เกียรติกับศักดิ์ศรี
Fri, 27/08/2010 - 07:03 อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
ผมเชื่อว่ามีปัญหาทางสังคมมากมายหลายประการ ที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ และเราก็อยากจะรู้ว่าทำไมคนปัจจุบันนี้ถึงทำร้ายหรือฆ่ากันง่ายเหลือเกินเราอาจจะตอบได้แต่เพียงว่าคนในสังคมไทยมองหาทางแก้ปัญหาอื่นๆ ไม่เป็น จึงต้องใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ซึ่งผมคิดว่าคำตอบนี้ไม่เพียงพอต่อการอธิบายปรากฏการณ์การใช้ความรุนแรงทั้งหลายบรรดาที่เกิดขึ้นได้
ความพยายามที่อธิบายต่อไปนี้ ผมลองจะพิจารณาจากความเปลี่ยนแปลงของระบบอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นความพยายามมองจากมุมของประวัติศาสตร์ความรู้สึก ซึ่งก็อาจจะทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้น
คนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม (บรรดาผู้สูงวัยทั้งหลาย) คงจะจำกันได้ว่า ความคิดที่มีพลังชุดหนึ่งที่คอยกำกับการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรของเรา โดยเฉพาะการกระทำหรือไม่กระทำในเรื่องที่เกี่ยวพันอยู่กับสังคม ได้แก่ ความคิดเรื่อง "เกียรติและศักดิ์ศรี"
คำสองคำนี้อยู่ร่วมในชุดความคิดเดียวกัน ซึ่งความหมายของคำว่า "เกียรติ" เป็นสิ่งที่สังคม/ชุมชนมอบให้แก่เราในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ว่าเราจะเป็นคนตัวเล็กตัวน้อยก็ตาม เช่น เกียรติของวงศ์ตระกูล เกียรติของคนผลิตสินค้าบางชนิด เป็นต้น เราทุกคนอยู่ร่วมในสังคมย่อมที่จะได้รับหรือรับรู้ถึงตำแหน่งแห่งที่ที่มีความหมายระดับหนึ่งในสังคม หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ "เกียรติ" นั้น มาจากสังคม
พร้อมกันนั้น "ศักดิ์ศรี" ก็จะไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ หากแต่เป็นความคิดที่สัมพันธ์อยู่กับ "เกียรติ" ที่สังคมมอบให้ กล่าวได้ว่า "ศักดิ์ศรี" เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา หากแต่เป็นเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวพันอยู่กับสิ่งที่สังคมให้แก่เรา เราจะต้องทำ-หรือไม่ทำอะไรเพื่อพิทักษ์ "ศักดิ์ศรี" ของเราไว้ ซึ่งการพิทักษ์ "ศักดิ์ศรี" ของเรา ก็คือ การรักษาไว้ซึ่ง "เกียรติ" นั่นเอง
ดังนั้น "เกียรติ" จึงเป็นพลังค้ำคอเราไม่ให้ละเมิดสังคม เพราะถ้าละเมิดสังคมโดยไม่รักษาไว้ซึ่ง "เกียรติ" เราก็จะรู้สึกแย่ลงทันที เพราะเราจะรู้สึกว่าเราสูญเสีย "เกียรติ" ไป เราจะไม่สามารถมองหน้าใครได้สนิทหากเราไม่รักษา "ศักดิ์ศรี" ของเราไว้ตามที่เรามี "เกียรติ" จากสังคม
การละเมิดสังคมในรูปแบบต่างๆ จึงเกิดขึ้นได้ยากมากในสังคมที่มีระบบ "เกียรติและศักดิ์ศรี" ดำรงอยู่
ความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นในปัจจุบัน ได้แก่ การหายไปของความคิดเรื่อง "เกียรติ" ของสังคมเราจะพบว่าคนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่ "ศักดิ์ศรี" และผูกเอา "ศักดิ์ศรี" นั้น เข้ากับเรื่องส่วนตัวเท่านั้น การรักษา "ศักดิ์ศรี" ในปัจจุบันจึงเหลือเพียงแค่เป็นเรื่องการพิทักษ์รักษาตัวตนของเราไว้เท่านั้น ตัวอย่างสุดโต่ง ได้แก่ การกระทำอะไรของวัยรุ่นในนามของการรักษา "ศักดิ์ศรี" จึงไม่แยแสต่อการละเมิดสังคมเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงตัวอย่างวัยรุ่นเท่านั้น หากมองไปรอบๆ ก็จะพบลักษณะการตัดสินใจของผู้ใหญ่จำนวนมาก ที่ยึดอยู่เพียงแค่ "ศักดิ์ศรี" ส่วนตัวเท่านั้น การถูกรถราคาถูกปาดหน้ากระทบกระเทือนศักดิ์ศรีของคนขับรถเบนซ์ราคาแพงจนต้องยิงกันตาย หรือผู้ใหญ่ที่แสดงความปรารถนาในอำนาจและเงิน จนทำได้ทุกอย่างอย่างหน้าด้านก็เกิดเพราะความไม่ใส่ใจเลยใน "เกียรติ"
สังคมไทยปัจจุบันตระหนักหรือคิดถึงถึงเรื่อง "เกียรติ" น้อยลง เหลือแต่เพียง "ศักดิ์ศรี" ซึ่งลดทอนลงมาเหลือเพียง "ศักดิ์ศรี" ส่วนตัวเท่านั้น ที่สำคัญ "ศักดิ์ศรี" ส่วนตัวเป็นการสร้างจากตัวเองไม่ได้มาจากหรือมีรากฐานจากสังคมเลย การรักษา "ศักดิ์ศรีส่วนตัว" จึงสามารถละเมิดสังคมได้อย่างง่ายดาย
กล่าวได้ว่าระบบ "เกียรติ" ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังทางสังคม ในการควบคุมพฤติกรรมของคนนั้นได้พังทลายไปจนจะหมดสิ้นแล้ว
ทำไมจึงเกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้นมา
ผมคิดว่าปัจจัยหลักของการสูญสลายของความคิดเรื่อง "เกียรติ" ของสังคมนี้ เกิดขึ้นจากการขยายตัวของระบบราชการที่เข้าไปแทรกแซงและสถาปนา "ระบบเกียรติยศ" ลักษณะใหม่ขึ้นมาแทน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ระบบราชการหลงคิดไปว่าการเชิดชูบุคคลที่ทางราชการเห็นว่าปฏิบัติรับใช้อุดมการณ์รัฐเท่านั้นควรจะได้รับ "เกียรติยศ" และหลงคิดไปว่าการเชิดชูเช่นนี้จะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ทั้งหมดปรารถนาจะได้รับเข้าสู่ระบบ "เกียรติยศ" นี้ และจะทำให้คนในสังคมไทยกลายเป็นข้าของระบบราชการ ซึ่งก็จะกลายเป็นคนดีของรัฐระบบราชการไปทั้งหมด
ความเบาปัญญาของระบบราชการ ที่นอกจากจะมองไม่เห็นว่าการเข้าไปแทรกแซง และแทนที่ความคิดเรื่อง "เกียรติ" ด้วยระบบ "เกียรติยศของราชการ" นั้น ทำลายความคิดเรื่อง "เกียรติ" ของสังคม ยังมักง่าย (อย่างยิ่ง) ที่จะนำเอาคนมาสู่ระบบเกียรติยศด้วยการเลือกคนที่มีชื่อเสียงสมัยใหม่ เช่น ดาราก็กลายเป็นผู้อนุรักษ์วัฒนธรรม หรือแม่ดารากลายเป็นแม่ดีเด่น
ความมักง่ายไร้ปัญญาของระบบราชการไทยเช่นนี้ ยิ่งทำให้ "ระบบเกียรติยศ" ของระบบราชการกลายเป็นเรื่องตลกไร้ความหมายมากขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ได้ทำให้คนไทยทั้งหมดเผชิญหน้ากันด้วย "ศักดิ์ศรีส่วนตัว" โดยที่ปราศจาก "เกียรติ" ของสังคม ได้นำสังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมความรุนแรง และไร้ความศรัทธาในมนุษย์และสังคม ผมคิดว่าเราทั้งหมดต้องช่วยกันคิดเรื่องนี้ให้ดี และช่วงชิงเอา "ระบบเกียรติยศ" ของระบบราชการกลับคืนมาเป็นของสังคมครับ
ตีพิมพ์ครั้งแรก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 26 สิงหาคม 2553
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านได้อ่านดี...สวัสดีครับ...pasta
หมายเหตุ! อรรถพล = pasta = อรรถพล ... ไม่ใช่ คุณอรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ นะครับ