เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 09, 2024, 04:26:29 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 8 ดับอารมณ์ร้อน 10 ชนะความโกรธ  (อ่าน 14730 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 03:52:00 AM »

ดับอารมณ์ร้อน ....ให้หายได้....ด้วย 8 วิธี


เวลาโกรธ...อารมณ์มันพลุ่งพล่าน  มองเห็นช้างตัวเล็กเท่ามดอย่างที่เขาว่ากัน  คนที่อารมณ์ร้อนมักจะเสียเปรียบเพราะขาดสติได้ง่ายกว่าคนอารมณ์เย็น  การดับอารมณ์ร้อนฟังดูเหมือนง่ายๆ  แต่พอปฏิบัติจริงรู้สึกว่าทำได้ยาก  ก็เวลาโกรธใครที่ไหนจะมานึกหาวิธีดับอารมณ์ร้อนได้ทัน   ถ้าอย่างนั้นมาลองดับอารมณ์ร้อนกันดีกว่า อาจจะทำไม่ได้ทุกข้อ  ก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ลองดูก่อนจะรู้ได้อย่างไรกันล่ะ  จริงไหมคะ
 
 
 
 1. นับ 1-10
ไม่ใช่เรื่องตลก ในยามที่คุณไม่สบอารมณ์กับคำพูดของเพื่อนบางคน แล้วแทนที่จะสวนกลับด้วยคำพูดที่เจ็บแสบพอกัน กลับปรับอารมณ์ตัวเองด้วยการนับ 1 -10 ในใจ เพื่อที่จะห้ามตัวเอง และมีเวลาพิจารณาคำพูดของเพื่อนๆ ว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่กำลังเย้าแหย่เล่น มากกว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็ป่วยการที่จะโกรธเคืองให้งานกร่อย ปล่อยให้เล่นสนุกไปสักพักเดี๋ยวก็เลิกเล่นกันเองแหล่ะ แต่ถ้ายังทนไม่ไหว ก็เพิ่มจาก 10 เป็น 20 30 จนถึง 100  
 


 2. เลี่ยงหลบๆ ไปให้พ้น

ถ้ารู้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน และมักจะใช้กำลังทำลายข้าวของ หรือแม้กระทั่งคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า วิธีการเลี่ยงออกไปจากตรงนั้นเป็นการดีที่สุด สองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวออกไปจากจุดนั้น จนกว่าจะสามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้ จึงหันหน้ากลับมายังทิศทางเดิมเพื่อสะสางปัญหา  
 
 

3. ตั้งใจฟัง

ระหว่างการอภิปรายหรือโต้เถียงอย่างรุนแรง และคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกพาดพิง และวิจารณ์อย่างดุเดือด การโต้ตอบทันทีทันใดแบบเลือดขึ้นหน้า เป็นการเปล่าประโยชน์และแสดงวุฒิภาวะทางอารมย์อย่างไม่ควจจะเป็น การตั้งใจฟังจะทำให้คุณใคร่ครวญ ถึงคำพูดที่ถูดพาดพิงได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะคนที่พูดนั้นมีโอกาสที่จะพลาดได้มากกว่าคนที่ไม่พูดอะไรเลย
 
 

4. หมั่นฝึกสมาธิ

สมาธิเป็นการฝึกจิตชั้นดีที่สุดที่สามารถทำให้คนอารมณ์ร้อนกลายเป็นคนอารมย์เย็น สุขุมนุ่มลึก สมองปลอดโปร่ง แล้วบรรดาเรื่องต่างๆ ก็จะไม่สามารถกวนคุณให้อารมณ์ปะทุขึ้นได้โดยง่าย  
 


 5. ฝึกอ่านหนังสือตั้งแต่ต้นจนจบ

เปิดหนังสือหน้าแรกก็ต้องรีบวางไม่ใช่ว่าหนังสือน่าเบื่อ แต่เป็นเพราะคุณไม่อาจทนต่อการอ่านหนังสือจนจบได้ ดังนั้นการฝึกอ่านหนังสือตั้งแต่หน้าแรกไปถึงหน้าสุดท้าย นอกจากจะได้ความคิดดีๆ แล้ว ยังลดความพลุ่งพล่านทางอารมณ์ของคุณได้อีกด้วย  
 


 6. คิดหาเหตุผล

หลักการทางวิทยาศาสตร์ยังใช้ได้ดีกับคนอารมณ์ร้อนอีกด้วย จงใช้วิจารณญาณในการคิดและตัดสินใจ จะพบว่าที่เคยร้อนจะผ่อนคลายลงเป็นเย็นเยียบ และเฉียบขาดในการแก้ไขปัญหา
 


 7. ฝึกขอโทษ

คำว่าขอโทษสามารถระงับอารมณ์ร้อนของคุณเองได้ แล้วยังสามารถระงับอารมณ์เดือดๆของคนอื่นได้ด้วย การเริ่มต้นในบางสถาณการณ์ด้วยคำว่าขอโทษ องศาเดือดที่ทำท่าว่าจะคุกรุ่นย่อมลดลงด้วยเช่นกัน  
 
 

8. ยิ้มเข้าไว้

คุณเคยยิ้มแบบเสแสร้งไหม ยิ้มแบบที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ยิ้มแก้เขิน ยิ้มทั้งๆ ที่ไม่อยากยิ้ม แต่เมื่อยิ้มออกไปแล้วจะไม่มีภัยมาถึงตัว เพราะรอยยิ้มคือมิตรภาพ คือความอบอุ่น คือไมตรีจิตที่ส่งถึงกันได้ การยิ้มบ่อยๆ จะสามารถระงับอารมณ์ร้อนๆ ของคุณได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

นำไปปฎิบัติแล้วค่ะ   ใช้วิธีที่ 1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 16, 2011, 04:00:46 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 03:59:18 AM »

  เรื่อง 10 วิธีการเอาชนะความโกรธ
  เขียนโดย นางสาวโชติรส เต้าสุวรรณ
  ดูบทความทั้งหมดที่เขียนโดย นางสาวโชติรส เต้าสุวรรณ Rated:  
by 1 users
  
คุณคิดย่างไรกับเรื่องนี้?
 5 Stars 4 Stars 3 Stars 2 Stars 1 Star
 
  
 
 

 
1. หลีกเลี่ยง การหลีกเลี่ยงต่างจากการหลีกหนี ไม่ได้แปลว่าคุณขี้ขลาด
หรือกลัวเลยซักนิดเดียว แต่มันหมายถึง การแสดง EQ ในตัวคุณต่างหาก
ที่สามารถระงับอารมณ์โกรธได้เป็นอย่างดี

2. หาที่ปรึกษา แต่จะปรึกษา หรือระบายอะไรกับใครทั้งทีก็ดูตาม้าตาเรือหน่อยนะคะ
ว่าเค้าคนนั้นไว้ใจได้แค่ไหน ไม่งั้นอาจจะเป็นงูพิษแว้งกัดคุณทีหลังก็ได้

3. กินแก้โกรธ เรื่องกินเนี่ยไม่เข้าใครออกใครจริง
ๆนะคะไม่ว่าใครถ้าลองได้กินอาหารสุดโปรด สุดอร่อยที่ตัวเอง ชอบแล้วล่ะก็
ลืมเรื่องอื่นไปได้เล้ยย ว่าแต่อย่าโกรธบ่อยนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

4. เย็นดับร้อน หาเครื่องดื่มเย็น ๆซักแก้วเผื่อว่าความเย็น
ความหวานของเครื่องดื่มจะช่วยดับความร้อนภายในใจ ของเราได้บ้าง
แต่อย่าเอาแบบที่แอลกอฮอล์เลยนะคะ เพราะมันอาจจะทำให้เราขาดสติ
เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ค่ะ

5. หัวเราะชนะโกรธ เพราะการหัวเราะนั้นมีแต่ประโยชน์ค่ะ
ไม่เคยมีโทษต่อร่างกายเลย คิดซะว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า
ดูหน้าตัวเองตอนกำลังโกรธ ในกระจกก็ได้ค่ะ มันคงตลกไม่น้อยเลย
หัวเราะให้ความโกรธมันกระจายไปเลย

6. น้ำตาชนะทุกอย่างได้ การร้องไห้นั้นเป็นการระบายความเครียด
รวมทั้งระบายความโกรธได้อีกด้วย ลอง ปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่ต้องบังคับดูสิ
แล้วคุณจะรู้ว่าร้องไห้ช่วยไล่ความโกรธได้จริงๆ

7. ร้องเพลง การร้องเพลงจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
ร้องตะโกนให้มันดัง ๆ ปลดปล่อยอารมณ์ออกไปตามเพลงให้เต็มที่
แล้วความโกรธก็จะหลุดลอยไปตามเสียงเพลงนั่นแหละค่ะ

8. ลืมมันซะ หากิจกรรมดีดีทำ เลิกคิดถึงเรื่องที่ทำให้คุณโกรธ
ให้สมองได้พักผ่อนอยู่กับสิ่งที่คุณชอบ และรักดีกว่า
อย่าไปใส่ใจกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย

9. นอนหลับซะเลย เวลาที่คนเราโกรธจะรู้สึกปวดหัว
แล้วหัวมันก็เกิดหนักขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รับรอง
ว่าถ้าคุณได้นอนหลับเอาแรงซักงีบ เมื่อคุณตื่นขึ้นมา
คุณจะต้องรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอนเลยค่ะ

10. รู้จักอภัย ฟังดูแล้งออกจะเป็นนางเอกไปซักนิด แต่ลองทำดูซิคะ
แล้วคุณจะรู้ว่าการให้อภัยเนี่ยนอกจากจะเป็น การให้โอกาสคนอื่นแล้ว
ยังทำให้เราสบายใจขึ้นได้อีกด้วย ลองให้อภัยคนอื่นดูซิคะ
แล้วจะรู้ว่าชีวิตเราดีขึ้นขนาดไหน
 
 
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 16, 2011, 04:01:44 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 04:04:43 AM »

การควบคุมอารมณ์โกรธ

--------------------------------------------------------------------------------

 

อารมณ์โกรธ เป็นความรู้สึกของมนุษย์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน อารมณ์โกรธส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเพราะคิดว่าตนเองรู้สึกเสียหน้า ถูกดูถูก ถูกเอาเปรียบ ไม่มีใครเห็นคุณค่า ในแต่ละวันบางครั้งถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า ตัวเองตกอยู่ในอารมณ์โกรธหลายๆ ครั้ง บางคนเมื่อโกรธจะโมโหมาก ทำลายข้าวของหรือทำร้ายคนอื่น ถ้าใครที่รู้ตัวว่ามีอารมณ์โกรธบ่อยๆ และต้องการปรับปรุงตัวเองจะลองฝึกตามรายการข้างล่างนี้ก็ได้นะคะ

1. ลองสังเกตตัวเองดูว่า เวลาเริ่มโกรธมีความรู้สึกอย่างไร เช่น รู้สึกเสียหน้า หน้าแดง รู้สึกร้อนวูบๆ ที่หน้า และจะมีใจสั่น มือสั่น มีเหงื่อออก บางครั้งมีความรู้สึกอยากตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นต้นเหตุของอารมณ์โกรธ จึงทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น เมื่อเริ่มสังเกตตัวเองได้จะรู้สึกว่าความรู้สึกโกรธลดลง และถ้าลองจดบันทึกไว้ เช่น วันนี้เราโกรธใคร สาเหตุที่โกรธเพราะอะไร อารมณ์โกรธทำให้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าได้จดบันทึกไว้บ่อยๆ สักระยะหนึ่ง ต่อไปจะทำให้มีสติ รู้ในอารมณ์ของตนเองที่เกิดขึ้น เช่น รู้ว่าขณะนี้กำลังเครียดอยู่ กำลังโกรธอยู่ หรือกำลังดีใจอยู่

2. ขณะโกรธ ถ้าพบว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอารมณ์โกรธมากๆ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เช่น โดนต่อว่าอย่างรุนแรงทั้งๆ ที่ไม่ผิด แต่เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วคิดว่า ถ้าพูดอะไรออกไปก็เหมือนการถกเถียงกัน ก็อาจจะบอกคู่กรณีว่า "ขอเวลาไปทำธุระอย่างอื่นก่อน หรือขอเวลาโทรศัพท์ก่อน ประเดี๋ยวจะกลับมาพูดคุยต่อ" เมื่ออารมณ์เย็นจึงกลับมาพูดคุยต่อด้วยเหตุด้วยผล

3. ลองย้อนทบทวนดูความสามารถตัวเอง โดยถามตัวเองดูว่า "เหตุการณ์แค่นี้เราจะระงับความโกรธไม่ได้เชียวหรือ" ต้องต่อสู้กับความโกรธของตนเองให้ได้ เช่น ถูกต่อว่าอย่างรุนแรง โดยไม่ผิดหรือผิดก็ตาม ถ้าคิดดูให้ดีก็จะพบว่า เราโกรธเพราะเราคิดว่าเขาดูถูกเรา แต่ถ้าเราคิดว่า "คำพูดของคู่กรณีเป็นเรื่องไร้สาระ" แล้วไม่โกรธ การที่เราไม่โกรธในการกระทำที่ไม่ดีของเขาแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเราเอง เป็นเกราะกำบังที่ดีแก่ตัวเอง

4. ในบางครั้งที่โกรธมากๆ และได้ใช้วิธีการควบคุมอารมณ์โกรธตั้งแต่ข้อที่ 1-3 แล้ว แต่ยังมีอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ หรือรู้สึกว่าตนเองมีความกดดันก็สามารถระบายความโกรธให้ถูกต้องได้โดยการระบายผ่านการออกแรงในการเล่นกีฬาหนักๆ เช่น ชกกระสอบทราย เตะฟุตบอล ตีเทนนิส ตีแบดมินตัน ฯลฯ อย่างน้อยครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป จะทำให้ความรู้สึกโกรธที่กดดันอยู่ลดลง ถ้าใครอยากปรับปรุงตัวเองเรื่องนี้ก็ลองฝึกดูนะคะ จะพบความโกรธควบคุมง่ายนิดเดียว เหตุการณ์ร้ายแรงจะไม่เกิดขึ้นกับตัวท่านแน่นอน


โดย จุฑาธิป วัชรานนท์ สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต
__________________

บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 04:07:33 AM »

การควบคุมอารมณ์
(Emotional Control)
 
 
 เทพ สงวนกิตติพันธุ์นักวิชาการศึกษา
ศูนย์วิทยพัฒนา มสธ. อุดรธานี
 
1. องค์ประกอบของอารมณ์  2. การควบคุมอารมณ์และการจัดการอารมณ์ 
 

อารมณ์  หมายถึง การแสดงออกของภาวะจิตใจที่ได้รับการกระทบหรือกระตุ้นให้เกิดมีการแสดงออกต่อสิ่งที่มากระตุ้น  อารมณ์สามารถจำแนกออกได้ 2 ประเภทใหญ่ คือ
1. อารมณ์สุข   คือ อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากความสบายใจ หรือ ได้รับความสมหวัง
2. อารมณ์ทุกข์  คือ อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากความไม่สบายใจ หรือ ได้รับความไม่สมหวัง
ผลแห่งอารมณ์ ไม่ว่าอารมณ์สุข หรือ อารมณ์ทุกข์ จะทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจากปกติและจะมีการแสดงออกของพฤติกรรมและความรู้สึกตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น
1. องค์ประกอบของอารมณ์

                อารมณ์จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 ประการ  คือ
1. องค์ประกอบด้านสรีระ (Physiological  dimension) หมายถึง  การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ  ทางร่างกายที่จะต้องเกิดขึ้นควบคู่กับปฏิกิริยาทางอารมณ์  เช่น  หัวใจเต้นเร็ว  เหงื่อออกตามร่างกาย  หรือ  ใบหน้าร้อนผ่าว  เป็นต้น   อารมณ์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีระได้มากที่สุดคือ  อารมณ์กลัว  และ  อารมณ์โกรธ   อารมณ์กลัวจะก่อให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมน แอดรีนาลีนจากต่อมแอดรีนัล (Adrenal gland)    ส่วนอารมณ์โกรธ  จะก่อให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมน นอร์แอดรีนาลีน (Noradrenalin) 
2. องค์ประกอบทางด้านการนึกคิด (Cognitive dimension)  หมายถึง  การมีปฏิกิริยาด้านจิตใจที่เกิดขึ้นต่อสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่และเกิดเป็นอารมณ์ขึ้นมา   เช่น  ชอบ -ไม่ชอบ  หรือ  ถูกใจ- ไม่ถูกใจ  เป็นต้น
3. องค์ประกอบทางด้านการมีประสบการณ์ (Experiential dimension)  หมายถึง  การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของแต่ละบุคคลซึ่งจะมีความแตกต่างกันไป
อารมณ์เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถสัมผัสและสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน  แต่เราสามารถรู้สึกถึงสภาวะทางอารมณ์ของบุคคลที่แวดล้อมเราอยู่ได้  เช่น  อาจสังเกตได้จากพฤติกรรมที่มิได้แสดงออกเป็นภาษาหรือคำพูด (Nonverbal language)  เช่น  การแสดงออกทางสีหน้า  ท่าทาง  แต่อาจเกิดความสับสนในการตีความหมายได้  เพราะสังคมแต่ละแห่งอาจมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน  เช่น การแลบลิ้นให้  บางกลุ่มชนจะถือว่าเป็นการทักทาย  แต่ในสังคมจีน  ถือว่าเป็นการแสดงอารมณ์แปลกใจ  หรือประหลาดใจ  เป็นต้น

อารมณ์ของมนุษย์จะเริ่มมีขึ้นนับตั้งแต่เกิด  ซึ่งนักจิตวิทยาพบว่าอารมณ์แรกของมนุษย์นั้นคือ  อารมณ์ตื่นเต้น  ทารกอายุ  3  เดือน จะมีเพียง  อารมณ์เศร้า และอารมณ์ดีใจ  ส่วนอารมณ์ที่มีความสลับซับซ้อนจะปรากฏมากขึ้นตามวุฒิภาวะ  อารมณ์ก้าวร้าวและรุนแรงเป็นผลมาจากการที่บุคคลเกิดความคับข้องใจหรือความรู้สึกว่าตนถูกกดขี่อยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงต้องเรียนรู้วิธีการควบคุมอารมณ์ของตนให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ที่สังคมแต่ละแห่งได้กำหนดไว้  ก็จะทำให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น
 
Top
 
 

2. การควบคุมอารมณ์และการจัดการอารมณ์

                      ในวัน ๆ หนึ่ง เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าเราจะได้เจอกับอารมณ์ที่เข้ามาให้เรารับรู้อย่างไรบ้าง แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อสิ่งนั้นๆ เข้ามาให้เรารับรู้แล้ว เราจะมีอารมณ์และความนึกคิด ที่จะแสดงพฤติกรรมโต้ตอบออกไปอย่างไร ฉะนั้นเมื่อเราไม่สามารถล่วงรู้สถานการณ์ได้ เราก็ควรหมั่นฝึกให้มีสติ คือระลึกรู้อยู่เสมออย่าประมาณในการดำเนินชีวิต เมื่อมีอะไรเข้ามากระทบทำให้เราเกิดความคิดและอารมณ์ที่ไม่ดี ก็ควรจะใช้สติในการขบคิดพิจารณา เพื่อให้เราเท่าทัน และไม่ต้องตกเป็นทาสของอารมณ์นั้น  โดยการกำหนดอารมณ์และความรู้สึกของเราไม่ให้ส่งผลไปถึงการแสดงออกในทางที่ไม่เหมาะไม่ควร   วิธีควบคุมอารมณ์ของเราอาจทำได้หลายวิธี ได้แก่

1. ให้มีสติอยู่เสมอเพื่อควบคุมอารมณ์ที่รุนแรงให้คลายลง  เช่น  อารมณ์วิตกกังวล  อารมณ์โกรธ  อิจฉาริษยา    การใช้อารมณ์ของคน  หากใช้เพียงเล็กน้อยแล้วพยายามควบคุมมันให้ได้โดยใช้  “สติ”  หรือหลักธรรมะเข้ามาช่วยในการเผชิญกับเหตุการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ  ก็จะทำให้เหตุการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ นั้นเป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้  ในทางตรงกันข้ามหากผู้ใดใช้อารมณ์มากหรือรุนแรงเกินไป  ก็อาจจะทำให้เหตุการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ  ที่เผชิญอยู่กลับเลวร้ายลงไปได้เช่นกัน
                2. ใช้คำพูดแสดงความรู้สึกแทนการกระทำ (เทคนิคการแสดงออกที่เหมาะสม)  เช่น  โกรธเพื่อนที่ผิดนัด  ไม่ควรแสดงออกโดยการตำหนิดุด่าแต่ควรใช้คำพูดแทนว่า  “ฉันโกรธมากที่เธอผิดนัดเมื่อวาน”  หรือ  ถูกเพื่อนตำหนิบางเรื่องที่ทำให้โกรธ  ก็ไม่ควรแสดงออกโดยการทะเลาะกับเพื่อน  แต่ควรใช้คำพูดแทนว่า “คำพูดของเธอทำให้ฉันรู้สึกโกรธมากและมันจะทำลายความเป็นเพื่อนของเราด้วย”  เป็นต้น
3. ให้ยืดเวลาออกไปก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป  หรือพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดอารมณ์รุนแรงหรืออารมณ์เสีย   บางคนอาจใช้วิธีการนับหนึ่งถึงสิบ หรือถึงร้อยในใจเพื่อยึดเวลาให้อารมณ์ที่รุนแรงลดลง  จะช่วยให้การแสดงออกที่รุนแรงลดลงไปได้   หรืออาจจะใช้วิธีออกจากเหตุการณ์ตรงนั้นไปก่อน  รอให้อารมณ์ลดความรุนแรงลงแล้วจึงกลับมาเผชิญเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง ก็จะทำให้เรามีสติมากขึ้นในการตัดสินใจกระทำสิ่งต่าง ๆ ลงไป
4. ใช้การข่มใจ  การให้อภัยและมองโลกในแง่ดี   ให้คิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นถ้าเราแสดงอะไรออกไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรง   รู้จักให้อภัยและพยายามฝึกมองสิ่งที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ในด้านดีเสมอถ้าทำได้  จะทำให้เรามีอารมณ์ที่เป็นสุขมากยิ่งขึ้น  หรือถ้าข่มใจไม่อยู่จริง ๆ  ก็อาจใช้วิธีระบายออกโดยการเลี่ยงไปแสดงออกกับสิ่งอื่น ๆ แทนก็ได้  เช่น  เขียนระบายอารมณ์  ในกระดาษ  แอบร้องไห้ปลดปล่อยอารมณ์  หรือต่อยตีกระสอบทราย  (อาจใช้ตุ๊กตาแทน)  แต่อย่าให้กลายเป็นการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
5. เมื่อมีเรื่องทุกข์ใจหรือเครียดควรปรึกษาเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้หรือผู้ใหญ่ที่เราให้ความเคารพนับถือ    การที่คนเรามีความทุกข์หรือความเครียดแล้วเก็บกดไว้ในใจตนเองอยู่เสมอ  เปรียบเสมือนลูกโป่งที่ถูกอัดอากาศเข้าไปเรื่อย ๆ  หากไม่มีการปลดปล่อยลมออกมาเสียบ้าง ไม่นานลูกโป่งก็จะแตก  เช่นเดียวกันหากคนเรามีแต่ความทุกข์เก็บสะสมไว้มากเกินไป  สักวันหนึ่งก็อาจจะกลายเป็นโรคประสาท หรือโรคจิตต่อไปได้  จึงควรปลดปล่อยความทุกข์ที่มีอยู่ออกไปเสียบ้าง
คนที่ควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติได้เร็วจะช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้นและจะส่งผลให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวมีความสุขไปด้วย
Top
 
 
 

 
สวัสดี
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 04:10:29 AM »

 
สอนให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์โกรธและความก้าวร้าว

     
     คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะหนักใจที่พบว่าลูกของตนเองนั้นมีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง และมีจะการแสดงออกเมื่อไม่พอใจ โดยการใช้กำลังเตะถีบ ทุบ หรือทำร้ายคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ จึงมักจะถามถึงวิธีการที่จะสอนลูกให้รู้จักการควบคุมอารมณ์โกรธและความก้าวร้าวได้อย่างไร ซึ่งพอจะมีข้อแนะนำได้ดังนี้


     อารมณ์โกรธและการใช้ความรุนแรงนั้นมีอยู่ในตัวเราทุกคน ซึ่งเป็นปกติที่เราจะมีอารมณ์โกรธหรืออยากใช้กำลังในการเอาชนะเมื่อถูกขัดใจหรือเพื่อให้ได้ซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการ ในวัยเด็กจะเห็นว่าเขามีการแสดงออกของอารมณ์เหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา แต่เมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ประสบการณ์และวุฒิภาวะที่เป็นไปตามอายุ ทำให้เรารู้จักควบคุมอารมณ์โกรธและการแสดงออกของอารมณ์รุนแรงเหล่านี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่สังคมยอมรับได้ และไม่ทำร้ายผู้อื่น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรที่จะค่อยๆฝึกให้ลูกรู้จักที่จะรู้ถึงอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้นในตัวเอง และรู้จักวิธีที่จะควบคุมอารมณ์นั้น และแสดงออกในเชิงที่สร้างสรรค์ ไม่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะมีลูกเล่นอย่างไร


     เมื่อเกิดปัญหา มีการขัดใจกันขึ้น และลูกมีอาการ “เบรกแตก” แสดงความโกรธและเริ่มใช้กำลังแสดงความก้าวร้าวออกมา คุณควรจะทำดังนี้คือ


      ประเมินสถานการณ์ที่ทำให้มีอารมณ์โกรธเกิดขึ้น

      คุณควรจะถามลูกอย่างตรงๆว่า อะไรที่ทำให้เขาเกิดความโกรธขึ้น คุณเองควรจะรับฟังเหตุผลของเขาด้วย แม้ว่ามันอาจจะแตกต่างจากเหตุผลของคุณ และไม่พยายามทำให้เกิดการโต้เถียงขึ้นอีก และถ้าเป็นไปได้ควรที่จะพาเด็กออกจากบริเวณนั้นเพื่อลดปฏิกริยาต่อต้านก่อนที่จะเริ่มสอนลูก คุณเองควรควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบเย็นในขณะพูดกับลูกด้วย เพื่อป้องกันการปะทะกันอีกรอบด้วยอารมณ์ระหว่างคุณกับลูก และเป็นการ “ช่วยรักษาหน้า” ให้แก่ลูกด้วย คุณเองควรพิจารณาดูว่า เราได้ตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆมากเกินไป จนยากที่เด็กจะไม่ทำผิดหรือไม่ และควรที่จะให้โอกาสลูกได้ออกกำลังระบายอารมณ์อย่างถูกวิธี เช่น วิ่งเล่น และเล่นซนในบ้านได้บ้าง



     พยายามยิ้มเข้าไว้ 

     บางครั้งการมีอารมณ์ดีของคุณพ่อคุณแม่นั้นจะช่วยผ่อนคลายบรรยากาศที่กำลังตึงเครียด และลดอารมณ์โกรธและความก้าวร้าวของลูกลงได้ ดังนั้นการยิ้ม ด้วยท่าทีที่สงบเย็นกับลูกจะช่วยทำให้ลูกเกิดการยอมรับ และรับฟังซึ่งกันและกันได้ง่ายขึ้น แต่ควรระวังว่าการพูดล้อเล่น หรือการพูดจาเหน็บแนม อาจทำให้เด็กเสียใจหรือทำให้เกิดเรื่องต่างๆบานปลาย และสถานการณ์แย่ลงได้



     บางครั้งลูกอาจจะต้องการเพียงแค่การโอบกอด เพื่อแสดงความรักอย่างง่ายๆ

     เพราะการโอบกอดและการให้ความรักความเข้าใจแก่ลูก ทำให้เขารับรู้ว่าคุณยังรักเขาอยู่เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจทำให้เรื่องต่างๆคลี่คลายได้ง่ายๆ
โดยธรรมชาติแล้วเด็กมักจะต้องการความสนใจจากผู้ใหญ่และอยากให้ผู้ใหญ่เล่นด้วย เด็กที่กำลังจะทำลายของเล่นชิ้นโปรดของเขาเพราะถูกขัดใจ อาจจะหยุดการกระทำนั้น เมื่อเห็นว่าคุณให้ความสนใจในของเล่นของเขา หรือเด็กโตที่กำลังหงุดหงิด ไม่อยากทำการบ้าน และพร้อมที่จะอาละวาด จะสงบลงถ้าคุณให้ความสนใจที่จะช่วยเหลือเขาบ้างในการทำการบ้าน



     สอนลูกให้รู้จักการแสดงออกถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตนเอง โดยใช้วิธีที่เป็นเชิงบวกและสร้างสรรค์

     คุณควรจะบอกให้ลูกรู้ว่าคุณยอมรับได้ ถ้าเขาจะมีอารมณ์โกรธ หรือต้องการแสดงความรู้สึกโกรธในตัวเขาออกมา แต่ควรจะเป็นไปในรูปแบบที่สังคมยอมรับได้และไม่เป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น โดยคุณอาจจะจัดตั้งกฎเกณฑ์ที่ยอมรับได้ทั้งคุณและลูกให้ลูกได้เข้าใจและรับรู้อย่างชัดเจนว่าเป็นอย่างไร และพยายามรักษากฎเกณฑ์นั้นทั้งสองฝ่าย และพยายามสื่อกับลูกเสมอถึงการกระทำและพฤติกรรมบางอย่างที่เหมาะสม หรือไม่เหมาะสม ที่เขาได้ทำไป และแม้ว่า กลายเป็นคุณพ่อคุณแม่เองเป็นผู้กระทำผิดข้อตกลง คุณเองก็ต้องเคารพในกฎเกณฑ์นั้นเช่นกัน เพื่อให้ลูกเข้าใจและปฏิบัติตาม ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและความเคารพในตนเอง (positive self-image and self-esteem) ขึ้นในตัวลูก เขาจะได้มีความรู้สึกว่าตนเองมีค่า และมีคนรัก มีความภูมิใจในตนเอง

     ควรชมลูก ถ้าคุณเห็นว่าเขารู้จักที่จะควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองได้ และไม่ใช้วิธีแสดงความก้าวร้าว แต่ใช้วิธีอื่นที่ไม่ใช้ความรุนแรงแทนในการแก้ปัญหา

     ควรหาโอกาสชี้ให้ลูกได้เห็นหรือรับรู้ในกรณีที่มีความขัดแย้งกับผู้อื่นที่เกิดขึ้นในบ้าน หรือนอกบ้าน ที่เด็กรับรู้ได้ และมีการใช้วิธีการพูดจาแก้ไขปัญหากันอย่างสันติ เพื่อให้เขาเห็นตัวอย่างของการควบคุมอารมณ์และการใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา



     รู้จักระบายอารมณ์ออกบ้าง



     คุณพ่อคุณแม่บางครั้งอาจจะเป็นคนทำให้ลูกใช้กำลังและความก้าวร้าวในการแก้ปัญหา เช่น คุณเองอาจจะใช้วิธีดุว่าเสียงดัง หรือตีลูกเป็นการลงโทษ ทำให้ลูกเข้าใจผิดว่าวิธีการที่จะควบคุมผู้อื่น หรือเอาชนะผู้อื่น เพื่อให้ยอมทำตามที่ตนเองต้องการนั้น ก็คือการใช้กำลัง บางครอบครัวอาจจะสนับสนุนให้ลูก (โดยเฉพาะลูกชาย) ต้องกร้าว โดยให้ความรู้สึกว่าความกร้าว หมายถึงความเข้มแข็ง หรือความเป็นลูกผู้ชาย ทำให้เด็กเข้าใจว่าการเตะถีบหรือต่อยผู้อื่นเมื่อไม่พอใจเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรกระทำในฐานะลูกผู้ชาย แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ความเป็นลูกผู้ชาย,ความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ได้หมายถึงการใช้กำลังข่มขู่ผู้อื่นแต่อย่างใด



     ในบางครั้งเมื่อมีปัญหาขัดใจกันระหว่างคุณกับลูก คุณเองก็มีอารมณ์ ลูกเองก็มีอารมณ์ จึงควรจะรู้จักวิธีที่จะลดความพุ่งพล่านของอารมณ์ในตัวคุณ (และลูก) ออกไปเสียบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำได้โดยการมีกิจกรรมออกกำลังกาย ฯลฯ เช่น




การออกไปเดินรอบสนาม, การเต้นรำไปตามจังหวะเพลง, หรือกระโดดเชือก ฯลฯ ที่ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปได้ทั่วร่างกาย จะทำให้คุณหายหงุดหงิดและรู้สึกผ่อนคลายลงได้
           
หางานอื่นง่ายๆที่ค้างไว้มาทำ เพื่อให้จิตใจไม่คิดวกวนนัก เช่น การทำงานบ้าน กวาดบ้าน ล้างรถ ปลูกต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งจะทำให้คุณหายโกรธและได้ทำงานต่างๆในบ้านให้เสร็จได้ตามที่ตั้งใจไว้
           
ไปอาบน้ำหรือแช่น้ำให้ผ่อนคลาย เหมือนล้างเอาอารมณ์พุ่งพล่านออกไปจากตัว
           
ถ้าโมโหมากๆ อยากทุบหรือทำอะไรหนักๆสักอย่าง ก็ให้ไปต่อยหมอน หรือปาลูกบอล หรือต่อยกระสอบทราย (ถ้ามีกระสอบทรายอยู่แล้วที่บ้าน, แต่ห้ามนำเอาคนที่อยู่ข้างๆมาทำเป็นกระสอบทรายเด็ดขาด)
           
ถ้ายังทนไม่ไหวจริงๆ ก็ให้ออกไปข้างนอกที่กว้างๆ แล้ว กรีดร้องให้เสียงแหบไปเลย (ถ้าไม่มีที่กว้างๆ ก็อาจใช้วิธีปิดประตูห้องปิดหน้าต่าง เพื่อไม่ให้เสียงออกไปรบกวนคนอื่น แล้วก็กรี๊ดให้สบายใจซะที ก็ได้ค่ะ)
           
     อารมณ์โกรธสามารถเผาผลาญตัวเราและทำให้เกิดความเครียด ความสับสน และทำลายพลังงานในตัวคุณ (และลูก) ไปได้อย่างมาก คุณจึงควรจะทำให้อารมณ์โกรธที่เกิดขึ้นนี้ ถูกแสดงออกมาได้ในเชิงสร้างสรรค์ และรู้จักในการรับฟังและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น และรู้จักที่จะหาข้อสรุปและตกลงกันให้ได้ในข้อคิดความเห็นที่แตกต่างกัน

          ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกตัวคุณเองและลูกให้สามารถควบคุมอารมณ์โกรธและความก้าวร้าวของแต่ละคนได้แล้ว คุณกำลังปลูกฝังความเป็นผู้นำ และฝึกให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตของเขาในอนาคตอย่างน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
     
          ขอเอาใจช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกได้อย่างที่ตั้งใจไว้นะคะ



--------------------------------------------------------------------------------

พ.ญ.จันท์ฑิตา พฤกษานานนท์
คลินิกเด็ก.คอม


 
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 04:19:13 AM »



10 วิธีตั้งสติก่อนสตาร์ทอารมณ์โกรธ

ปัจจุบันข่าวคราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ในแต่ละวันที่เกี่ยวข้องกับการ บาดเจ็บ พิการหรือสูญเสียชีวิตอันมีสาเหตุมาจากการไม่สามารถยับยั้งควบคุมอารมณ์โกรธ ของผู้คนในสังคม มีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ การสูญเสียดังกล่าวไม่ได้จำกัดขอบเขตเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์เท่า นั้น ยังส่งผลกระทบถึงความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของสมาชิกครอบครัวที่ต้องพบกับ ความสูญเสีย ซึ่งหลายครั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะไม่สามารถหยุดอารมณ์ชั่ววูบของ ผู้กระทำได้ ซึ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถระงับอารมณ์โกรธของตนลงได้ มีอารมณ์เยือกเย็นลงอีกสักนิด ความสูญเสียต่างๆ ก็คงไม่เกิดขึ้น


นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลมนารมย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองและสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ต้องได้รับการฝึกฝน ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้คนเราเกิดอารมณ์โกรธ นอกเหนือจากแรงผลักดันจากภาวะเศรษฐกิจ ครอบครัวและการสูญเสียการควบคุมอารมณ์ชั่วขณะอันเกิดมาจากการใช้เหล้าหรือ สารเสพติดแล้ว ก็คือเรื่องบุคลิกภาพที่เป็นผลมาจากการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว เพราะในปัจจุบันสถาบันครอบครัวของไทยมีความอ่อนแอลงทุกวัน เวลาและความใกล้ชิดที่มีให้กันน้อยกว่าในอดีต


ในขณะที่ตัวอย่างการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรงในสังคมมีให้เห็นบ่อยมากขึ้น จนเกือบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา


อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการนำเสนอข่าวสาร ภาพยนตร์หรือเกมที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรง และเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่สถาบันครอบครัวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควร ถูกหยิบยกมาใช้


นพ.ไกรสิทธิ์ให้ข้อมูลต่อไปว่า การเลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโตมีสุขภาพกาย ใจที่แข็งแรง เป็นงานสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตมนุษย์ ต้องใช้เวลา ต้องการทั้งความรู้ ความเข้าใจและความอดทนของผู้เลี้ยงดูเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วงอายุของเด็กที่มีความสำคัญที่สุดต่อพัฒนาการได้แก่ ช่วงอายุ 0-6 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่เด็กจะเรียนรู้เรื่องการวางใจผู้อื่น รับรู้และซึมซับบุคลิกภาพจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะจากผู้เลี้ยงดู การฝึกเด็กให้รู้จักคอย การเห็นอกเห็นใจ การเคารพสิทธิผู้อื่น การรู้จักแพ้ รู้จักชนะ จะมีส่วนช่วยในการฝึกทักษะการควบคุมอารมณ์ของเด็ก


“หากเราเลี้ยงดูเด็กให้เป็นผู้ที่มีทั้งไอคิว อีคิวที่ดี คนที่อยู่ใกล้ชิดและสังคมก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย ความก้าวร้าวของเด็กเมื่อมีพัฒนาการขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสมาชิกในครอบครัวต่างเป็นเบ้าหลอมสำคัญยิ่ง และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เขา”


สำหรับหลักในการควบคุมอารมณ์นั้น นพ.ไกรสิทธิ์ได้ให้แนวทางปฏิบัติ 10 ประการที่สามารถนำไปใช้เพื่อระงับความโกรธแบบสั่งได้ดังใจไว้ ได้แก่

1.พยายามสังเกตตัวเองให้รู้เท่าทันอารมณ์ตนเองว่ากำลังจะโกรธ

2.เตือนตนเองว่าการโกรธคือการเผาตัวเอง ทำลายสุขภาพตัวเอง

3.ชะลออารมณ์โกรธโดยการเบี่ยงเบนความสนใจ ด้วยการนับ 1-10 หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ พยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ

4.พยายามออกจากสถานที่ยั่วยุให้เกิดอารมณ์โกรธนั้น เพื่อไปสงบสติอารมณ์

5.เตือนตนเองว่า เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ดังใจเรา

6.เตือนตนเองว่า คนเราแตกต่างกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แม้แต่ตัวเราเองก็มีข้อบกพร่อง

7.เตือนตนเองให้มองเห็นข้อดีของผู้อื่นและความดีของเขาในอดีตที่ผ่านมา

8.ฝึกคิดฝึกมองสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในด้านบวก

9.ฝึกให้อภัยและปล่อยวาง

10.ถ้าแก้ปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ ควรขอคำปรึกษาจากคนที่มีประสบการณ์ไว้ใจได้ ในบางครั้งถ้าปัญหารุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

- กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข 
 
 
 
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
ช.ลิ้วเฮียง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 332
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2479



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 07:43:14 PM »

 ไหว้ ไหว้ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
ban.cha
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 08:42:58 PM »

ผมจะนำไปปฏิบัติใช้ดูครับ
            ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดดีๆ ไหว้
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 02:41:21 AM »

ไหว้ ไหว้ขอบคุณครับ
ผมจะนำไปปฏิบัติใช้ดูครับ
            ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดดีๆ ไหว้


ครับผม   ไหว้

                       
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
kpai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 109
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 694



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 03:34:14 PM »

2. เลี่ยงหลบๆ ไปให้พ้น

ถ้ารู้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน และมักจะใช้กำลังทำลายข้าวของ หรือแม้กระทั่งคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า วิธีการเลี่ยงออกไปจากตรงนั้นเป็นการดีที่สุด สองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวออกไปจากจุดนั้น จนกว่าจะสามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้ จึงหันหน้ากลับมายังทิศทางเดิมเพื่อสะสางปัญหา 


ข้อนี้ผมใช้บ่อยครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 04:06:54 PM »

2. เลี่ยงหลบๆ ไปให้พ้น

ถ้ารู้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน และมักจะใช้กำลังทำลายข้าวของ หรือแม้กระทั่งคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า วิธีการเลี่ยงออกไปจากตรงนั้นเป็นการดีที่สุด สองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวออกไปจากจุดนั้น จนกว่าจะสามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้ จึงหันหน้ากลับมายังทิศทางเดิมเพื่อสะสางปัญหา 


ข้อนี้ผมใช้บ่อยครับ  ไหว้


ครับผม  ไหว้
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
solita
ยินดีรู้จักครับ
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 15
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 91


สวัสดีครับ


« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 05:39:54 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ณัฏฐ์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 133
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1229



« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 07:05:17 PM »

ขอบคุณมากครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 01:58:03 AM »

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ ไหว้


ครับผม  ไหว้
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 10:50:51 AM »

ผมหลีกเลี่ยงความโกรธ ด้วยการ นิ่งครับ  เศร้า
เค้านิ่งไม่ไหว  ชนลูกเดียวครับ  มีแต่เสียกับเสีย 
  หลังจากนั้นผม เฉยมาตลอดประมาณว่า" ใครจะทำอะไรก็ทำ อย่ามายุ่งกับกู  กูไม่เกี่ยว ถ้าเอาก็เข้าไปเกี่ยว เป็นเรื่อง "  เศร้า 
นิสัยเสียแก้ไม่หาย  เศร้า
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.13 วินาที กับ 22 คำสั่ง