เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 05:01:59 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำรวจ และเขาอยากเป็นตำรวจ  (อ่าน 3688 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 06:15:47 PM »

 จำนวนคนอ่านล่าสุด 7431 คน  วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7349 ข่าวสดรายวัน


รัวฆ่าพตท. ยัวะโดนจับ'เมาขับ'

ตายพร้อมลูกน้อง2ศพ ซัลโวบนรถสายตรวจ ระหว่างคุมตัวมาโรงพัก แต่คนร้ายก็ถูกยิงเจ็บ




ฆ่าพ.ต.ท. - แพทย์พยายามปั๊มหัวใจ พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรีนวล สวส.สภ.เมืองกำแพง เพชร แต่ช่วยไว้ไม่ได้ หลังถูกนายกำพลศักดิ์ พริกทุ่ง ผู้ต้องหาคดีเมาขับ ยิงตายพร้อมลูกน้อง รวม 2 ศพ ขณะนำตัวขึ้นรถสายตรวจมาโรงพัก

 
หนุ่มใหญ่ยัวะถูกจับเมาขับ ชัก 11 ม.ม. ยิงตร.กำแพงเพชรตาย 2 ศพคารถสายตรวจ ทั้งสารวัตรและนายดาบ ส่วนจ่าโดนกระสุนพุ่งถากหัวรอดหวุดหวิด เผยก่อนเกิดเหตุตำรวจทั้ง 3 นายรุดไปตรวจสอบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันแล้ว ไปพบหนุ่มใหญ่ยืนเมาเละไม่รู้เรื่องราว จึงนำตัวจับเป่าแอลกอ ฮอล์ จากนั้นพาขึ้นรถสายตรวจไปโรงพัก แต่ระหว่างทาง หนุ่มขี้เมาชักปืน 11 ม.ม. กระ หน่ำยิงตำรวจทั้ง 3 นายจนรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ฝ่ายคนร้ายก็หนีไม่รอด ขาซ้ายหัก มีรอยถูกยิงที่หน้าผาก

เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ต. ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร รับแจ้งจากโรงพยาบาลกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บและทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาภายหลังจากเข้ารับการรักษาเร่งด่วนที่โรงพยาบาล หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบโดยด่วน

เมื่อไปโรงพยาบาลกำแพงเพชร พบตำรวจเสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อ พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรี นวล อายุ 46 ปี สวส.สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. กระสุนเจาะเข้าหน้าผาก 1 นัด และด.ต.อดิศักดิ์ เป้าภู่ อายุ 37 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าหน้าผาก ส่วนจ.ส.ต.ชำนาญ อ่อนยิ้ม อายุ 34 ปี ถูกยิงถากศีรษะและไหล่ขวาบาดเจ็บ แพทย์อยู่ระหว่างรักษา

สอบสวนเบื้องต้นพบว่า ก่อนเกิดหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง สี่แยกบ้านลำมะโกก ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จึงเดินทางไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มพลิกคว่ำอยู่ โดยมีนายกำพลศักดิ์ พริกทุ่ง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.4 ต.บ้านป้อม อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุในลักษณะมึนเมาสุราอย่างหนัก พูดจาไม่รู้เรื่อง

จากนั้นตำรวจทั้ง 3 นายได้นำตัวนายกำพลศักดิ์ไปที่ป้อมสายตรวจจราจร 502 ตรงสี่แยกกำแพงเพชร-พิจิตร เพื่อจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ หลังพบว่ามีปริมาณเกินกว่าที่กฎ หมายกำหนด แต่ในระหว่างนั้นนายกำพลศักดิ์ไม่สามารถ ให้การใดๆ ได้เนื่องจากอยู่ในอาการมึน เมามาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายจึงนำตัวนายกำพลศักดิ์ขึ้นรถกระบะสายตรวจควบคุมตัวไป ยังสภ.เมืองกำแพงเพชร

อย่างไรก็ตาม เมื่อรถสายตรวจดังกล่าวแล่นมาถึงบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขากำแพงเพชร ถ.เจริญสุข จู่ๆ นายกำพลศักดิ์ได้ชักอาวุธปืนที่พกติดตัวขนาด 11 ม.ม. ออกมายิงตำรวจทั้ง 3 นายเป็นเหตุให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างแรง หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บในรถส่งโรงพยาบาล โดยไม่รู้ว่าเกิดเหตุยิงตำรวจในรถ เพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนธรรมดา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจร่างกายนายกำพลศักดิ์ มือปืนรายนี้พบว่า ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก บริเวณหน้าผากมีรอยถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากปืนของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากในชั้นนี้นายกำพลศักดิ์ยังให้การวกวนเช่นเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ประเสริฐได้สอบถามเรื่องราวกับนายกำพลศักดิ์ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าไม่ได้ยิง ส่วนปืน 11 ม.ม. กระบอกดังกล่าวได้ซื้อมามีทะเบียนถูกต้องในราคา 60,000 บาท เหตุที่พกปืนติดตัวทุกครั้งเพื่อไว้คุ้มครองครอบครัว อีกทั้งวันนี้ต้องพกปืนไว้ป้องกันตัวเนื่องจากนำเงิน 40,000 บาทไปใช้หนี้ที่ยืมเพื่อนไปจ่ายเป็นค่าสินสอดแต่งงานให้กับลูกชาย หลังจากชำระหนี้เรียบร้อยแล้วจึงนั่งดื่มสุรากับพรรคพวกไป 2 ขวด จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักในอ.พรานกระต่าย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ก.ม. กระทั่งมาประสบเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์ แต่เจ้าของรถไม่เอาเรื่อง ต่อมามีตำรวจมาเชิญตัวพาไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายกำพลศักดิ์เอาไว้ และจะเรียกสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
 
 
 
 
 ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 13, 2011, 04:52:46 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 06:17:26 PM »

ผู้การทางหลวงปัดไม่เกี่ยวอุ้ม "เก่ง เมธัส" แค่ช่วยติดตามรถผู้เสียหายคืน แถมเจ้าตัวยังต่อรองผ่อนจ่ายด้วยวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:14:35 น.
แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share



 

พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ถึงกรณีที่นายเมธัส หรือ เก่ง สวนศรี อายุ 29 ปี อดีตนายแบบชื่อดัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มขึ้นรถไป ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเดอะมอล์ สาขางามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงว่า รถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ รุ่น S80 ทะเบียน ฌฎ 555 กรุงเทพมหานคร ถูกยักยอกไป พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันว่า เป็นเจ้าของรถดังกล่าวจริง ซึ่งรถคันดังกล่าวนายเมธัส เป็นผู้ซื้อต่อจากกลุ่มผู้เสียหาย แต่เกิดผิดเงื่อนไขสัญญาในการซื้อขายรถจึงต้องการนำรถกลับคืนมา พร้อมประสานขอให้ตำรวจทางหลวงช่วยสกัดจับรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือในการสกัดจับ ต่อมากลุ่มผู้เสียหายได้ประสานมาว่ารถคันดังกล่าวอยู่ที่นายเมธัส และจอดอยู่ที่ห้างเดอะมอล์ งามวงศ์วาน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบเพียงแต่นายเมธัสเท่านั้น ส่วนรถคันดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่พบแต่อย่างใด

 

"กลุ่มชายฉกรรจ์ได้อุ้มตัวนายเมธัสไปนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอย่างแน่นอน รวมทั้งตำรวจทางหลวงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามรถคืนตามที่ผู้เสียหายร้องขอเท่านั้น" พล.ต.ต.นรบุญ กล่าว และว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายเมธัสได้เจรจาต่อรองขอผ่อนจ่ายเงินเป็นงวดๆ ให้  ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายไม่ยอมและต้องการนำรถวอลโว่กลับคืนเท่านั้น สุดท้ายจึงเจรจาไปตามรถกลับคืนมาได้สำเร็จ โดยทางกลุ่มผู้เสียหายก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ช่วยเหลือ

 

ก่อนหน้า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัย ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน ว่า นายเมธัส สวนศรี หรือ เก่ง เมธัส นายแบบหนุ่ม ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งอุ้มขึ้นรถไปจากลานจอดรถชั้นจีของห้าง โดยทิ้งรถเก๋งสปอร์ตราคาแพงยี่ห้อปอร์เช่ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-5555 กรุงเทพมหานคร ไว้ที่ลานจอดรถ

 

นายจารึก สวนศรี อายุ 31 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายเมธัส ให้การว่า เมื่อเวลา 21.00 น. นายเมธัสได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าให้ไปเอารถเก๋งของนายเมธัส ที่จอดอยู่ชั้นล่างสุดของห้าง เนื่องจากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งอุ้มขึ้นรถตำรวจทางหลวงมา เพื่อเจรจาตกลงเรื่องหนี้สินจากการพนันบอลที่เป็นหนี้อยู่ประมาณ 8 ล้านบาท โดยให้มาเอากุญแจรถที่ฝากไว้กับนายแมว จึงรีบขับรถมาที่ห้าง เมื่อพบกับพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงสอบถามหาคนชื่อแมว เพราะคิดว่านายเมธัสคงฝากกุญแจรถไว้ให้ แต่ปรากฏว่า ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคนใดชื่อแมว

 

ทางพนักงานรักษาความปลอดภัยได้เปิดกล้องวงจรปิดพบว่า ขณะที่นายเมธัสเดินออกจากห้างเพื่อจะขึ้นรถพร้อมกับนายอนุภาพ สวนศรี ลูกพี่ลูกน้องที่ติดตามมาด้วย ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์ในชุดซาฟารีจำนวนหนึ่ง เดินเข้ามาล็อคคอนายเมธัสออกจากรถเก๋งพร้อมกับนายอนุภาพ ก่อนจะนำไปขึ้นรถตำรวจทางหลวงที่จอดรออยู่ใกล้ๆ กัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในเครื่องแบบ 2 นาย ยืนคุมเชิงอยู่ และขับออกไป


 โอละพ่อ "เก่ง เมธัส" ปัดถูกตร.อุ้ม ที่แท้แค่นั่งรถไปกินข้าวกับญาติ ผู้การทางหลวงปัดไม่เกี่ยวอุ้มดาราวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:14:35 น.
แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share



 
 

เมื่อเวลา 17.30 น. นายเมธัส หรือเก่ง สวนศรี อายุ 29 ปี อดีตนายแบบชื่อดัง กล่าวผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 ถึงข่าวถูกตำรวจอุ้ม เนื่องจากติดหนี้พนัน 8 ล้านบาท เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของวันที่ 11 มกราคม ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ งามวงศ์วาน ว่า จริงๆ แล้วไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่ญาติห่างๆ มารับตนไปทานข้าว โดยขับรถซีอาร์วีมาและมีรถตำรวจตามมาด้วย ตนได้จอดรถปอร์เช่ทิ้งไว้ที่เดอะมอลล์ เพื่อออกไปทานข้าวข้างนอกด้วยกัน ก่อนขึ้นรถมีการกอดคอกัน แต่ รปภ.กลับหาว่าผมโดนอุ้ม ก็ไม่รู้ว่าใครให้ข่าว

 

"ผมนั่งรถไปกับพี่บีและญาติอีกคนหนึ่ง จอดรถปอร์เช่ไว้ที่เดอะมอลล์ ถึงเที่ยงคืนก็ให้หลาน ชื่อนายจารึก สวนศรี มาเอารถที่เดอะมอลล์ โดยมอบกุญแจสำรองให้ แต่ รปภ.ห้างและตำรวจมาล้อม เพราะนึกว่ามาโจรกรรม นายจารึกบอกว่าจะเอารถกลับไป แต่เขาไม่ให้เอารถออก จนผมต้องโทร.บอก ผมอยากถามว่า ถ้าผมโดนอุ้ม ทำไมตอนตี 3 ถึงกลับไปเอารถและกลับบ้านนอน" เก่ง เมธัส กล่าว

 

เก่ง เมธัส กล่าวว่า ความจริงเป็นการกอดคอ ไม่ใช่การล็อคคอ ผมกับพี่บีเป็นหุ้นส่วนกัน พอมามีข่าวแบบนี้กลัวว่าจะทะเลาะกัน ข่าวทั้งหมดมีเรื่องจริงที่มีตำรวจมารับ แต่ไม่ใช่แก๊งทวงหนี้ ไม่มีเรื่องการพนันมาเกี่ยวข้อง อยากถามว่า ถ้าตนโดนอุ้ม ทำไม รปภ.ไม่มาช่วยแต่แรก ตนยังฝากรถไว้กับ รปภ.ด้วย เรื่องนี้อาจเป็นเพราะทุกคนเป็นห่วงตน ยืนยันว่าตนไม่เคยเล่นการพนัน หนี้ 8 ล้านบาทก็ไม่มี เป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน อ.เมืองนนทบุรี นายเมธัส สวนศรี ดารานายแบบชื่อดัง พร้อมด้วยนางตลุ่ม สวนศรี อายุ 77 ปี ย่า และนายนุภาพ สวนศรี อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นอาของนายเมธัส ได้นำกระเช้าดอกไม้มาขอโทษนางพิไลวรรณ หงสกุล ผู้จัดการทั่วไปของห้างเดอะมอลล์ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเพื่อขอบคุณที่ทางห้างฯ ได้ช่วยดูเแลทรัพย์สินของลูกค้าที่มาใช้บริการ หลังเกิดเหตุเข้าใจคลาดเคลื่อนที่มีคนแอบอ้างจะมาขับรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ ทะเบียนป้ายแดง ก 5555 กรุงเทพมหานคร ไปจากลานจอดรถชั้นจี จนเป็นเหตุให้เข้าใจผิดภายหลังว่า นายเมธัส ถูกอุ้มตัวไป
  

นายเมธัส กล่าวว่า เมื่อวาน (11 ม.ค.) ได้มาที่ห้างเดอะมอลล์ กับนายนุภาพ เพื่อนัดกินข้าวกับหุ้นส่วนรุ่นพี่คนหนึ่ง ชื่อบี ที่ทำผับด้วยกัน แต่รุ่นพี่มาสายจนใกล้ห้างปิดบริการ จึงนัดกันไปกินข้าวที่ร้านอื่นแทน โดยตนได้ทิ้งรถปอร์เช่ไว้ที่ลานจอดรถแล้วนั่งรถของรุ่นพี่ออกไป ด้วยความเป็นห่วงเรื่องรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ ตนจึงให้หลานมาช่วยขับรถกลับไป แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำได้ว่าตนเป็นเจ้าของรถ จึงไม่ยอมให้ขับรถออกมา ประกอบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาคิดเอาเองว่า ตอนที่รุ่นพี่ชื่อบีกอดคอตนขึ้นรถนั้นเหมือนตนโดนอุ้มไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน
 

นางพิไลวรรณ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ทำหน้าที่ดูแลรถและทรัพย์สินของลูกค้าอย่างถูกต้องแล้ว ที่ไม่ยอมให้คนไม่ใช่เจ้าของรถขับรถออกไป


ด้าน พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ถึงกรณีที่นายเมธัส หรือ เก่ง สวนศรี อายุ 29 ปี อดีตนายแบบชื่อดัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มขึ้นรถไป ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเดอะมอล์ สาขางามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงว่า รถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ รุ่น S80 ทะเบียน ฌฎ 555 กรุงเทพมหานคร ถูกยักยอกไป พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันว่า เป็นเจ้าของรถดังกล่าวจริง ซึ่งรถคันดังกล่าวนายเมธัส เป็นผู้ซื้อต่อจากกลุ่มผู้เสียหาย แต่เกิดผิดเงื่อนไขสัญญาในการซื้อขายรถจึงต้องการนำรถกลับคืนมา พร้อมประสานขอให้ตำรวจทางหลวงช่วยสกัดจับรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือในการสกัดจับ ต่อมากลุ่มผู้เสียหายได้ประสานมาว่ารถคันดังกล่าวอยู่ที่นายเมธัส และจอดอยู่ที่ห้างเดอะมอล์ งามวงศ์วาน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบเพียงแต่นายเมธัสเท่านั้น ส่วนรถคันดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่พบแต่อย่างใด

 

"กลุ่มชายฉกรรจ์ได้อุ้มตัวนายเมธัสไปนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอย่างแน่นอน รวมทั้งตำรวจทางหลวงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามรถคืนตามที่ผู้เสียหายร้องขอเท่านั้น" พล.ต.ต.นรบุญ กล่าว และว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายเมธัสได้เจรจาต่อรองขอผ่อนจ่ายเงินเป็นงวดๆ ให้  ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายไม่ยอมและต้องการนำรถวอลโว่กลับคืนเท่านั้น สุดท้ายจึงเจรจาไปตามรถกลับคืนมาได้สำเร็จ โดยทางกลุ่มผู้เสียหายก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ช่วยเหลือ

 

ก่อนหน้า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัย ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน ว่า นายเมธัส สวนศรี หรือ เก่ง เมธัส นายแบบหนุ่ม ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งอุ้มขึ้นรถไปจากลานจอดรถชั้นจีของห้าง โดยทิ้งรถเก๋งสปอร์ตราคาแพงยี่ห้อปอร์เช่ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-5555 กรุงเทพมหานคร ไว้ที่ลานจอดรถ

 

นายจารึก สวนศรี อายุ 31 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายเมธัส ให้การว่า เมื่อเวลา 21.00 น. นายเมธัสได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าให้ไปเอารถเก๋งของนายเมธัส ที่จอดอยู่ชั้นล่างสุดของห้าง เนื่องจากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งอุ้มขึ้นรถตำรวจทางหลวงมา เพื่อเจรจาตกลงเรื่องหนี้สินจากการพนันบอลที่เป็นหนี้อยู่ประมาณ 8 ล้านบาท โดยให้มาเอากุญแจรถที่ฝากไว้กับนายแมว จึงรีบขับรถมาที่ห้าง เมื่อพบกับพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงสอบถามหาคนชื่อแมว เพราะคิดว่านายเมธัสคงฝากกุญแจรถไว้ให้ แต่ปรากฏว่า ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคนใดชื่อแมว

 

ทางพนักงานรักษาความปลอดภัยได้เปิดกล้องวงจรปิดพบว่า ขณะที่นายเมธัสเดินออกจากห้างเพื่อจะขึ้นรถพร้อมกับนายอนุภาพ สวนศรี ลูกพี่ลูกน้องที่ติดตามมาด้วย ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์ในชุดซาฟารีจำนวนหนึ่ง เดินเข้ามาล็อคคอนายเมธัสออกจากรถเก๋งพร้อมกับนายอนุภาพ ก่อนจะนำไปขึ้นรถตำรวจทางหลวงที่จอดรออยู่ใกล้ๆ กัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในเครื่องแบบ 2 นาย ยืนคุมเชิงอยู่ และขับออกไป

 
 

 http://www.youtube.com/watch?v=Kk_W8VS3X2k&feature=player_embedded

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2011, 03:25:59 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 06:18:57 PM »

 
 เฝ้าบ้านมาร์คแท็กซี่ชนตายอนาถกลางถนน
วันพุธ ที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 8:44 น
   .เนื้อหาข่าว
 
เลื่อนขั้น 5 ชั้นยศ ตำรวจจราจรเฝ้าบ้านนายกฯ เคราะห์ร้ายถูกแท็กซี่ชนดับอนาถคาถนนกลางกรุง หลังประสบอุบัติเหตุ ขี่ จยย.ออกมาซื้อของกิน เผยโชเฟอร์ตีนผีขับกินเลนพุ่งชนเต็ม ๆ ร่างกระเด็นไปถูกรถที่วิ่งตามหลังทับซ้ำ โดยผู้ก่อเหตุซิ่งหนีตามระเบียบ สุดท้ายจนมุมโปลิศตามลากคอได้ทันควันญาติ ๆ ตั้งสวดศพวัดเสมียนฯ 2 คืน ก่อนฌาปนกิจวันที่ 17 ม.ค.นี้
    
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ร.ต.ท.กิติศักดิ์ พรสงวนทรัพย์ ร้อยเวร สน. ทองหล่อ รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนอโศกมนตรี ตรงข้ามอาคารรัชต์ภาคย์ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ต.ณัฐพงษ์ สังขดิษฐ์ อายุ 54 ปี ตำรวจจราจร สังกัดงานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร รหัส 2403 สภาพแต่งเครื่องแบบ กระดูกหักทั้งตัว เสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีม่วงคาดส้ม ทะเบียน ทร 61 กรุงเทพมหานคร ห่างออกไปเล็กน้อยมี จยย. สีส้ม ทะเบียน ตราโล่ 57488 ของผู้ตายพลิกคว่ำอยู่
    
จากการสอบสวนนายอุทัย หนองผา อายุ 30 ปี คนขับรถแท็กซี่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมุ่งหน้าจะไปส่งผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ย่านบางนา ระหว่างทางสังเกตทางกระจกหลังเห็นแท็กซี่ สีเหลืองคันหนึ่ง ขับแซงขึ้นมาทางขวาของรถตนด้วยความเร็วสูง ก่อนจะได้ยินเสียงดังคล้ายกับรถคันดังกล่าวไปชนกับอะไรสักอย่างเสียงดังลั่น จากนั้นรถตนที่ขับตาม หลังมาก็ทับซ้ำ เมื่อจอดรถลงมาดูก็พบว่าใต้ท้องรถมีตำรวจเสียชีวิตจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่รอมอบตัวดังกล่าว ขณะที่นายบัวถัน ศรีดี อายุ 52 ปี พยานซึ่งเห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นตำรวจที่เสียชีวิตขี่ จยย.มาจากทางแยกอโศกตัดสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางแยกอโศก-เพชรบุรี ระหว่างนั้นเห็นรถแท็กซี่สีเหลือง จำทะเบียนได้เพียง ท 7575 กรุงเทพมหานคร ขับมาจากทางแยกอโศก-เพชรบุรี มุ่งหน้าแยกอโศกตัดสุขุมวิท ด้วยความเร็ว โดยขับสวนทางกับผู้ตาย โดยรถแท็กซี่ขับกินเลนทำให้พุ่งชน จยย.อย่างแรง รถ จยย.เสียหลักพลิกคว่ำ ร่าง ด.ต.ณัฐพงษ์ กระเด็นมาถูกรถแท็กซี่ของนายอุทัยทับซ้ำ ส่วนรถแท็กซี่คันก่อเหตุเห็นท่าไม่ดีรีบขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
    
หลังเกิดเหตุเพื่อนของ ด.ต.ณัฐพงษ์ ได้เดินทางมาดูสภาพศพ โดยกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้าเวรอยู่ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี ระหว่างนั้นผู้ตายบ่นว่าหิว ก่อนจะขี่ จยย.ออกมาหาซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว
    
สายวันเดียวกัน นางพยุง สังขดิษฐ์ อายุ 56 ปี พร้อมลูกชายและลูกสาว ด.ต.ณัฐพงษ์ พร้อมเพื่อน ๆ ตำรวจเดินทางมารับศพ ด.ต.ณัฐพงษ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางพยุง กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เมื่อช่วงเช้าตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนตำรวจของสามีว่า สามีถูกรถชนเสียชีวิต ตอนแรกคิดว่าเป็นการพูดเล่น แต่พอรู้ว่าเป็นเรื่องจริงก็ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ก็รีบโทรศัพท์หาลูกสาว ก่อนจะเดินทางไปรับเอกสารที่โรงพักเพื่อมารับศพสามี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังทำใจไม่ได้ เพราะสามีเป็นคนดีมาก ไม่ดื่มเหล้า แต่สูบบุหรี่บ้าง ทั้งนี้เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาสามีได้พูดกับตนว่า “ระหว่างเราใครจะไปก่อนกัน” ตนก็บอกว่าน่าจะเป็นตนเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง ส่วน พล.ต.ต.ภาณุ  เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านจราจร กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.ณัฐพงษ์ กำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ออกตรวจตราตามพื้นที่รอบ ๆ บ้านนายกรัฐมนตรี
    
ต่อมาเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้จับกุมตัวนายจินดา เสนาราช อายุ 36 ปี ได้ที่บ้านเอื้ออาทรวัดศรีวารีน้อย บางนากิโลเมตรที่ 18 จ.สมุทรปราการ ควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับเดินทางไปตรวจยึดรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน ทน 7575 กรุงเทพมหานคร ที่อู่รถแท็กซี่ภายในซอยเจริญราษฏร์ 107 จากการสอบสวนนายจินดา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่ย่านอโศก มาถึงจุดเกิดเหตุเห็น จยย. ของผู้ตายขับย้อนศรออกจากซอย ทำให้ไม่สามารถเบรกหรือหักหลบทันจึงพุ่งชนอย่างแรง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิตจึงรีบขับหลบหนี อีกทั้งเห็นว่าผู้ตายสวมหมวกคล้ายตำรวจจึงยิ่งตกใจ ไม่กล้าจอดรถลงไปดู ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ผิดเพราะผู้ตายขับรถย้อนศร สามารถตรวจสอบรถแท็กซี่ของตนได้ว่ามีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ด้านซ้าย แต่ก็อยากจะขอโทษครอบครัวของผู้ตาย ถ้าเปลี่ยนกันได้ก็อยากจะเปลี่ยนให้ตนเป็นคนเสียชีวิตแทน
    
พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน. ทองหล่อ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างหรือพูดอย่างไรก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่จะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวเบื้องต้นพบว่าไม่มีซอยแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีแก่นายจินดา ส่วนนายอุทัย ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
    
ด้าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต การช่วยเหลือเบื้องต้นมูลนิธิผอบ ณ นครเพื่อตำรวจนครบาล มอบเงินให้แก่ครอบครัว 12,000 บาท กองทุนสวัสดิการ บช.น. 15,000 บาท สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจนครบาลจำกัด 77,040 บาท และรับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ตำรวจอีก 300,000 บาท รวมทั้งสิ้น 404,040 บาท พร้อมพิจารณาเลื่อนชั้นยศให้ไม่ต่ำกว่า 5 ขั้น สำหรับพิธีรดน้ำศพจะเริ่มเวลา 16.00 น. ที่วัดเสมียนนารี ถนนวิภาวดีรังสิต สวดพระอภิธรรมศพวันที่ 11 ม.ค. และ 12 ม.ค. เวลา 18.30 น. ฌาปนกิจศพวันที่ 17 ม.ค. เวลา 17.00 น.
.
 








 



ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  ไหว้




 
  
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 13, 2011, 04:53:18 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 06:29:06 PM »






 








 หนุ่มแต่งพ.ต.อ.ลวงแฟนถอยรถป้ายแดง
วันอังคาร ที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 8:33 น
   .เนื้อหาข่าว
สุดแสบ...หนุ่มวัยโจ๋เมืองคอนสวมบทพันตำรวจเอก อ้างตัวเป็นผู้กำกับ ปส. ทำเนียนแต่งเครื่องแบบเต็มยศ สั่งตร.จริงตั้งด่านตรวจยาเสพติดบนเกาะสมุย ตามนโยบายรัฐบาล แต่ไปไม่รอดความแตก เมื่อโปลิศจริงสงสัยอายุน้อยแต่ติดยศสูง ถูกรวบคอตกยอมปริปากรับชอบเครื่องแบบตำรวจเป็นชีวิตจิตใจ หวังหลอกแฟนสาว ลูกสาวเจ้าของสวนยาง เมืองคอน ลงทุนพาสาวเข้ากรุงลุยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หวังให้เชื่อใจ จนหลงเชื่อถอยรถป้ายแดงให้
    
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค. พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก. สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.สมพงษ์ เพ็ชรสุด สวป. และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ ป้านสุวรรณ สว.บช.ปส.ภาค 8 ร่วมกันทำการจับกุมตัวนายเทพทัย สุขอนันต์ อายุ 24 ปี บ้าน เดิมอยู่ที่ 84 หมู่ 10 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังแอบอ้างตัวเป็นตำรวจปลอมยศ พ.ต.อ.เทพทัย สุขอนันต์ ตำแหน่ง ผกก.ปส. จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นรต.รุ่น 42
    
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.สมพงษ์ ได้รับการประสานงานจากผู้ต้องหา ว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.อ. ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาะสมุย ตั้งด่านตรวจยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่หน้าหน่วย บริการประชาชนบ้านแม่น้ำ เพื่อทำการตรวจค้นยาเสพติดเส้นทางดังกล่าว แต่ท่าทีมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่จึงประสาน พ.ต.ท.วัชรินทร์    มาร่วมตรวจสอบ จนกระทั่ง พ.ต.อ.เทพทัย แต่งเครื่องแบบข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจเอกเต็มยศ เข้ามาที่ด่านตรวจ แสดงตัวเป็นตำรวจเต็มตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบข้อมูลกับ บช.ปส. เพราะสงสัยว่า อายุน้อยแต่ติดยศ พ.ต.อ. เร็วมาก ทำให้ พ.ต.อ.เก๊ ถึงกับเหงื่อแตก ตัวสั่น ยอมปริปากรับสารภาพทันทีว่า ตนไม่ได้เป็นตำรวจแต่อย่างใด แต่ตนชอบเครื่องแบบตำรวจเป็นชีวิตจิตใจ และเพื่อประสงค์หลอกแฟนสาวของตน ที่มีฐานะดี เป็นลูกสาวเจ้าของสวนยางพาราใน จ.นครศรีธรรมราช
    
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียนป้ายแดง ก-1369 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถยนต์ของแฟนสาว ภายในรถพบปืนปลอม 1 กระบอก หมวกข้าราชการตำรวจ 1 ใบ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจค้นที่ห้องพักที่ 1/92 ชั้น 3 โรงแรมมโนรา ในพื้นที่ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบเสื้อผ้าและเครื่องแบบข้าราชการตำรวจอีกหลายชุด และบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นาย   เทพทัย สุขอนันต์ แต่ใบขับขี่ชื่อ นายสิทธิพงษ์ สุขอนันต์ ไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายที่ตรวจค้นแต่อย่างใด และตรวจค้นรถยนต์โตโยต้า วีออสป้ายแดง ฮ-9898 นครศรีธรรมราช ภายในพบเอกสาร ที่ผู้ต้องหาเก็บไว้เพื่ออ้างตัวเป็นตำรวจ
    
จากการสอบสวน ผู้ต้องหารายนี้ ให้การว่า เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบาย แก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้ยุทธศาสตร์   5 รั้วป้องกัน เพื่อหยุดยั้งและลดระดับการ ขยายตัวของปัญหายาเสพติดในขอบเขตทั่วประเทศ ตนจึงได้สวมรอย และอ้างตัวเป็นข้าราชการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ โดยผู้ต้องหายังกล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ได้พาแฟนสาวไปที่สำนัก  งานตำรวจแห่งชาติ มาแล้ว เพื่อให้แฟนสาวเชื่อใจ ว่าตนเป็นตำรวจยศพันตำรวจเอกจริง จึงซื้อรถป้ายแดงให้ขับ แต่ไม่ได้มีพฤติกรรมที่แอบแฝงเพื่อทำผิดกฎหมายเรื่องยาเสพติดแต่อย่างใด จึง

  


 เศร้า เศร้า เศร้า
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 13, 2011, 04:53:47 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 06:49:55 PM »

ทำไมอยากเป็นตำรวจขนาดนี้ Grin Grin Grin อายุ 24 ทำอะไรประหลาดๆ
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
ก๊วยเจ๋ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 134
ออฟไลน์

กระทู้: 2848



« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 08:04:31 PM »







 








 หนุ่มแต่งพ.ต.อ.ลวงแฟนถอยรถป้ายแดง
วันอังคาร ที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 8:33 น
   .เนื้อหาข่าว
สุดแสบ...หนุ่มวัยโจ๋เมืองคอนสวมบทพันตำรวจเอก อ้างตัวเป็นผู้กำกับ ปส. ทำเนียนแต่งเครื่องแบบเต็มยศ สั่งตร.จริงตั้งด่านตรวจยาเสพติดบนเกาะสมุย ตามนโยบายรัฐบาล แต่ไปไม่รอดความแตก เมื่อโปลิศจริงสงสัยอายุน้อยแต่ติดยศสูง ถูกรวบคอตกยอมปริปากรับชอบเครื่องแบบตำรวจเป็นชีวิตจิตใจ หวังหลอกแฟนสาว ลูกสาวเจ้าของสวนยาง เมืองคอน ลงทุนพาสาวเข้ากรุงลุยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หวังให้เชื่อใจ จนหลงเชื่อถอยรถป้ายแดงให้
   
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค. พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก. สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.สมพงษ์ เพ็ชรสุด สวป. และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ ป้านสุวรรณ สว.บช.ปส.ภาค 8 ร่วมกันทำการจับกุมตัวนายเทพทัย สุขอนันต์ อายุ 24 ปี บ้าน เดิมอยู่ที่ 84 หมู่ 10 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังแอบอ้างตัวเป็นตำรวจปลอมยศ พ.ต.อ.เทพทัย สุขอนันต์ ตำแหน่ง ผกก.ปส. จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นรต.รุ่น 42
   
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.สมพงษ์ ได้รับการประสานงานจากผู้ต้องหา ว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.อ. ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาะสมุย ตั้งด่านตรวจยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่หน้าหน่วย บริการประชาชนบ้านแม่น้ำ เพื่อทำการตรวจค้นยาเสพติดเส้นทางดังกล่าว แต่ท่าทีมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่จึงประสาน พ.ต.ท.วัชรินทร์    มาร่วมตรวจสอบ จนกระทั่ง พ.ต.อ.เทพทัย แต่งเครื่องแบบข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจเอกเต็มยศ เข้ามาที่ด่านตรวจ แสดงตัวเป็นตำรวจเต็มตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบข้อมูลกับ บช.ปส. เพราะสงสัยว่า อายุน้อยแต่ติดยศ พ.ต.อ. เร็วมาก ทำให้ พ.ต.อ.เก๊ ถึงกับเหงื่อแตก ตัวสั่น ยอมปริปากรับสารภาพทันทีว่า ตนไม่ได้เป็นตำรวจแต่อย่างใด แต่ตนชอบเครื่องแบบตำรวจเป็นชีวิตจิตใจ และเพื่อประสงค์หลอกแฟนสาวของตน ที่มีฐานะดี เป็นลูกสาวเจ้าของสวนยางพาราใน จ.นครศรีธรรมราช
     
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียนป้ายแดง ก-1369 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถยนต์ของแฟนสาว ภายในรถพบปืนปลอม 1 กระบอก หมวกข้าราชการตำรวจ 1 ใบ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจค้นที่ห้องพักที่ 1/92 ชั้น 3 โรงแรมมโนรา ในพื้นที่ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบเสื้อผ้าและเครื่องแบบข้าราชการตำรวจอีกหลายชุด และบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นาย   เทพทัย สุขอนันต์ แต่ใบขับขี่ชื่อ นายสิทธิพงษ์ สุขอนันต์ ไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายที่ตรวจค้นแต่อย่างใด และตรวจค้นรถยนต์โตโยต้า วีออสป้ายแดง ฮ-9898 นครศรีธรรมราช ภายในพบเอกสาร ที่ผู้ต้องหาเก็บไว้เพื่ออ้างตัวเป็นตำรวจ
   
จากการสอบสวน ผู้ต้องหารายนี้ ให้การว่า เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบาย แก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้ยุทธศาสตร์   5 รั้วป้องกัน เพื่อหยุดยั้งและลดระดับการ ขยายตัวของปัญหายาเสพติดในขอบเขตทั่วประเทศ ตนจึงได้สวมรอย และอ้างตัวเป็นข้าราชการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ โดยผู้ต้องหายังกล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ได้พาแฟนสาวไปที่สำนัก  งานตำรวจแห่งชาติ มาแล้ว เพื่อให้แฟนสาวเชื่อใจ ว่าตนเป็นตำรวจยศพันตำรวจเอกจริง จึงซื้อรถป้ายแดงให้ขับ แต่ไม่ได้มีพฤติกรรมที่แอบแฝงเพื่อทำผิดกฎหมายเรื่องยาเสพติดแต่อย่างใด จึง

   


 เศร้า เศร้า เศร้า
 


                     ที่บ้านผมเรียกเพี้ยนครับ
บันทึกการเข้า

นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1646


จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง


« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 01:46:48 PM »

อายุ 24 แต่ติดซะ พ.ต.อ.  Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:01:45 PM »

อายุ 24 แต่ติดซะ พ.ต.อ.  Grin Grin Grin Grin

ที่ผม เจอ อายุ 18  อยากเป็น  ร.ต.อ ซะงั้น  ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:12:44 PM »

สาวๆสมัยนี้ชอบตำรวจครับ น้องแกเลยจัดให้ โดนซะวีออสป้ายแดง 1 คัน อย่างงี้เรียกว่าค่าโง่ได้ไหมครับ วีออสคันนึงต้องใช้ยางแผ่น 4 พันกว่าโลแลกมา อย่างงี้จะได้แต่งไหมเนี้ย
บันทึกการเข้า
MR.BEEN รักในหลวง
"ประชานิยม (มากไป)สังคมล่มจม"
Hero Member
*****

คะแนน 214
ออฟไลน์

กระทู้: 1124



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:42:32 PM »

สาวๆสมัยนี้ชอบตำรวจครับ น้องแกเลยจัดให้ โดนซะวีออสป้ายแดง 1 คัน อย่างงี้เรียกว่าค่าโง่ได้ไหมครับ วีออสคันนึงต้องใช้ยางแผ่น 4 พันกว่าโลแลกมา อย่างงี้จะได้แต่งไหมเนี้ย

  งานนี้ไม่รู้โดนยางพาราแปรรูปไปแล้วกี่แผน ถึงได้หลงขนาดยอมซื้อรถให้    ตกใจหน้าซีด 
บันทึกการเข้า

htthttp://www.gunauction.com/search/displayitem.cfm?itemnum=7742225p://www.gunauction.com/search/displayitem.cfm?itemnum=9457792
http://zplus.exteen.com/category/Music
http://www.gimyong.com/board53/index.php?topic=2144.0
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:50:19 PM »

ทำไมอยากเป็นตำรวจขนาดนี้ Grin Grin Grin อายุ 24 ทำอะไรประหลาดๆ

ทำไมถึงหลอกคนอื่นได้ด้วยมากกว่า
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

ตึก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 150
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2042


บิดามารดาคือพระประจำตัวลูก


« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 04:31:04 PM »

คนโดนหลอกก็...."ชั่งไม่รู้อะไรบ้างเลยยยย"

ส่วนตัวเคยประสบมากับตนเองครับเจอวัยรุ่นอายุประมาณ23ปีแต่งชุดอ่อนนายทหารยศร้อยโท ผมยาวผิดวิสัยนายทหารเพิ่งจบใหม่ ในเวลาราชการมาเดินเล่นอยู่ตามห้างโดยไม่ใส่เสื้อคลุม เดินไปๆมาๆสงสัยจะรอสาวที่นัดใว้ สังเกตุเครื่องหมายที่ติดถูกต้องแต่ชุดหลวมๆสงสัยจะเอาของพ่อมาใส่หรือไม่ก็ของคนรู้จักน่ะครับ ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 04:38:31 PM »

สาวๆสมัยนี้ชอบตำรวจครับ น้องแกเลยจัดให้ โดนซะวีออสป้ายแดง 1 คัน อย่างงี้เรียกว่าค่าโง่ได้ไหมครับ วีออสคันนึงต้องใช้ยางแผ่น 4 พันกว่าโลแลกมา อย่างงี้จะได้แต่งไหมเนี้ย

  งานนี้ไม่รู้โดนยางพาราแปรรูปไปแล้วกี่แผน ถึงได้หลงขนาดยอมซื้อรถให้    ตกใจหน้าซีด 
..คงโดนครบทุกกลิ่นมั้งครับ หุหุ เหมือนเรื่องหนึ่งเหตุเกิดจังหวัดที่พี่แก้ว(Coda)อยู่ แฟนของเพื่อนผมเป็นพยาบาล และเพื่อนของแฟนก็เป็นพยาบาลเหมือนกัน โดนไอ้หนุ่มส่งพิซซาหลอกว่าเป็นตำหนวดยศสามดาว โดนยางพาราแปรรูปอยู่เป็นสองสามปี กว่าความจะแตกถึงขนาดแต่งงานเลย ดีที่ไม่ได้หลอดซุ้มกระบี่ในวันแต่ง ไม่งั้นมึงเอ่ย โดนเจ้าของสถาบันเขาฟ้องมันตายพอดี.. Grin หลงรัก คิก คิก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
ป๊อกแมน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2095



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 05:48:26 PM »

แถวบ้านผมก็มีครับแต่เป็นตำรวจจริง ชั้นประทวน เวลาไปหาสาวก็เปลี่ยนเสื้อเป็นสัญญาบัตร สาวเจ้าก็เป็นคนมีกระตังส์ คบกันอยู่หลายปี จนจะแต่งงานกัน แต่หมอนี่โชคดีครับ  ที่เผอิญสอบได้ชั้นสัญญาบัตรและติดยศซะก่อน แต่สาวเจ้าก็งงว่า ดาวหายไปไหนสองดวง  Grin
บันทึกการเข้า

ตึก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 150
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2042


บิดามารดาคือพระประจำตัวลูก


« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 05:50:37 PM »

แถวบ้านผมก็มีครับแต่เป็นตำรวจจริง ชั้นประทวน เวลาไปหาสาวก็เปลี่ยนเสื้อเป็นสัญญาบัตร สาวเจ้าก็เป็นคนมีกระตังส์ คบกันอยู่หลายปี จนจะแต่งงานกัน แต่หมอนี่โชคดีครับ  ที่เผอิญสอบได้ชั้นสัญญาบัตรและติดยศซะก่อน แต่สาวเจ้าก็งงว่า ดาวหายไปไหนสองดวง  Grin
55555 อันนี้รอดตัวหวุดหวิดครับ ถือว่าติดดาวเองเพื่อสร้างโอกาสคบสาวรวย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.12 วินาที กับ 22 คำสั่ง