ตามข้อ 4 ถ้าเป็นการประมาทร่วมความผิดเป็นเช่นใดครับ แต่จุดดังกล่าวห้ามกลับรถครับ เราไม่ได้กลับรถครับ บริเเวณที่โดนชนที่กันชนท้ายตรงท่อไอเสียครับ รถฮอนด้า ซิวิค ท่อออกขวาครับ
หากเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นผู้ได้รับบาดเจ็บ มีอาการสาหัสตามกฎหมาย (แท้งลูก) แต่อย่างไรขออย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยนะครับ
ผู้ขับขี่ซึ่งมีส่วนก่อให้เกิดความบาดเจ็บ เสียหายดังกล่าว
ไม่ว่าบุคคลอื่นที่ดันกลับรถในที่ห้ามกลับ เป็นเหตุให้น้องท่านต้องเบรคอย่างกระทันหัน ทำให้สาวตั้งครรภ์ชนท้าย ก็ถือว่ามีส่วนในการก่อให้เกิดความเสียหาย
ย่อมต้องรับผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหายหรือผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสแล้วแต่กรณี ตามกฎหมาย
น้องชายท่านที่ดันไม่ทิ้งระยะห่างพอสมควร (หากข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นตามนั้น) ทำให้ต้องเบรครถกระทันหัน ซึ่งถือว่าปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมาย ให้สันนิษฐานไว้ว่าประมาท
ย่อมต้องรับผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหายหรือผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสแล้วแต่กรณี ตามกฎหมายเช่นกัน
ส่วนตัวภรรยาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง และไม่เว้นระยะห่างเช่นกัน ซึ่งถือว่ามีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายเช่นกัน
และแม้ตัวเองได้รับความเสียหาย หรือบาดเจ็บ ก็ถือว่าตัวเองประมาทก่อให้เกิดความเสียหายด้วย ตาม พรบ .จราจร
(แต่ความผิดฐานประมาททำให้ตัวเองแท้งลูกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๐
ภรรยาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ต้องรับผิด เพราะจะเป็นความผิดได้ ต้องประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นแท้งลูกเท่านั้น)
ซึ่งโดยหลักผู้มีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใดๆ จะต้องรับผิดทางอาญาฐานประมาท ไม่ว่าตนเองจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หรือตายก็ต้องรับผิด
(เพียงแต่กรณีตายสิทธิฟ้องผู้ตายเป็นคดีอาญาต่อศาลระงับลง)
คือพนักงานสอบสวนต้องตั้งข้อหาในความผิดดังกล่าว และพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องทั้งสาม เป็นจำเลยในความผิดดังกล่าวตามกฎหมายครับ
ซึ่งหากศาลพิจารณาแล้วพิพากษาว่ามีความผิด ก็จะลงโทษทั้งสามตามความประมาทของแต่ละคน ว่าใครประมาทมากน้อยครับ
คนนี้อาจโดน ๖ เดือน ภรรยาอาจโดน ๓ เดือนแต่รอลงอาญาไว้ เป็นต้น แล้วแต่ใครประมาทมากน้อยกว่ากันครับ