เรื่องซับซ้อน ซ่อนเงื่อน
ชาวบ่านที่ไม่อพยบเพราะไม่รู้จะไปไหน จะไปทำมาหากินอะไร
เท่าที่เจอ ทำตัวให้โง่ๆไว้ แล้วจะดีเอง(รอดตาย)
เจ้าหน้าที่บางคนบอกว่า ทั้งโจรและ เจ้าหน้าที่ นายหัวคนเดียวกัน
บางคนข้อมูลแน่นปั้ก แต่ไม่กล้าทำอะไร กลัว จุดใต้ตำตอ ทหารส่งมา เท่าไหร่ มีโอกาสนอนยาวสูง
เท่าที่สังเกต ยืนเฝ้า บางจุด 2 คนต่อ 300 เมตรโดยประมาณ
รู้ว่าเป็นโจร แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะมี ข้อกฎหมาย ต่างๆ หมายโน้น หมายนี่ สุดท้ายเมื่อเข้าตาจน โจรหนีไป มาเลย์
ส่วนปัญหา ยาเสพติดก็ขายกันไป เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ล้นมือ ไม่ครอบคลุม ทั้งหมด
โจรบางกลุ่ม ก็ ดันเป็นคนของรัฐซะงั้น (แอบแฝง) จะทำอะไรก็ยากเย็นแสนเข็ญ แค่ขยิบตาก็รู้กันแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ๆ ทำงานอย่างจริงจัง กลับทำงานลำบาก
ดิง เบอร์เกอร์ ร้านเค้าอร่อยดีครับ แวะมาร้านผมแวะชิมกันได้ หลังจาก ไปพักผ่อนที่มาเลอยู่หลายปี ทุกวันนี้ ยังขายอยู่ทุกวันครับ
ปัญหาอีกอย่างที่อยากจะแชร์ วัยรุ่น(เด็กปอเนาะ) ส่วนมากมีพวกคลิป สงคราม ระเบิดรถถ้ง ยิงชาวบ้าน โดยมี อัลกุรอ่านเป็นเสียงกำกับ การเชื่อถือ ศาสนาอิสลามตามแบบอย่างของพระองค์อัลเลาะห์เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ เด็กบางคนถูกปลุกฝัง เรื่อง สงครามศาสนา การบิดเบือน ข้อเท็จจริงหลายเรื่อง ยกตัวอย่างการเป็นอิสลามมีเมีย ได้ 4 คน โดยที่ มองแค่เมีย 4คน โดยที่ไม่มองถึง
เหตุผล และข้อจำกัด ว่ามีได้ 4 คนเพราะ อะไร และทำไม
ปัญญาไทยพุทธ กับมุสลิม ที่มีกันมานานแล้ว เรื่องบางเรื่อง คนไทยพุทธหาว่า เจ้าหน้าที่เข้าข้างอิสลามบ้าง ส่วนอิสลามก็หาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าข้างไทยพุทธบ้าง มุสลิมที่ไม่รู้กฎหมายก็เถียงข้างๆคูๆ แถไปเรื่อย ก็กูรไม่ผิด จอดรถข้างทางเพื่อนมาชนท้าย คนชนท้ายบอกว่า "มึรงจอดรถ แบบนี้ก็ชนรถมึงกูรไม่ผิด" ยังแจ้งความจับผมอีก เพราะว่า พี่ชายแฟนเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนลุงกำนัน "มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร มึงจะเอาหรอ .357 กูจะให้แดรกซักเม็ด " ตะคอกใส่หน้าผม
โดยชาวบ้านที่มีตำแหน่ง
กร่างกันเต็มที่ "กรูมีปืนโว้ย " คนที่โกรธแค้นคือชาวบ้าน เฉกเช่น การซ้ำเติมชาวบ้านไปในตัว
นึกแล้วขำ ครับ เด็กวันรุ่น นั้งกินน้ำกระท่อม กินกันเป็นปี จับกันไม่ได้ซักกะที
ตำรวจติดเครื่องรถยนต์ออกจากโรงพัก
วัยรุ่น เผ่นหมดแล้ว แบบนี้จะโทษว่า เด็กวัยรุ่นเก่ง หรือตำรวจ ไม่มีความสามารถ ครับ
ใจจริงอยากเล่าเรื่อง ชรบ อีกเรื่องครับแต่..
ผมคิดว่าผมพอจะเข้าใจ............
บังไม่ต้องบอกผมว่าเคยนับถือหรือศรัทธา หรือเป็นศาสนิกใด.........
ผมเคยอยู่ในหมู่บ้านที่มีไทยพุทธ 11 หลังคาเรือนที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนบ้านมุสลิม
วันรายอที่บ้านผมรับขนมต้มและตูปะสองกะลามังทุกปี ด้วยเป็นบ้านสุดท้ายที่จะต่อกับบ้านเรือนพี่น้องมุสลิมด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน
ผมเกิดกับหมอตำแยที่เป็นมุสลิม และมีชื่อเรียกขานทางภาษายาวีรวมทั้งคุณแม่ของผมด้วย
ตอนผมเป็นเด็ก ผมวิ่งเล่นทั้งสองฝั่งของหมู่บ้าน ผมสามารถขึ้นเรือนกินข้าวบ้านไหนก็ได้ ด้วยความยินดีของเพื่อนบ้านเหล่านั้น
ผมมีญาติส่วนหนึ่ง เข้าถืออิสลาม เขาก็เป็มมุสลิมที่เคร่งครัด ไปเมกกะ ด้วยว่าเป็นมุสลิมแล้วก็ไม่อยากให้ใครว่าได้ ปัจจุบันก็นับถือกันอยู่
มีอีกบางครอบครัว ก็หยิบนามสกุลของคุณตาผมไปใช้โดยวิสาสะ ก็ยังใช้กันมาอยู่ทุกวันนี้ มีลูกหลานเต็มหมู่บ้าน โดยที่รู้จักคุณตาผมหรือเปล่ายังไม่รู้
ผมเข้าใจเอาเองแล้วกันว่า.........หลังมีการประท้วง ในปี 2518 ทีศาลากลางปัตตานี.......
ความรู้สึกที่มีอะไรกั้นตรงกลาง ระหว่างพุทธกับมุสลิม เริ่มเกิดขึ้น......................
เรื่องมันยาว ครับ พี่น้อง คนของประชาธิปัตย์ รู้ดี..................เอาเป็นว่าผมเคยพูดคำต่อคำกับคน ๆ นั้นก็แล้วกัน
แต่เขาจะเอาพูดในพรรค จนคนอื่นจะรับรู้หรือไม่นั้นผมมั่นใจว่าต้องมีพูดแน่ แต่จะหยิบยกมาเป็นประเด็นสำคัญหรือไม่ กราบเท่าที่มันไม่มีผลบวกทางการเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง
ผมไม่ได้มีภูมิรู้มากหรอก ผมพูดด้วยความรู้สึกที่ซึมซับสัมผัสได้ ยื่นยันว่าไม่มีหลักวิชาการและแผนภูมิสถิติรองรับ
พูดแบบคนบก ๆ อย่างผม หนึ่งในบริบทที่จะแก้ปัญหานี้ คือ
" ความเป็นเอกภาพของภาครัฐ "