เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่ แถลงการณ์ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ โดยเลขาธิการใหญ่ของคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อมรดกโลกต่อคำแถลงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ว่า "ตนกำลังผลักดันให้เลื่อนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก" โดยตามแถลงการณ์ได้กล่าวมาถึง นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ 2 ประเด็น ว่าปราสาทพระวิหารเป็นที่จดจำในฐานะมีคุณค่าเป็นสากลโดดเด่น ก่อนที่ปราสาทจะถูกรับรองในการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 32
ประเด็นที่ 2 พระวิหารได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้มติ 32. COM.8B 102 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ปี 2008 ในการประชุมคณะกรรมการที่ ควิเบค แคนนาดา มติเอกฉันท์ โดยสมาชิกของคณะกรรมการ ทั้ง 21 ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ลงนามในอนุสัญญา 1972 ซึ่งครบถ้วนและเอาคืนไม่ได้ พร้อมทั้งแสดงความประหลาดใจว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีของไทย จึงออกถ้อยแถลงเช่นนั้น
อ่านแล้วหวั่นใจจริงๆครับ กลัวเสียดินแดน รู้สึกประเทศที่สนับสนุนมันมีมาก มันต้องการ หมวกฟ้า มาแทรกปัญหานี้อย่างชัดเจน
เอามุมมองของหมวกฟ้านะครับ...
หมวกฟ้ามันมีพี่เอื้อยใหญ่คือ USA. มันไม่สนว่าใครถูกใครผิด มันสนอย่างเดียวว่ามันจะเอาน้ำมัน... ทีนี้กับเขมร มันรู้ว่าจะตกลงกับใคร คือหากตกลงกับฮุนเซ็นปุ๊บ มันรู้ว่าตกลงกับ"ตัวจริง" แบ่งทรัพยากรกันได้โดยไม่ต้องระวังหลังว่าจะโดนตอดโน่นตอดนี่จากรายย่อยอื่นในเขมร...
แต่ทีนี้กับประเทศไทย มันไม่รู้ว่าคุยกับใครแล้วจะเป็น"ตัวจริง"ที่จบเรื่องได้, หากเป็นประเทศอื่น มันก็จะหนุนใครก็ได้ให้ขึ้นมามีอำนาจเบ็ดเสร็จ แล้วมันก็ตกลงตรงนั้น ข้าหนุนเอ็ง เอ็งดูและผลประโยชน์ให้ข้า... นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน ประเทศไทยมีศูนย์รวมอยู่ที่เดียวข้างบนนั้น(อยู่สูงขึ้นไปเหนือการเมือง) ใครมาเป็นใหญ่ทางการเมือง ก็จะต้องคงนโยบายเรื่อง"ผลประโยชน์ของประเทศ"เอาไว้เหมือนเดิมตามที่ตกลงกันไว้ เพราะคนไทยทั้งประเทศต่างรู้ว่าในที่สุดผลประโยชน์ของประเทศไทยจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดข้างบนนั้น...
ลองดูในวันนี้ซิครับ, ตกลงผลประโยชน์กับนายกฯคนปัจจุบันแล้ว คิดว่าข้อตกลงจะยืนหยัดได้สักกี่น้ำ นี่ยังไม่นับตัวนายกฯเปลี่ยนใจได้ด้วยอีกต่างหาก... แล้วหมวกฟ้ามันจะอยากตกลงกับใครเล่าครับ...