เช้านี้คงหายสงสัยเจ้าหน้าที่กันแล้วนะครับ มาดูการทำงานของทีมท่านอัศวินกันดีกว่า
วิสามัญแก๊งยิงน้องโตมี่ตร.บุกชาร์จรวบจิ๊ปไผ่เขียวกลางดึกอัศวินเผยไล่ล่าตั้งแต่สวนยางระยองกลับมากบดานอยุธยานำตัวชี้จุดยิงวันนี้
วันนี้ 14 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนที่นำโดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผบ.ตร.นำกำลังไล่ล่าจาก จ.ระยอง กลับเข้าพื้นที่ จ.อยุธยา อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากได้รับรายงานว่านายนพดล ประสงค์ศิล หรือ "จิ๊ป ไผ่เขียว" หนีออกจากป่าสวนยาง นั่งรถตู้โดยสารสายจันทบุรีกลับเข้ากรุงเทพ และเดินทางเข้าไปในพื้นที่ จ.อยุธยา เตรียมกบดาบดาน ขณะนอนอยู่ในห้องอพาร์ตเมนท์ใน จ.อยุธยา กำลังเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่า ได้บุกเข้าจู่โจมล็อคตัว"จิ๊ป ไผ่เขียว"ได้โดยละม่อม
ควบคุมตัว นายนพพล หรือจิ๊ปไผ่เขียวมาสอบสวน ยังมีอาการสดชื่น ไม่มีอาการอ่อนเพลียแต่อย่างใด พร้อมให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุยิงน้อง"โตมี่"จริง โดยวันเกิดเหตุ ตนเป็นคนขี่รถมอเตอร์ไซด์ ให้ โจ๊ก นั่งซ้อนท้าย ก่อนสั่งให้ขี่รถแซงแล้วประกบ ก่อนโจ๊กยิงใส่รถน้อง"โตมี่" โดยไม่มีเรื่องดกรธเคืองมาก่อน นอกจากนี้ผู้ต้องหายังรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง และทุกครั้งก็ไม่มีสาเหตุโกรธแค้นกับคู่กรณี ทั้งนี้ ขณะก่อเหตุจะใช้รถ จยย. ขนาดใหญ่ และรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ ล้อทอง ก่อเหตุทุกครั้ง ขณะนี้มีผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความแล้ว 2-3 รายด้วยกัน ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ซึ่งสอบปากคำผู้ต้องหา กล่าวว่า ผู้ต้องหาเข้าข่ายเป็นคนร้ายโรคจิต เป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัวมาก
ส่วน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัวนายนพพล ประสงค์ศิล หรือจิ๊ป ไผ่เขียวอายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดียิง ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ เสียชีวิต ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.1 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 118 หมู่ 6 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังพบว่ามีเครือข่ายของนายนพพล ประสงค์ศิล หรือจิ๊ป ไผ่เขียวอาศัยอยู่ จากการตรวจค้นภายในบ้านพบนายนคร มีสุข หรืออ๊อฟ อายุ 23 ปี อยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว น้ำเงิน ทะเบียน ขจว 468 พระนครศรีอยุธยา และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องมาตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายนคร หรืออ๊อฟ ให้การว่ารู้จักกับนายจิ๊ปเป็นอย่างดี โดยในคืนวันเกิดเหตุ หลังจากที่นายจิ๊ปยิงถล่มรถเก๋งโตโยต้า ยาริสป้ายแดงคันที่น้องโตมี่นั่งมา แล้ว นายจิ๊บได้โทรศัพท์มาหาตน บอกให้ไปดูผลงานที่ยิงถล่มรถ จากนั้นอีกสักชั่วโมง นายจิ๊ปโทรฯ กลับมาหาตนเองอีกครั้ง ถามว่ามันตายหรือไม่ ตนก็ตอบนายจิ๊ปไปว่าตาย นายจิ๊ปถึงกับตะเบ็งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความสะใจ ก่อนจะวางสายไปโดยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายนครเพิ่งจะเปิดร้านอินเทอร์เน็ตใหม่เอี่ยม ใช้เงินลงทุนกว่า 2 แสนบาท สนิทสนมคุ้นเคยกับนายจิ๊ปเป็นอย่างดี ซึ่งนายจิ๊ปเคยนำรถจักรยานยนต์ของตัวเองมาแต่งที่บ้านของนายนครบ่อยครั้ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบในเชิงลึกว่านายนครมีส่วนพัวพันกับเครือ ข่ายของนายจิ๊ป หรือไม่ อย่างไร
ด้าน พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าคดีนายนพพล ประสงค์ศิล หรือจิ๊ป ไผ่เขียวขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลถึงแก๊งยาเสพติดว่าเกี่ยวพันถึงใคร และรับมาจากไหน ส่วนแฟนสาวของนายชาญชัย และนายนพพล ทางพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.อุทัย ส่วนนายจิ๊ป ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ตำรวจยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงรถเก๋งของน้องโตมี่จนเสียชีวิต โดยพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดตรงกัน เมื่อดูจากพฤติกรรมผู้ต้องหาที่เป็นคนชอบใช้อาวุธปืน และความรุนแรง ส่วนสาเหตุที่ยิงรถน้องโตมี่เกิดจากความคึกคะนอง สำหรับหมายจับทั้งนายโจ๊กและนายจิ๊ป ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ออกให้เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2553 ในข้อกล่าวหายิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชน ,พกพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาเวลา 13.30 น.พ.ต.ท.ธีระยุทธ์ ทองสาริ รอง ผกก.สส.สภ.อุทัย นำตัว น.ส.วีรยา หรือกิ๊ก เนื่องจันทร์พัฒน์ อายุ 26 ปี แฟนสาวของนายนพพล หรือจิ๊ป ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครอง และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วย น.ส.โชติรส วงษ์จำปา อายุ 25 ปี แฟนสาวของนายชาญชัย หรือโจ๊ก ที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งถูกตั้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ ได้รับอนุญาต ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว ศาลอนุญาต พร้อมส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำ จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับการติดตามไล่ล่านายจิ๊ป เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสว่านายจิ๊ปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านญาติคนหนึ่งในป่าเขต ภาคตะวันออก แถบรอยต่อระหว่าง จ.ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา(สบ10) รักษาการผบช.ภ.1 ประสานไปยังทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ตรวจสอบบุคคลที่เข้าออกในแถบชายแดนอย่างละเอียดแล้ว เพราะคาดว่านายจิ๊ป จะพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมกับส่งกำลังเจ้าหน้าที่บช.ภ.1 จำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ปูพรมไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด นอกจากนี้ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่านายจิ๊ปติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่พบตัวนายจิ๊ปว่าจะเข้ามอบตัวกับใครแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการติดตามไล่ล่าตัวผู้ต้องหานั้น ผู้เป็นแม่ของจิ๊ป ไผ่เขียวได้ลงพื้นที่ติดตามตัวลูกชายด้วยตัวเอง โดยได้พาเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่ง ไปที่บ้านญาติคนหนึ่งใน จ.ระยอง ซึ่งแม่ของนายจิ๊ประบุว่าได้พูดคัยกุบลูกชายทางโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกันนี้ก็เพิ่งคุยกัน อย่างไรก็ตามเมื่อคณะเจ้าหน้าที่ไปถึงเป็นพื้นที่เรือกสวน พบเพียงกระท่อมว่างเปล่า แต่ตัวนายจิ๊ปได้หลบหนีไปก่อนหน้า ผู้เป็นแม่จึงกล่าวถึงลูกชายผ่านสื่อมวลชนว่าจิ๊ป กลับมาหาแม่นะ แม่จะพาเข้ามอบตัว ลูกจะได้ไม่ตาย ถ้าเกิดเขาเจอ เขาเอาถึงตายนะลูก นะ กลับมาหาแม่ ที่สัญญาไว้ไง นี่แม่มารับอยู่ตรงนี้ก็หาไม่เจอ ถ้าฟังอยู่ ดูโทรทัศน์อยู่ ให้โทรฯ กลับมาหาพ่อแม่นะ พี่เจี๊ยบก็ได้ นะจิ๊บ สัญญากับแม่นะ ที่สัญญาไว้ทำไมไม่ทำตามสัญญาล่ะลูก แม่คอยอยู่ ช่วยออกมาเหอะ ดีกว่าถูกเขายิงตายนะลูก ถ้ามอบตัวมันไม่ตายหรอกลูก อันไหนเราไม่ทำ เราก็ไม่ยอมรับ อันไหนเราทำยอมรับไปเลย ลูกผู้ชายลูก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.กล่าวถึงการติดตามตัวนายนพพล ประสงค์ศิล หรือจิ๊ป ไผ่เขียวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา(สบ10)ด้านการสืบสวน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าชุดจับกุมได้ลง พื้นที่เพื่อติดตามตัวอย่างใกล้ชิด คาดว่าจะติดตามจับกุมตัวได้ไม่ยาก ส่วนกรณีที่พ่อแม่ของนายนพพล ติดต่อผ่านสื่อมวลชนเพื่อขอเข้ามอบตัวนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน แต่ถ้ามีกรณีเช่นนี้ก็ให้ประสานงานเรื่องการเข้ามอบตัวเพื่อจะไม่เป็น อันตรายต่อทุกฝ่าย และตนพร้อมให้ความเป็นธรรม ผู้สื่อข่าวถามว่าคนร้ายมีอาวุธร้ายแรงและพร้อมจะต่อสู้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า หากชุดจับกุมพบตัวก็ต้องจับกุมตัวตามหน้าที่ ซึ่งหากคนร้ายใช้ความรุนแรง ตำรวจก็ต้องระงับเหตุ ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหายอมให้จับกุมแบบละมุนละม่อมก็ไม่มีปัญหา แต่หากมีการใช้อาวุธร้ายแรงก็ต้องดำเนินการตามหน้าที่เพื่อป้องกันตัว
นอกจากนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบประวัติผู้ต้องหา และผู้ร่วมขบวนการเนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดราย ใหญ่ แต่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายไหนนั้นยังบอกไม่ได้ และคงต้องใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)เพื่อเข้ามาตรวจสอบ เงินทั้งหมดที่คาดว่าจะได้จากการค้ายา เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ และเชื่อว่ามีคนอื่นร่วมขบวนการอีกซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวน ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ต้องดำเนินการ ถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อประชาชนผบ.ตร.กล่าว.
ที่ศาลาการเปรียญวัดหนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ด.ช.โภคิน ผิวดี หรือน้องโตมี่ นายสุพัด ดีผิว อายุ 44 ปี และนางสำรวย ดีผิว อายุ 42 ปี พ่อและแม่ของน้องโตมี่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของบุตรชายมาก แต่ส่วนหนึ่งก็ภาคภูมิใจ และขอยกย่องว่าบุตรชายเป็นเหมือนวีรบุรุษที่ทำให้ขยายผลว่าผู้ที่ยิงน้องโต มี่นั้นเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ อย่างไรก็ดี อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ให้โอกาสกับนายจักรพันธ์ ดีผิว บุตรชายของตน และเป็นพี่ชายของน้องโตมี่ ซึ่งปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จ.ลพบุรี เนื่องจากจะได้เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของน้องโตมี่ที่โตขึ้นอยากจะเป็นตำรวจ และต้องฝากขอบคุณผู้ที่ให้การช่วยเหลือเรื่องค่าดูแลรักษา และติดตามสืบหาคนร้ายด้วย สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วถูกตำรวจยิงเสียชีวิตนั้น เป็นไปได้อยากจะให้จับเป็นมากกว่าเพราะจะได้มาชดใช้กรรมที่ทำไว้ ส่วนคนร้ายอีกคนมอบตัวจะดีกว่าถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ซึ่งครอบครัวของตนก็ขออโหสิกรรมให้กับผู้ลงมือสังหารบุตรชายเพราะจะได้ไม่ จองเวรกันอีก
นายสุพัดกล่าวต่อว่าเมื่อคืนวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มาร่วมฟังการสวดพระอภิธรรมกันเป็นจำนวนมาก ส่วนวันฌาปนกิจศพกำหนดไว้ในวันเสาร์ที่ 18 ธ.ค.นี้ สำหรับ น้องโตมี่เป็นบุตรคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้อง 4 คน โดยปกติแล้วน้องโตมี่จะเป็นคนที่น่ารัก มีน้ำใจเป็นที่รักของทุกๆ คน การจากไปของเขาทำให้หลายคนเสียใจขณะเดียวกันทางครอบครัวก็ไม่คิดว่าการช่วย เหลือ และการให้เกียรติจะมีมากมายขนาดนี้ ทางครอบครัวก็ไม่มีอะไรจะตอบแทน มีเพียงคำขอบคุณเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนที่นำโดยพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) รักษาการผบช.ภ.1 ได้ตามล่านายจิ๊ปซึ่งหนีเข้ามาในเขต อ.แกลง จ.ระยอง เพราะมีพี่สาวและพี่เขยมาทำสวนยางพารา แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบนายจิ๊ป ซึ่งได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้ จึงสอบถามจนทราบว่านายจิ๊ปหนีไปที่บริษัทเชิดไชยทัวร์ ที่ศูนย์การค้าภิบาล อ.แกลง สอบถามพนักงานขายตั๋วพร้อมทั้งให้ดูรูปนายจิ๊ป ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวได้มาซื้อตั๋วรถทัวร์ไปกรุงเทพฯ จึงสั่งให้ตั้งด่านสกัดที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี รอยต่อ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=419&contentID=109732