เมื่อเวลา 10.05 น.วันที่ 30 ม.ค.54 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระอุดมญาณโมลี หรือหลวงปู่จันศรี จันททีโป เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง จ.อุดรธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นิมนต์เคลื่อนสรีระหลวงตาบัว จากกุฏิ มายังชั้นสองศาลาการเปรียญ โดยสรีระของหลวงตามหาบัว ถูกวางไว้บนเตียง มีพระสงฆ์สายวิปัสสนากรรมฐาน 20 รูป แบกเตียงเคลื่อนไปไว้บนศาลา ตลอดเส้นทาง พุทธศาสนิกชนเปล่งเสียง สาธุ เมื่อสรีระถูกนำไปวางบนเตียงไม้ บริเวณที่หลวงตาใช้เดินจงกรม จากนั้นได้ทำพิธีขอขมา พระสงฆ์อาวุโส ร่วมสงฆ์น้ำศพ
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสัสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี ได้เปิดพินัยกรรมของหลวงตามหาบัวและอ่าน โดยพินัยกรรมเขียนไว้ตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2543 มีใจความสรุปดังนี้ 1.ทองคำที่ได้รับบริจาคมา ให้นำไปหลอม เงินสดที่ได้รับบริจาคมาให้นำไปซื้อทองคำ นำมาหลอมรวมมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นทุนสำรอง 2. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดงานศพ และดูแลทรัพย์สิน ทั้งทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนและทรัพย์สินที่ได้รับศรัทธาจากญาติโยมในงานศพ โดยให้คณะกรรมการดำเนินงานอย่างเปิดเผย ตามเจตนารมณ์ 3. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล 9 คน
ประกอบด้วย 1. อาจารย์ฟัก สันติธรรมโม ขณะนี้มรณภาพแล้ว 2. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสัสโก 3. อาจารย์ปริญญา วัฒโธ 4. อาจารย์วันชัย วิจิตโต 5.ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมตรี 6.นายศิริ คูสกุล คหบดี จ.อุดรธานี 7. ม.ร.ว.ทองศิริ ทองแถม 8 พ.ต.อ.กฤษดา บูรณะพานิชย์ พ.ต.ปัจจัย นารินรักษ์ 4.ตั้งให้พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน รองเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เป็นผู้จัดการมรดก สำหรับพินัยกรรม ได้จัดทำขึ้น 3 ฉบับ มีใจความเหมือนกัน เก็บรักษาไว้ 3 แห่ง ที่วัดป่าบ้านตาด ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จ.อุดรธานี และธนาคารกสิกรไทย จ.อุดรธานี โดยพินัยกรรามดังกล่าวมี พระอาจารย์ปัญญา วัฒโธ เป็นพยาน และมีพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เป็นพยานและผู้พิมพ์
พระครูอรรถกิจ นันทคุณ หรือพระอาจารย์นภดล นนทะโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร แจ้งให้ญาติโยมที่มาร่วมงานว่า หลังจากพระสงฆ์ได้สงฆ์น้ำกราบบูชาหลวงตาแล้ว จะอนุญาตให้พุทธศาสนิกชนขึ้นสงฆ์น้ำและกราบบูชา จนกว่าประชาชนจะบางตา จึงจะบรรจุสรีระหลวงตาลงในหีบไม้ กราบนิมนต์ไปที่ศาลาใหญ่ด้านหน้าวัด สำหรับโกศพระราชทาน ตามสมณะศักดิ์จะตั้งอยู่ด้านหลัง