เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 09:47:40 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กไทยมี IQ ต่ำสุดในเอเชีย แนะกระตุ้นการคิด  (อ่าน 3857 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
VisitThai
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 5



เว็บไซต์
« เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 06:17:53 AM »

กรมสุขภาพจิต ระบุ IQ เด็กไทยไม่พัฒนา ลดระดับต่ำสุดเอเชีย แนะพ่อแม่กระตุ้นการคิด ฝึกจินตนาการ จัดระเบียบเส้นใยประสาท  ขณะที่ผลวิจัยพบสมองเด็กในสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้าฝ่อลง คล้ายคนเป็นโรคอัลไซเมอร์ ขณะที่เด็กถูกทารุณกรรมจะมีสารความเครียดในเลือดสูง มีปัญหาพัฒนาการสมอง

กรมสุขภาพจิตร่วมกับกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ดำเนินการสำรวจระดับสติปัญญาเด็กไทยจำนวนประมาณ 100,000 คนทั่วประเทศ ว่า ข้อมูลจากหนังสือของ Lynn ปี 2006 ได้ทำการสำรวจ IQ ของเด็กทั่วโลก พบว่า IQ ของเด็กไทยอยู่ที่ประมาณ 91 จัดอยู่ในระดับที่ 53 จาก 192 ประเทศทั่วโลก ซึ่งต่ำกว่าระดับ IQ ของเด็กในประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น เด็กในประเทศจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม รวมทั้งมาเลเซีย นอกจากนี้ยังพบว่า ตั้งแต่ปี 2002-2006 อันดับ IQ ของเด็กไทยแทบจะไม่มีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศสิงคโปร์ระดับ IQ ของเด็กเพิ่มจาก 103 ในปี ค.ศ.2002 เป็น 108 ในปี ค.ศ. 2006 ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อนำระดับ IQ แสดงผลเป็นกราฟรูประฆังคว่ำ พบว่า IQ ที่ระดับ 91 ของเด็กไทย มีแนวโน้มที่จะเอียงไปทางซ้ายของกราฟ ซึ่งเป็นด้านที่ตรงข้ามกับระดับการแปรผลที่ฉลาดกว่า

จากการศึกษาของ นพ.อีริค อาร์ แคนเดล จิตแพทย์รางวัลโนเบลในปี 2553 พบว่า การเรียนรู้ ความรู้ ความจำ ความคิด อารมณ์ สติปัญญา เกิดจากการที่เซลล์สมองแตกกิ่งมาเชื่อมต่อกันเป็นวงจร สมองส่วนที่มีการจัดระเบียบใยประสาทจะเพิ่มการเชื่อมต่อใหม่ๆเพิ่มขึ้นจำนวน มาก ขณะที่ใยประสาทส่วนที่ไม่ได้ใช้จะหายไป ใยประสาทส่วนที่ใช้บ่อยจะหนาตัวขึ้น ทั้งนี้ ทารกอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี จะเป็นช่วงที่สมองมีพัฒนาการมากที่สุด ดังนั้น การสร้างการพัฒนาสมองให้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายใยประสาทที่แข็งแรงจะมีส่วน ทำให้เด็กมีระดับ IQ ที่เพิ่มขึ้นด้วย

ด้าน นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า นอกจากระบบใยประสาทในสมองแล้ว ยังพบว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการพัฒนาสมองของคนอย่างมาก การวิจัยในสัตว์และคนให้ผลยืนยันตรงกันว่า ความสามารถของสมองในการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Neuro-Plasticity หมายถึง การที่เราใช้สมองส่วนใดบ่อยๆ สมองส่วนนั้นจะเจริญเติบโตได้ดี แต่หากเราไม่ได้ใช้สมองส่วนนั้นเลย นานๆเข้า สมองส่วนนั้นก็จะฝ่อไป ในปีพ.ศ.2541 มีการศึกษาพบว่า หลังคลอดออกมา สมองเด็กทุกคนทั่วโลกจะมีรูปแบบที่เหมือนกัน แต่วิธีการส่งเสริมการเรียนรู้ และอบรมเลี้ยงดูต่างกัน จะทำให้ IQ เด็กต่างกัน เซลล์สมองส่วนไหนที่ไม่ได้เชื่อมโยงกันจะถูกทำลาย ทำให้ประสิทธิภาพของสมองส่วนนั้นถูกทำลาย เช่น การคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นจะหายไป จึงมีการสรุปว่า จินตนาการของคนไทยหายไป เนื่องจากเราไม่ค่อยกระตุ้นให้เด็กฝึกคิด

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสมองเด็กจำนวนมาก ระบุตรงกันถึงการกระตุ้นการใช้สมองที่เหมาะสม เช่น การพบว่าสมองของเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีบางส่วนเสียการทำงานไป คล้ายๆกับคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือ เด็กที่ถูกทารุณกรรมจะมีระดับสารความเครียดในเลือดสูง หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ และจะมีปัญหาพัฒนาการสมอง อารมณ์ ความประพฤติ และการเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ระบุว่า เด็กที่ได้รับการตอบสนองจากผู้เลี้ยงดูช้า เช่น ปล่อยให้ร้องไห้นานๆ หิวแล้วยังไม่ได้กิน เกิดความกลัวโดยไม่มีใครมาอยู่ใกล้ชิด ไม่มีใครมาสัมผัสโอบอุ้ม เด็กจะกลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตนเอง ไม่มั่นคงในชีวิต หวาดระแวง ฯลฯ

“ขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์นั้น เซลล์ประสาทจะมีการสร้างขึ้นมากกว่าแสนล้านเซลล์ แต่ถ้าไม่มีการกระตุ้นจะด้วยการเสริมอาหาร หรือการเลี้ยงดู ที่เหมาะสม ก็จะขาดเครือข่ายเส้นใยประสาทที่ยื่นยาวออกมา ที่พร้อมจะส่งเสริมให้เด็กฉลาดและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่เพิ่ม ขึ้น”นพ.อภิชัย กล่าว

ตัวผมเองเข้าใจสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันดี ที่พ่อแม่ต้องทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัว แต่พ่อแม่ก็ควรแบ่งเวลา และเอาใจใส่กับลูกให้มากกว่านี้ เพื่ออนาคตของลูก และเพื่ออนาคตของชาติ
บันทึกการเข้า

รักปืน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -68
ออฟไลน์

กระทู้: 1992


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 08:55:59 AM »

อนาคตของชาติ หรือของใครบางคนก็ไม่รู้     เด็กโง่หลอกง่ายดีนะครับ   โตขึ้นมาก็โง่โดนหลอกง่าย  จูงจมูกง่ายดี  พวกนักการเมืองชอบ

เห็นเด็กสมัยนี้แล้วปวดใจ  เด็ก ป  5-6  ก็พกมือถือไปโรงเรียน  โทรจีบกันเป็นว่าเล่น  ผมไม่เห็นมีกฏหมายฉบับใหนออกมาห้ามกันจริงๆสักที

วันรุ่น แถวๆบ้านผม ใครเอาเด็ก    ม   3-6  นั่งช้อนท้ายมอเตอรไซค์  โดนโห่ตายเลยครับ   มันต้องเด็ก  ป 5-6  ถึงจะทันสมัย

ไม่ได้อิจฉาตาร้อนวัยรุ่นหรอกครับ  แต่เห็นแล้วว่า  พวกเยาวชนพวกนี้โตขึ้น จะเป็นกำลังของชาติได้ยังไง   คุณแม่ที่อายุน้อยที่สุด

ในโลก  ไม่รู้อยู่ในเมืองไทย จริงหรือเปล่า  น่าภาคภูมิใจดีนะครับ  เศร้า เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 09:39:01 AM »

แล้วไม่ทราบว่าเราจะเสริมสร้าง ไอคิวให้กับเด็กได้อย่างไรบ้างครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 09:45:34 AM »

แล้วไม่ทราบว่าเราจะเสริมสร้าง ไอคิวให้กับเด็กได้อย่างไรบ้างครับ

                 วันหยุดเยอะ  เวลาเรียนน้อย  .....  รัฐฯเน้นส่งเสริมการเที่ยวเตร่ใช้จ่ายมากกว่าเก็บออม

บันทึกการเข้า

                
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 10:33:57 AM »

อยู่ให้ไกลๆ ที.วี. .......... ถ้าไม่มีผู้ปกครอง

ปลูกฝังให้ รู้จักการ "อ่าน" มากๆ ... ช่วยในเรื่องภาษาและจินตนาการ

ทุกวันนี้ ผมแทบไม่ดูโทรทัศน์ ....... มีแต่ยัดเยียดสิ่งมอมเมา โดยเฉพาะ "ละคร"
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
Tanate(รักในหลวง)
Hero Member
*****

คะแนน 243
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2039



« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 10:43:09 AM »

แล้วไม่ทราบว่าเราจะเสริมสร้าง ไอคิวให้กับเด็กได้อย่างไรบ้างครับ

ต้องเริ่มต้นที่ครอบครัวครับ เด็กส่วนใหญ่จะเป็นยังไงจะขึ้นกับครอบครัวซะส่วนมาก ถ้าครอบครัวอบอุ่นก็ยากที่จะมีใครมาทำลาย แต่ก็ต้องรักลูกให้ถูกทาง เด็กทำผิดก็ต้องทำโทษบ้าง (เอ๊ะ เกี่ยวไหม)

อีกอย่างคือร้านเกม ตอนนั้นผมไปทำงานบ้านเพื่อนที่นครปฐม แล้วออกไปหาปริ๊นท์งานตอนตี 3 แม่เจ้าโว้ยเด็กเกรียนมันยังเล่นอยู่เลย ทำไมไม่มีใครมาดูแลบ้าง ตอนนี้แถวบ้านผมก็มีแต่พวกเด็กหนีเรียนไปเล่นเต็มร้าน ไม่รู้จะแก้ยังไง ผมเห็นแล้วหมั่นไส้พวกนี้เหลือเกิน อนาคตของชาติ
บันทึกการเข้า

โดนแล้วครับ นายอำเภอใจกับปลัดขิก เบื่อระบบข้าราชการไทย ของดเล่นปืนไปก่อนนะครับ
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 11:02:13 AM »

อย่าโทษ หม้อ ก๋วยเตี๋ยว อีกล่ะ
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 11:08:45 AM »

แล้วไม่ทราบว่าเราจะเสริมสร้าง ไอคิวให้กับเด็กได้อย่างไรบ้างครับ

ผมมองว่าเด็กสมัยนี้การอ่านน้อยมากครับ  จบม.6 มาบางคนสะกดตัวหนังสือยังผิด อ่านหนังสือยังไม่คล่องก็มาก

เด็กบางกลุ่ม EQ ก็ต่ำมากด้วย กลุ่มที่เราเรียกๆกันว่าพวกเกรียนนี่แหละครับ
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 11:12:24 AM »

แล้วไม่ทราบว่าเราจะเสริมสร้าง ไอคิวให้กับเด็กได้อย่างไรบ้างครับ

ผมมองว่าเด็กสมัยนี้การอ่านน้อยมากครับ  จบม.6 มาบางคนสะกดตัวหนังสือยังผิด อ่านหนังสือยังไม่คล่องก็มาก

เด็กบางกลุ่ม EQ ก็ต่ำมากด้วย กลุ่มที่เราเรียกๆกันว่าพวกเกรียนนี่แหละครับ

ไม่ใช่อ่านน้อยครับไม่ยอมอ่านเลยคอยแต่จะจำจนสมองส่วนที่ไว้คิดไว้สำนึกไม่ทำงานเลยออกมาเกรืยน
บันทึกการเข้า
J_D
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952



« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 11:29:27 AM »

ให้อยู่ห่างๆฟรีทีวีไทยเอาไว้ iq จะได้ไม่ลด
บันทึกการเข้า




ชาติ         = บึง
คนในชาติ = ปลาในบึง

ปลามาแล้วก็ไปแต่บึงอยู่มาก่อนและต้องอยู่ต่อไป  บึงสำคัญกับปลาทุกตัวและสำคัญกว่าปลาทุกตัว  อย่างเอาแต่กินแล้วก็ขี้ใส่บึงอย่างเดียว
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 12:00:44 PM »

ให้อยู่ห่างๆฟรีทีวีไทยเอาไว้ iq จะได้ไม่ลด
โง่มาตั้งแต่สมัยไหนๆแล้วล่ะครับ คนเป็นผู้ใหญ่ทุกวันนี้เขาเอาเรื่องโกหกเรื่องไม่ดีมาพูดให้ฟังก็ยังนั่งฟังกันอยู่ได้ แถมยังเชื่อตามอีก คิด วิเคราะห์ แยกแยะกันไม่เป็นเลย ขนาดในสถานที่ราชการโรงพยาบาลเปิดทีวีช่องด่า(ไม่มีสาระเนื้อหาอย่างอื่นเลย)กันให้คนที่มานั่งรอยาฟังก็เคยเห็นบ่อยๆแถวๆภาคใต้ แค่เดินผ่านยังเครียดเลย ปัญญาอ่อนจริงๆทนนั่งฟังกันอยู่ได้ .....เออ แล้วไอ้ฟรีทีวีไทยที่ว่าดูแล้วโง่ๆน่ะเป็นช่องของ ทหาร กับ องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย รึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 12:03:05 PM »

แล้วไม่ทราบว่าเราจะเสริมสร้าง ไอคิวให้กับเด็กได้อย่างไรบ้างครับ

- เริ่มที่ดนตรีครับ เค้ารู้กันทั่วโลกแล้ว บทความออกมาเป็นพันๆชุดแล้ว ว่าให้ลูกฟังดนตรีที่เหมาะสม"ตั้งแต่ในครรภ์"มีผลในการสร้างและเชื่อมโยงเซลประสาทของเด็ก

ให้ฟังตั้งแต่ในท้อง ลูกคลอดออกมาจะเลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแงด้วย.......คนท้อง/ลูกอ่อนงดลำซิ่ง งดAFเถอะครับ ถ้านึกไม่ออกจริงๆว่าเพลงที่ดีสำหรับเด็กเป็นอย่างไร เสิร์ชK448มาฟังเป็นแนวทางครับ


- นิทานก่อนนอน เป็นความสุขก่อนนอนของเด็กๆครับ และแสดงผลชัดเจนกับลูกผมมาก.....ปัน(คนโต)เริ่มมีนิทานก่อนนอนประมาณ2ขวบ+เพราะผมกับแฟนคิด(เอาเอง)ว่าจะเพิ่งเข้าใจตัวหนังสือในวัยนี้.....แต่ไม่ใช่เลย

ป้องอายุขวบเศษนอนกลิ้งๆแกล้งๆอยู่ข้างๆ ได้ฟัง ได้เห็นแฟน/ผมเล่านิทานในช่วงอายุที่น้อยกว่าคนพี่ มีพัฒนาการทางภาษาที่เร็วมาก เหมือนกับอยู่ๆป้องก็เข้าใจรูปแบบการเขียนได้ทันทีที่รู้จักก.-ฮ./A-Z(ตั้งแต่2ขวบ) , สามารถผสมคำง่ายๆได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่2ของ"เตรียมอนุบาล" ..... ปีที่แล้วเกือบโดนลักพาตัวไปอยู่โรงเรียนเด็กพิเศษแหล่ว  บู่

ตอนเล่านิทานให้เปิดเพลง3-4แผ่นที่ลูกฟังตั้งแต่ในท้องไปด้วยครับ เปิดทิ้งไว้ทั้งคืนไปเลย .......



- อย่าใช้ทีวีเลี้ยงลูกครับโทรทัศน์มีภาพและเสียงที่เปลี่ยนไวเกินไปสำหรับเด็ก การ์ตูนให้ดูได้แต่ต้องเลือกให้ดี พวกการ์ตูนแอคชั่นนี่ต้องงด นอกจากพฤติกรรมเลียนแบบแล้วมันยังมีภาพและเสียงที่ไม่ดีต่อระบบประสาทของเด็ก


- เวลาสอนหนังสือ อย่าใจร้อนครับ อย่าใจร้อนไปดุ , ลูกคิดไม่ออกก็อย่าใจร้อนรีบเฉลย ค่อยๆตะล่อมเขี่ยๆให้เข้าทาง ให้ลูกเค้นสมองให้เต็มที่ ให้เค้าได้หัดใช้สมองโยงความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งเองก่อน


- คอมพิวเตอร์"ไม่อนุญาต"ให้เล่นครับ ให้เล่นได้ระดับเดียวกับโรงเรียนให้ใช้ เอามาซ้อมต่อที่บ้านได้ แต่ไม่ให้เล่นเกมส์ในคอมพ์ฯ


- ใช้"ศิลปะ"มาช่วยสร้างสมาธิครับ ครูศิลปะ(ฝรั่ง)ของลูกบอกว่า เด็กๆที่ได้ละเลงสีเล่นตามใจชอบโดยไม่โดนกรอบของผู้ใหญ่มาบังทัศนวิสัยจะกำไรมาก การได้ฝึกผสมสีเองเด็กจะค่อยๆหยอด ค่อยๆละเลง ในสมองเด็กตอนนั้นไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่มันคือการเรียนรู้เรื่อง"ความสัมพันธ์"

..... ถ้าเรายังมีสตางค์ซื้อบุหรี่สูบ-ซื้อหวยไว้เพ้อเจ้อได้ เราก็ต้องมีเงินไปเพิ่มค่ากระดาษให้ใหญ่กว่าA4ได้ด้วยครับ ครูบอกว่ากระดาษที่ให้เด็กวาดทิ้งวาดขว้าง"ยิ่งใหญ่ยิ่งดี"....ขนาดของกระดาษเป็นกรอบขังอย่างหนึ่งครับ

ฯลฯ
ฯลฯ
ฯลฯลฯลฯ

เลี้ยงลูกอย่าอ้างว่าไม่มีเวลาครับ เวลาของเรามีค่าแต่มันมีค่ากับลูกมากกว่า

เอาเวลานั่งจิบกาแฟ ไปวิ่งเล่นกับลูกให้เต็มเหนี่ยว , เอาเวลาดูละคร ไปนอนกลิ้งๆเล่นของเล่น/อ่านนิทานกับลูก ฯลฯ .... ทำให้ได้ทุกวันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 10, 2010, 12:32:52 PM โดย Mr.Mom » บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 12:15:35 PM »

อ้อ ตอนนี้ผมนั่งจิบกาแฟอยู่ครับ ฮา.................  Grin
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 12:30:47 PM »

- เริ่มที่ดนตรีครับ เค้ารู้กันทั่วโลกแล้ว บทความออกมาเป็นพันๆชุดแล้ว ว่าให้ลูกฟังดนตรีที่เหมาะสม"ตั้งแต่ในครรภ์"มีผลในการสร้างและเชื่อมโยงเซลประสาทของเด็ก

ให้ฟังตั้งแต่ในท้อง ลูกคลอดออกมาจะเลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแงด้วย.......คนท้อง/ลูกอ่อนงดลำซิ่ง งดAFเถอะครับ ถ้านึกไม่ออกจริงๆว่าเพลงที่ดีสำหรับเด็กเป็นอย่างไร เสิร์ชK448มาฟังเป็นแนวทางครับ


- นิทานก่อนนอน เป็นความสุขก่อนนอนของเด็กๆครับ และแสดงผลชัดเจนกับลูกผมมาก.....ปัน(คนโต)เริ่มมีนิทานก่อนนอนประมาณ2ขวบ+เพราะผมกับแฟนคิด(เอาเอง)ว่าจะเพิ่งเข้าใจตัวหนังสือในวัยนี้.....แต่ไม่ใช่เลย

ป้องอายุขวบเศษนอนกลิ้งๆแกล้งๆอยู่ข้างๆ ได้ฟัง ได้เห็นแฟน/ผมเล่านิทานในช่วงอายุที่น้อยกว่าคนพี่ มีพัฒนาการทางภาษาที่เร็วมาก เหมือนกับอยู่ๆป้องก็เข้าใจรูปแบบการเขียนได้ทันทีที่รู้จักก.-ฮ./A-Z(ตั้งแต่2ขวบ) , สามารถผสมคำง่ายๆได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่2ของ"เตรียมอนุบาล" ..... ปีที่แล้วเกือบโดนลักพาตัวไปอยู่โรงเรียนเด็กพิเศษแหล่ว  บู่

ตอนเล่านิทานให้เปิดเพลง3-4แผ่นที่ลูกฟังตั้งแต่ในท้องไปด้วยครับ เปิดทิ้งไว้ทั้งคืนไปเลย .......



- อย่าใช้ทีวีเลี้ยงลูกครับโทรทัศน์มีภาพและเสียงที่เปลี่ยนไวเกินไปสำหรับเด็ก การ์ตูนให้ดูได้แต่ต้องเลือกให้ดี พวกการ์ตูนแอคชั่นนี่ต้องงด นอกจากพฤติกรรมเลียนแบบแล้วมันยังมีภาพและเสียงที่ไม่ดีต่อระบบประสาทของเด็ก


- เวลาสอนหนังสือ อย่าใจร้อนครับ อย่าใจร้อนไปดุ , ลูกคิดไม่ออกก็อย่าใจร้อนรีบเฉลย ค่อยๆตะล่อมเขี่ยๆให้เข้าทาง ให้ลูกเค้นสมองให้เต็มที่ ให้เค้าได้หัดใช้สมองโยงความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งเองก่อน


- คอมพิวเตอร์"ไม่อนุญาต"ให้เล่นครับ ให้เล่นได้ระดับเดียวกับโรงเรียนให้ใช้ เอามาซ้อมต่อที่บ้านได้ แต่ไม่ให้เล่นเกมส์ในคอมพ์ฯ


- ใช้"ศิลปะ"มาช่วยสร้างสมาธิครับ ครูศิลปะ(ฝรั่ง)ของลูกบอกว่า เด็กๆที่ได้ละเลงสีเล่นตามใจชอบโดยไม่โดนกรอบของผู้ใหญ่มาบังทัศนวิสัยจะกำไรมาก การได้ฝึกผสมสีเองเด็กจะค่อยๆหยอด ค่อยๆละเลง ในสมองเด็กตอนนั้นไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่มันคือการเรียนรู้เรื่อง"ความสัมพันธ์"

..... ถ้าเรายังสตางค์ซื้อบุหรี่สูบ-ซื้อหวยไว้เพ้อเจ้อได้ ช่วยเอาเงินไปเพิ่มค่ากระดาษให้ใหญ่กว่าA4ด้วยครับ ครูบอกว่ากระดาษที่ให้เด็กวาดทิ้งวาดขว้าง"ยิ่งใหญ่ยิ่งดี"....ขนาดของกระดาษเป็นกรอบขังอย่างหนึ่งครับ

ฯลฯ
ฯลฯ
ฯลฯลฯลฯ

เลี้ยงลูกอย่าอ้างว่าไม่มีเวลาครับ เวลาของเรามีค่าแต่มันมีค่ากับลูกมากกว่า

เอาเวลานั่งจิบกาแฟ ไปวิ่งเล่นกับลูกให้เต็มเหนี่ยว , เอาเวลาดูละคร ไปนอนกลิ้งๆเล่นของเล่น/อ่านนิทานกับลูก ฯลฯ .... ทำให้ได้ทุกวันครับ



ขอบคุณครับพี่

นิทานก่อนนอน ทุกครั้งที่กลับไปบ้านจะอ่านให้ฟังเป็นประจำทุกคืนก่อนนอน คนโตแม้จะเจ็ดขวบแล้วก็ยังชอบที่จะฟังครับ อ่านวนไปวนมาจนผมท่องจำได้หมดแล้วครับ หากมีเวลาจะพาไปร้านหนังสือแล้วให้เขาเลือกหนังสือนิทานที่เขาอยากฟังครับ

บางครั้งนั่งรถไปโรงเรียนก็จะเปิดนิทานที่มีแต่เสียงให้ฟังครับ (แถมมากับนม)

สำหรับดนตรีพยายามฟังเพลงของเด็กๆครับ เพลงผู้ใหญ่ไว้ฟังเวลาขับรถคนเดียวครับ คนโตเรียนดนตรีด้วย แต่คนกลางไม่ยอมเรียน แต่ชอบนั่งวาดภาพ ระบายสีครับ

ส่วนคนเล็กชอบหาเรื่องพี่ๆครับ

ทีวี ให้ดูเฉพาะสารคดี กับการ์ตูนบ้าง แต่ไม่ได้ดูทุกวันครับ เพราะกลับมาถึงบ้านก็ต้องรีบทำการบ้าน อาบน้ำ กินข้าว ทบทวนบทเรียน เข้านอนก่อนสามทุ่ม เพราะต้องตื่นเช้า ตีห้าครึ่งครับ

แต่เสาร์ อาทิตย์ ให้ดูละครตอนเช้าช่องเจ็ดครับ แล้วค่อยไปเรียนครับ


ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกๆครับ เพราะอยู่กันคนละที่ แต่เวลาลูกทำการบ้านตอนเย็นก็จะโทรมาคุยด้วยครับ ผบ.ผมเลยเหนื่อยมากครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 12:34:14 PM »

อ้อ ตอนนี้ผมนั่งจิบกาแฟอยู่ครับ ฮา.................  Grin

นึกว่านั่งอยู่หน้าคอมฯ  Grin
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.126 วินาที กับ 22 คำสั่ง