เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 01, 2024, 08:43:35 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มาและตำนานต่างๆ  (อ่าน 7596 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 08:20:49 PM »

ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋

   


 
 

ลักษณะ แบบนี้คล้ายๆ"หมั่นโถ่"  เลย ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #16 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 10:53:16 PM »

ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋


ลักษณะ แบบนี้คล้ายๆ"หมั่นโถ่"  เลย ครับ  ไหว้

หมั่นโถว มีเกร็ดที่เจ๊กขี้โม้แบบผิดๆอยู่อันนึง ว่ามาจาก"ม่านโถว"ที่แปลว่า"หัว(พวก)ม่าน"กำเนิดขึ้นตอนที่ขงเบ้งยกทัพกลับจากปราบกบฏม่าน(โคตรเก่งเลย พาทหารไปเป็นแสน เหลือกับบ้านไม่ถึง3หมื่น...แล้วยังหน้าด้านมาประกาศว่าชนะอีก ยี๊ .....ปกครองแคว้นสู่อยู่กว่า40ปี ประชากรลดจาก15ล้านเหลือไม่ถึง9ล้าน , อ่านสามก๊กให้ดีๆจะพบว่าขงเบ้ง"ไม่เคย"รบชนะในสงครามครั้งไหนเลยแล้วยังมีไอ้พวกหน้าโง่ยกย่องให้เป็นยอดอัจฉริยะได้อีก ขำก๊าก )

ที่จริงม่านโถว(แป้งปั้นยัดไส้) เป็นอาหารทั่วไปของจีนทางภาคเหนือ เลยไปจนพ้นทะเลทรายโกบีมาก่อนหน้านั้นเป็นพันปีแล้ว

อ้อ....ฉากที่ขงเบ้งหลอกทหารพวกม่านมาเข้าดงประทัดเหล็กก็สุดยอดมหัศจรรย์เลยครับ เพราะดินปืนเกิดขึ้นหลังขงเบ้งตายไปสิบกว่าปี ..... สงสัยอีมีไทม์แมชชีน นั่งข้ามอนาคตมาซื้อกลับไปรบกับพวกม่านได้  ขำก๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2011, 10:56:49 PM โดย Mr.Mom » บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 10:56:04 PM »

ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋


ลักษณะ แบบนี้คล้ายๆ"หมั่นโถ่"  เลย ครับ  ไหว้

หมั่นโถว มีเกร็ดที่เจ๊กขี้โม้แบบผิดๆอยู่อันนึง ว่ามาจาก"ม่านโถว"ที่แปลว่า"หัว(พวก)ม่าน"กำเนิดขึ้นตอนที่ขงเบ้งยกทัพกลับจากปราบกบฏม่าน(โคตรเก่งเลย พาทหารไปเป็นแสน เหลือกับบ้านไม่ถึง3หมื่น...แล้วยังหน้าด้านมาประกาศว่าชนะอีก ยี๊ .....ปกครองแคว้นสู่อยู่กว่า40ปี ประชากรลดจาก15ล้านเหลือไม่ถึง9ล้าน แล้วยังมีไอ้พวกหน้าโง่ยกย่องให้เป็นยอดอัจฉริยะได้อีก ขำก๊าก )

ที่จริงม่านโถว(แป้งปั้นยัดไส้) เป็นอาหารทั่วไปของจีนทางภาคเหนือ เลยไปจนพ้นทะเลทรายโกบีมาก่อนหน้านั้นเป็นพันปีแล้ว
โอ้โห  เยาะเย้ยรู้ลึก รู้จริง ข้าน้อยขอ คาระวะ +1 ครับพี่ ไหว้ เยี่ยม Grin
บันทึกการเข้า
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:35:28 PM »

ขอบคุณสาระดีๆจากคุณศักดา  Cheesyคนทำร้านขายชา กาแฟ ปาท่องโก่น่าจะเอาสาระนี้ไปทำเป็นป้ายติดหน้าร้าน/หรือในร้าน บ้างนะครับ
ลูกค้าข้าราชการเลวๆ หรือ เสนาบดี ขุนนางกังฉินในบ้านเมืองเราไปอุดหนุน ต่อมสำนึกจะได้กระตุ้น เตือนใจตัวเองบ้าง

แล้วก็รบกวนคุณศักดาด้วยครับ ช่วยหาคำตอบให้ด้วยว่า ทำไม ขนมโดนัท จึงต้องมีรู  Grin Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2011, 11:42:40 PM โดย ซิกสุราษฎร์ ::: รักในหลวง » บันทึกการเข้า
วุธ อุดร -รักในหลวง~
เชื่อเขา เราเจริญ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 198
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2896



« ตอบ #19 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:45:19 PM »

นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บังจะทำตัวมีส่าระต้องเข้ามาชมกันหน่อย Wink
บันทึกการเข้า

ลูกต้นแม่น้ำเจ้าพระยา  มาติดปลาร้าอยู่อุดร
Peerapat - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 178
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1690


จะรบเป็นชาติพลี มอบวิญญาณ ดวงนี้ เพื่อผืนดินไทย


เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:46:58 PM »

เข้ากระทู้บังมา รู้สึกหิวเลย บังนี้ ก้อ 

พรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปหามากินกับกาแฟร้อนๆแล้ว  Cheesy Grin
บันทึกการเข้า

Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #21 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:47:20 PM »

คุณศักดาอยู่ใต้หรือเปล่าเพราะเคยมีผู้ใหญ่เชื้อสายจีนทางนราธิวาสเคยบอกไว้ทำนองนี้เหมือนกันเขาออกเสียงป๊ะท่องโก๊ และที่เรากินกันตอนเช้าก็อิ่วจาก้วยนี่แหละ แหมอยากกินอีกแล้ว ต้องไปภูเก็ตแล้วมั้งในกทม.นานๆจะเจอสักทีตามห้าง
 + 1 สำหรับข้อมูลดีๆ
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:49:41 PM »

ขอบคุณสาระดีๆจากคุณศักดา  Cheesyคนทำร้านขายชา กาแฟ ปาท่องโก่น่าจะเอาสาระนี้ไปทำเป็นป้ายติดหน้าร้าน/หรือในร้าน บ้างนะครับ
ลูกค้าข้าราชการเลวๆ หรือ เสนาบดี ขุนนางกังฉินในบ้านเมืองเราไปอุดหนุน ต่อมสำนึกจะได้กระตุ้น เตือนใจตัวเองบ้าง

แล้วก็รบกวนคุณศักดาด้วยครับ ช่วยหาคำตอบให้ด้วยว่า ทำไม ขนมโดนัท จึงต้องมีรู  Grin Grin



 Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 11:51:15 PM »

คุณศักดาอยู่ใต้หรือเปล่าเพราะเคยมีผู้ใหญ่เชื้อสายจีนทางนราธิวาสเคยบอกไว้ทำนองนี้เหมือนกันเขาออกเสียงป๊ะท่องโก๊ และที่เรากินกันตอนเช้าก็อิ่วจาก้วยนี่แหละ แหมอยากกินอีกแล้ว ต้องไปภูเก็ตแล้วมั้งในกทม.นานๆจะเจอสักทีตามห้าง
 + 1 สำหรับข้อมูลดีๆ

ผมอยู่เหนือครับ (เหนือยะลามา 30 ก.ม)  ปัตตานี  ครับ โดนชก    คิก คิก คิก คิก ไหว้
บันทึกการเข้า
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #24 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 12:11:43 AM »

ว้าว รวดเร็วทันใจ ขอบคุณ คุณศักดา เรื่องรูโดนัทด้วย Smiley ครับ + 2
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #25 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 02:24:10 AM »

คุณศักดาอยู่ใต้หรือเปล่าเพราะเคยมีผู้ใหญ่เชื้อสายจีนทางนราธิวาสเคยบอกไว้ทำนองนี้เหมือนกันเขาออกเสียงป๊ะท่องโก๊ และที่เรากินกันตอนเช้าก็อิ่วจาก้วยนี่แหละ แหมอยากกินอีกแล้ว ต้องไปภูเก็ตแล้วมั้งในกทม.นานๆจะเจอสักทีตามห้าง
 + 1 สำหรับข้อมูลดีๆ

ผมอยู่เหนือครับ (เหนือยะลามา 30 ก.ม)  ปัตตานี  ครับ โดนชก    คิก คิก คิก คิก ไหว้

อ้อ มิน่าล่ะ ปัตตานีต้องกินปู ปู และปู ยะลา ก็ นาซิดาแกตอนเช้า
เมื่อประมาณยี่สิบปีที่แล้วเคยไปลงพื้นที่เกษตรกับท่านเกษตรจังหวัดรู้สึกประทับใจมากกับท่านที่พาตระเวณไปตามหมู่บ้านชาวบ้านรู้จักท่านทุกคนท่านพูดภาษายาวีได้คล่องมาก ถ้าข้าราชการแถวนั้นเป็นอย่างท่านคงจะดีมาก
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #26 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 08:25:56 AM »

ขอบคุณสาระดีๆจากคุณศักดา  Cheesyคนทำร้านขายชา กาแฟ ปาท่องโก่น่าจะเอาสาระนี้ไปทำเป็นป้ายติดหน้าร้าน/หรือในร้าน บ้างนะครับ
ลูกค้าข้าราชการเลวๆ หรือ เสนาบดี ขุนนางกังฉินในบ้านเมืองเราไปอุดหนุน ต่อมสำนึกจะได้กระตุ้น เตือนใจตัวเองบ้าง

แล้วก็รบกวนคุณศักดาด้วยครับ ช่วยหาคำตอบให้ด้วยว่า ทำไม ขนมโดนัท จึงต้องมีรู  Grin Grin



 Grin Grin Grin Grin

ใครบอก... รูในโดนัทนั่น... เป็นเพราะเขาเอาแป้งตรงนั้นมาทำมัชกิ้น(โดนัทลูกกลมๆ เล็กๆ ) ต่างหาก... คิก คิก คิก คิก คิก คิก


บันทึกการเข้า
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #27 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 08:43:22 AM »

มันจับไม่ถนัดต่างหาก ขนมฝักบัวไม่มีรูไม่เห็นแฉะ  คิก คิก
บันทึกการเข้า

RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 09:58:08 AM »

ตำนานขนมครก



มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า ไอ้ทิ หรือ พ่อกะทิ
เป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยโผงผางและกำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว เป็นคนพูดจริงทำจริง ขยันขันแข็ง
เอางานเอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควาย
ส่งคนเข้าซอย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน

มีสาวน้อยคนหนึ่ง ชื่อ แม่แป้ง
แม่แป้งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่ง
เธอเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน
แม่แป้งเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป

แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง ซึ่งผู้ใหญ่
ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ แต่ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน
นอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่ปลั่งจะใจอ่อน

ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรัก
ของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
เมื่อไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมาย
จะมาทำลายพิธีแต่งงานของสาวอันเป็นที่รัก
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้

แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
ผู้ใหญ่ปลั่ง

เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ได้ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แบบปากต่อปากว่า

..... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเมื่อเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
ของผู้ใหญ่ปลั่ง ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที..

...อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ

...อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นาย ของผู้ใหญ่ปลั่ง
รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียง
ไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น

..... รุ่งเช้า
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผลงาน
แต่ภาพเบื้องล่างกลับพบไอ้ทิตระกองกอด
ทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข

...เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
"อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย"
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรัก
ที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี

ทุกแรมหกค่ำเดือนหก...
ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้ง
จะตื่นตั้งแต่มืดเข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์
แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก (ขนมของ "คนรักกัน" )
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."
บันทึกการเข้า
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #29 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 10:03:42 AM »

ตำนานขนมครก



มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า ไอ้ทิ หรือ พ่อกะทิ
เป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยโผงผางและกำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว เป็นคนพูดจริงทำจริง ขยันขันแข็ง
เอางานเอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควาย
ส่งคนเข้าซอย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน

มีสาวน้อยคนหนึ่ง ชื่อ แม่แป้ง
แม่แป้งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่ง
เธอเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน
แม่แป้งเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป

แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง ซึ่งผู้ใหญ่
ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ แต่ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน
นอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่ปลั่งจะใจอ่อน

ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรัก
ของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
เมื่อไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมาย
จะมาทำลายพิธีแต่งงานของสาวอันเป็นที่รัก
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้

แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
ผู้ใหญ่ปลั่ง

เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ได้ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แบบปากต่อปากว่า

..... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเมื่อเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
ของผู้ใหญ่ปลั่ง ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที..

...อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ

...อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นาย ของผู้ใหญ่ปลั่ง
รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียง
ไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น

..... รุ่งเช้า
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผลงาน
แต่ภาพเบื้องล่างกลับพบไอ้ทิตระกองกอด
ทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข

...เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
"อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย"
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรัก
ที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี

ทุกแรมหกค่ำเดือนหก...
ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้ง
จะตื่นตั้งแต่มืดเข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์
แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก (ขนมของ "คนรักกัน" )
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."

เข้าท่าแฮะ..ชอบๆ ++                                              แล้วที่ว่าเท่าฝาหนมครกล่ะ..มีตำนานมั้ย Huh
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 22 คำสั่ง