ทหารไทยปะทะเขมร เขาพระวิหาร ภูมะเขือ และแนวชายแดน สุรินทร์ บุรีรัมย์(4 ก.พ.54)

[Southlander]

ผมเห็นตะหานฝั่งเราคึกคักมาสองสามวันแล้ว...มีใครทราบข่าวอะไรบ้างครับ  วันนี้เห็นรถบรรทุกรถถังผ่านไปหลายคัน....ผมว่ากลิ่นไม่ดีแน่ ๆ เลย..เอาอีกแน่ ๆ

 นึกว่าชายแดนไม่มีปัญหา ฮุนเซ็นจะดีใจซะอีกที่เผาไทยจะได้เป็นรัฐบาลจูบปากกะท๊ากเสนซะดูดดื่ม



แต่...18 กค. นี้มีอีกดีเดย์นะท่านๆ ศาลโลกจะแถลงคำร้องของเขมรอยู่ด้วยรับหรือไม่รับกับการขออำนาจศาลคุ้มครองบริเวณรอบปราสาท


หึๆๆ ปืนใหญ่ซีซาร์ จับเป้ารอไว้ก่อนเลยศาลแถลงปุ๊ป ถ้ามีเสียงปืนแตกผมจะกลับมานำทันที...เอ๊ย ไม่ใช่ ยิงสวนทันที

[R2D2]

กำเนิดกรุงกัมพูชา...อ่านแล้วฮาตรึม!!!
...ไปอ่านเจอในหนังสือของคุณ “โรม บุนนาค” ซึ่งท่านมักจะเขียนเรื่องเก่าๆเอามาเล่าในสไตล์สนุกๆให้ได้อ่านกัน ผมอ่านถึงกับขำก๊ากว่า เออ..นี่มันเรื่องจริงหรือล้อเล่น แต่ว่าคุณโรมก็ยืนยันหลักฐานที่มาที่ไปหนักแน่นว่ามีอยู่จริงใน “ราชพงศาวดารกัมพูชา” คือในราชพงศาวดารกัมพูชาฉบับแปลเป็นภาษาไทยนี้นั้น ได้รับการแปลมาจาก “พันตรีหลวงเรืองเดชอนันต์” (ทองดี ธนะรัชต์) ซึ่งผู้แปลนามสกุลคุ้นๆนี้นั้นท่านเป็นบิดาของ ท่านผู้นำ “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และดั้งเดิมท่านเป็นคนพระตะบอง ซึ่งขณะนั้นยังขึ้นกับประเทศไทย ท่านจึงถือว่าเป็นคนไทย ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาเขมรนี้มาก ท่านจึงไปแปล “ราชพงศาวดารกัมพูชา” ฉบับภาษาเขมร ซึ่งท่านศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดย์ ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีตะวันออกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้นำเข้ามาจากกรุงฮานอย เห็นไหมว่ามันมีที่มาที่ไปชัดเจน ไม่ใช่เลื่อนลอย...
...ทีนี้ลองมาดูข้อความใน “ราชพงศาวดารกัมพูชา” ฉบับแปลเป็นไทยแล้ว ที่ว่าอ่านแล้วฮาตรึมคืออะไร คือ “ราชพงศาวดารกัมพูชา” ฉบับนี้นั้นมีอยู่ 3 ตอน ตอนที่ 1 เป็นเรื่องตำนานการสร้างนครวัด นครธม ซึ่งระบุชื่อผู้แต่งว่าเป็น “นักองค์นพรัตน์หริรักษ์ราชภูบดี” ราชบุตรของสมเด็จพระนโรดม และเรื่องฮาตรึมก็เป็นเรื่องตอนที่ต่อจากนี้แหละครับ เพราะเป็นตอน “พุทธทำนาย” กล่าวถึง “กำเนิดกรุงกัมพูชา” ...
...ในตอน “พุทธทำนาย” ราชพงศาวดารกัมพูชา กล่าวอ้างถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมากับพระอานนท์สองพระองค์ มาถึงเกาะใหญ่แห่งหนึ่ง ในชมพูทวีป กลางเกาะนั้นมีต้นหมันใหญ่ ที่ลำต้นมีโพรงพญานาค แต่ที่พื้นโคนต้นนั้นราบเรียบ พระองค์กับพระอานนท์ก็พากันมาประทับที่ใต้โคนต้นหมันนั้น ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าต้นหมันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สังเกตเอาว่าในตำนานต่างๆเมื่อจะกล่าวถึงความยิ่งใหญ่หรือว่าเป็นเรื่องบุญบารมีอะไรก็แล้วแต่ ก็มักจะมีต้นหมันนี้มาเป็นส่วนประกอบอยู่เสมอ แล้วราชพงศาวดารก็กล่าวต่อไปนะครับว่า เวลายามหนึ่งก็มีนาคขึ้นมาเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วพระองค์ก็แสดงธรรม เวลายามสองก็มีเทวดามาเข้าเฝ้า แล้วพระองค์ก็แสดงธรรม จวบจนยามสามก็มีนาคและเทวดาบางตนสำเร็จมรรคผลไปได้...
...และเมื่อถึงเช้าพระพุทธองค์ก็ทรงเหาะขึ้นไปบิณฑบาต ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อได้อาหารกลับมาก็มานั่งฉันกันสององค์กับพระอานนนท์ และเหตุฮาตรึมก็เกิดขึ้นตอนนี้แหละครับ ปรากฏว่าขณะนั้นมีสัตว์ตระกูลตะกวดหรือเหี้ยนี่แหละ ได้โผล่ขึ้นมาจากโพรงเก่าที่พญานาคเคยอยู่ พระพุทธองค์ก็เลยทรงปั้นข้าวแล้วก็โยนให้ตะกวดหรือเหี้ยนั้นกิน เมื่อมันกินเอร็ดอร่อยแล้วก็เลยแลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปาก พระพุทธองค์ก็เลยทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์ซึ่งท่านช่างถามอยู่แล้วก็กราบทูลถามทันที ว่าพระองค์ทรงแย้มพระโอษฐ์เพราะเหตุอันใด และก็เป็นตอนที่พระพุทธเจ้าทรงตอบเป็น “พุทธทำนาย” ขึ้นว่า...
..."ดูกร อานนท์เอ๋ย จำเดิมตั้งแต่นี้ต่อไปภายหน้า เกาะโคกหมันนี้แผ่นดินจะงอกขึ้นอีกกว้างใหญ่ แล้วจะเกิดเป็นนครหนึ่ง ซึ่งสัตว์ตะกวดมีจิตเลื่อมใสศรัทธามากราบถวายบังคมต่อองค์ตถาคต โดยอำนาจกุศลที่โสตประสาท ได้ยินศัพท์สำเนียงพระสัทธรรมเทศนาแห่งตถาคต ในเมื่อแสดงให้พระยานาคและฝูงเทวาได้สดับตรับฟังนั้น เมื่อสัตว์ตะกวดนี้สิ้นชีพแล้ว จะได้บังเกิดบนสวรรค์ แล้วได้จุติลงมาเป็นกษัตริย์องค์หนึ่ง ครองกรุงอินทปรัตนคร และพระราชบุตรของกษัตริย์องค์นั้นจะได้เสด็จมาที่ตรงนี้ จึงพระยานาคที่ได้มาฟังพระธรรมเทศนานี้เอง จะได้มาสร้างพระนครเป็นราชธานีใหญ่ ให้แก่พระราชบุตรของกษัตริย์องค์นั้นประทับ แล้วขนานนามพระนครว่า “กรุงกัมพูชาธิบดี” ส่วนนานาประเทศจะเรียกเขมระภาษา ลุกาลต่อไปภายหน้า พระอินทราธิราชจะได้มาสร้างปราสาทถวาย แล้วเรียกนามเมืองว่า “อินทปรัตนคร” เป็นสองชื่อ และบรรดามนุษยชาติในราชธานีนี้ จะพูดจาสิ่งใดๆไม่ค่อยยั่งยืนอยู่ในสัตยานุสัตย์ โดยบุรพกษัตริย์ผู้ตั้งต้นแผ่นดิน มีชาติกำเนิดเกิดจากสัตว์ตะกวด อันมีลิ้นแฝดแตกแยกออกเป็นสองซีก”...
...อ่านแล้วฮาตรึมไหมครับท่าน เมื่อราชพงศาวดารเขมร บันทึกพุทธทำนายเอาไว้เองว่า พระยานาคจะมาสร้างเมือง ให้กษัตริย์จากตระกูลตะกวดปกครอง แล้วพระอินทร์ก็จะมาสร้างปราสาทถวาย ทำให้เมืองนี้มีสองชื่อตลอดไป ชื่อเมืองชื่อหนึ่งชื่อคนชื่อหนึ่ง และที่พิเศษสุดก็คือคนในเมืองนี้ จะมีนิสัยที่เหมือนกับลิ้นสองแฉกของบรรพบุรุษ คือพูดกลับไปกลับมาเอาแน่นอนอะไรไม่ได้...!!!
...เพราะฉะนั้นก็อย่าไปสงสัยอยู่เลยว่า ทำไมคนประเทศเพื่อนบ้านของเรานี้ถึงได้กลับกลอกหลอกลิ้น กลิ้งไปกลิ้งมาอย่างนี้ ก็เพราะที่มาที่ไปของเขาเป็นอย่างนี้นี่เอง จงอโหสิให้เขาแล้วก็ช่วยกันปั้นก้อนข้าวกลมๆ โยนให้เขากินเถิด...!!!

[พญาจงอาง +รักในหลวง+]

ไทยซวยแล้วครับ เขมรโพนทนาบอกชาวโลกว่ามันมีนิวเคลียร์ ตามข่าวพาดหัวนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลั่น ทหารพร้อมวางกำลังป้องกันชายแดน ส่วนข่าวเขมรมีนิวเคลียร์ขนาดเล็กในครอบครองนั้นเป็นเรื่องมั่ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกัมพูชามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ไม่มีหรอก มันไม่ง่ายขนาดนั้นที่มีนิวเคลียร์บนรถจี๊ปเป็นไปไม่ได้ มั่ว อย่าไปเชื่อ มันไม่มีหรอก"
       

[แปจีหล่อ]

ไทยซวยแล้วครับ เขมรโพนทนาบอกชาวโลกว่ามันมีนิวเคลียร์ ตามข่าวพาดหัวนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลั่น ทหารพร้อมวางกำลังป้องกันชายแดน ส่วนข่าวเขมรมีนิวเคลียร์ขนาดเล็กในครอบครองนั้นเป็นเรื่องมั่ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกัมพูชามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ไม่มีหรอก มันไม่ง่ายขนาดนั้นที่มีนิวเคลียร์บนรถจี๊ปเป็นไปไม่ได้ มั่ว อย่าไปเชื่อ มันไม่มีหรอก"
       

ไทยไม่ซวยหรอกครับมันนั่นแหละจะซวยถ้ามีจริงมีหวังโดนบีบให้ทำลายหน้าเขียวหน้าเหลืองละครับ

[พญาจงอาง +รักในหลวง+]

วันนี้เวลาประมาณ10โมงเช้า มีนักบินF-16ของเรานายหนึ่งบินหลงฝูงไปโผล่ที่เขาพระวิหารซะงั้น เข้าใจว่าเป็นการฝึกบินปรกติตามตารางบินประจำวัน(Routine Flight sorties)ดีที่นักบินไม่ได้จุดAfter Burnerไม่งั้นเกิดSonicBoomขึ้นมา เขมรเผลอยิงอาร์ก้าใส่ คร่านี้คงได้ซัดกันเต็มรูปแบบซะที ยังไงก็ได้บินหลงเข้าไปแล้ว นักบินน่าจะเผลอกดระเบิดลงไปซักลูก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000086337

[JUNGLE]

ไทยซวยแล้วครับ เขมรโพนทนาบอกชาวโลกว่ามันมีนิวเคลียร์ ตามข่าวพาดหัวนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลั่น ทหารพร้อมวางกำลังป้องกันชายแดน ส่วนข่าวเขมรมีนิวเคลียร์ขนาดเล็กในครอบครองนั้นเป็นเรื่องมั่ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกัมพูชามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ไม่มีหรอก มันไม่ง่ายขนาดนั้นที่มีนิวเคลียร์บนรถจี๊ปเป็นไปไม่ได้ มั่ว อย่าไปเชื่อ มันไม่มีหรอก"
       

ไทยไม่ซวยหรอกครับมันนั่นแหละจะซวยถ้ามีจริงมีหวังโดนบีบให้ทำลายหน้าเขียวหน้าเหลืองละครับ

ทีนี้ขแมร์จะไปเอาที่ไหนมาทำลายให้ชาวโลกเขาดูล่ะครับ...

[J_D]

ไทยซวยแล้วครับ เขมรโพนทนาบอกชาวโลกว่ามันมีนิวเคลียร์ ตามข่าวพาดหัวนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลั่น ทหารพร้อมวางกำลังป้องกันชายแดน ส่วนข่าวเขมรมีนิวเคลียร์ขนาดเล็กในครอบครองนั้นเป็นเรื่องมั่ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกัมพูชามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ไม่มีหรอก มันไม่ง่ายขนาดนั้นที่มีนิวเคลียร์บนรถจี๊ปเป็นไปไม่ได้ มั่ว อย่าไปเชื่อ มันไม่มีหรอก"
       

ไทยไม่ซวยหรอกครับมันนั่นแหละจะซวยถ้ามีจริงมีหวังโดนบีบให้ทำลายหน้าเขียวหน้าเหลืองละครับ

ทีนี้ขแมร์จะไปเอาที่ไหนมาทำลายให้ชาวโลกเขาดูล่ะครับ...

ขอให้มันมีจริงๆเถอะครับ  เพื่อนบ้านจะได้อ้างจัดการแบบวิกฤตการณ์คิวบากันซะ 

[SillyOldMan]

กำเนิดกรุงกัมพูชา...อ่านแล้วฮาตรึม!!!
...ไปอ่านเจอในหนังสือของคุณ “โรม บุนนาค” ซึ่งท่านมักจะเขียนเรื่องเก่าๆเอามาเล่าในสไตล์สนุกๆให้ได้อ่านกัน ผมอ่านถึงกับขำก๊ากว่า เออ..นี่มันเรื่องจริงหรือล้อเล่น แต่ว่าคุณโรมก็ยืนยันหลักฐานที่มาที่ไปหนักแน่นว่ามีอยู่จริงใน “ราชพงศาวดารกัมพูชา” คือในราชพงศาวดารกัมพูชาฉบับแปลเป็นภาษาไทยนี้นั้น ได้รับการแปลมาจาก “พันตรีหลวงเรืองเดชอนันต์” (ทองดี ธนะรัชต์) ซึ่งผู้แปลนามสกุลคุ้นๆนี้นั้นท่านเป็นบิดาของ ท่านผู้นำ “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และดั้งเดิมท่านเป็นคนพระตะบอง ซึ่งขณะนั้นยังขึ้นกับประเทศไทย ท่านจึงถือว่าเป็นคนไทย ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาเขมรนี้มาก ท่านจึงไปแปล “ราชพงศาวดารกัมพูชา” ฉบับภาษาเขมร ซึ่งท่านศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดย์ ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีตะวันออกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้นำเข้ามาจากกรุงฮานอย เห็นไหมว่ามันมีที่มาที่ไปชัดเจน ไม่ใช่เลื่อนลอย...
...ทีนี้ลองมาดูข้อความใน “ราชพงศาวดารกัมพูชา” ฉบับแปลเป็นไทยแล้ว ที่ว่าอ่านแล้วฮาตรึมคืออะไร คือ “ราชพงศาวดารกัมพูชา” ฉบับนี้นั้นมีอยู่ 3 ตอน ตอนที่ 1 เป็นเรื่องตำนานการสร้างนครวัด นครธม ซึ่งระบุชื่อผู้แต่งว่าเป็น “นักองค์นพรัตน์หริรักษ์ราชภูบดี” ราชบุตรของสมเด็จพระนโรดม และเรื่องฮาตรึมก็เป็นเรื่องตอนที่ต่อจากนี้แหละครับ เพราะเป็นตอน “พุทธทำนาย” กล่าวถึง “กำเนิดกรุงกัมพูชา” ...
...ในตอน “พุทธทำนาย” ราชพงศาวดารกัมพูชา กล่าวอ้างถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมากับพระอานนท์สองพระองค์ มาถึงเกาะใหญ่แห่งหนึ่ง ในชมพูทวีป กลางเกาะนั้นมีต้นหมันใหญ่ ที่ลำต้นมีโพรงพญานาค แต่ที่พื้นโคนต้นนั้นราบเรียบ พระองค์กับพระอานนท์ก็พากันมาประทับที่ใต้โคนต้นหมันนั้น ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าต้นหมันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สังเกตเอาว่าในตำนานต่างๆเมื่อจะกล่าวถึงความยิ่งใหญ่หรือว่าเป็นเรื่องบุญบารมีอะไรก็แล้วแต่ ก็มักจะมีต้นหมันนี้มาเป็นส่วนประกอบอยู่เสมอ แล้วราชพงศาวดารก็กล่าวต่อไปนะครับว่า เวลายามหนึ่งก็มีนาคขึ้นมาเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วพระองค์ก็แสดงธรรม เวลายามสองก็มีเทวดามาเข้าเฝ้า แล้วพระองค์ก็แสดงธรรม จวบจนยามสามก็มีนาคและเทวดาบางตนสำเร็จมรรคผลไปได้...
...และเมื่อถึงเช้าพระพุทธองค์ก็ทรงเหาะขึ้นไปบิณฑบาต ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อได้อาหารกลับมาก็มานั่งฉันกันสององค์กับพระอานนนท์ และเหตุฮาตรึมก็เกิดขึ้นตอนนี้แหละครับ ปรากฏว่าขณะนั้นมีสัตว์ตระกูลตะกวดหรือเหี้ยนี่แหละ ได้โผล่ขึ้นมาจากโพรงเก่าที่พญานาคเคยอยู่ พระพุทธองค์ก็เลยทรงปั้นข้าวแล้วก็โยนให้ตะกวดหรือเหี้ยนั้นกิน เมื่อมันกินเอร็ดอร่อยแล้วก็เลยแลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปาก พระพุทธองค์ก็เลยทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์ซึ่งท่านช่างถามอยู่แล้วก็กราบทูลถามทันที ว่าพระองค์ทรงแย้มพระโอษฐ์เพราะเหตุอันใด และก็เป็นตอนที่พระพุทธเจ้าทรงตอบเป็น “พุทธทำนาย” ขึ้นว่า...
..."ดูกร อานนท์เอ๋ย จำเดิมตั้งแต่นี้ต่อไปภายหน้า เกาะโคกหมันนี้แผ่นดินจะงอกขึ้นอีกกว้างใหญ่ แล้วจะเกิดเป็นนครหนึ่ง ซึ่งสัตว์ตะกวดมีจิตเลื่อมใสศรัทธามากราบถวายบังคมต่อองค์ตถาคต โดยอำนาจกุศลที่โสตประสาท ได้ยินศัพท์สำเนียงพระสัทธรรมเทศนาแห่งตถาคต ในเมื่อแสดงให้พระยานาคและฝูงเทวาได้สดับตรับฟังนั้น เมื่อสัตว์ตะกวดนี้สิ้นชีพแล้ว จะได้บังเกิดบนสวรรค์ แล้วได้จุติลงมาเป็นกษัตริย์องค์หนึ่ง ครองกรุงอินทปรัตนคร และพระราชบุตรของกษัตริย์องค์นั้นจะได้เสด็จมาที่ตรงนี้ จึงพระยานาคที่ได้มาฟังพระธรรมเทศนานี้เอง จะได้มาสร้างพระนครเป็นราชธานีใหญ่ ให้แก่พระราชบุตรของกษัตริย์องค์นั้นประทับ แล้วขนานนามพระนครว่า “กรุงกัมพูชาธิบดี” ส่วนนานาประเทศจะเรียกเขมระภาษา ลุกาลต่อไปภายหน้า พระอินทราธิราชจะได้มาสร้างปราสาทถวาย แล้วเรียกนามเมืองว่า “อินทปรัตนคร” เป็นสองชื่อ และบรรดามนุษยชาติในราชธานีนี้ จะพูดจาสิ่งใดๆไม่ค่อยยั่งยืนอยู่ในสัตยานุสัตย์ โดยบุรพกษัตริย์ผู้ตั้งต้นแผ่นดิน มีชาติกำเนิดเกิดจากสัตว์ตะกวด อันมีลิ้นแฝดแตกแยกออกเป็นสองซีก”...
...อ่านแล้วฮาตรึมไหมครับท่าน เมื่อราชพงศาวดารเขมร บันทึกพุทธทำนายเอาไว้เองว่า พระยานาคจะมาสร้างเมือง ให้กษัตริย์จากตระกูลตะกวดปกครอง แล้วพระอินทร์ก็จะมาสร้างปราสาทถวาย ทำให้เมืองนี้มีสองชื่อตลอดไป ชื่อเมืองชื่อหนึ่งชื่อคนชื่อหนึ่ง และที่พิเศษสุดก็คือคนในเมืองนี้ จะมีนิสัยที่เหมือนกับลิ้นสองแฉกของบรรพบุรุษ คือพูดกลับไปกลับมาเอาแน่นอนอะไรไม่ได้...!!!
...เพราะฉะนั้นก็อย่าไปสงสัยอยู่เลยว่า ทำไมคนประเทศเพื่อนบ้านของเรานี้ถึงได้กลับกลอกหลอกลิ้น กลิ้งไปกลิ้งมาอย่างนี้ ก็เพราะที่มาที่ไปของเขาเป็นอย่างนี้นี่เอง จงอโหสิให้เขาแล้วก็ช่วยกันปั้นก้อนข้าวกลมๆ โยนให้เขากินเถิด...!!!

อื้อหือออออออ เด็ด 

ขอเอาไปแชร์ต่อนะครับ สะใจซาดิสม์มากๆ 

[bobphasit-รักในหลวง]

ชาติกำเนิดเป็นแบบนี้นี่เอง        มิน่าล่ะ

[บูรพา - รักในหลวง]

(เชื่อได้หรือป่าวไม่รู้)   ข่าวต่างประเทศ - Manager Online  ว่าศาลโลกจะมีคำสั่งให้เราถอนทหารออกจากพื้นที่รอบๆปราสาทเขาพระวิหาร   ถ้าเป็นไปตามที่ว่าเรามีสิทธิ์ไม่รับคำสั่งของศาลโลกได้มั้ยครับ   

[Southlander]

(เชื่อได้หรือป่าวไม่รู้)   ข่าวต่างประเทศ - Manager Online  ว่าศาลโลกจะมีคำสั่งให้เราถอนทหารออกจากพื้นที่รอบๆปราสาทเขาพระวิหาร   ถ้าเป็นไปตามที่ว่าเรามีสิทธิ์ไม่รับคำสั่งของศาลโลกได้มั้ยครับ   

 ฟังหู ไว้หู ครับช่วงหลังๆสื่อ Manager Online ชอบเต้าข่าวมากครับไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่แล้ว ชอบเสี้ยมให้คนทะเลาะกัน
ตามเนื้อข่าวที่มายังเลื่อนลอยอยู่

[naisomchai]

เอามาให้อ่านกันเล่นๆอีกข่าวนึงครับ จริงหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่ว่าเราจะให้ความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวแค่ไหน, แต่อย่างไรก็ดี เรื่อง"ผลประโยชน์แห่งชาติ"น่าจะมีส่วนเพิ่มความน่าเชื่อถือครับ เพราะในอดีตเขาให้ทุนแบบนี้เป็นประจำนั่นแหละ เพียงแต่คราวนี้... "เขาย้ายข้างไปแล้ว" เพราะน้ำมันดิบในอ่าวไทยครับ...

ลูกชายคนเล็ก "ฮุนเซน" ไปเรียนทหารอีกคน สหรัฐฯ ให้ทุน... ที่ลิ้งก์นี้ครับ http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000087963 ...

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

(เชื่อได้หรือป่าวไม่รู้)   ข่าวต่างประเทศ - Manager Online  ว่าศาลโลกจะมีคำสั่งให้เราถอนทหารออกจากพื้นที่รอบๆปราสาทเขาพระวิหาร   ถ้าเป็นไปตามที่ว่าเรามีสิทธิ์ไม่รับคำสั่งของศาลโลกได้มั้ยครับ   

หากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีคำสั่งใดๆลงมา ประเทศไทยและกัมพูชาก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลครับ เพราะถือเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดีเก่าเมื่อปี พ.ศ. 2505 แม้ประเทศไทยจะประกาศไม่รับรองเขตอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแล้วก็ตาม

ฉะนั้น เราก็มาช่วยกันภาวนาให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องของกัมพูชาหรือมีคำสั่งให้คู่พิพาททั้งสองประเทศกลับไปเจรจากันเองดีกว่าครับ 

[naisomchai]

ลุ้นครับ... ตามข่าวว่าประมาณ 17.00 น. เวลาประเทศไทย กษิตฯ จะโทร.เข้ามาบอกข่าวครับ...

ถ้าเอาความยุติธรรมเข้ามาจับ นายสมชายเชื่อว่าเขมรคงโดนยกคำร้องครับ... แต่ถ้าเอาชั้นเชิงทางการเมืองระหว่างประเทศแล้วหนักใจจริง เพราะฝ่ายไทยในอดีตยอมรับเขตอธิปไตยของเขมรมานานมากแล้ว(ด้วยความฉลาดน้อยหรือเปล่า) ถึงขั้นยอมให้เขมรออกบัตรผ่านแดนเมื่อจะผ่านเข้าไปเที่ยวปราสาท, แถมยังช่วงหลังมีคนเขมรตั้งบ้านเรือนตั้งวัด ฯลฯ ในเขตพิพาทได้อีกด้วย... เฮ้อ...

[naisomchai]

ตามข่าวว่าประเด็นที่ไทยยกมาต่อสู้ก็คือ ไทยกั้นรั้วบริเวณรอบปราสาท เพื่อเป็น"เส้นสำหรับบริหารจัดการ"แต่ไม่ใช่เป็น"เส้นเขตแดนประเทศไทย", ตรงนี้เป็นประเด็นที่คนไทยส่วนหนึ่งไม่เคยฟังกันเลย พยายามเถียงมาตลอดว่ามันไม่ใช่(ค้นกระทู้เก่าในเว็บนี้แหละครับ - ย้อนหลังหลายปี)... หากงานนี้ประเทศไทยต้องโดนเฉือนแผ่นดิน จะเป็นวันนี้ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ด้วยความขมขื่นฯครับ...

พูดกันมาตลอดว่าตรงนั้นเขมรเรียกว่าแผ่นดินเขมร, แต่รัฐบาลไทย(หลายรัฐบาล)กลับเรียกตรงนั้นมาตลอดว่า"ที่ทับซ้อน", แล้วแถมยังปล่อยให้เขมรตั้งบ้านเรือน ในขณะที่คนไทยยกขบวนไปแถวนั้นกลับถูกกล่าวหาว่าไป"ยั่วยุ"ให้เกิดสงครามฯ... จนทำให้คนไทยส่วนหนึ่งพากันเข้าใจผิดว่า"สงครามระหว่างประเทศสามารถเกิดได้ เพราะความโกรธที่โดนยั่วยุ"...