เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 10, 2024, 03:22:10 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 30
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: HP-200-Eco เครืองอัดอากาศและเรกกูเลเตอร์แรงดันสูงราคาประหยัด  (อ่าน 97143 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 44 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 12:12:23 AM »

รูปของที่ คุณประมวน ส่งมาครับยังไม่ได้แกละดูเลยครับเนื่องจากต้องออกไปทำงานก่อนครับ Cheesy




ภาพนี้มีผู้สมใจอยากรู้ด้วยครับ
ท่านที่สนใจผู้นี้ส่งใส่กล่องไปรษณีย์มาให้ทดลองใช้ได้ไหมครับเพราะที่บ้านก็เพียบเลย  ตอนส่งไป ไปรษณีย์ถามว่าข้างในเป็นอะไร เขินมากไม่รู้จะตอบอย่างไร  ถามอย่างนี้เล่นเอาพูดไม่ออกเพราะรู้จักกันด้วยก็เลยแก็เขินว่า   "เออน่า.....................

สำหรับด้านกดนั้นก็สั้นไปหน่อยถ้ามันหักหรือมันหนักไปก็หาอะไรยาวๆมาทุ่นแรงก็ได้นะครับ  เช่น  ตอนแรงดัีนต่ำก็ใช้ด้ามสั้น  ตอนแรงดันสูงก็หาด้ามยาวหน่อย อาจเป็นด้ามไม้กวา่ดหรืออื่นๆ ขำก๊ากก็ได้  แต่ขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดคือ   ขั้นตอน "การเติมน้ำมันให้พอดีกับระบบ"ครับ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 12:24:14 AM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:25:59 AM »

ลองคิดเล่นๆครับ
      กระบอกอัดมีพื้นที่หน้าตัดประมาณ 7 ตารางเซนติเมตร  ลูกสูบมีพื้นที่หน้าตัดประมาณ 1 ตารางเซนติเมตร เมื่อแรงดันที่ทำการอัด 250 บาร์ คร่าวๆก็ประมาณ 200 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร    พื้นที่ก้นถังก็จะรับแรงดันประมาณ 200 คูณ 7 เท่ากับ1400 กิโลกรัมแรง    บอลวา์ล์วกันกลับมีหน้าตัดประมาณ 0.5 ตร.ซม. ก็จะรับแรงประมาณ 100 ก.ก.แรง  ถ้าไม่คิดแรงต้านทานการไหลลูกสูบก็จะรับแรงประมาณ 100 กก.ด้วยการใช้คานเข้ามาช่วยแรงกดที่ใช้ก็ไม่ถึง 100 กก    ถ้าจุดยึดลูกสูบกับจุดหมุนของคาน เท่ากับ 1 ใช้ด้ามที่ยาวเท่ากับ2 ก็จะรับแรงกด 100 เต็ม แต่ถ้าด้ามยาว 3-4-5-...แรงกดก็จะน้อยลงเรื่อยๆ  แต่ระยะที่กดจะเพิ่มมากขึ้น

     การกดhandpump ทั่วไปที่มีขาย ก็ลองคิดง่ายๆว่า เราดึงแกนสูบขึ้นมา  จากนั้นออกแรงกด เชควาล์วทำงาน เราก็ต้องใช้น้ำหนักตัวของเรากดลงไป  จุดรับหน้ำหนักของร่างกายก็จะต้องเป็นที่แขน ไม่ว่าอัตรทดของลูกสูบเท่าำำไหร่ สิงที่คุณจะต้องทำแน่นอนคือ    ยกตัวขึ้นเพื่อยกแกนสูบให้ดูดอากาศเข้าระบบ(ก็ใช้พลังงานกล้ามเนื้อ) จากนั้นก็ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปเพื่อให้อากาศได้แรงดันสูงกว่าแรงดันในหลอดแก็ส (ถ้ามันน้อยกว่ามัีนก็ไม่เข้า) ก็อาจแบ่งระดับแรงดันที่จะเ้ข้าหลอดแก็สได้เป็น 2 ระดับดังนี้

ระดับที่ 1    ต้องใช้ร่างกายเรายกน้ำหนักของร่างกาย(ของค่าg)+น้ำหนักของแรงต้านอากาศที่ไหลเข้ากระบอกสูบ จากนักก็ใช้แขนถ่ายส่งกำลังไปยังด้ามของสูบกดลูกสูบให้ลดปริมาตรของอากาศให้แรงดันสูงขึ้น สเตปที่ 1ก็แค่ทำให้อากาศในกระบอกอัดมีแรงดันเท่ากับในหลอดแก็สก่อน(คิดเป็นตอนๆ) ระหว่างนั้นคุณก็จะพบกับแรงต้านแบบที่เหมือนกับคุณดึงหนังยาง หรือคันธนู (น่าจะนึกภาพออกนะครับ)แต่ก็น่าจะรู้ว่ามันทรมาณขนาดใหน
ระดับที่ 2   ต้องใช้น้ำหนักร่างกายกดลูกสูบที่มีแรงดันเท่ากับหลอดแก็สให้มีแรงดันเพิ่มขึ้นเพื่อให้มวลของอากาศแรงดันสูงกว่าไหลเข้าไปทดแทนในส่วนที่มีแรงดันต่ำกว่าแล้วก็ทำอย่างนั้น  200 ครั้ง
                 สรุปว่าHand pump  แบบเก่าต้องใช้กล้ามเนื้อแทบทุกส่วนแทบจะครบเลย  แขน ขา หน้าท้อง หลัง  ยิ้มีเลศนัยมันน่าจะเป็นเครื่องออกกำลังกายมากกว่านะ  การใช้กล้ามเนื้อในระดับนี้เทียบเท่าได้กับการวิ่ง หรือการว่ายน้ำเลย  ก็ลองคิดสภาพของการใช้กล้ามเนื้อโดยไม่จำเป็นดูแล้วกันว่าคุณจะมีสภาพอย่างไร  บอกได้เลยว่า  หัวใจเต็นเร็ว  กล้ามเนื้อสั่นระริก  แล้วถ้าเอาสภาวะร่างกายแบบนั้นมาทำการยิงตามหลักการยิง 5 ประการ  คือภาพเล็ง   ท่าทาง  ลมหายใจ การเหนียวไก และการลดอวัยวะที่เคลื่อนไหว มันไปกันไม่ได้เลย ยิ้มีเลศนัย
             
       แต่HP-200-Eco ถ้าไม่คิดการเคลื่อนไหวในส่วนของการเปิด และปิดวาล์ว  ก็จะได้เห็นถึงความแตกต่างคือ
      จังหวะที่หนึ่ง  คุณยกแขนแขนที่กำด้ามจับไว้ให้สุงขึ้นประมาณ 2 ฟุต(แล้วแต่ความยาวของด้ามจับ) ก็จะมีน้ำหนักของแขน + แรงต้านการไหลจากท่อ+น้ำหนักของด้ามจับ  ไม่ว่าจะรวมอย่างไรก็ไม่เท่าน้ำหนักตัวคุณแน่นอน
       จังหวะที่สอง   ก็ใช้แขนกด  ด้วยแรงแบบที่คุณทำการเคลื่อนย้ายของแข็ง  ยกตัวอย่างคือการยกแก้วเหล้า  แต่แตกต่างกันตรงที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกับค่า g แน่นอนสบายกว่าเยอะ
       ก็ลองคิดดูแล้วกันนะครับ   ว่า      การวิ่ง200 ก้าว  กับการยกแขน 200ครั้งอย่างไหนจะเหนื่อยกว่ากัน(ถ้านิยามคำว่าเหนื่อยของมือปืน คืออัตราการเต็นของหัวใจที่สูง และการหายใจที่เร็ว)ผมว่า  HP-200 กินขาดครับ ยิ้มีเลศนัย
      นี้ยังไม่รวมถึงแรงดันที่ถังอากาศสร้างให้เราแล้วโดยไม่ต้องมาใช้แรงสร้างเองนะครับ




      สรุป   ไม่ว่าจะกดด้วยด้ามกดยาวเท่าำไหร่ เราก็ใช้พลังงาน เท่าเดิม  แต่ ยิ่งยาวเราก็จะใช้แรงน้อยแต่ยาวนานกว่า   ประมาณว่า    ดาน์วน้อยผ่อนนานครับ แต่ราคาก็ยังเท่าเดิม  ขำก๊าก ยิ้มีเลศนัยอย่าลืมนะครับ ว่าจังหวะการเต็นของหัวใจเราควบคุมมันไม่ได้นะครับ ไหว้
ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่าแต่ก็น่าจะมีเค้าบ้าง ยิ่งพิมพ็ก็ยิ่งงง  งงเองพิมพ์เอง โดนบ่นเอง ขำก๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 10:53:16 AM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #47 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 04:54:02 PM »

ขั้นที่ 4  ขั้นตอนของการอัดแรงดัน
             ขั้นตอนของการอัดแรงดันนี้มีแนวคิดคือ  การเปิดให้อากาศไหลเข้าสู่ระบบ(หมายถึงทั้งกระบอกอัดและหลอดแก็ส)ซึ่งผู้ใช้งาน HP-200 ต้องเข้าใจระบบการทำงานของเครื่องเป็นอย่างดีเพื่อให้เกิดความประหยัดและรวดเร็วที่สุดในการปฏิบัติ  ซึ่งต้องทำให้น้ำมันเต็มกระบอกอัดก่อนที่จะทำการเปิดให้แรงดันเข้าสู่ระบบ  เพื่อให้หลอดแก็สของปืนได้รับแรงดันสูงสุดที่ถังอากาศจะสามารถสร้างให้ได้เพื่อประหยัดแรง สำหรับขั้นตอนในการอัดและเพิ่มแรงดันมีดังนี้
1. ทำการเปรียบเทียบแรงดันในถังและเกจน์ที่ปืนว่ามีความแตกต่างอย่างไรถ้าแรงดันในปืนมากกว่าในถังก็ไม่ต้องทำอะไรแค่จดจำแรงดันที่มีในแต่ละส่วนคร่าวๆ
2. ประกอบปืนเข้ากับเครื่องวาล์วทุกตัวปิดสนิท(สำหรับขั้นตอนนี้ต่อเนื่องจากขั้นตอนการเติมน้ำมันคืออัดน้ำมันเข้ากระบอกอัดให้เต็มหรือหมดถังพักพอดี)
3. อัดแรงดันเข้าปืนโดย  เปิดวาล์ว Bเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆเปิดวาล์ว Aเพียงเล็กน้อยแรงดันจากถึงจะไหลเข้าสู่หลอดแก็สผ่านถังกรอง และส่วนหนึ่งเข้าไปสู่ช่องว่างระหว่างน้ำมันกับวาล์วนิรภัย  อ่านเกจน์ที่ตัวเครื่องและที่ปืนสังเกตุว่าเกจน์ทั้งสองตัวแรงดันไม่พุ่งสูงขึ้นก็ทำการปิดวาล์ว B ให้สนิท
4. พิจารณาแรงดันในหลอดแก็สปืนว่าได้ตามที่ต้องการหรือยังถ้าได้แล้วก็ทำการปิดวาล์ว A  ถอดหลอดแก็สออกนำปืนไปใช้ให้สนุก  แต่ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามข้อต่อไปนี้


5. จากขั้นตอนที่แล้วถ้าแรงดันยังไม่ได้ที่ต้องการก็ไม่ต้องปิดวาล์ว A  จากนั้นอัดอากาศเข้ากระบอกอัดโดย ทำการเปิดวาล์ว C น้ำมันจะถูกแรงดันอากาศดันผ่านวาล์ว C เข้าสู่ถึงเก็บ จะได้ยินเสียงน้ำมันไหลกับถังดัง จี๊ดๆ จะมีอากาศไหลออกทางช่องเติมน้ำมัน  น้ำมันจะค่อยไหลเข้าถังเก็บซึ่งสังเกตุได้อีกอย่างก็คือน้ำมันจะค่อยไหลท่วมกระจกมองน้ำมัน   จน  "ได้ยินเสียงอากาศ บู๋งๆ"ก็เป็นสัญญาณว่าน้ำมันได้ไหลหมดกระบอกอัดแล้ว  จึงปิดวาล์ว C เมื่อแรงดันที่เกจน์ของเครื่องไม่พุ่งสูงขึ้นได้แล้วก็ปิด วาล์ว A ตามลำดับ
  หมายเหตุ  ในขณะที่น้ำมันกำลังไหลกลับให้กดหัวอัดของปั้มด้วยมือ 2-3 ครั้งเพื่อไล่อากาศออกจากระบบให้หมด  (เฉพาะแม่แรงตัวนี้นะครับเพราะเป็นแม่แรงเก่า)

6. มาถึงตอนนี้เครื่องจะพร้อมทำการอัดอากาศเข้าสู่หลอดแก็สปืนแล้ว  จากนั้นก็นำด้ามจับมาสวมกับหัวปั้มจากนั้นก็กด กดไปเรื่อยๆตาก็คอยมองเกจน์ที่ปืนและเครื่องถ้าแรงดันสองข้างอยู่ในระดับใกล้เคียงกันแล้วก็เปิดวาล์ว B เล็กน้อย(45จาก 90องศา)จากนั้นก็ทำการกดหัวอัดต่อไป จนกว่าจะได้แรงดันที่ต้องการ  ณ เวลานี้เกจน์ทั้ง 2ตัว(ของปืนและของเครื่อง)จะบอกค่าที่ำใกล้เคียงกันมากแต่ให้ยึดค่าเกจน์ของปืนเป็นหลัก  
    ในขณะอัดก็คอยมองที่กระจกมองน้ำมันด้วยถ้าระดับน้ำมันลดลงเกินจุดแดงแล้ว ก็เป็นสัญญาณบอกว่าน้ำมันใกล้หมดเต็มทีแล้ว  อัดต่อไป......สังเกตุว่าถ้าหัวอัดรู้สึกว่างเปล่าเมื่อกดหรือมีแรงดันสู้มือขึ้นมากระทันหัน    ก็  Game Over  ซึ่งจะเกิดในกรณ๊ที่แรงดันในถังอากาศต่ำมาก   แต่ถ้าได้แรงดันตามต้องการก่อน Game Over ก็ปิดวาล์ว B ถอดหลอดแก็สออกจากเครื่องนำปืนไปใช้งานปรกติ  หรือถ้ามีเวลาก็ทำตามขั้นตอนในข้อต่อไป
    ถ้าGame Over แล้วก็จำเป็นจะต้องทำการอัดซ้ำเพื่อให้ได้แรงดันตามต้องการก็คือการทำซ้ำขั้นตอน  แต่ไม่ต้องเปิดวาล์ว Bขณะ อัดอากาศเข้าสู่กระบอกอัดเท่านั้น
7. อัดอากาศที่เหลือในกระบอกเก็บเข้าถังโดยการเปิดวาล์ว Aจากนั้นก็กดหัวอัดเข้าถังเมื่ออัดไม่ได้แล้วก็ปิดวาล์ว A ปิดวาล์วถังอากาศ   ซึ่งเครื่องจะมีสถานะเหมือนข้อ 1 คือพร้อมที่จะอัดในกระบอกต่อไป หรือ ครั้งต่อไป ยิ้มีเลศนัย

      จำได้ใหมว่าต้องเปิดวาล์วทุกตัวด้วยอัตรการไหลที่ต่ำที่สุด (ซึ่งผมเจาะรูไว้เล็กที่สุดอยู่แล้ว) ก็มีเหตุผลตามนี้้ครับ

- ถ้าเปิดวาล์ว c มากเกินไป จะส่งผลคือ  อัตราการไหลตอนดันน้ำมันกลับจะสูงมากและจะสูงมากตอนที่น้ำมันหมดกระบอกอัดแล้ว  จะทำให้เกิดฟองอากาศในน้ำมันมากทำให้ประสิทธิภาพของระบบน้อยลง  และน้ำมันอาจพุ่งทะลักออกมาตามช่องเติมน้ำมันได้
- ถ้าเปิดวาล์ว A เกินไปก็จะทำให้เกิดแรงดันแตกต่างกันมากของสองฝั่ง สิ่งที่จะตามมาก็ความร้อนและการเพิ่มแรงดันอย่างรวดเร็วในระบบทำให้ชิ้นส่วนเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าปรกติ
- ถ้าเปิดวาล์ว B มากเกินไป ซึ่งในกรณีี่ไม่ได้ต่อหลอดแก็สเข้ากับระบบ  หรือหลอดแก็ส ไม่มีแรงดันอยู่เลย อัตราการไหลจะสูงมาก อันดับแรกสายก็จะรับแรงดันที่สูงขึ้นอย่างกระทันหันซึ่งไม่ดีต่อคุณภาพของสายแน่นอนครับ  และประการที่สำคัญคือ เมื่ออัตราการไหลสูงก็จะส่งผลให้กระบอกอัดมีสภาวะเป็นสูญญากาศ มันก็จะดูดเอาน้ำมันทะลักเข้าสู่ถังกรองทันที และถ้ารุนแรงเกินไปมันก็จะเดินทางเข้าหลอดแก็สอย่างรวดเร็ว

ครับก่อนทดลองต้องอ่านWI นี้ให้เข้าใจก่อนนะครับ  สำหรับการแก้ไขเรื่องถังกรองให้มีประสิืทธิภาพในการดักจับไอน้ำมันอย่างสุงสุดได้ทำการแก้ไขนะครับเครื่องที่คุณทดลองมันเป็นแบบเก่าดรอว์อิงให้อ่านหน้าที่ 3ของกระทู้นี้   หรือถ้าจะให้ดีที่สุดก็คืออ่านหน้าที่ 3 ของกระทู้นี้ให้เข้าใจอย่างชัดเจนเพราะถ้าไม่เข้าใจการทำงานของเครื่องก็จะเสียแรงเปล่านะครับ ไหว้[/b][/u]


* การทำงานของถังกรองแบบใหม่.jpg (61.98 KB, 709x1004 - ดู 1722 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 05:12:52 PM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #48 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 06:07:32 PM »

   เรียน พี่ ประมวล ทราบ ไหว้
  ก่อนอื่นขอออกตัวว่าผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องเกี่ยวกับแรงดันเท่าไรนะครับ ผิดถูกต้องขออภัยด้วยครับพอดีผมเป็นคนถ่ายภาพไว้ครับ เลยโดนรับหน้าที่มาแจ้งผลทดสอบให้รับทราบครับ งอน
    เอาง่ายๆนะครับ ข้อ1. วาล์ว A ไม่สามารถรับแรงดันได้ ตอนนั้นแรงดันขึ้นยังไม่ถึง150บาร์
                   
                       
                       

      สีขาวๆมันคือ Teflon ทีเป็นซีลติดกับบอลวาล์วกันลมรั่วออกมันไม่สามารถรับแรงดันสูงๆได้ครับ
บันทึกการเข้า
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #49 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 06:28:02 PM »

    แก้ไขโดยคุณ อู๋ ใช้เทปพันเกลียวพันกันลมรั่ว OK ครับไม่รั่วสามารถทดสอบได้ต่อ เริ่มแรกเปิดลมเข้ากระบอก50บาร์แล้วปิดทำการโยกปั๊ม  ดูภาพประกอบนะครับ  อ้อลืมขั้นตอนการเติมน้ำมันเบรค400cc

                 

    โดยคุณ โอ๋ ช่างใหญ่ทำการเติมน้ำมันเบรค  เปิดลมเข้าปั๊มอัด50บาร์ แล้วทำการโยกคนละ50ครั้งเรียงตามลำดับ จบที่คุณ อู๋ ได้แรงดันที่200บาร์ครับ แต่ไม่สามารถเติมให้กับกระบอกปืนได้เพราะว่า(รอเด๋วครับ)
บันทึกการเข้า
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #50 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 06:53:40 PM »

      คือแบนี้ต้องขอยอมรับว่าครั้งแรกผิดวิธีไปครับทำให้ตอนหลังมีน้ำมันปนออกมาด้วยครับ ผมก็ไม่รู้ครับเพราะตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ด้วย อันนี้คงจะต้องรอคุณ อู๋มาตอบนะครับ

                                 
                                 
   
บันทึกการเข้า
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #51 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 06:57:48 PM »

    ผมยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอย่างไร  และจะขอลองใหม่อีกครั้งครับ ไหว้

       ขอ+1ให้กับคุณ พี่ประมงลครับ เยี่ยม
บันทึกการเข้า
knight2512
Hero Member
*****

คะแนน 457
ออฟไลน์

กระทู้: 2694



« ตอบ #52 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:29:15 PM »

ห้ามถามผมนะครับ ผมเมาววววววว
บันทึกการเข้า
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #53 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 08:47:44 PM »

เรียนทุกท่านที่อ่านข้อความนี้อยู่ทราบ
               ก่อนอื่นกระผมต้องขออภัยในข้อติดขัดสำหรับการทดลอง ถ้าผมมีนิ้วมือ20นิ้วก็จะใช้นิ้ว 20นิ้วนั้นกราบขอโทษทุกท่านงามๆ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ อ๋อย
               แต่ในความล้มเหลวนั้นก็ยังมีสิ่งที่ดีอยู่บ้างคือ ที่แน่นอนที่สุดคือทุกท่านได้เห็นแรงดัน 200 บาร์ที่เครื่องทำได้แล้วสำหรับผมถือว่าสำเร็จนะครับ  จริงๆแล้วกระผมไม่ต้องการอะไรมากมายไปกว่านี้หรอกครับ  แต่สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นไปอย่างที่ผมกังวลใจอยู่ัตั่งแต่แรกทดลองแล้วครับ   แต่ปัญหามีไว้แ้ก้ ทะเลไม่มีคลื่นก็ไม่สวยจริงไหมครับก็จะตอบปัญหาไปที่ละประเ็ด็นครับ
               1.   ต้องบอกก่อนเลยว่า เครื่องที่ส่งให้นั้นเป็นเครื่่องต้นแบบของ HP-200 Eco  ปัญหาทีุ่คุณเจอนั้นผมก็เจอมาแล้วทั้งหมดครับจึงได้เน้นย้ำในขั้นตอนการทดลองว่าให้ทดลองตามขั้นตอน  ปัญหาที่เจอกับเครื่องนี้กระผมได้นำมาแก้ไข แล้วใน  HP 200 Eco เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น  ตัวอย่างเช่น  การหาวาล์วชนิดไหม่มาใช้  การย้ายถังกรองมาไว้ที่ที่เหมาะสม  เครื่องที่คุณได้ทำการทดลองนั้นต้องยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่า เป็นความโง่เขลาของผมเองแต่ก็ได้นำมาพัฒนา เจ้า Eco  ให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องต้นแบบ
               2.  ปัญหาเรื่องวาล์ว   ต้องเรียนตามตรงว่า วา่ล์ว 1000 PSI WOG ที่ใส่ไปกับเครื่องนั้นเป็นวาล์วที่แข็งแรงสูดในจังหวัดอุตรดิษถ์ที่ผมหาได้จำเป็นต้องใช้เพราะไม่มีทางเลือก แต่ก็ได้ทำการจัดหาวาล์วที่เหมาะสมไว้ใช้กับ HP -200 Eco แล้วซึ่งเป็นบอลวาล์ว ไฮดรอลิก  ทนแรงดันสูงถึง 6000 PSI(ลงภาพไว้ในหน้าที่ 2-3 ของกระทู้นี้ครับ ราคาก็พันกว่าบาท)ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องวาล์วอีกเพราะรับแรงดันได้มากกว่าตัวทดลอง 6 เท่า หมดปัญหาเรื่องนี้ไปครับ
               3. เรื่องน้ำมันที่ปนมากับอากาศก็เป็นปัญหาของเครื่องต้นแบบซึ่งได้แก็ไขใน HP-200-Eco แล้วครับ ซึ่งมันจะปนมาได้ใน 2 กรณีครับ คือการเติมน้ำมันเกินขนาด กับการปลอยอากาศออกอย่างรวดเร็วทำให้เกิดสูญญากาศในกระบอกอัด   ซึ่งมันจะไม่เกิดใน HP-200 - Ecoอย่างแน่นอนเพราะได้ย้ายถังกรองให้ออกมาอยู่หลังวาล์ว  B ตามภาพ และทำการเปลียนลักษณะการวางให้วางในแนวตั้งจีงทำให้น้ำมันที่อาจปนมากับอากาศในกรณ๊การใช้งานที่เกิดความผิดพลาดในขั้นตอน ตกลงด้านล่างของถังกรองทำให้ไม่สามารถไหลย้อนขึ้นไปได้  อีกทั้งยังสามารถทำให้ถังกรองมีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ทำให้สามารถบรรจุสารเคมีลงไปได้มาขึ้นโดยอาจจะใช้  ซิลิก้าเจลใส่ด้านบน แอคทีฟคาร์บอนใส่ด้านล่างก็จะเป็นการช่วยให้อากาศมีคุณภาพมาขึ้นคุณว่าจริงไหมครับ
               4. ปัญหาเรื่องของการเติมน้ำมันนั้น  ถ้าลองมองเปรีบเทียบระหว่างเจ้าเครื่อง ทดสอบ กับเครื่อง HP-200-Eco ก็จะพบว่า  Eco นั้นมีตาแมว 2อัน คือการบอกระดับน้ำมันต่ำสุด และน้ำมันสูงสุด ซึ่งคุณจะไม่ต้องทำการตวงน้ำมัน  ก็แค่เติมให้ได้ระดับของตาแมวด้านบนก็จะพอดีกับความต้องการของเครื่อง  ก็เป็นอันว่าหมดปัญหาเรื่องการเติมน้ำมันไปครับ
              5.เรื่องการลืมปิดวาล์ว Aขณะทำการอัด ซึ่งคำแนะนำนี้คุณ sitta ได้แนะนำผมไว้แต่ต้นต้องขอขอบพระคุณอย่างสูง เพราะ การเติมนี้ต้องคำนึงถึงความประหยัดเป็นสำคัญเพราะท่านที่อยู่ในต่างจังหวัดนั้นอาจไม่สะดวกในการเดินทางไปเติมแรงดัน  ซึ่งถ้าใช้เช็ควาล์วแทนวาล์ว A ก็จะพบปัญหาที่ว่าเราจะไม่สามารถอัดอากาศที่เหลือกลับเข้าถังได้เลยเนื่องจากไม่มีช่องทางให้ไหลเข้า เราก็จะต้องปลอยอากาศส่วนนั้นทิ้งไปอย่างทำอะไรไม่ได้  จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องใช้วาล์วแมนนวล หรือบอลวาล์วอย่างที่เห็นเพื่อเปลี่ยนทิศทางของอากาศด้วยการควบคุมของตัวเราเอง  การใช้วาล์วที่ทนแรงดันไ้ด้มากกว่าก็ทำให้จบปัญหาเรื่องวาล์วไปแล้วก็สบายใจได้ครับ
             6. เรื่องจำนวนครั้งในการอัด  คือกระบอกอัดมีปริมาตร 300 cc ไม่ว่าแรงดันเข้าหรือออกจะเท่าใด  จำนวนครั้งที่อัดก็จะประมาณ 180 ครั้งเท่ากันทุกวงรอบ และเบากว่าการใช้Handpumpในท้องตลาดแน่นอน ซึ่งเป็นจุดเด่นของเครื่องอีกประการ
             7. เรื่องวัสดุที่นำมาใช้ทำกระบอกอัด และรอยต่อ กระผมไ้ด้ใช้สตรีม  API ไม่มีตะเข็บ รอยต่อทุกรอยเชื่อมกันด้วยเกลียวแล้วเชื่อมทับอีกครั้งหนึ่งจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความแข็งแรงเพราะเป็นท่อที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแรงดันสูง
             8. เรื่องการสร้างเครื่องนั้นเนื่องจากมีปัจจัยที่จะเป็นต้องให้มีการแ้ก็ไขหลายประการ   กระผมจึงขอสรุปว่า  Eco คือเครื่องที่ได้ผ่านการทดลองแก็ไขมาเป็นอย่างดีแล้ว และจะไม่มีการแ้ก็ไขใดๆอีก แต่ HP-200 ตัวเก่านั้นมีข้อบกพร่องมากเกินไปจึงจะไม่ทำการผลิตออกมาให้ใช้กัน   ก็จะเหลือ HP-200-Eco เท่านั้นที่เป็นระบบที่ดีที่สุดสำหรับการอัดอากาศ  ถ้านำไปใช้แล้วไม่สามารถใช้งานได้ตามที่ได้กล่าวมานี้กระผมจะรับผิดชอบทุกอย่างแม้แต่คืนเงินและความไว้วางใจที่ท่านให้กับผมอย่างไม่เสียดาย   แต่ทุกเครื่องที่กำลังจะิเริ่มทำนี้ผมจะทดลองให้ท่านดูก่อนด้วยการสร้างHP-200-Ecoให้คุณมนตรีอีก 1เครื่อง  ก็คงสบายใจกันไปทั้ง2ฝ่ายครับ

            ต้องขอขอบพระคุณท่านที่ช่วยกันทดลองอย่างดีทำให้ได้ข้อสรุปเหล่านี้  สำหรับเครื่องต้นแบบที่มีปัญหาถ้าวาล์ว A และ B ซึ่งเป็นหัวใจของเครื่องชำรุดแล้วก็คงไม่สามารถทดลองต่อไปได้ เนื่องจากไม่สามารถตัดการทำงานในแต่ละระบบได้  มันก็คงมีค่าไม่ต่างกับเศษเหล็ก    แต่เศษเหล็กนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงแรงดันที่ 200 บาร์ที่เราทุกคนต้องการเห็นแล้ว   ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นต้อนแบบสำหรับเครื่องที่สมบูรณ์ในทุกเรื่อง   และมันยังนำเราผ่านปัญหาต่างๆมาด้วยกันจนพบกับความสำเร็จ ก็ต้องขอบคุณเจ้าเศษเหล็กนี้และทุกๆท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาจนมันสำเร็จ    สำหรับเครื่องถ้าใครมีความเห็นต่างจากนี้ก็รีบแสดงเลยนะครับเพราะอาทิตย์หน้าผมจะสั่งของมาทำเครื่องตันแบบแล้วครับ
อย่างไรก็ไม่ยอมแพ้ครับ


* HP200Eco model.jpg (30.04 KB, 357x484 - ดู 1568 ครั้ง.)

* การทำงานของถังกรองแบบใหม่.jpg (61.98 KB, 709x1004 - ดู 1565 ครั้ง.)

* บอลวาล์วไอดรอลิก.jpeg (3.51 KB, 259x194 - ดู 1564 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:59:36 PM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #54 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:23:30 PM »

วาวล์ 1000wog รับแรงดันได้สูงสุด 800-1000 psi แล้วแต่ขนาดความโตของวาวล์
พออัดที่แรงดัน 200 บาร์ ก็ 2900 psi มันก็ปลิ้นครับ โชคดีที่ไม่บึ้มโดยมีบอลวาวล์เป็นหัวกระสุนพุ่งออกไป
เล่นกับแรงดันระดับนี้ อุปกรณ์ต้องเกินร้อยครับ
บันทึกการเข้า
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #55 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:38:51 PM »

วาวล์ 1000wog รับแรงดันได้สูงสุด 800-1000 psi แล้วแต่ขนาดความโตของวาวล์
พออัดที่แรงดัน 200 บาร์ ก็ 2900 psi มันก็ปลิ้นครับ โชคดีที่ไม่บึ้มโดยมีบอลวาวล์เป็นหัวกระสุนพุ่งออกไป
เล่นกับแรงดันระดับนี้ อุปกรณ์ต้องเกินร้อยครับ
แล้วสิ่งที่ผมแก้ไขใน HP-200-Ecoนั้นคุณมีความคิดเห็นว่าเป็นอย่างไรครับ
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #56 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 11:31:44 PM »

   เรียน พี่ ประมวล ทราบ ไหว้
  ก่อนอื่นขอออกตัวว่าผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องเกี่ยวกับแรงดันเท่าไรนะครับ ผิดถูกต้องขออภัยด้วยครับพอดีผมเป็นคนถ่ายภาพไว้ครับ เลยโดนรับหน้าที่มาแจ้งผลทดสอบให้รับทราบครับ งอน
    เอาง่ายๆนะครับ ข้อ1. วาล์ว A ไม่สามารถรับแรงดันได้ ตอนนั้นแรงดันขึ้นยังไม่ถึง150บาร์
                   
                       
                       

      สีขาวๆมันคือ Teflon ทีเป็นซีลติดกับบอลวาล์วกันลมรั่วออกมันไม่สามารถรับแรงดันสูงๆได้ครับ
ก็ดีแล้วนะครับที่ซีลมันรั่วก่อนดีกว่าเกิดระเบิดขึ้น  ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ เครื่องหน้าไม่มีพลาดซ้ำสองแน่นอน
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #57 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 12:07:36 AM »

แล้วจะรู้ได้อย่างไรครับ  ในเมื่อตัวทดสอบยังพังเลย  แล้วคนที่เขาจะซื้อเขาจะเชื่อใจได้หรือครับว่า  ไอ้รุ่นที่ว่าแก้ไขข้อไม่ดีแล้วจะไม่พัง  เพราะว่าไม่ได้เอามาทดสอบให้เห็นนี่ครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #58 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 09:16:28 AM »

    แก้ไขโดยคุณ อู๋ ใช้เทปพันเกลียวพันกันลมรั่ว OK ครับไม่รั่วสามารถทดสอบได้ต่อ เริ่มแรกเปิดลมเข้ากระบอก50บาร์แล้วปิดทำการโยกปั๊ม  ดูภาพประกอบนะครับ  อ้อลืมขั้นตอนการเติมน้ำมันเบรค400cc

                 

    โดยคุณ โอ๋ ช่างใหญ่ทำการเติมน้ำมันเบรค  เปิดลมเข้าปั๊มอัด50บาร์ แล้วทำการโยกคนละ50ครั้งเรียงตามลำดับ จบที่คุณ อู๋ ได้แรงดันที่200บาร์ครับ แต่ไม่สามารถเติมให้กับกระบอกปืนได้เพราะว่า(รอเด๋วครับ)

เห็นแล้วอบอุ่นดีครับ  สี่แรงแข็งขัน ช่วยกัน  แก้ไขปัญหา....
บันทึกการเข้า
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #59 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 01:32:49 PM »

นี่เราจะต้องปวดหัวอีกกี่ครั้ง  จนกว่าจะชนะ ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 30
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.081 วินาที กับ 24 คำสั่ง