ถามพี่สมชายและพี่Sitthipongครับ
ที่เขมรมันมาแหย่เราทุกวันนี้ เพราะมันยึดแผนที่ 1:200,000 ตามข้อตกลง MOU43 ใช่หรือไม่ครับ
และ MOU44 คือข้อตกลงทางทะเลที่จะตามมา ซึ่งในทะเลอ่าวไทยมีบ่อน้ำมันใช่มั้ยครับ
สรุป บันทึกข้อตกลงที่เราทำไว้สมัยนายชวน (MOU43) คือต้นเหตุใช่หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
ทัศนะของนายสมชายว่า MOU43 มันก็มีส่วน เรื่องอื่นก็มีส่วนครับ เรื่องไหนที่เขมรมันว่ามันได้เปรียบมันก็มีส่วนทั้งสิ้น... และนายสมชายว่าลึกๆแล้วเขมรมันมองภาพรวมว่าประเทศไทยไม่มีใครที่แข็งแรงพอเป็นศูนย์รวมประเทศ โดยเฉพาะเหนือหัวมีพระพลานมัยไม่เต็มร้อย ตรงนี้จะเกิดสูญญากาศแห่งอำนาจของประเทศครับ...
มันก็เลยอาศัยตรงนี้
เจาะไชให้อีแร้งเบี่ยงเป้ามาที่ประเทศไทย เพราะบ่อน้ำมันในทั้งสองประเทศคือทุกขลาภ... เหมือนเด็กน้อยบังเอิญเก็บกระสอบใส่เงินเต็มกระสอบได้ แต่ไม่มีปัญญารักษา ดังนั้นต้องลากนักเลงให้มาคุ้มครอง ทีนี้นักเลงจะคุ้มครองก็ต้องเลือกข้างชนะกับข้างแพ้
เพราะ"อีแร้งจะกินซาก" ใครแพ้เป็นซาก อีแร้งลงกิน, แต่คนชนะจะแฝงตามฝูงอีแร้งเข้าไปกินด้วย และพาโลพาเลย้ายข้างไปอยู่กับฝ่ายชนะ...
ดังนั้นวิธีจัดการคือต้องทำให้ประเทศเราแข็งแรง และอีกฝ่ายอ่อนแอโดยไม่เข้ากติกาของนักเลงโต(หมวกฟ้า) เนื่องจากอีแร้งจะไม่เข้ามายุ่งยุ่มย่ามด้วย(ถ้าไม่มีช่อง - คือผิดกติกาฯ) จนกว่าปรากฎฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้ จากนั้นอีแร้งจะเข้ามาซ้ำเติม... วิธีการทำให้ประเทศแข็งแรงนั้น การที่นายกอภิสิทธิ์บอกว่าจะยุบสภาฯ ก็เป็นวิธีหนึ่ง คือการสลับหน้า ไม่ให้ฮุนเซ็นตีได้ถูกคน(ไม่รู้ว่าใครจะขึ้นมาแทนที่)...
การทำวิธีเช่นนี้ได้ ต้องมีสถาบันหลักยืนหยัดค้ำประเทศ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประเทศไทยเอาไว้ในระหว่างช่วงส่งผ่านอำนาจ ระหว่างกำลังเลือกตั้ง และสามารถระดมสมองระดมพลังของประเทศโดยทุกฝ่ายไม่ตีกันจนเละเสียก่อนครับ...ส่วน MOU43 ในทัศนะของนายสมชายเป็นเพียงสัญญาหนึ่งฉบับ ที่คนสองคนตกลงกันเอาไว้... เมื่อไหร่ที่ใครแข็งแรงกว่าอย่างชัดเจน ก็สามารถทุบโต๊ะล้มกระดานขอเจรจากันใหม่ได้ทุกเมื่อครับ, เพราะจะเป็นไปตามกฎธรรมชาติที่ว่าใครเสียงดังกว่า อีกฝ่ายต้องยอมตาม...