และแล้วก็เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์
จากสายการบินโนเนม ไม่มีใครรู้จัก วันนี้รู้จักกันทั่วประเทศ
มุขโฆษณาตื้นๆครับ....
พีบีแอร์ให้โอกาสมากกว่าเสียอีก เข้ามาเป็นสจ๊วต วันหนึ่งเธอกลายเป็นแอร์
.
.
.
.
.
.
.
ทำรุ่มร่ามกับแอร์มีสิทธิ์โดนชก
ใครจะเชื่อบ้างว่าก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนางฟ้าแห่งสายการบิน พี.บี.แอร์สาวสวยคนนี้เธอเคยทำหน้าที่สจ๊วตมาก่อน แต่เพราะโชคชะตาที่นำพาให้เธอได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นแอร์โฮสเตส ว่ากันว่าเธอคือสาวประเภท 2 คนแรก และคนเดียวของเมืองไทยที่ได้รับสิทธิ์นี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นแทบทุกไฟลต์ที่ขึ้นบินจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาขายขนมจีบอยู่ไม่ขาด บางรายถึงกับเสนอรถเสนอบ้านอย่างไม่อั้นแต่เธอนั้นปฏิเสธเพราะมีหนุ่มรู้ใจเคียงกายอยู่แล้ว
ทุกวันนี้ 'กี้-กีรนันท์ สุวัณสิงห์' มีความสุขกับการดูแลผู้โดยสาร และใช้เสียงหวานๆ ประกาศต้อนรับผู้ที่เดินทางไปกับเที่ยวบินของ พี.บี.แอร์ เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนนักที่มักได้รับจดหมายชมจากผู้โดยสารถึงบริการที่อ่อนน้อมและรอยยิ้มละไมขณะให้บริการ กี้ยืนยันว่าภาพลักษณ์ของแอร์โฮสเตสเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่บรรดานางฟ้าจะลุกขึ้นมาตบตีกันทั้งที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มเหมือนภาพที่ปรากฏในละครที่กำลังเป็นที่ฮืฮฮาอยู่ในขณะนี้
'สวัสดีค่ะ ท่านผู้โดยสารคะ สายการบิน พี.บี.แอร์ มีความยินดีต้อนรับทุกท่านเดินทางสู่จังหวัดลำปาง......'
ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังเสียงหวานๆของแอร์โฮสเตสสาวที่ประกาศต้อนรับผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้นั้น เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอผู้นี้ยังสวมเครื่องแบบสจ๊วต แต่ปัจจุบัน 'กี้-กีรนันท์ สุวัณสิงห์' ได้เปลี่ยนสถานะเป็นแอร์โฮสเตสอย่างเต็มตัว แต่อะไรที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันจากสจ๊วตเป็นนางฟ้าติดปีก เราจะพาคุณไปหาคำตอบ
ชีวิตของเธอไม่ได ้รันทด ไม่ได้ออนแอร์ ทางทีวี แต่เป็นชีวิตจริงของนางฟ้านะยะ คนนี้ที่น่าติดตาม
ตอนเป็นหนุ่มใส - เมื่อครั้งยังเป็นสจ๊วต
เปลี่ยนฐานะเป็นนางฟ้าเพราะถูกหาว่าเป็น 'ทอม'
หลังจากที่มีโอกาสได้คุยกับเธอ กีรนันท์ได้ย้อนอดีตให้ฟังว่าสาเหตุที่ทำให้เธอได้เปลี่ยนสถานะจาก 'นายกนิกฐ์ สุภาสอน' สจ๊วตหนุ่มหล่อ มาเป็น 'กีรนันท์ สุวัณสิงห์' แอร์โฮสเตสสาวหน้าหวานก็เพราะถูกผู้โดยสารร้องเรียนว่าแอร์โฮสเตสของ พี.บี.แอร์แต่งกายไม่เหมาะสม นุ่งกางเกงมาทำงานทั้งๆที่เป็นผู้หญิง บ้างก็ว่าพี.บี.แอร์ปล่อยให้ทอมนุ่งกางเกงมาทำงานซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่ามอง ร้อนถึงผู้บริหารที่ต้องหาทางแก้ไขเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร โดยบอกให้กีรนันท์ซึ่งเป็นต้นเหตุของข้อครหาเปลี่ยนสถานะใหม่ไปเป็นแอร์โฮสเตส และทันทีที่เธอก้าวขึ้นเครื่องด้วยชุดสูท สีเขียวกับกระโปรงเหนือเข่า ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้โดยสารถึงมารยาท อันงดงามอ่อนหวาน เพราะเธอนั้นเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว ข้อสำคัญกีรนันท์ยังเหมือนผู้หญิงยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆ เสียอีก
'กี้เพิ่งเปลี่ยนมาทำตำแหน่งแอร์โฮสเตสได้ 2 ปี มันเป็นเรื่องที่บังเอิญมาก คือกี้เป็นคนหน้าหวาน รูปร่างบาง ตัวเล็ก สูงแค่ 168 เซนติเมตร แล้วโทนเสียงก็คล้ายผู้หญิง ทั้งที่เราก็พยายามแอ๊บแมนนะ ผู้โดยสารเขาเข้าใจว่าที่เราใส่กางเกงเพราะเป็นทอม (หัวเราะร่วน) เขาก็เลยมีคอมเมนต์ ไปถึงผู้บริหาร ผู้ใหญ่ก็เรียกกี้ไป คุยให้ปรับปรุงบุคลิก เราก็แอ๊บแมนหนักกว่าเก่า แต่ว่ารูปร่างหน้าตามันไม่ให้ ก็ถูกผู้โดยสารคอมเมนต์ อีก ผู้บริหารเลยให้กี้ย้ายไปเป็นแอร์โฮสเตสแทน' กีรนันท์เล่าถึงสาเหตุที่ผลักดันให้เธอได้สวมชุดแอร์โฮสเตส
สมัยยังเป็นนักศึกษา
-ช่วงที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งแอร์โฮสเตสใหม่ๆ ผู้จัดชวนประกวดนางงาม - หนุ่มๆ ตามจีบ
หลังจากทำหน้าที่นางฟ้าติดปีกได้ไม่นานกีรนันท์ก็ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศเพื่อให้เป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบ แต่ก็ใช่ว่านางฟ้าในร่างชายหนุ่มอย่างเธอจะลุกขึ้นมาผ่าตัดได้ทันที เธอต้องขอความเห็นจากคณะผู้บริหารเสียก่อน เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วก็ยังต้องได้รับคำยืนยันจากสถาบันเวชศาสตร์การบินว่าผลของการผ่าตัดแปลงเพศจะไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก็โชคดีที่ทางสถาบันอนุมัติให้แปลงเพศได้แม้เธอจะเป็นแอร์โฮสเตสรายแรกของไทยที่แปลงเพศจากชายเป็นหญิงก็ตาม
ด้วยหน้าตาที่สวยจิ้มลิ้มและรอยยิ้มอันแสนหวานขณะให้บริการ ผู้โดยสารบนเครื่อง ทำให้ลูกค้าต่างก็ประทับใจในตัวเธอ ยิ่งไปกว่านั้นบรรดาผู้โดยสารทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ต่างก็พากันเข้ามาพูดคุยเกี้ยวพาเธอไม่เว้นแต่ละวัน บ้างก็ขอเบอร์โทร. บ้างก็ชวนไปกินข้าว บางคนถึงกับยื่นข้อเสนอจะซื้อรถซื้อบ้านให้เพื่อหวังมัดใจเธอ แต่กุลสตรีเกินร้อยอย่างกีรนันท์ก็หาได้หวั่นไหว เพราะวันนี้เธอมีชายหนุ่มที่ครอบครองหัวใจอยู่แล้ว ซึ่งเขาเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าแอร์โฮสเตสสาวคนนี้เธอมีคำนำหน้าว่า 'นาย'
'ผู้โดยสารเขาเชื่อว่ากี้เป็นผู้หญิงจริงๆ เคยมีคุณป้าท่านหนึ่งซึ่งเขาเป็น ผู้จัดหานางงามส่งเข้าประกวด เขาก็มาถามว่าสนใจจะประกวดนางสาวไทย ไหม เดี๋ยวป้าส่งเอง (หัวเราะ) เราก็ได้แต่ยิ้ม ก็มีหนุ่มๆ มาจีบเยอะ บางคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีหน้ามีตา แต่เขาไม่รู้ว่าเราเป็นนางฟ้านะยะ (หัวเราะ) อย่างเมื่อเร็วๆนี้ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ระดับจังหวัด เขาก็ถามเราว่าน้องกินอะไรถึงสวย ชอบรถอะไร อยากได้รถยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ไหม เราก็ตอบเลี่ยงๆ ไปว่า นั่งรถเมล์ก็ดีแล้วค่ะ แหม...เราก็คิดในใจว่าจริงๆก็อยากให้มาจีบ แต่กลัวว่าถ้าท่านรู้ว่าหนูเป็นยังไงแล้วท่านจะหนาว หนูก็พันธุ์เดียวกับท่านน่ะแหละ (หัวเราะร่วน) อีกอย่างกี้มีแฟนอยู่แล้วด้วย เป็นคนรักเดียวใจเดียวค่ะ' กี้เล่าถึงประสบการณ์ที่ถูกหนุ่มๆตามจีบให้ฟังอย่างออกรสออกชาติ
อุปสรรคของนางฟ้านะยะ
แต่ก็ใช่ว่าชีวิตแอร์โฮสเตสสาวประเภท 2 อย่างเธอจะไร้ซึ่งอุปสรรค เพราะแม้เธอจะสามารถไว้ผมยาวและนุ่งกระโปรงเหนือเข่าผ่านเข้าออกด่าน ตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินทุกประเทศในฐานะแอร์โฮสเตสได้อย่างไร้ข้อกังขา ด้วยเอกสารแสดงตัวในฐานะพนักงานของสายการบินนั้น ไม่มีคำนำหน้าว่า Mr., Miss หรือ Mrs. ปรากฏอยู่แต่อย่างใด จึงไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเฉลียวใจว่าเธอมีสถานะตามกฎหมายเป็นผู้ชาย แต่ปัญหาหนึ่งที่กีรนันท์ประสบก็คือนอกจาก พี.บี.แอร์แล้วเธอไม่สามารถไปสมัครเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินใดๆได้ เพราะยังมีคำว่า 'นาย' อยู่หน้า ชื่อของเธอดังนั้นโอกาสที่เธอจะเติบโตก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็คงน้อยเต็มที
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เธอทำได้ในขณะนี้ก็คือการออก หนังสือพ็อกเกตบุ๊กถ่ายทอดความฝันและประสบการณ์ ชีวิตของเธอ ล่าสุดกีรนันท์ออกหนังสือมาแล้ว 2 เล่ม คือ 'ผมเป็นแอร์โฮสเตสครับ' และ 'น้ำตานางฟ้า' ซึ่งปรากฏว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทั้ง 2 เล่ม
'เท่าที่รู้เนี่ย ยังไม่มีสายการบินไหนรับผู้ชายไป ปฏิบัติงานในตำแหน่งแอร์โฮสเตส ดังนั้นโอกาสที่จะขยับขยายไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าในสายบินอื่นๆ ก็คงแทบไม่มีเลย แต่ยังไงกี้ก็ยังรักที่จะเป็นแอร์โฮสเตสต่อไป ถึงงานจะหนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่เรารัก บอกได้เลยว่าแอร์ฯ ทุกคน ทุกสายการบินทำงานหนักมาก เพราะฉะนั้นไม่มีเวลาไปตบตีกันเหมือนในละครที่ออนแอร์อยู่ตอนนี้หรอกค่ะ แล้วอีกอย่างภาพลักษณ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถามว่าในระหว่างเพื่อนร่วมงานมีเรื่องบาดหมางกันบ้างไหม มันก็มีบ้าง แต่เราจะใช้วิธีเลี่ยงที่จะปะทะ เช่น ถ้าไม่ชอบแอร์ฯคนนี้ก็ขอเปลี่ยนไฟลต์ไม่ไปบินด้วย แรงที่สุดที่เคยเห็นก็แค่เถียงกัน แต่ต้องไม่เถียงกันต่อหน้าผู้โดยสารนะคะ ส่วนเรื่องตบตีนี่ไม่มีแน่' กีรนันท์ กล่าวตบท้ายถึงจิตวิญญาณของบรรดานางฟ้าที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร เพราะนั่นคือวิชาชีพที่เธอรัก
http://www.watchari.com/board/index.php?topic=393.0