให้เลือก

ไล่เรียงตามแตตาล็อกแล้วมันเหลือแค่ e300 เท่านั้นเองครับ ที่ไม่มีคอมเพรสเซอร์, แต่ราคามันกระโดดไปที่ 5 ล้านบาทหย่อนไปพันเดียวเองครับ... ถ้าบังคับให้เลือกเอาเฉพาะรุ่นเล็ก เป็นนายสมชายเอา C200 ครับ, เป็นเพราะหน้าตามันสวย... แฮ่ๆ...

แล้วนายสมชายมีคำถามมาถามต่อครับ ว่าถ้ารุ่นใหญ่กว่าเป็น e คลาส เทียบกับซีรี่ส์ 5 น่าสนค่ายไหนครับ เพราะราคารุ่นถูกสุดมันเท่ากันเกือบเป๊ะ คือ 3.8 ล้านทั้งคู่ครับ...

[FCUK]

ขอบคุณทุกท่านครับ
ราคาที่อนุมัติมาให้ประมาณสองล้านห้า คงจะได้เบนซ์ซีคลาส แต่ข้อมูลผมผิดพลาดไม่ใช่ตัวคอมเพรสเซอร์ เป็นตัวสองพันเบนซินธรรมดา
โดยส่วนตัวอยากเลือกเบนซ์เพราะเกิดมาไม่เคยขี่เบนซ์และราคาขายต่อหลังจากใช้งานห้าปี น่าจะดีกว่าบีเอ็ม

[wiched]

ขอบคุณทุกท่านครับ
ราคาที่อนุมัติมาให้ประมาณสองล้านห้า คงจะได้เบนซ์ซีคลาส แต่ข้อมูลผมผิดพลาดไม่ใช่ตัวคอมเพรสเซอร์ เป็นตัวสองพันเบนซินธรรมดา
โดยส่วนตัวอยากเลือกเบนซ์เพราะเกิดมาไม่เคยขี่เบนซ์และราคาขายต่อหลังจากใช้งานห้าปี น่าจะดีกว่าบีเอ็ม
[/quเอ

ขอบคุณทุกท่านครับ
ราคาที่อนุมัติมาให้ประมาณสองล้านห้า คงจะได้เบนซ์ซีคลาส แต่ข้อมูลผมผิดพลาดไม่ใช่ตัวคอมเพรสเซอร์ เป็นตัวสองพันเบนซินธรรมดา
โดยส่วนตัวอยากเลือกเบนซ์เพราะเกิดมาไม่เคยขี่เบนซ์และราคาขายต่อหลังจากใช้งานห้าปี น่าจะดีกว่าบีเอ็ม

เอ่อ......พี่ครับอีก 5 ปี  ขายต่อผมนะครับ (ถูกๆ นะครับ)

[Ro@d - รักในหลวง]

ไม่เคยใช้ทั้งคู่แต่จากที่พอทราบข้อมูลบ้าง ถ้าเป็นผมจะหลีกเลี่ยงรถเบ็นซ์ที่มีระบบ kompressor ทุกรุ่นถึงแม้ตัวเลขแรงม้าดูน่าพอใจ
แต่ kompressor ก็อาศัยหลักการอัดอากาศให้เครื่องยนต์คล้ายเทอร์โบ ขับด้วยสายพานเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้ไอเสียมาปั่นแบบเทอร์โบ
ตัว kompressor ทั้งชุดราคาแพงเป็นแสนค่าซ่อมก็ไม่ถูกเป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเพราะมีการเคลื่อนไหวของโรเตอร์ซึ่งต้องหมุนเพื่อ
การอัดอากาศ
 เพราะรถเบนซ์ที่ซีซีน้อยมักติดตั้ง kompressor เพื่อเรียกแรงม้าจะได้ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับเอาซีซีสูง มาขายเพราะกำแพงภาษี
  ถ้าอยากได้แรงม้าแรงบิดที่ดี เลือกรุ่นที่ไม่มี  kompressor แต่เอาเครื่องใหญ่ ซีซีสูงไว้ก่อนดีกว่าครับ

ส่วน BMW 320  ก็น่าสนที่มีรุ่น 320d ที่เป็นเครื่องดีเซลให้เลือก

จากที่ไปเช็คราคา+ข้อมูลมา 2รุ่นนี้ถ้าป้ายแดงไม่2ล้านต้นนะครับ 2ล้านกลาง-แก่

ราคาตัวเบนซิน
C-200 CGI  2,499,000 บาท แรงม้าสูงสุด 184/5250  แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm)  270/1800–4600 
320i SE  2,599,000 บาท แรงม้าสูงสุด156/6,400 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 200/3,600

เบนซ์ให้กำลังดีพอสมควร แต่ให้อัตราบริโภคเชื้อเพลิงใกล้เคียงกัน ทางBMW มีเกียร์อัตโนมัติ6จังหวะมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน น้ำหนักตัวก็เบากว่ากัน
320อยู่ที่ 1,435กิโลกรัม  C200หนัก 1,505กิโลกรัม ทำให้อัตราเร่งไม่หนีกันมากนัก ทางเบนซ์จะทำได้ดีกว่า0-100ทำได้ 8.5วินาที 320ทำได้ 9.8วินาที
เครื่องเบนซิน C200ดูจะคุ้มค่ากว่าครับ


ราคาตัวดีเซล
C-250 CDI ทะลุไป 3,099,000 บาท แรงม้าสูงสุด 204/4200 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 500/1600–1800
320d 2,699,000 บาท แรงม้าสูง184/4,000 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 380/1,900-2,750

เรื่องกำลัง คล้ายกับทางเบนซินเบนซ์ให้กำลังดีกว่า แต่อัตราเร่งทางเบนซ์ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย 0-100 ทำได้7.0 วินาที 320d ทำได้ 7.6 วินาที
การบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 320dทำได้ดีกว่าเฉลียที่ 18.9กิโลเมตร/ลิตร  C200ทำได้ 17.3 กิโลเมตร/ลิตร เพราะเครื่องใหญ่กว่า น้ำหนักตัวมากกว่า
เครื่องดีเซล เทียบกันแล้ว 320d คุ้มกว่าแน่นอนเพราะราคาต่างกันเยอะทีเดียว



ให้เทียบกันแล้วถ้าเป็นผมเองมีกำลังเหลือซักนิดจะเลือก BMW320d ครับ เพราะทั้งราคา สมรรถนะ ความคุ้มค่า เทียบกับราคาแล้วคุ้มค่าที่สุด


หวังว่าข้อมูลที่หามาให้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ 

+ ให้ทั้ง ๒ ท่าน ครับ 

[Ro@d - รักในหลวง]

ไม่เคยใช้ทั้งคู่แต่จากที่พอทราบข้อมูลบ้าง ถ้าเป็นผมจะหลีกเลี่ยงรถเบ็นซ์ที่มีระบบ kompressor ทุกรุ่นถึงแม้ตัวเลขแรงม้าดูน่าพอใจ
แต่ kompressor ก็อาศัยหลักการอัดอากาศให้เครื่องยนต์คล้ายเทอร์โบ ขับด้วยสายพานเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้ไอเสียมาปั่นแบบเทอร์โบ
ตัว kompressor ทั้งชุดราคาแพงเป็นแสนค่าซ่อมก็ไม่ถูกเป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเพราะมีการเคลื่อนไหวของโรเตอร์ซึ่งต้องหมุนเพื่อ
การอัดอากาศ
 เพราะรถเบนซ์ที่ซีซีน้อยมักติดตั้ง kompressor เพื่อเรียกแรงม้าจะได้ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับเอาซีซีสูง มาขายเพราะกำแพงภาษี
  ถ้าอยากได้แรงม้าแรงบิดที่ดี เลือกรุ่นที่ไม่มี  kompressor แต่เอาเครื่องใหญ่ ซีซีสูงไว้ก่อนดีกว่าครับ

ส่วน BMW 320  ก็น่าสนที่มีรุ่น 320d ที่เป็นเครื่องดีเซลให้เลือก

ไล่เรียงตามแตตาล็อกแล้วมันเหลือแค่ e300 เท่านั้นเองครับ ที่ไม่มีคอมเพรสเซอร์, แต่ราคามันกระโดดไปที่ 5 ล้านบาทหย่อนไปพันเดียวเองครับ... ถ้าบังคับให้เลือกเอาเฉพาะรุ่นเล็ก เป็นนายสมชายเอา C200 ครับ, เป็นเพราะหน้าตามันสวย... แฮ่ๆ...

แล้วนายสมชายมีคำถามมาถามต่อครับ ว่าถ้ารุ่นใหญ่กว่าเป็น e คลาส เทียบกับซีรี่ส์ 5 น่าสนค่ายไหนครับ เพราะราคารุ่นถูกสุดมันเท่ากันเกือบเป๊ะ คือ 3.8 ล้านทั้งคู่ครับ...

เป็นรถยนต์เยอรมันชั้นดี เป็นคู่กัด ที่เป็นคู่แข่งขันความยอดเยี่ยม ตลอดกาล จึงมี คอพันธุ์แท้ของแต่ละค่าย ตามมา

ผม คอ MB.   E Class   ครับ. นายสมชาย(ฮา)..  ใช้ติดมือให้คุ้ม ลืมวันเวลา ไปเล้ย . 

[Southlander]

ไม่เคยใช้ทั้งคู่แต่จากที่พอทราบข้อมูลบ้าง ถ้าเป็นผมจะหลีกเลี่ยงรถเบ็นซ์ที่มีระบบ kompressor ทุกรุ่นถึงแม้ตัวเลขแรงม้าดูน่าพอใจ
แต่ kompressor ก็อาศัยหลักการอัดอากาศให้เครื่องยนต์คล้ายเทอร์โบ ขับด้วยสายพานเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้ไอเสียมาปั่นแบบเทอร์โบ
ตัว kompressor ทั้งชุดราคาแพงเป็นแสนค่าซ่อมก็ไม่ถูกเป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเพราะมีการเคลื่อนไหวของโรเตอร์ซึ่งต้องหมุนเพื่อ
การอัดอากาศ
 เพราะรถเบนซ์ที่ซีซีน้อยมักติดตั้ง kompressor เพื่อเรียกแรงม้าจะได้ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับเอาซีซีสูง มาขายเพราะกำแพงภาษี
  ถ้าอยากได้แรงม้าแรงบิดที่ดี เลือกรุ่นที่ไม่มี  kompressor แต่เอาเครื่องใหญ่ ซีซีสูงไว้ก่อนดีกว่าครับ

ส่วน BMW 320  ก็น่าสนที่มีรุ่น 320d ที่เป็นเครื่องดีเซลให้เลือก

ไล่เรียงตามแตตาล็อกแล้วมันเหลือแค่ e300 เท่านั้นเองครับ ที่ไม่มีคอมเพรสเซอร์, แต่ราคามันกระโดดไปที่ 5 ล้านบาทหย่อนไปพันเดียวเองครับ... ถ้าบังคับให้เลือกเอาเฉพาะรุ่นเล็ก เป็นนายสมชายเอา C200 ครับ, เป็นเพราะหน้าตามันสวย... แฮ่ๆ...

แล้วนายสมชายมีคำถามมาถามต่อครับ ว่าถ้ารุ่นใหญ่กว่าเป็น e คลาส เทียบกับซีรี่ส์ 5 น่าสนค่ายไหนครับ เพราะราคารุ่นถูกสุดมันเท่ากันเกือบเป๊ะ คือ 3.8 ล้านทั้งคู่ครับ...

 นาทีนี้เทียบรถหรูคู่นี้เท่านั้นนะครับ ผมเทใจให้เมอซีเดสโดยไม่ต้องเหลือเผื่อใจไว้ให้บีเอ็มเลยเพราะอะไร

รถบีเอ็มเดียวนี้เหมือนเดินสดุดขาตัวเองครับยิ่งออกรถรุ่นใหม่ยิ่งออกทะเลไปเรื่อยหน้าตามีแต่เห่ยลงๆ
จากเมื่อก่อนที่คอนเซ็ปจาการมองรถ BMW เทียบกับ Mercedes Benz ขอมองแบบรวมๆนะครับรุ่นเล็กกะรุ่นกลาง
เอาตั้งแต่ซีรี่3 บอดี้ E36 ดูดีสวยสปอร์ตเท่มากเมื่อเทียบกับ Mercedes Benz ที่โบราณเทอะทะหาความโฉบเฉี่ยวไม่มีเลย
 พอ BMW เปลี่ยนโฉมมาเป็นซีรี่3 บอดี้  E46 ก็ยังดูสวยขึ้นเช่นเดียวกับตัวกลางซีรี่ 5 บอดี้ E34 มาเป็นรุ่นถัดมา

   ทีนี้ล่ะครับพอ BMW เปลี่ยนโฉมใหม่ก็เริ่มเห่ยๆ ออกทะเลหลังจากตัว บอดี้  E46 รวมไปถึงซีรี่ 5 ด้วยทั้งที่ทำยกตูดน่าเกลียด (เมืองนอกเรียกไอ้ตูดเบงเกล)และหน้าตาที่ดูล้ำอวกาศมากไปจนออกโหลๆเหมือนรถญี่ปุ่นไฟหน้าที่ขาดความสปอร์ตและคลาสสิคแต่ออกแนวเรียวยาวยังกะตาคนเกาหลี สันบอดี้ข้างลำตัวนูนๆโหนกๆขาดความน่าสนใจ

  แต่ต่างจาก Mercedes Benz มากที่หลังจากนั้นออกรุ่นใหม่ตลอดก็สวยตลอดทุกรุ่นทั้ง E ทั้งC เช่นรุ่นตาถั่ว จนมาถึงตัวปัจจุบัน ที่ย้ายเอาตราดาวมาวางบนตะแกรงหน้าแล้วด้วยยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงอีคลาสโฉมปัจจุบันที่สวยจนหยดย้อยไปหมด ซึ่ง BMW ไม่ว่ารุ่นเล็กซีรี่3 หรือ ซีรี่ 5 หน้าตาก็ยิ่งออกทะเลกู่ไม่ยอมกลับ
  เมื่อหน้าตา Mercedes Benz ใหม่ที่ฉีกทิ้งความเทอะทะโบราณหมดไปอย่างไม่ทิ้งลายเดิม ชื่อเสียง หน้าตา ความทนทาน ทุกอย่างมันกิน BMW ขาดหมด
แม้กระทั้งหน้าตาความสปอร์ตที่เป็นจุดขายหลักของ BMW ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วโดน Mercedes Benz ที่หน้าตาสปอร์ตกว่า ก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้ใจผมชอบ  Mercedes Benz มากกว่า


  แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละท่านเป็นหลักในการตัดสินใจครับ
ขอให้มีความสุขกะรถที่เราเลือก ส่วนผม ก็  ฝันต่อ

[Southlander]

ไม่เคยใช้ทั้งคู่แต่จากที่พอทราบข้อมูลบ้าง ถ้าเป็นผมจะหลีกเลี่ยงรถเบ็นซ์ที่มีระบบ kompressor ทุกรุ่นถึงแม้ตัวเลขแรงม้าดูน่าพอใจ
แต่ kompressor ก็อาศัยหลักการอัดอากาศให้เครื่องยนต์คล้ายเทอร์โบ ขับด้วยสายพานเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้ไอเสียมาปั่นแบบเทอร์โบ
ตัว kompressor ทั้งชุดราคาแพงเป็นแสนค่าซ่อมก็ไม่ถูกเป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเพราะมีการเคลื่อนไหวของโรเตอร์ซึ่งต้องหมุนเพื่อ
การอัดอากาศ
 เพราะรถเบนซ์ที่ซีซีน้อยมักติดตั้ง kompressor เพื่อเรียกแรงม้าจะได้ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับเอาซีซีสูง มาขายเพราะกำแพงภาษี
  ถ้าอยากได้แรงม้าแรงบิดที่ดี เลือกรุ่นที่ไม่มี  kompressor แต่เอาเครื่องใหญ่ ซีซีสูงไว้ก่อนดีกว่าครับ

ส่วน BMW 320  ก็น่าสนที่มีรุ่น 320d ที่เป็นเครื่องดีเซลให้เลือก

จากที่ไปเช็คราคา+ข้อมูลมา 2รุ่นนี้ถ้าป้ายแดงไม่2ล้านต้นนะครับ 2ล้านกลาง-แก่

ราคาตัวเบนซิน
C-200 CGI  2,499,000 บาท แรงม้าสูงสุด 184/5250  แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm)  270/1800–4600 
320i SE  2,599,000 บาท แรงม้าสูงสุด156/6,400 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 200/3,600

เบนซ์ให้กำลังดีพอสมควร แต่ให้อัตราบริโภคเชื้อเพลิงใกล้เคียงกัน ทางBMW มีเกียร์อัตโนมัติ6จังหวะมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน น้ำหนักตัวก็เบากว่ากัน
320อยู่ที่ 1,435กิโลกรัม  C200หนัก 1,505กิโลกรัม ทำให้อัตราเร่งไม่หนีกันมากนัก ทางเบนซ์จะทำได้ดีกว่า0-100ทำได้ 8.5วินาที 320ทำได้ 9.8วินาที
เครื่องเบนซิน C200ดูจะคุ้มค่ากว่าครับ


ราคาตัวดีเซล
C-250 CDI ทะลุไป 3,099,000 บาท แรงม้าสูงสุด 204/4200 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 500/1600–1800
320d 2,699,000 บาท แรงม้าสูง184/4,000 แรงบิดสูงสุด (n.m/rpm) 380/1,900-2,750

เรื่องกำลัง คล้ายกับทางเบนซินเบนซ์ให้กำลังดีกว่า แต่อัตราเร่งทางเบนซ์ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย 0-100 ทำได้7.0 วินาที 320d ทำได้ 7.6 วินาที
การบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 320dทำได้ดีกว่าเฉลียที่ 18.9กิโลเมตร/ลิตร  C200ทำได้ 17.3 กิโลเมตร/ลิตร เพราะเครื่องใหญ่กว่า น้ำหนักตัวมากกว่า
เครื่องดีเซล เทียบกันแล้ว 320d คุ้มกว่าแน่นอนเพราะราคาต่างกันเยอะทีเดียว



ให้เทียบกันแล้วถ้าเป็นผมเองมีกำลังเหลือซักนิดจะเลือก BMW320d ครับ เพราะทั้งราคา สมรรถนะ ความคุ้มค่า เทียบกับราคาแล้วคุ้มค่าที่สุด


หวังว่าข้อมูลที่หามาให้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ 

+ ให้ทั้ง ๒ ท่าน ครับ 

 +ทั้ง ๒ ท่าน

ผมก็ชอบ เบนซ์ ครับ

[FCUK]

ครับ...จองเบนซ์เรียบร้อย
(ปิดกระทู้...ห้ามคอมเม้นท์เพิ่ม  เดี๋ยวมีคนมาติว่าเบนซ์ไม่ดี มีปัญหาสู้บีเอ็มไมได้แล้วผมจะเซ็ง)