เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 05:40:13 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ม.1คว้าปืนยิงหัว อ้อนแม่ซื้อมือถือใหม่  (อ่าน 9953 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ก๊วยเจ๋ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 134
ออฟไลน์

กระทู้: 2848



« ตอบ #30 เมื่อ: มีนาคม 14, 2011, 08:52:39 PM »

เสียดายชีวิต
บันทึกการเข้า

amfine02 รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 142
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 402


เรียกผมว่าป้องครับ


« ตอบ #31 เมื่อ: มีนาคม 14, 2011, 10:00:33 PM »

โทษพ่อแม่ครับ สอนยังไง
อ่านแล้วเจ็บใจแทน
เอาเถอะ ข้างหน้าปัญหาเยอะกว่านี้มันก้ฆ่าตัวตายอยู่ดี
บันทึกการเข้า

[/url]
kon tung kru 91
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: มีนาคม 16, 2011, 01:17:35 PM »

้ต้องโทษพ่อเด็กครับ มีปืน ทำไมไม่เก็บให้มิดชิด กุญแจปืน ถ้าใส่ไว้ ก็ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ครับ เด็กคือเด็ก บางทีคิดได้ไม่ยาวครับ ผู้ใหญ่ น่าจะคิดได้มากกว่า ละเลยกฏแห่งความปลอดภัยแบบนี้ได้ไง!

คุณพ่อท่านก็ประมาทมากๆครับ รู้ว่าทางบ้านมีเด็ก (โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีความคิด) มันก็หยิบฉวยปืนได้สิครับ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: มีนาคม 16, 2011, 03:47:51 PM »

นายสมชายขับรถในซอยบ้าน... มีอยู่ครั้งนึงผ่านตรงทางโค้งหักฉากเลี้ยวซ้ายในซอย พบแม่กำลังจูงลูกเดินเตาะแตะอยู่พอดี ตัวแม่เห็นรถยนต์ปุ๊บคว้าข้อมือลูกหยุดหลบรถปั๊บ แต่ดั๊นนนนหยุด"มุมแหลมของกำแพงเป๊ะ"โดยตัวเองอยู่ชิดกำแพง แต่เด็กยืนแกว่งแขนริมถนน... เฮ้ออออ...

นายสมชายหยุดรถเลย ไม่กล้าขับต่อ แล้วโบกมือให้แม่ลูกเดินต่อจนพ้นมุมแหลมเหลี่ยมกำแพงเป๊ะๆ ตรงนั้นนั่นแหละ, ยายแม่มองหน้านายสมชายทำท่าโกรธๆ ที่นายสมชายโบกมือไล่ให้เดินต่อ คาดว่าคงโกรธ ทำนองหาว่าเดินเกะกะ... นายสมชายอยากลดกระจกบอกฯ แต่คิดสะระตะแล้วว่าไม่คุ้ม เพราะเธอ"ไม่รู้ตัว"ว่าหยุดพอดีเหลี่ยมกำแพงรั้วเป๊ะ แล้วตัวเด็กโด่งพ้นออกมาเสี่ยงโดนชนมากที่สุด หากบังเอิญมีรถสวนมาแล้วรถยนต์หักหลบกัน, ซึ่งถ้าหากเดินอีกนิดเดียวก็จะพ้นเหลี่ยมกำแพงซึ่งเป็นจุดอันตรายที่สุดแล้ว... ขืนบอกเธอว่าให้อุ้มเด็กแล้วรีบเดินให้พ้นเหลี่ยมกำแพงซะ... คงโดนด่า... ฮา...

ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ เป็นแม่เด็ก ทำไมจะไม่รู้นิสัยว่าลูกตัวเองเจ้าอารมณ์แค่ไหน กว่าจะโตมาจนเรียน ม.1 นี่มันก็น่าจะพอรู้นิสัยแล้ว... และ"กันไว้ดีกว่าแก้"เพราะเดี๋ยวมันแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน เลยเกิดเรื่องเศร้า...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2011, 04:50:08 PM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
Eka นายเอกา+รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 27
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 434



« ตอบ #34 เมื่อ: มีนาคม 16, 2011, 05:19:15 PM »

ไอ้เด็กเวร ถ้าไม่ตายต้องทำโทษเพราะเอาปืนมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
บันทึกการเข้า
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #35 เมื่อ: มีนาคม 16, 2011, 05:38:57 PM »

ความสูญเสียอย่างงี้คืออะไรครับ คือว่ามันมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือตัวเด็กจิตอ่อนแอ ส่วนที่ 2 คือมีอาวุธให้หยิบฉวยได้ง่าย ถ้า 2 สิ่งนี้มีพร้อมก็รอแต่โอกาสแล้วละครับว่าเด็กจะเฮี้ยนวันใหน

ถึงแม้ว่าจะไม่มีปืนเด็กคนนี้ก็คงจะประชดด้วยวิธีอื่นอยู่ดี อาจจะปีนเสาไฟฟ้ากระโดดตึกหรือกรอกยา
บันทึกการเข้า
รักปืน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -68
ออฟไลน์

กระทู้: 1992


« ตอบ #36 เมื่อ: มีนาคม 16, 2011, 06:01:13 PM »

ความสูญเสียอย่างงี้คืออะไรครับ คือว่ามันมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือตัวเด็กจิตอ่อนแอ ส่วนที่ 2 คือมีอาวุธให้หยิบฉวยได้ง่าย ถ้า 2 สิ่งนี้มีพร้อมก็รอแต่โอกาสแล้วละครับว่าเด็กจะเฮี้ยนวันใหน

ถึงแม้ว่าจะไม่มีปืนเด็กคนนี้ก็คงจะประชดด้วยวิธีอื่นอยู่ดี อาจจะปีนเสาไฟฟ้ากระโดดตึกหรือกรอกยา

แล้วถ้ามีกฏหมายห้ามเด็กไช้โทรศัพ เด็กมันจะฆ่าตัวตายไหมครับ

บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #37 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 12:00:38 AM »

ความสูญเสียอย่างงี้คืออะไรครับ คือว่ามันมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือตัวเด็กจิตอ่อนแอ ส่วนที่ 2 คือมีอาวุธให้หยิบฉวยได้ง่าย ถ้า 2 สิ่งนี้มีพร้อมก็รอแต่โอกาสแล้วละครับว่าเด็กจะเฮี้ยนวันใหน

ถึงแม้ว่าจะไม่มีปืนเด็กคนนี้ก็คงจะประชดด้วยวิธีอื่นอยู่ดี อาจจะปีนเสาไฟฟ้ากระโดดตึกหรือกรอกยา

แล้วถ้ามีกฏหมายห้ามเด็กไช้โทรศัพ เด็กมันจะฆ่าตัวตายไหมครับ




ผมว่าจะมีเด็กโดนผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวบางจำพวกมันยุให้ผูกคอตายประท้วงแน่ครับ... เพราะตลาดใหญ่ของธุรกิจมือถือตอนนี้... ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องหรือการเติมเงิน... ผมว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นนะครับ...


บันทึกการเข้า
Glock Jumper
... ศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธ ...
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 100
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1202


... ข้าพเจ้ารักในหลวงที่สุดในจักรวาล ...


« ตอบ #38 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 04:21:13 AM »

เรื่องนี้ไม่น่าถึงขั้นออกกฎหมายห้ามใช้โทรฯกับเด็กหรอกมั้งครับ มันแลจะเป็นการสร้างความกดดันขึ้นมาในสังคม ปัญหาน่าจะมากขึ้นกว่า

ที่แน่ๆนะครับ มีการประท้วงกันครั้งใหญ่แน่ๆ ผมคิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะมีไม่น้อย เพราะที่แน่ๆตอนนี้โทรฯกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสื่อสาร

ของชาวไทยแล้วล่ะครับ เด็กสมัยนี้พกโทรฯทุกคน พ่อแม่ก็เห็นดีด้วย เพราะอย่างน้อยไม่ว่าลูกตนอยู่ไหนก็สามารถติดต่อได้ ไป ร.ร. กลับจาก ร.ร.

ไปไหนมาไหนหาตัวง่าย อีกทั้งด้วยสภาวะสังคม ณ เวลานี้ เวลาที่ พ่อแม่ต้องทำงาน มีโอกาสได้ดูแล และพูดคุยกับลูกน้อยลง

เราก็ต้องอาศัยเจ้าโทรฯนี่ล่ะครับ สุดท้าย สิ่งนี้ก็กลายเป็นดาบสองคม อยู่ที่การปลูกสั่งสอนจากครอบครัวเท่านั้นล่ะครับที่จะปกป้องและรักษาได้ครับ
บันทึกการเข้า

... ศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธ ... จงมีสติ จงมีสมาธิ จงมีความถูกต้องก่อนที่จะครอบครองศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างเช่นนี้ "จงอย่าคิดว่ามีปืนแล้วเราคือพระเจ้า" จงจำไว้ว่า... มีสติ มีสมาธิ มีความถูกต้อง สำคัญเสมอ! ... จงรักผู้อื่นก่อนแล้วผู้อื่นก็จะรักเรา จงรักษ์ปืน แล้ว ปืนก็จะรักษ์เรา ...
รักปืน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -68
ออฟไลน์

กระทู้: 1992


« ตอบ #39 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 09:41:04 AM »

ความสูญเสียอย่างงี้คืออะไรครับ คือว่ามันมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือตัวเด็กจิตอ่อนแอ ส่วนที่ 2 คือมีอาวุธให้หยิบฉวยได้ง่าย ถ้า 2 สิ่งนี้มีพร้อมก็รอแต่โอกาสแล้วละครับว่าเด็กจะเฮี้ยนวันใหน

ถึงแม้ว่าจะไม่มีปืนเด็กคนนี้ก็คงจะประชดด้วยวิธีอื่นอยู่ดี อาจจะปีนเสาไฟฟ้ากระโดดตึกหรือกรอกยา

แล้วถ้ามีกฏหมายห้ามเด็กไช้โทรศัพ เด็กมันจะฆ่าตัวตายไหมครับ




ผมว่าจะมีเด็กโดนผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวบางจำพวกมันยุให้ผูกคอตายประท้วงแน่ครับ... เพราะตลาดใหญ่ของธุรกิจมือถือตอนนี้... ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องหรือการเติมเงิน... ผมว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นนะครับ...



  ก็ว่าแล้วไงครับ  คนพวกนี้ปากก็บอกว่ารักเด็ก ห่วงเด็ก ห่วงเยาวชน แต่จริงๆมันมันห่วงแต่ตัวเองเท่านั้น 

เรื่องนี้ไม่น่าถึงขั้นออกกฎหมายห้ามใช้โทรฯกับเด็กหรอกมั้งครับ มันแลจะเป็นการสร้างความกดดันขึ้นมาในสังคม ปัญหาน่าจะมากขึ้นกว่า

ที่แน่ๆนะครับ มีการประท้วงกันครั้งใหญ่แน่ๆ ผมคิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะมีไม่น้อย เพราะที่แน่ๆตอนนี้โทรฯกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสื่อสาร

ของชาวไทยแล้วล่ะครับ เด็กสมัยนี้พกโทรฯทุกคน พ่อแม่ก็เห็นดีด้วย เพราะอย่างน้อยไม่ว่าลูกตนอยู่ไหนก็สามารถติดต่อได้ ไป ร.ร. กลับจาก ร.ร.

ไปไหนมาไหนหาตัวง่าย อีกทั้งด้วยสภาวะสังคม ณ เวลานี้ เวลาที่ พ่อแม่ต้องทำงาน มีโอกาสได้ดูแล และพูดคุยกับลูกน้อยลง

เราก็ต้องอาศัยเจ้าโทรฯนี่ล่ะครับ สุดท้าย สิ่งนี้ก็กลายเป็นดาบสองคม อยู่ที่การปลูกสั่งสอนจากครอบครัวเท่านั้นล่ะครับที่จะปกป้องและรักษาได้ครับ

ไปโรงเรียนสมัยก่อนไม่เห็นต้องคุยกันเลยนะครับ  อย่าเอามาอ้างเลยครับ  แล้วผมก็ห้ามเฉพาะ เด็กจริงๆนะครับ  ไอ้พวกอายุต่ำกว่า  15  ปีพวกนี้ ห้ามเด็ดขาดไปเลย

เขาวิจัยกันมาแล้วว่าสมองของเด็กอายุน้อยๆถ้าคุยโทรศัพนานๆ มันมีความเสี่ยงมากครับ  ที่จะเป็นมะเร็ง  ฉลาดน้อย หรือโง่ขึ้นนั้นเองครับ   เด็กมันไม่รู้อะไรหรอกครับ
เราเป็นผู้ใหญ่ต้องชี้ทางไห้เขาครับ

เรื่องค่านิยมที่ผิดเรานี้เหละครับ  ต้องช่วยกัน  เด็กแถวบ้านผม อายุ  11-12  ปีก็ผัวมีเมียกันแล้วนะครับ  พอท้องก็ต้องออกโรงเรียน  สงสารแม่ผู้ชาย ต้องส่งลูกตัวเองเรียน

เเล้วยังต้องส่งลูกสะไภ้ ตัวเองเรียนอีกครับ  คุณจะว่าไม่เกี๋ยวกันกับโทรศัพ  คิดตื้นดีนะครับ    คืนก่อนหลานผมเรียนอยู่  ป 6  มีสาวๆโทรมาคุย (แอบคุย) เป็นชั่วโมง ผมแอบฟัง

มันจะนัดกันไทำอะไรกันที่ป่าอ้อย  วันเสาร์นี้ครับ  แล้วถ้าไม่มีโทรศัพมันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไหมครับ  มันจีบกันมาตั้งแต่  ป 5  แล้วครับ 
ผมไม่ได้อิจฉาเด็กมันหรอกครับ   แต่มันเด็กเกินไปสำหรับเรื่องแบบนั้น   

แล้วเด็กเข้าถึงของพวกนี้เร็วเท่าไร  ยิ่งเสียคนเร็วเท่านั้นครับ   คิดดูดีๆครับ อะไรที่เราได้มากกว่าเสียก็ต้องทำครับ  เพราะนั้นคือเยาวชนของชาติ อนาคตของชาตินะครับ

บันทึกการเข้า
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #40 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 09:53:15 AM »

ประโยชน์ของโทรศัพท์มือถือก็มีไม่น้อย แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละท่าน ถ้ามีใช้อย่างรู้คุณค่าของตัวโทรศัพท์ย่อมได้ประโยชน์มากกว่าเสีย แต่มีคนบางส่วนที่บ้าวัตถุนิยม เห็นเพื่อนมีต้องมีบ้างโดยไม่ดูว่าเรามีความจำเป็นหรือไม่ คนบางคนพอได้เสพติดวัตถุนิยมเข้าแล้วก็จะหน้ามืดตามัวต้องมีให้ได้โดยไม่สนว่าจะได้มาด้วยวิธีใด คนจำพวกนี้หากกำลังทรัพย์ไม่พอก็อาจจะก่อเหตุสร้างเวรสร้างกรรมให้ชาวบ้านได้ เป็นที่มาของอาชญากรรมต่างๆนั่นเอง
บันทึกการเข้า
Choro - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3853



« ตอบ #41 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 10:01:07 AM »

 เลี้ยงให้เป็นเทวดาก็ต้องไปอยู่กับเทวดา มาอยู่กับคนคงไม่ได้  

 เมื่อก่อนเคยไปบ้านเพื่อนที่รวยมากๆครับ เค้าใช้โทรศัทพ์เครื่องละ 2,000 กว่าบาท ใช้หาเงินได้กองโต

 ไอ้เรากระจอกติดดิน แต่ทะลึ่งใช้อะไรก็ไม่รู้ แต่นั้นมาใช้เครื่องโนเกีย 111 ใหม่แกะกล่อง 700 บาท  ยิ้มีเลศนัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2011, 10:05:26 AM โดย Choro - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

สุดท้ายชีวิตไม่ขอรวย ขอแค่ไม่ป่วยก็พอแล้ว
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #42 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 10:10:41 AM »

เด็กก็คือเด็กคิดอะไรง่ายๆไม่ซับซ้อนอยู่ที่ผู้ปกครองอบรมสั่งสอนอย่างไรให้ดึงกลับมาอยู่ทางสายกลางโดยไม่แข็งและไม่อ่อนเกินไปเพื่อให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมของเขาได้
บันทึกการเข้า
รักปืน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -68
ออฟไลน์

กระทู้: 1992


« ตอบ #43 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 10:43:48 AM »

เลี้ยงให้เป็นเทวดาก็ต้องไปอยู่กับเทวดา มาอยู่กับคนคงไม่ได้ 

 เมื่อก่อนเคยไปบ้านเพื่อนที่รวยมากๆครับ เค้าใช้โทรศัทพ์เครื่องละ 2,000 กว่าบาท ใช้หาเงินได้กองโต

 ไอ้เรากระจอกติดดิน แต่ทะลึ่งใช้อะไรก็ไม่รู้ แต่นั้นมาใช้เครื่องโนเกีย 111 ใหม่แกะกล่อง 700 บาท  ยิ้มีเลศนัย

พูดเหมือนไม่มีลูกเลยนะครับ  คนเป้นพ่อคนแม่คนทุกคน  ต้องการไห้ลูกตัวเองเด่นดังดีทุกคนทั้งนั้นเหละครับ  ขนานลูกคนบางคน เรียน แค่  2.4  กว่าๆ แต่อยากส่งลูกไปโรงเรียนดังๆไปเรียนแพทย์ศาสตร์  เลยนะครับ  ก็คงอยากไห้ลูกมีหน้ามีตา  น่าสงสารเขานะครับ คิก คิก คิก คิก คิก คิก

พ่อแม่ทุกวันนี้ก็ทำงานหนักก็เพื่อลูกนะครับ  เราจะมาโยนความผิดแบบนี้มาไห้พ่อแม่  การเลี้ยงดูก็เหมือนจะใจดำเกินไปนะครับ   ของพวกนี้มันเป็นแฟชั่น ยิ่งแพงๆยิ่งดีครับ

พวก ถูก ๆ 111  ถามจริงๆเถอะว่าถ้าคุณซื้อไห้ลูกคุณนะ  (ถ้ามีนะ)  เขาจะเอาใหม  ผมก็ว่าเขาไม่เอาหรอกครับ  ต่อไห้คุณเลี้ยงดูมาดีอย่างไร เธอก็ไม่เอาหรอกครับ (ลูกสาวนะ)

เธอจะต่อต้านคุณเงียบๆครับ  มันจะเป็นปมด้อยของลูกคุณไปจนตาย  เธอจะถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อเป็นตัวตลก  สุดท้ายเธอก็จะไปหารายได้พิเศษ มาซื้อโทรศัพ  น่าภูมิใจไหมครับ

แต่  คุณก็ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่ครับใช่ไหม คุณรู้ดี  สังคมต่างหากครับ  ดังนั้นถ้าไม่เจอกับตัวเอง   อย่า  อย่ามาทำเป็นด่วนตัดสินคนอื่นครับว่าเลี้ยงลูกแบบเทวดา

วกกลับมาที่โทรศัพ  มันเป็นของที่จำเป็นก็จริงแต่ไม่ทุกคนหรอกครับ   เราต้องกำหนดช่วงเวลาของการไช้อยากชัดเจน ว่าอายุเท่าไรถึงจะควรไช้ ทำไม่ไห้มันเป็นแฟชั่น

สรุปคือบ้านเมืองนี้อยู่ได้เพราะกฏหมาย   เราก็เอากฏหมายมาบังคับไช้แค่นั้นเอง  ที่บ้านผมมีโรงเรียนนึง ทำแบบนี้มานานแล้วครับ  นักเรียนที่นี้ได้ดิบได้ดี กันเกือบทุกคน

เรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเอ็นติดโรงเรียนดังกันทั้งนั้นครับ  เพราะเขายึด ไม่ไห้เด็ก ทุกคนเอาโทรศัพมาโรงเรียน  ใครแอบเอามาเห็น จับได้ ไล่ออก  สุดยอดมากๆครับ

แล้วอีกโรงเรียนนึง ใส่กระโปร่งลายๆน่ารัก  ลูกใครไปเรียน ก็ต้อง ....  เกือบทุกราย  ต่างกันยังฟ้ากับเหวเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #44 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 11:03:53 AM »

เลี้ยงให้เป็นเทวดาก็ต้องไปอยู่กับเทวดา มาอยู่กับคนคงไม่ได้ 

 เมื่อก่อนเคยไปบ้านเพื่อนที่รวยมากๆครับ เค้าใช้โทรศัทพ์เครื่องละ 2,000 กว่าบาท ใช้หาเงินได้กองโต

 ไอ้เรากระจอกติดดิน แต่ทะลึ่งใช้อะไรก็ไม่รู้ แต่นั้นมาใช้เครื่องโนเกีย 111 ใหม่แกะกล่อง 700 บาท  ยิ้มีเลศนัย

พูดเหมือนไม่มีลูกเลยนะครับ  คนเป้นพ่อคนแม่คนทุกคน  ต้องการไห้ลูกตัวเองเด่นดังดีทุกคนทั้งนั้นเหละครับ  ขนานลูกคนบางคน เรียน แค่  2.4  กว่าๆ แต่อยากส่งลูกไปโรงเรียนดังๆไปเรียนแพทย์ศาสตร์  เลยนะครับ  ก็คงอยากไห้ลูกมีหน้ามีตา  น่าสงสารเขานะครับ คิก คิก คิก คิก คิก คิก

พ่อแม่ทุกวันนี้ก็ทำงานหนักก็เพื่อลูกนะครับ  เราจะมาโยนความผิดแบบนี้มาไห้พ่อแม่  การเลี้ยงดูก็เหมือนจะใจดำเกินไปนะครับ   ของพวกนี้มันเป็นแฟชั่น ยิ่งแพงๆยิ่งดีครับ

พวก ถูก ๆ 111  ถามจริงๆเถอะว่าถ้าคุณซื้อไห้ลูกคุณนะ  (ถ้ามีนะ)  เขาจะเอาใหม  ผมก็ว่าเขาไม่เอาหรอกครับ  ต่อไห้คุณเลี้ยงดูมาดีอย่างไร เธอก็ไม่เอาหรอกครับ (ลูกสาวนะ)

เธอจะต่อต้านคุณเงียบๆครับ  มันจะเป็นปมด้อยของลูกคุณไปจนตาย  เธอจะถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อเป็นตัวตลก  สุดท้ายเธอก็จะไปหารายได้พิเศษ มาซื้อโทรศัพ  น่าภูมิใจไหมครับ

แต่  คุณก็ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่ครับใช่ไหม คุณรู้ดี  สังคมต่างหากครับ  ดังนั้นถ้าไม่เจอกับตัวเอง   อย่า  อย่ามาทำเป็นด่วนตัดสินคนอื่นครับว่าเลี้ยงลูกแบบเทวดา

วกกลับมาที่โทรศัพ  มันเป็นของที่จำเป็นก็จริงแต่ไม่ทุกคนหรอกครับ   เราต้องกำหนดช่วงเวลาของการไช้อยากชัดเจน ว่าอายุเท่าไรถึงจะควรไช้ ทำไม่ไห้มันเป็นแฟชั่น

สรุปคือบ้านเมืองนี้อยู่ได้เพราะกฏหมาย   เราก็เอากฏหมายมาบังคับไช้แค่นั้นเอง  ที่บ้านผมมีโรงเรียนนึง ทำแบบนี้มานานแล้วครับ  นักเรียนที่นี้ได้ดิบได้ดี กันเกือบทุกคน

เรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเอ็นติดโรงเรียนดังกันทั้งนั้นครับ  เพราะเขายึด ไม่ไห้เด็ก ทุกคนเอาโทรศัพมาโรงเรียน  ใครแอบเอามาเห็น จับได้ ไล่ออก  สุดยอดมากๆครับ

แล้วอีกโรงเรียนนึง ใส่กระโปร่งลายๆน่ารัก  ลูกใครไปเรียน ก็ต้อง ....  เกือบทุกราย  ต่างกันยังฟ้ากับเหวเลยนะครับ

ใช่ว่าเด็กทุกคนจะอยากตามแฟชั่นไปซะหมดนะครับ... เด็กที่รู้จักคิดในทางที่ถูกที่ควรก็มี... ยกตัวอย่างในโรงเรียนที่ผมสอนอยู่.. มีนักเรียนมาจากหลายระดับ... ตั้งแต่แทบไม่มีข้าวกรอหม้อ... ไปจนถึงมาจากบ้านที่รวยๆ พอลืมตาอ้าปากได้...


...บางคนที่บ้านพอมีอยู่มีกิน... ก็มีมือถือหรูๆ ใช้... ใช้หรูกว่าครูซะอีก... Grin Grin Grin


...บางคนที่บ้านไม่มี... แต่พกมือถือหรูๆ โทรทั้งวัน... พอถามว่าทำไมใช้ของแพงจัง... เด็กก็ตอบว่าอยากได้อะไรที่มันทันสมัยนำแฟชั่น... 


...บางคนไม่มีเงินแต่ก็เจียมตัว... ไม่มีกับเพื่อน... ถามว่าอยากได้มั๊ย... เด็กก็ตอบว่าเห็นเพื่อนมีก็อยากได้เหมือนกัน... แต่ไม่มีเงินซื้อ... จะขอพ่อแม่ก็เห็นทำงานหนักก็สงสารพ่อแม่... ไม่กล้าขอเงิน...


...บางคนบ้านพอมีพอกิน... แต่ไม่ใช้มือถือ... พอถามก็บอกว่า... มันยังไม่จำเป็น...


...หรือบางคนบ้านพอมีพอกินเหมือนกัน... แต่จำเป็นต้องใช้ติดต่อกับพ่อแม่... กลับใช้เครื่องจอขาว-ดำราคาถูกๆ ถามก็ได้ความว่า... แค่ใช้โทรเข้าโทรออก... ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อแพงๆ


...แต่เด็กกลุ่มที่คิดด้านบวก... ผมเจอน้อยมากๆ ครับ...

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 22 คำสั่ง