เห็นข่าวนี้แล้วสะเทือนใจ บอกได้คำเดียวว่า "โหด" สุดๆ
แล้วถ้าท่านเจอเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร...
?
----------------------------------------------------------------
ออกหมายจับ-ล่าเขยปืนดุฆ่า5ศพสุราษฎร์
จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุยิงฆ่า 5 ศพ และบาดเจ็บอีก 2 คน ในสวนยางพารา บ้านกอไพล ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายณรงค์ นาคบุญช่วย อายุ 34 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านกอไพล ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกเขยนางเพ็ญศรี บัวชู อายุ 57 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต โดยคาดว่าสาเหตุมาจากปมขัดแย้งมรดกที่ดินสวนยางพารา และหลังก่อเหตุนายณรงค์พานางพนิดา ภรรยา และลูกๆ รวม 5 คน ขึ้นรถกระบะหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ร.ต.อ.สุรินทร์ ใจแน่ พนักงานสอบสวน สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ออกหมายจับกุมนายณรงค์แล้ว ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการ จำยอมต่อสิ่งใดโดยมีอาวุธปืน, และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น
ร.ต.อ.สุรินทร์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกติดตามผู้ต้องหาไปตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเพื่อนฝูง คนที่ผู้ต้องหาให้การเคารพนับถือ และบ้านญาติพี่น้อง จนกระทั่งไป พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีเงิน ทะเบียน กต 3064 สุราษฎร์ธานี ของผู้ต้องหาจอดอยู่ที่บ้านนางประไพ นาคบุญชู อายุ 42 ปี ที่บ้านทุ่งจูด หมู่ 5 ต.เขาตอก อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนางพนิดา ภรรยา และลูกๆ อยู่ที่บ้านด้วย ส่วนนายณรงค์หลบหนีเข้าป่าหลังบ้านไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
พนักงานสอบสวน สภ.เสวียด กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนางพนิดามาสอบปากคำ โดยในเบื้องต้นนางพนิดาให้การว่า นายณรงค์เป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุหลังจากกลับจากกรีดยางก็พากันขับรถออกตระเวนซื้อเศษยางในพื้นที่ โดยโทรศัพท์บอกให้นางวัลภา บัวชู น้องสาว และนายอนุสรณ์ ชัยสังข์ หลานชาย ที่ถูกยิงเสียชีวิต มาเฝ้าบ้านให้ ขณะที่นางเพ็ญศรี แม่ พร้อมด้วยนางภาภรณ์ สรรพากร และนายสุเทพ วิชัยดิษฐ กลับจากร่วมงานเผาศพญาติที่ ต.โมถ่าย อ.ท่าฉาง ก่อนจะแวะมาที่บ้าน และกินอาหารเที่ยงร่วมกัน
ร.ต.อ.สุรินทร์กล่าวว่า หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ นายอนุสรณ์เข้าไปนั่งดูโทรทัศน์ในบ้าน นายณรงค์ออกมานั่งอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนนายสุเทพออกไปยืนริมรั้วบริเวณสวนยางพารา ส่วนนางพนิดา นางเพ็ญศรี นางประไพ และนางภาภรณ์ นั่งคุยกันต่ออยู่ในครัว จู่ๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พร้อมกับเห็นนายสุเทพล้มฟุบจมกองเลือด จึงพากันวิ่งออกไปดูนายสุเทพ ระหว่างนั้นได้ยินนายอนุสรณ์ ตะโกนบอกว่านายณรงค์เป็นคนยิง เมื่อหันกลับเข้ามาที่บ้านเห็นนายณรงค์กำลังใช้อาวุธปืนยิงนายอนุสรณ์ ก่อนจะเดินถืออาวุธปืนมุ่งหน้ามาที่ทุกคนและยิง โดยนางพนิดาพยายามตะโกนห้าม แต่นายณรงค์ก็ไม่ฟังเสียง
พนักงานสอบสวนกล่าวอีกว่า นางพนิดาระบุว่า หลังก่อเหตุนายณรงค์ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ตน ลูก 2 คน และหลานๆ รวม 5 คน ขึ้นรถกระบะหลบหนี ปรากฏว่าระหว่าง ขับรถจะออกจากบ้าน นายพงษ์ชนะขับรถกระบะเข้ามาที่บ้านพอดี ตนจึงตะโกนบอกให้นายพงษ์ชนะขับรถหนีไป แต่ไม่ทันที่นายพงษ์ชนะจะทำอะไร นายณรงค์ก็ลงจากรถใช้อาวุธปืนยิงใส่นายพงษ์ชนะอีกคน จนได้รับบาดเจ็บ สำหรับนายณรงค์เป็นคนอารมณ์ร้อน เคยป่วยอาการทางจิต ประสาทหลอน เคยเข้ารับการรักษาที่ร.พ.สวนสราญรมย์ และกินยาอยู่พักหนึ่ง
ร.ต.อ.สุรินทร์กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นนางพนิดาเหมือนยังปิดบังความจริงอะไรบางอย่างไว้ และพยายามให้การเหมือนต้องการช่วยเหลือสามี เมื่อถามถึงสาเหตุปัญหาเรื่องขัดแย้งที่สวนยางพาราระหว่างสามีกับเครือญาติ ก็ได้แต่นิ่งเฉย ไม่ยอมปริปากพูดถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด ต่อไปจะได้นำลูก และหลานๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำ และจากการสอบประวัตินายณรงค์ทราบว่าเมื่อปีพ.ศ.2542 เคยถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่น ถูกจำคุกเกือบ 10 ปี ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2550 ถูกจับดำเนินคดีข้อหาฆ่านายภาณุวัฒน์ เสือทอง อายุ 19 ปี ลูกชายของนางพนิดา ที่เกิดกับสามีเก่า แต่คดีนี้เมื่อถึงชั้นอัยการสั่งไม่ฟ้อง กระทั่งมาก่อเหตุฆ่า 5 ศพ
ส่วน พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์ศิรินทร์ ผบก.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ระมัด ระวังตัวขณะติดตามคนร้าย เพราะคนร้ายมีอาวุธปืน หากพลาดพลั้งอาจเกิดความสูญเสียได้ คาดว่าคนร้ายคงยอมมอบตัวในไม่ช้านี้
