ปกติเบอร์ 1 ที่ใช้กันทั่วไปน้ำหนักกระสุนจะอยู่ 7-8 ประมาณนี้หรือเปล่าครับจำไม่ค่อยได้ ความเร็วลูกก็ 800 กว่า
แสดงว่าปืนกระบอกนี้แรงกว่าเดิม เพื่อให้ใช้กระสุนหนัก 10.5 หนักเกือบเท่าเบอร์ 2 น้ำหนักเบา แถมความเร็วก็ยังดีที่ 850
ผมคิดว่าถ้าเปลียนใช้กระสุนแบบทั่วไป ความเร็วน่าจะได้ 1000 ฟุตต่อวิ หรือเปล่าครับ
สำหรับน้ำหนักลูกตามไปดูที่นี่เลยครับ
http://www.airgunningatlanta.com/Assets/images/ft_qa/pellet_weight_chart.htmlความเร็วหาใช่สำคัญที่สุด สำหรับการแข่ง FT ผมว่า CPH ที่ความเร็ว 830 - 860 fps เหมาะสมที่สุด
ผมยังไม่เคยลองเอาลูกเบาไปลอง ถ้าให้เดาคงตกราว 920 fps เท่านั้นน่ะครับ ความเร็วหาได้เป็นอัตราส่วนกลับโดยตรงกับน้ำหนักลูก
ยกตัวอย่างแปลก ๆ คือ Bugatti Veyron EB 16.4 รถที่แพงและเร็วที่สุดในโลก ต้องการจะทำลายสถิติความเร็วเดิมของตัวเองที่ทำไว้ เพิ่มอีกเพียง 5 mph แรงม้าเดิมราว 1000 แรงม้า ต้องเพิ่มแรงม้าอีกถึง 125 เพียงเพื่อให้ได้ความเร็วอีก 5 mph!!!
เหมือนกับเราต้องเสียน้ำมันจากเดิม 10 กิโลลิตร เป็น 7 กิโลลิตร เพื่อเปลี่ยนความเร็วจาก 100 เป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พลังงานมันหายไปกับแรงต้านอากาศ
กระสุนที่เร็วมากจะเสียพลังงานไปกับแรงต้านของอากาศ ดังนั้นต้องออกแบบให้หัวแหลมเพื่อแหวกอากาศได้ดีกว่า
เคยมีการวัดความเร็วกระสุน JSB กับ RWS ที่มีน้ำหนักเบากว่า พบว่า JSB ที่มีน้ำหนักมากกว่ากลับเร็วกว่า
เมื่อลองพิจารณาดูพบว่า หัวกระสุน JSB เล็กกว่าไม่บานต้านลมเหมือนของ RWS
ดังนั้นในความเร็วสูงแรงต้านอากาศมีส่วนทำให้เสียความเร็วไปมากกว่าน้ำหนักกระสุนครับ
ในปืนอัดลมที่ความจุกระบอกเท่ากัน เมื่อต้องยิงเบอร์ 1 ให้มีพลังงานเท่ากับเบอร์ 2
ก็จะพบว่าต้องเร่งความเร็วกระสุนให้มากขึ้น แต่ก็พบว่าลมในกระบอกที่เท่ากันยิงได้น้อยนัดกว่าเบอร์ 2
ก็คงเป็นเพราะต้องเผื่อพลังงานให้กลับแรงต้านอากาศเมื่อตอนวิ่งด้วยความเร็วสูง
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าครับ