เงินนั้นหรือคือพระเจ้าสระ เอ งองูสระอิ นอหนู รวมกันแล้วเรียกว่า "เงิน" เป็นสิ่งที่ทุกคนเสาะ แสวงหาเพื่อเลี้ยงชีพของตนเองและครอบครัว ถ้าอยู่ในสังคมในเมืองใหญ่ เงินยิ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในอันที่จริงแล้วคนเราไม่ใช่ต้องการเงินหรอก แต่ต้องการสินค้าหรือบริการที่แลกเปลี่ยนด้วยเงินต่างหาก ในอดีตท่านคงได้ยินได้ฟังคำว่า "หมูไป ไก่มา" ในความหมายนี้ก็คือความเหมาะสมของคุณค่าในสิ่งต่าง ๆ ที่พอจะแลกเปลี่ยนให้เกิดความยุติธรรมหรือสมดุลในสิ่งที่แลกเปลี่ยนกัน คุณให้หมูเขาไป 1 กิโลกรัม แต่เขากลับเอาผักมาให้ 1 กิโลกรัมเช่นกัน ถ้าเปรียบเทียบคุณค่าของราคาแล้ว มันคงไม่มีความเหมาะสม แต่หากเขาเอาผักมาให้ 20 กิโลกรัม เมื่อคิดดูแล้วมันก็น่าจะยอมรับได้บ้าง แต่ถ้าหมูไป 1 กิโลกรัม ได้รับไก่คืนมา 1 กิโลกรัม มันก็ตกลงโอเคในทันที ที่กล่าวมาคือในสมัยก่อนเขาไม่มีเงินใช้ เขาจึงใช้สิ่งของแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการซึ่งกันและกัน บางคนไม่มีสิ่งของอะไรไปแลกกับเขา ๆ ก็ใช้แรงงานทำงานแลกเอาสิ่งของที่เขาต้องการ
ในสมัยปัจจุบันก็ใช้แรงงานทำงานเพื่อที่จะได้เงินมาซื้อสิ่งของที่ต้องการ ดังนั้น คำว่า "เงิน" คือสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนของสังคมในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะทำจากกระดาษหรือโลหะชนิดใด ชนิดหนึ่ง ซึ่งกินหรือ รับประทานไม่ได้อย่างแน่นอน คุณค่าของเงินจะแปรเปลี่ยนไปตามสถานะและที่อยู่ของมัน เงินบาทถ้าอยู่ในเมืองไทยย่อมมีคุณค่าอย่างใหญ่หลวง สามารถซื้อได้เกือบทุกอย่าง มีคำพูดที่พูดกันทั่วไปในเรื่องของอิทธิพลหรือคุณค่าของเงินว่า
"เงินตกใส่หญ้า ๆ ตาย ตกใส่หิน ๆ หินแตก ตกใส่ เนื้อ ๆ แยก" อะไรที่ว่า "แกร่ง หรือ แข็ง" พอเจอเงินหรือพบเงินแล้ว มันก็อ่อนปวกเปียกไปหมด "ผิด" สามารถเปลี่ยนเป็น "ถูก" ได้ หรือไม่มีความผิด หรือทำให้ความผิดน้อยลง ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเรา ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ความรู้สึกของคนทั่วไปสามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรแน่ ถ้าอ่านถึงตรงนี้ก็น่าจะบอกได้ว่าเงินนั้นคือพระเจ้าจริง ๆเงินบาทถ้าไปตกอยู่ในมือของชาวเอสกิโมที่อาศัยอยู่ตามขั้วโลกรับรองได้ร้อยเปอร์เซนต์ว่า เงินบาทไร้คุณค่าอย่างแน่นอน ดังได้กล่าวแล้วในตอนต้นว่าเงินจะมีคุณค่าและแปรเปลี่ยนไปตามสถานะที่เป็นอยู่
อาหารทุกชนิดที่ชาวโลกเขารับประทานอยู่ทุกวันนี้ อยู่ที่ไหนก็เป็นอาหารอยู่วันยังค่ำ ถ้าถามว่าอาหารกับเงินอันไหนสำคัญกว่ากัน บางท่านก็บอกว่าเงินสำคัญ บางท่านก็บอกว่าอาหารสำคัญ คนมีเงินก็สามารถหาซื้อ อาหารได้ ถ้าไม่มีอาหารขายล่ะ จะไปซื้อที่ไหน ท่านเป็นเจ้าของเงิน 10 ล้าน แต่ตัวท่านนอนป่วยเป็นอัมพาต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เงินที่มีอยู่มีประโยชน์ต่อท่านหรือไม่ เอ
..มันก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน มีอาหารกินไม่อดตาย มีแต่เงินไม่มีอาหาร ตายแน่นอน เอ
ตอนนี้ชักจะมองเห็นแล้วว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญแล้วล่ะ อาหารน่าจะมีความสำคัญมากกว่า แท้ที่จริงคนเราไม่ได้ต้องการเงินหรอก แต่ต้องการสินค้าและบริการมากกว่า ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเงินก็คือพระเจ้า แต่ถ้ามองลึกลงไปแล้วเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่แท้จริงของคนเรา มันเป็นเพียงตัวเชื่อมความ สัมพันธ์ ความเป็นอยู่ของสังคมให้เกิดการลื่นไหลของวงจรชีวิตมากกว่า
เงินไม่สามารถซื้อความเจ็บปวดได้ แต่เงินก็ช่วยให้ความเจ็บปวดนั้นหายและบรรเทาลงได้
เงินไม่สามารถซื้อโลกนี้ทั้งโลกได้ แต่เงินก็สามารถช่วยให้โลกใบนี้สดใสสวยงามได้
เงินไม่สามารถซื้อชีวิตได้ แต่ก็สามารถช่วยให้ชีวิตยืนยาวได้
เงินไม่สามารถซื้อความรักได้ แต่ก็สามารถช่วยให้ความรักนั้นยืนยาวได้
เงินจะมีค่าหรือไม่มีค่า อยู่ที่ตัวเราจะให้น้ำหนักและคุณค่ากับมันมากน้อยแค่ไหนต่างหาก ถือว่ามันมีคุณค่ามาก มันก็มีคุณค่ามาก ถ้าเห็นเป็นเพียงเศษกระดาษหรือเศษโลหะ มันก็จะไม่มีคุณค่าใดๆ ดังนั้น เงินนั้นหรือคือพระเจ้าก็ขึ้นอยู่กับทรรศนะและมุมมองของแต่ละท่านแต่ละบุคคล.
สมทบ พาจรทิศ
[ 11/10/2008 , 16:00:24 ]
News Archives Powered by :
http://www.thainews70.com อ่านได้อ่านดี...สวัสดีครับ
pasta