นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาไข่ไก่คละเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
โดยอยู่ที่ฟองละ 2.70-2.85 บาท ซึ่งเป็นราคาที่พ่อค้ารับซื้อเพิ่มราคาให้ เนื่องจากช่วงนี้ไข่ไก่หาซื้อยาก
เพราะผู้เลี้ยงประสบปัญหาทั้งเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งอาหารสัตว์ และค่าขนส่ง จึงปลดแม่ไก่ออกไปส่ง
ผลให้ขณะนี้ไข่ไก่ทุกเบอร์ขาดตลาด และปัญหาได้กระจายไปแล้วทั่วประเทศ ซึ่งสมาคมฯได้แจ้งให้
กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการแก้ปัญหาใดๆ โดยสมาคมฯ
เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้ อีกทั้งไม่ควรกดราคาไข่ไก่
โดยควรให้ปรับราคาขึ้นบ้างตามกลไกตลาด
"ผู้เลี้ยงไม่มีแรงจูงใจในการเลี้ยงไก่ไข่ อีกทั้งยังถูกกดราคา จึงไม่รู้จะเลี้ยงไปทำไม ซึ่งก็จำเป็นต้องปลด
แม่ไก่ ดังนั้นรัฐบาลควรสร้างแรงจูงใจให้ผู้เลี้ยงบ้าง ซึ่งจากเดิมเคยมีไข่ไก่ออกสู่ตลาดเฉลี่ยวันละ 26-27
ล้านฟอง แต่ขณะนี้เหลือเพียงวันละ 24-25 ล้านฟอง" นายมาโนช กล่าว
สำหรับนโยบายขายไข่ชั่งกิโลของรัฐบาลนั้น เบื้องต้นมองว่าเป็นทางเลือกของประชาชน แต่พ่อค้าแม่ค้า
ไม่ค่อยชอบนัก โดยพ่อค้าแม่ค้าจะชอบจำหน่ายไข่ไก่แบบเบอร์มากกว่า ซึ่งสมาคมฯเห็นว่าถ้าครบกำหนด
การทดลองจำหน่ายแล้วไม่เป็นที่นิยม รัฐบาลก็ควรเลิกนโยบายดังกล่าว
ขณะที่นายวิชิต วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคมน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนการผลิต
น้ำมันถั่วเหลืองสูงขึ้นมาก จนผู้ประกอบการหลายรายแบกรับภาระไม่ไหว ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ประกอบการ
ที่ยังผลิตอยู่เพียง 4 ราย จากเดิม 10 ราย ทางสมาคมฯจึงเตรียมเสนอกระทรวงพาณิชย์ขอปรับราคาขึ้น
คาดว่าน่าจะประมาณเดือนมีนาคมนี้ สำหรับถั่วเหลืองที่ผลิตในประเทศปัจจุบันมีเพียงปีละ 180,000 ตัน
ขณะที่ความต้องการมีถึง 2 ล้านตัน ทำให้ผู้ประกอบการยังต้องนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศถึง 80%
ข่าวจาก
http://www.ryt9.com/s/nnd/1098437