สำหรับดิฉันไม่ได้ใส่ใจเลยนะกับเรื่องปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนเนี่ย เรื่องเล็กมาก
ก็แค่เราผู้บริโภคปรับตัว อย่าไปกินของทอด หรือใช้น้ำมันอื่นทดแทนก็ได้
อาหารมีให้เลือกกินตั้งหลายอย่าง ทำเมนูอื่นที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ยำ ลาบ ต้มโคล้ง ต้มยำ หรือแกงซดน้ำร้อนๆแซบจะตาย
ปกติทำกับข้าวทานเอง น้ำมันซื้อมาขวดเดียวใช้ได้หลายเดือนเลย กะทินี่ไม่ต้องพูดถึงไม่กินมาหลายปีแล้ว
อย่าไปโทษแต่รัฐบาลถ้าเราเองไม่ปรับตัว เรียกร้องอยู่นั่นแหละ...เฮ้อ แต่แย่หน่อยก็คือแม่ค้าขายไก่ทอด น่าสงสาร
อ่านของคุณโซดาซ่าส์แล้วนึกถึงเพื่อนบ้าน เมื่อวานคุยกัน เธอมีลูกเล็กๆวัยก่อนเข้าอนุบาล
บ่นให้ฟังว่า แม่เจ้าประคุณตัวเล็กแก้มป่องของเธอยังไงๆก็ต้องไข่เจียว ถึงมีกับข้าวอย่างอื่นแล้ว
ไข่เจียวต้องมี... น้ำมันแพง แถมหาซื้อยาก เธอหนักเลย
สำหรับตัวผม อาจปรับตัวตามที่คุณโซดาว่าได้ แต่ที่สำคัญมันอยู่ที่เรารู้ว่า น้ำมันปาล์มไม่สมควรขาดตลาด
เพราะพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันก็มีเยอะ แต่ทุกวันนี้ จับน้ำมันปาล์มในประเทศอุดอุตสาหกรรมส่งออก แม้แต่ที่
สั่งนำเข้าจากมาเลเซียก็เพื่อส่งออกไปให้ลูกค้า ตามสัญญาที่ไปทำซื้อขายล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนหน้านี้
ตรงนี้ ทำให้ความอดทนในการปรับตัวลดลงครับ ถ้ามันขาดเพราะสมควรขาดจริงๆ เช่นผลผลิตปาล์มใน
ประเทศลดลง อันนี้รับได้
ถ้ารัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์ม120,000ตันเพื่อคนในชาติจริงๆ (ทะยอยมาครั้งละ30,000ตัน) ป่านนี้น้ำมันปาล์ม
คงไม่ขาดตลาดแล้วครับ