Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:32:34 PM » |
|
นำเรื่อง : จากกรณี พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓ ใจความคร่าว ๆ ว่าผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือตามนโยบาย 66/23 เมื่อ 30ปี ที่ผ่านมา ซึ่งการช่วยเหลือของรัฐให้การช่วยเหลือเป็นการตอบแทนคนละ 225,000 บาท เพื่อนำไปซื้อวัว 5ตัว ตัวละ หนึ่งหมื่นบาท ซื้อนา 5 ไร่ ไร่ละ 35,000บาท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:34:41 PM » |
|
เรื่องของผม : พ่อและแม่ของผม เป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย อยู่ภายใต้นโยบาย ๖๖/๒๓ นี้ด้วย
ท่านเข้าร่วมกับ ผกค.ในปี ๒๕๑๙ ออกตัวในปี ๒๕๒๖ ใช้ชื่อจัดตั้งว่า สหายน้อม และสหายจำเนียร แต่พ่อของผม ถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อปี ๒๕๔๘ ด้วยโรคมะเร็ง
ปัจจุบัน แม่ผม อายุ ๖๓ ปี สุขภาพแข็งแรงดี แต่มีน้ำตาลเกินอยู่บ่อย ๆ เรามีกัน สี่คนพี่น้อง ร่ำเรียนจนจบปปริญญากันทั้งหมด
ผมเป็นลูกคนสุดท้องและเป็นชายเพียงคนเดียว เราประกอบอาชีพตามปรกติ มีรายได้พอเลี้ยงตัวและสร้างฐานะ แม่มีสวนยางแก่อยู่สวนหนึ่ง พอจะมีรายได้ตามอัตภาพ
วันดีคืนดี เมื่อสัก สองปีก่อน ช่วงการเมืองกำลังวุ่นวาย มีสหายเก่า มาแจ้งกับแม่ ให้ไปแจ้งชื่อเพื่อรับเงินจำนวนห้าแสนบาทจากรัฐบาล
โดยให้นำหลักฐานทรัพย์สินทั้งหมด และรูปถ่ายลูกหลานทั้งหมดพร้อมสถานภาพไปแสดงด้วย แม่รับทราบแล้วก็เรียกลูก ๆ ทุกคนมาปรึกษา
พวกเรา มีข้อกังขาในเรื่องนี้กันมาก สอบถามผู้ใหญ่บ้าน ทางอำเภอและพรรคพวกที่ทำงานที่ศาลากลาง
ไม่มีใครทราบเรื่องและให้รายละเอียดได้สักคน จนเรื่องนี้ซาไป แต่เราทราบดี ว่าแม่..ยังคาใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:36:27 PM » |
|
ถัดมาปี ๕๓ ต้นปี เรื่องนี้ กระพือซ้ำ เมื่อกลุ่มสหายเก่า ที่เคยร่วมกลุ่มกับพ่อแม่ผม เริ่มดำเนินการอะไรบางอย่าง
ประมาณว่า ลงทะเบียนผู้ที่ตกค้าง...และสหายเก่าทั้งหมู่บ้านนอกจากแม่ ลงทะเบียนหมดแล้ว.
ปัญหาอยู่ที่ ขณะนั้น กลุ่มแดงสยาม โดยสุรชัย แซ่ด่าน ก็กำลังรวบรวมกลุ่ม ผกค.เก่า เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่พอดี ซึ่งพวกเราไม่เห็นด้วยกับสุรชัยและเสื้อสีอะไรทั้งนั้น
และรับไม่ได้ กับการต้องตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งเราไม่รู้ได้ว่า การรวบรวมชื่อและลงทะเบียนของกลุ่มสหาย จะเกี่ยวพันกับเรื่องนี้หรือไม่
ประกอบกับ ผู้อ่านข่าววิทยุท้องถิ่น(ไม่ใช่วิทยุชุมชน)กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ระวังจะตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:38:04 PM » |
|
ต้นเหตุของปัญหา :
๑. เราไม่เชื่อว่า รัฐจะให้เงินที่ว่า...แค่เงินคนจนกระตุ้นเศรษฐกิจสองพันบาทก็กลายเป็นประเด็นใหญ่โต แล้วนี่ตั้งหลายแสน
ถ้ารัฐจ่ายจริงก็เป็นเชื้อไฟชั้นดีให้กับฝ่ายค้าน... เราไม่รู้ว่า ในพันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓ มีเรื่องนี้อยู่
๒. เรากลัวว่า จะตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยเอกสารใด ๆ ที่เราส่งไป
๓. คำพูดปลอบแม่ที่ทำได้ขณะนั้นคือ ถ้าลงทะเบียนแล้วไม่สบายใจ ก็ไม่ต้องลง ก่อนมีเรื่องนี้ เราก็อยู่กันได้ ไม่มีเงินสองสามแสนนั้น เราก็อยู่ได้
ถ้าเพื่อน ๆ ได้เงินนั้นมาจริง เราก็ยินดีด้วย อิจฉามั๊ย คงห้ามไม่ได้หรอก
แล้ววาระนั้น ก็จบลงแบบ คาใจแม่อีกครั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:39:46 PM » |
|
วันนี้ มีการจ่ายเงินที่ว่า ให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ลงทะเบียนคัดกรองแล้ว ที่จังหวัดพิษณุโลก คนละ ๒๒๕,๐๐๐ บาท
ผมรับฟังข่าวนี้จากรายการหมุนตามวันของคุณฟองสนาน ทราบว่า จะหมุนเวียนจ่ายจนครบทุกจังหวัด แน่นอน แม่และพี่ ๆ ผม ยังไม่รู้เรื่องนี้ที
แต่ พรุ่งนี้ หรือวันต่อ ๆ ไป เขาจะต้องรู้ แล้วทำไมผมต้องเครียด.....??
เงินสองแสนกว่าบาท มากมั๊ย มากสิ แต่ผมหามาเองได้ พี่ผมคนไหน ๆ ก็หามาได้ แม้จะลำบากก็หาได้
ถ้าเพียงแม่บอกว่า แกอยากได้เงินจำนวนนั้น....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:41:22 PM » |
|
แต่ สิ่งที่เราจะชดเชยให้แม่ไม่ได้ คือ ความรู้สึกของแม่ ความรู้สึกที่ว่า เงินนั้น ควรได้มาโดยตัวแม่เอง ก็ในเมื่อคนอื่นยังได้ แล้วทำไมแม่ไม่ได้..
พวกเรารู้สภาพจิตใจและความคิดของแม่ดี เมื่อแม่ทราบเรื่องนี้ ดราม่าก้อนโต จะเกิดขึ้นที่บ้านผม
จริง ๆ แล้ว แม่ผมแกก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง ไม่มากไม่มาย แกเป็นคนที่ขาดเงินก้อนไม่ได้ พวกเราก็รู้ และสนับสนุนแกอยู่
เงินนั้นแม่เอาไปไหน ก็เอาไว้ให้พวกเรานี่แหละ
เวลาใครชักหน้าไม่ถึงหลัง ซมซานไปหาแก ให้แกด่าสักยกสองยก แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือ แล้วแกก็เริ่มสะสมใหม่ เป็นอย่างนี้มานานแล้ว
ถ้าแกได้เงินก้อนนั้นมาโดยตัวแกเอง แกก็จะมี..มีอะไรล่ะ มีความภาคภูมิใจ มีอำนาจ ที่จะเรียกลูกคนไหนมาด่า แล้วก็ให้เงิน นั่นเป็นความสุขของแก
ซึ่งพวกเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกตรงนี้ของแม่มาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 10:42:38 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:06:10 PM » |
|
ไม่เคยได้ยินมาก่อนปกติก็ฟังรายการหมุนตามวันของคุณฟองสนานทุกวัน แต่บางวันอาจไปหาลูกค้าไม่ได้ฟังบ้าง อาจพลาดฟังข่าวนี้ไป ปกติเงินขนาดนี้ถ้าผู้รับเป็นคนๆเดียวหรือครอบครัวเดียวถือว่ามากเลยทีเดียว ถ้าจะจ่ายมาจากภาครัฐบาลมันไม่ควรเงียบเชียบขนาดนี้ผม ยังแทบไม่อยากเชื่อเลยมามาจากภาครัฐบาลจริงหรือเปล่า หรือ ใครอยู่เบื้องหลัง แอบอ้างมาเพื่อผลประโยชน์อะไรหรือเปล่ามันน่าเคลือบแคลงมาก
เชื่อว่าถ้าจ่ายจริงต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวแล้วรัฐจะกล้าทำงุบๆงิบๆ เงียบๆ ได้หรืิอ และนายสุรชัยคนนี้พฤติกรรมก็น่าเคลือบแคลงไม่น้อยเช่นกัน ที่ผ่านมาก็รู้กันแล้วว่าเขา เลือกข้าง ฝ่านไหนไปแล้วเกี่ยวข้องกะเงินก้อนนี้หรือไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:22:49 PM » |
|
เห็นว่า ในพันธสัญญา ๖๖/๒๓ มีข้อเรียกร้องเพื่อการออกมาจากป่า มาร่วมพัฒนาชาติไทย และรัฐบาลในขณะนั้น ก็ตกลง
แต่เรื่องก็ถูกผลัด ถูกดองเรื่อยมา และมีการรื้อฟื้น เรียกร้องโดยกล่มสหายเก่าหลายครั้ง แต่เรื่องก็เงียบไปทุกครั้ง (ส่วนใหญ่จะเป็นทางฝั่งอีสาน)
จนมาถึงสมัยนายก พล.อ.สุรยุทธ จุลลานนท์ ซึ่งบิดาของท่าน ก็เป็นสหายเก่าภายใต้พันธสัญญานี้เช่่นกัน ท่านก็ได้เอาเรื่องนี้มาปัดฝุ่น
และเริ่มเป็นรูปธรรมโดยหลายฝ่ายช่วยกันผลักดัน จนวันนี้ ได้จ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว
ผมก็เคลือบแคลงเหมือนที่ลุงดุลย์ว่านั่นแหละครับ เป็นที่มาของกระทู้นี้
รายละเอียดเพิ่มเติม ลองค้นกูเกิ้ลดู โดยคำค้น "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย+๖๖/๒๓+พันธสัญญา+225,000"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:23:40 PM » |
|
ผมก็เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ล่ะครับ ผมว่าผมก็เสพข่าวสารเยอะอยู่นะ เงินขนาดนั้น คงเป็นข่าวใหญ่แล้วล่ะครับ ถ้ามีการให้จริง แค่น้ำท่วม ครอบครัวละ5พัน ยังจ่ายไม่ครบเลย ส่งเรื่องไปข่าว3มิติสิครับพี่ เค้าอาจจะขุดค้นมาให้ได้ สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะ ขนาดตั้งมูลนิธิปลอม โครงการหลวงปลอม มันยังกล้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:26:22 PM » |
|
http://www.innnews.co.th/innexct/oct49_v12/p4.php "ลุงคำตัน" และคำสั่งเสีย ดูแล "สหาย" ของพ่อ
"ลุงคำตัน" หรือ "พล.ท.พโยม จุลานนท์" ผู้บัญชาการกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เป็นลูกของ พ.อ.พระยาวิเศษสิงหนาถ (ยิ่ง จุลานนท์) กับคุณหญิงเก๋ง จุลานนท์ และเป็นลูกเขยของ พ.อ.พระยาศรีสิทธิสงคราม (เมื่อแต่งงานกับ น.ส.อัมโภช ท่าราบ) อดีตกบฏบวรเดช (ตุลาคม ๒๔๗๖)
ก่อนเข้าป่า "พ.ท.พโยม" เป็นนายทหารใหญ่มีบทบาทสำคัญระดับ "นายทหารเสนาธิการ" และเป็นทหารที่มีความฝักใฝ่ในการเมืองด้วย เมื่อมีความใกล้ชิดกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงได้ร่วมทำการรัฐประหารเพื่อล้มล้างรัฐบาลของ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เมื่อ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ต่อมาขัดแย้ง จอมพล ป. โดยเข้าร่วมกบฏโรงเรียนเสนาธิการ (กบฏเสนาธิการ) เมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๑ ไม่สำเร็จ ถูกปราบจนต้องลี้ภัยการเมืองไปศึกษาที่สถาบันลัทธิมาร์กซ์ - เลนิน ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
๘ ปี (๒๕๐๐) จึงกลับไทยพร้อมลงสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส ในสังกัดพรรค "สหภูมิ" และได้เป็น ส.ส.เพชรบุรี ก่อนที่ในปีถัดมามีการเปลี่ยนแปลงการเมืองต้องหลบลงใต้ดินอีก
สามปีผ่านยิ่งถูกรัฐบาลทหารรุกหนัก ถึงขั้นประหารชีวิต รวม วงศ์พันธ์ สมาชิกกรมเมือง ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของ พคท. ทำให้มุ่งหน้าสู่ราวไพรเพื่อเตรียมการสู้รบด้วยอาวุธในเขตป่าเขา ถัดมาอีกสองปี "สหายคำตัน" ในฐานะคณะกรรมการกลางการพรรค ได้ตัดสินใจเข้าป่าที่ ต.ดงหลวง อ.นาแก จ.นครพนม หลังจากนั้นไม่มีใครได้ข่าวอีกเลย จนกระทั่งปี ๒๕๑๐-๒๕๑๑ ที่กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้นำคนหนึ่งของ "แนวร่วมรักชาติแห่งประเทศไทย" ซึ่งเขาประกาศตัวเป็นแกนนำที่ปักกิ่ง (เป็นองค์กรแนวร่วม พคท.ที่พรรคคอมมิวนิสต์ จีนให้การยอมรับอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกับ พีแอลโอ.ของปาเลสไตน์)
"สหายคำตัน" ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งแกนนำของพรรคคนหนึ่ง จนปี ๒๕๑๘
กรมการเมืองของพรรคได้มอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านเสนาธิการของกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย (ทปท.) ซึ่งเป็น "กองกำลังติดอาวุธ" ของพรรค และใช้ชีวิตอยู่ในเขตงานรอยต่อชายแดนไทย-ลาว และมีส่วนร่วมในการวางแผนโจมตีฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น จ.น่าน อันเป็นการทดสอบกลยุทธ์ทางการทหารครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของ พคท.
ช่วงหลังที่ พคท. ต้องกลับมาตั้งหลักยังฐานที่มั่นในเขตน่านเหนือ น่านใต้ ทว่า "ตู้คำตัน" ยังคงอยู่ที่หลวงน้ำทา กระทั่งจีนส่งไปปักกิ่งเพื่อรักษาสุขภาพ ในปี ๒๕๒๑ และทรุดหนักในปี ๒๕๒๓
ในปีนั้นเองที่ "ลุงคำตัน" ที่กลายเป็น "ชายชรา" ที่มีหลายโรครุมเร้า ทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน เกาต์ และอัมพฤกษ์ เนื่องจากตกช้าง ทำให้เส้นประสาทในไขสันหลังทำงานไม่ปกติ ได้มีโอกาสพบหน้าลูกชาย หลังจากไม่เจอกันร่วม ๒ ทศวรรษ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก "ป๋าเปรม" ให้ "พล.อ.สุรยุทธ์" เดินทางไปกับคณะ "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ"
ทั้งคู่ก็ใช้เวลา ถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันประสาพ่อลูก โดย "ลุงคำตัน" ได้ถ่ายรูปกับลูกด้วย เพื่อให้ลูกเก็บไว้เป็นที่ระลึก พร้อมมีคำสั่งเสียให้ "ลูกทำตัวดีๆ เพราะคงเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย ก่อนจะฝากให้ช่วยดูแลบรรดาสหายของพ่อ" ที่อยู่ในเขตงานต่างๆ ที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่ จ.น่าน และ แถบอีสานใต้ ซึ่งเรื่องนี้ "พล.อ.สุรยุทธ์" ได้พูดไว้กับอดีตสหายหลายคน ว่าเขาต้องสานต่อสิ่งที่พ่อสั่งเสียให้ได้
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น "ลุงคำตัน" วัย ๗๐ ปี ก็เสียชีวิตโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดงานศพให้ แต่ทางครอบครัวไม่ได้ไปร่วมงานด้วย มีเพียงอัฐิของบิดาที่คืนกลับมาสู่ผืนแผ่นดินไทย เก็บไว้ยังวัดเพชรพลี จ.เพชรบุรี โดยมีการทำบุญทุกปี
"สหายของพ่อ"
บรรดาสหายของ "ลุงคำตัน" นั้นหาใช่หมายถึงแต่สหายรุ่นราวคราวเดียวกันที่บางคนก็อำลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยวัยสูงอายุไม่ หากแต่หมายถึงบรรดา "สหาย" ที่เข้าป่าตั้งแต่เป็นนักศึกษา เมื่อครั้ง ปี ๒๕๑๖ และ ๒๕๑๙ ทั้งในพื้นที่อีสานเหนือ อีสานใต้ โดยบางคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ "ลุงคำตัน" ในกองทัพปลดแอก บางคนก็เป็น "สหาย" สาย "ปัญญาชน" ที่มีบทบาทเคลื่อนไหวในปัจจุบันทั้งทางเปิดและปิด โดยเฉพาะหลายคนใน "สโมสร ๑๙" ขณะที่บางคนก็เป็นทหารบ้านที่เข้าร่วมและให้การนับถือ "ลุงคำตัน" ทั้งในด้านอุดมการณ์ ความกล้าหาญ และการใช้ชีวิตแบบพอเพียง
สำหรับสหายที่น่าจะเป็นรุ่นใกล้เคียงกับ "ลุงคำตัน" ทั้งที่ร่วมศึกษาในสถาบันลัทธมาร์กซ์-เลนิน และเคยร่วมเป็นฝ่ายนำ ในคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ อาทิ ส.ชัด หรือ มิตร สมานันท์ (เจริญ วรรณงาม) เป็นเลขาธิการใหญ่ คุมงานพรรคฯ และเป็นผู้บัญชาการกองทัพปลดแอกฯ (ทปท.) "จางหย่วน" หรือ ส.ธาร (วิรัช อังคถาวร) เป็นฝ่ายจัดตั้งคุมงานในเมือง และงานในกรุงเทพฯ "ส.สู้ หรือ อุดม สีสุวรรณ" อดีตกรรมการกลาง พคท. "ผิน บัวอ่อน" "รวม วงศ์พันธุ์" "สหายดิน" "ธง แจ่มศรี" "สหายจำรัส" "เปลื้อง วรรณศรี" "ทรง นพคุณ" "สหายด่าง" "ดำริห์ เรืองสุธรรม" "สหายห่ง" "ประสิทธิ์ ตะเพียนทอง" "สหายไฟ" "อัศนี พลจันทร์" "สหายประวัติ" สิน เติมลิ่ม สหายเกษม ศักดิ์ สุภาเกษม สหายสุรีย์ นิตย์ พงศ์ดาบเพชร ฯลฯ
พันธะสัญญา๖๖/๒๓ จากแม่ทัพสู่นายกฯ
สำหรับพันธะสัญญาที่รัฐเคยมีต่อ "สหาย" ที่เคยเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแล้วต่อมาได้เข้ามอบตัวต่อทางการตามนโยบาย ๖๖/๒๓ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๓ ซึ่งออกมาในสมัย "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) กลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.)ส่วนใหญ่เป็น ปัญหาของชาวบ้านตกค้างถูกหมักหมมมาช้านาน ที่ภาครัฐเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการแต่รัฐบาลก็ไม่เคยแก้ไขตามที่รับปาก เช่น ปัญหาการจัดสรรที่ดินทำกิน ปัญหาการจัดสรรโคกระบือ ปัญหาแหล่งน้ำ ฯลฯมาในยุคของ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" นายกฯนอกจากจะจับปัญหานี้ตั้งแต่สมัยเป็นแม่ทัพภาคที่ ๒ แล้ว สมัยเป็น ผบ.ทบ.ก็เคยมีรายงานว่าเขาให้ความสนใจกับปัญหานี้เหล่านี้แต่ไม่ค่อยได้รับการตอบรับจากรัฐบาล
" ยืนยันอีกครั้งว่าจะพยายามเร่งสะสางทุกอย่างที่คั่งค้างมาตั้งแต่ที่ผมเป็นแม่ทัพภาคที่ ๒ ขอให้ทุกคนสบายใจ สิ่งที่พูดไว้ทุกอย่างจะเป็นจริง ไม่เคยลืมทุกคนที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย ไม่ต้องเป็นห่วงและพร้อมรับฟังข้อห่วงใยทุกอย่าง ...ในเบื้องต้นได้พูดถึงการจัดสรรที่ดินทำกินให้ แต่ก็ไม่มีที่ดิน พูดการจัดหาโคกระบือให้แต่โครงการดังกล่าวก็ยังไม่บรรลุผล และในที่สุดก็พูดถึงเรื่องเงินชดเชยจำนวนหนึ่ง แต่ตกค้างมาหลายปียังไม่สามารถดำเนินการได้ "
พล.อ.สุรยุทธ์เคยเป็นแม่ทัพภาค ที่๒
ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาก่อนและทราบว่าผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ยังไม่ได้รับสิ่งที่รัฐบาลได้สัญญาไว้ว่าจะให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องค้างมาตลอด ที่สำคัญเมื่อครั้งพรรคความหวังใหม่ที่มี"พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในผลิตผล๖๖/๒๓ ไปรับปากชาวบ้านไว้แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ ทำให้ ปี ๒๕๓๗-๒๕๓๘ ผรท.ได้มีการจัดตั้ง กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรประชาชนอีสาน(กพอ.)ทำการยื่นข้อเรียกร้องขอที่ดินทำกิน และปัจจัยการผลิต เช่นวัว เงินทุนหมุนเวียนประกอบอาชีพ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองและมีการเคลื่อนไหวเรื่อยมา นอกจากนี้ยังพบ ว่า ผรท.ส่วนใหญ่ที่ออกจากป่าในหลายจังหวัด ยังไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินและบางส่วนก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมาด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:31:00 PM » |
|
ถ้ามันมีที่ไปที่มาและอธิบายได้รวมถึงมีพันธะสัญญาแต่ก่อนเก่ามาอย่างนี้คนรับได้ครับถ้าดำเนินโดยภาครัฐจริงก็ควรไปรักษาสิทธิ์ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:42:13 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:47:42 PM » |
|
ยินดีด้วยครับ งั้นตามเรื่องให้แม่พี่เลยครับ ท่านจะได้สบายใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
ต้นหนาว
CE KKU
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1397
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9433
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 11:59:20 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|