ในคลิปเป็นการระเบิดของโรงงาน ถ่ายจากมุมสูงบนภูเขา ตอนระเบิดรัศมีของเปลวไฟเป็นวงกว้างประมาณ 200 เมตร หลังจากเกิดการระเบิดจะเห็นเป็นคลื่นวิ่งออกเป็นวงกลม
รัศมีเป็นกิโลเมตร หากเราอยู่ในรัศมี 500 เมตรจากเปลวไฟแรงระเบิด แบบนี้โดนแรงอัดตายมั้ยครับ
ขึ้นอยู่กับขนาดของระเบิดครับ ในรัศมี 500 ถ้ามีกำลังไม่น่ามีปัญหา ผมเองก็ลืมๆไปมั่งแล้วนะครับ หลายปีแล้ว เรียนแล้วก็ไม่เคยได้ใช้ ต้องไปเปิดตำราดูครับ
ตอนที่ไปเรียน( อ้างถึงอีกแล้ว อิอิ) จะมีการนำรถยนต์มาบรรจุระเบิดใส่ที่ื้ท้ายรถเต็มกระโปรงหลัง เป็นระเบิดแอนโฟ แล้วก็จุดระเบิดด้วนรีโมด
แต่พวกนักเรียนจะอยู่ที่บังเกอร์ห่างออกมาน่าจะประมาณ 3/4 ไมล์ ที่บังเกอร์จะมีช่องกระจกอย่างหนา ให้นักเรียนมองดูที่รถ ตอนจุดระเบิดเห็นแสงว่างวาบก่อนแล้วตามมาด้วยเสียง ขนาดอยู่ไกล 3/4 ไมล์ยังรู้สึกได้ว่าแรงอัดมันแรงจริงๆ พอระเบิดเสร็จก็ต้องลงไปดูที่หลุม รถหายไปทั้งคัน มีแต่ชิ้นส่วนกระจายเต็มไปหมด
เหตุระเบิดต้อนรับปี 2554 ที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งทำให้ ด.ต.กิตติ มิ่งสุข เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี สังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 447 ต้องเสียชีวิตคาชุดป้องกันอันตรายจากแรงระเบิด หรือ “บอมบ์สูท” กระทั่งมีการเปิดโปงในเวลาต่อมาว่า "บอมบ์สูท" ที่เจ้าหน้าที่ใช้นั้น เป็นชุดที่หมดอายุการใช้งานแล้ว สะท้อนถึงปัญหาการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภารกิจดับไฟใต้ได้เป็นอย่างดี
เหตุการณ์นี้เป็นเพราะ หุ่นกู้ระเบิดขัดข้อง เลยต้องเข้าไปดู ใช่ไหมครับ
Bomb suit มันป้องกันได้ขั้นนึง แต่ถ้าโดนเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่รอดครับ ( ป.ล. ไม่เคยกู้ระเบิดเองนะ แต่จากที่เรียนมาเค้าว่างั้น)
ผมว่าคนใช้คนซื้อคงเข้าใจอะไรผิดๆมากกว่าครับพี่ ไม่มีรูปจริงแต่เป็นในหนัง ขนาดห่างๆยังเดี้ยงเลย
ตอนที่ผมไปเรียน ครูฝึกถามว่าเป็นคนอั่งเดิมที่ไหน พอรู้ว่าเป้นคนไทย ครูบอกว่ามีตำรวจไทยมาเรียนนะ( เรียนระดับสูง ผมแค่เบื้องต้น) และชมว่าตำรวจไทยเก่งแต่ขาดอุปกรณ์
ใส่ชุด บอมบ์สูท ถึงไม่โดนสะเก็ดระเบิดหรือสิ่งของที่มากับแรงระเบิด ก็อาจจะตายได้จากแรงอัด เพราะตอนที่จุดระเบิดจากตรงจุดนั้น จะมีที่เรียกว่า
positive pressure จะเป็นสูญญากาศดันออกไปเป็นวง พอหมดแรงดันอากาศจะไหลกลับเรียกว่า negative pressure
จากที่เรียนมาเค้าบอกว่า ดูที่ศพถ้าปอดออกมาจุกปาก ก็คือโดนช่วง negative pressure เข้าไป
คล้ายกับเหตุการณ์ระเบิดอาคารราชการที่โอคลาโฮมาซิตี้ ใช่มั้ยครับพี่
ที่เหมือนมีการระเบิดสองครั้ง ครั้งที่สองคือหลังจากระเบิดครั้งแรกสร้างสภาพเกือบสูญญากาศ อากาศวิ่งเข้ามาอัดรวมกันแล้วและระเบิดออกอีกครั้งเพราะความกดอากาศที่สูงขึ้นใหม่ และต่ำลงเป็น cycle แบบนี้จนอ่อนแรงไปเอง
ช่วงที่เกิดเหตุการณ์นั้นผมเรียนอยู่แถบมิดเวสต์ครับ เลยได้ติดตามข่าวพอสมควร น่าเศร้ามาก
ไม่น่าใช่ ที่ได้ยินระเบิดสองครั้งอาจจะเป็นอย่างอื่นครับ
ที่ผมเรียนจะพูดถึง primary และ secondary explosions คือแรกๆคนร้ายวางระเบิดลูกเดียว แล้วก็มีการวางลูกที่สองด้วย
พอลูกแรกระเบิดไปแล้ว พอพวกกู้ภัยเข้าไปมันก็กดลูกที่สองเลย พูดง่ายๆมันวางกับดักไว้
Ha Ha ฮา ยายขอมาแจม ด้วยน๊ะคร๊า ฮา
เมืองไทยเรา ก็เคย "เกือบ" มีเหตุการณ์ "คาร์บอมบ์" ในใจกลางกรุงเทพ อ่ะคร๊า ฮา
ตอนนั้น "เป้าหมาย" อยู่ถนน "วิทยุ" ฮา "การข่าว" สมัยนั้นไม่ได้เก่งกาจ อะไรหรอกคร๊า ฮา
มุสลิมแถว "ตะวันออกกลาง" เข้ามาใช้พื้นที่ของไทย ฮา
เริ่มต้น เขาไปเช่ารถยนต์ บรรทุกหกล้อ คันหนึ่ง โดยให้เหตุผลตอนเช่าว่า "จะย้ายบ้าน" ฮา
คนขับก็นำรถมาส่ง ส่งมอบเสร็จก็โดน ฆาตกรรม ฮา
ไอ้คนเช่า มันเตรียมแท็งค์น้ำ สี่เหลี่ยมที่ทำด้วยเหล็ก อาบสังกะสี ฮา
ยายกะว่าน่าจะมีขนาดความจุประมาณ "สามคิวบิคเมตร"
หลังจาก "ฆ่า"คนขับตาย มันก็โยน ศพ ลงไปในถังเหล็ก แล้วใส่ "ยูเรีย" พร้อม "โซล่า" ตามกลบ ลงไป
ฮา มันจะทำ"คาร์บอมบ์ อ่ะคร๊า
พวกเขาเอารถไปจอด ในชั้นใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าตรงข้าม "มาร์แตร์" ฮา
เช้าวันรุ่งขึ้น ก็มีอีกทีม ขับรถออกจากห้าง บังเิอิญ ตอนเลี้ยวซ้ายออกมา เพื่อเข้าถอ "หลังสวน" ก็ ไปจะเอ๋ กับมอไซค์ ฮา
ไอ้คนขับ ตกใจ มันรู้ว่าบนรถเป็นระเบิด ทั้งคัน ก็ทิ้งรถ "หนี" ฮา
ตำรวจมาถึงก็จัดการขับ เอารถไปจอดหน้าสถานี "ลุมพินี" ฮา ระเบิดทั้งคันเนี่ยะนะ
พอจอดหลายวัน เจ้าของรถก็ตามหาว่า รถหายไปไหน จนมาเจอที่สน. ลุมพินี ฮา
เจ้าของก็ยังไม่หายสงสัย ว่าทำมัย มันมีถังน้ำ อยู่บนรถได้ว๊ะ ฮา
ก็จัดการเปิดฝาด้านบน จนพบสิ่งผิดปกติ แล้วเรียกตำรวจมาดู ฮา
เป็นระเบิดทั้งคัน คร๊า ฮา
ถ้าตอนนั้น ทำสำเร็จ ก็จะเป็นเรื่อง "ครึกโครม" ติดอันดับโลก เลยคร๊า ฮา