เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 03:36:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เวลาเอาปืนขู่โจรที่เข้าบ้านมายามวิกาล แล้วโจรไม่ยอมหยุดทำท่าจะมาแย่งปืน ควรทำอย่างไรครับ  (อ่าน 8957 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #15 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 10:37:37 AM »

เป็นผม... หากโจรเข้าบ้าน... ยิงไว้ก่อนครับ... อ้อ... อย่ายิงด้านหลังนะครับ...

บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #16 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 10:42:37 AM »

ได้ความรู้มากครับ ตรงใจที่สงสัยพอดีครับ เยี่ยม

ขออนุญาติ สอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าของกระทู้ครับ

- ถ้าเราเบิกเงินจากธนาคาร(เป็นล้าน)กำลังจะเดินไปขึ้นรถ ถูกโจรมาแย่งกระเป๋า แล้ววิ่งหนีไป(หันหลังให้เรา)

 หากเราชักปืนยิง(ช่วงลำตัวซัก2-3นัดเพื่อหยุดโจร ถือว่ากระทำเกินกว่าเหตุไหมครับ ไหว้


กระทำเกินกว่าเหตุ ครับ

หลักในการป้องกันตัว  คือคนร้ายมีอาวุธ และใช้ หรือจะใช้อาวุธ ประทุษร้ายตัวท่าน หรือบุคคลใด เพื่อชิงเอาทรัพย์  
กรณีที่ถาม เป็นกรณีวิ่งราวทรัพย์ ไม่ได้มีการใช้อาวุธ เพื่อประทุษร้าย..  ท่านจึงไม่้เกิดสิทธิที่จะยิง เพราะผลของการยิงนั้น ท่านย่อมเล็งเห็นผล คือเจ็บ-ตาย

แต่ท่านยังมีสิทธิที่จะขัดขวาง และติดตามเอาคืน ทรัพย์สินของท่าน ถ้าท่าสามารถพิสูจน์ได้ว่า ยิงเพื่อขัดขวางและเพื่อติดตามเอาทรัพย์คืน
โดยยิงไปในจุดที่คนร้าย ไม่ถึงแก่ความตายแน่นอน  คือยิงไปทีขา .. กรณีนี้ จึงอาจเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ ครับ .


การปกป้องตนเอง..
ยิงแล้วตัวเอง ไม่มีความผิด  กับยิงแล้วตัวเองมีความผิด มีเส้นแบ่งนิดเดียว .. แต่เพราะความไม่รู้ หรือไปฟัง กันมาอย่างผิด ๆ

เป็นเรื่องของกฎหมาย ควรต้องถามหา หรืออ่านหาความเข้าใจ จากกระทู้ปักหมุด นะครับ จะเกิดประโยชน์กับตัวท่านอย่างที่สุด

บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #17 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 10:49:34 AM »

เป็นผม... หากโจรเข้าบ้าน... ยิงไว้ก่อนครับ... อ้อ... อย่ายิงด้านหลังนะครับ...


กรณีนี้ มีเส้นแบ่งนิดเดียว ที่สมควรจะยิงหรือ ไม่ ครับ คุณ Jungle  ..  Cheesy
เรื่องกฎหมาย จะคิดเอง-ออเอง ไม่ได้ ครับ

เพราะการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในกระบวนการยุติธรรม ลึกซึ่งเกินกว่า คนที่ไม่ใช่นักกฎหมายจะมองเห็น  และมันหลอก กันได้ยาก

อ่านกระทู้ ปักหมุด ครับ  ผู้ที่มาให้ความรู้ ไม่ได้แสดงตัว มีหลายทานเป็น ผู้พิพากษา เป็นพนักงานอัยการ   Cheesy
บันทึกการเข้า

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #18 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 12:41:08 PM »

ปืนไม่ได้มีไว้ขู่ใครครับ
และไม่มีใครเหมาะสมที่จะถูกคนอื่นใช้ปืนขู่
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Glock Jumper
... ศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธ ...
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 100
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1202


... ข้าพเจ้ารักในหลวงที่สุดในจักรวาล ...


« ตอบ #19 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 01:10:42 PM »

โดยความเป็นจริงถ้าโจรไม่มีปืนผมว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะเข้ามาแย่งปืนครับ แทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วย มือเปล่าเดินปี่เข้ามาแย่งปืนคงสติไม่ดีแล้วล่ะครับ แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ โทรแจ้งตำรวจก่อน และเราต้องมั่นใจก่อนว่าโจรไม่มีอาวุธอะไรเลยจริงๆ ผมคิดว่าน่าจะยิงขู่ก่อนสักนัดครับ ถ้ายังเดินเข้ามาคงต้องยิงจริงๆแล้วล่ะครับ ผิดถูกไปว่ากันที่ศาลอีกทีครับ ยังไงก็เอาครอบครัวเราปลอดภัยไว้ก่อนครับ
บันทึกการเข้า

... ศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธ ... จงมีสติ จงมีสมาธิ จงมีความถูกต้องก่อนที่จะครอบครองศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างเช่นนี้ "จงอย่าคิดว่ามีปืนแล้วเราคือพระเจ้า" จงจำไว้ว่า... มีสติ มีสมาธิ มีความถูกต้อง สำคัญเสมอ! ... จงรักผู้อื่นก่อนแล้วผู้อื่นก็จะรักเรา จงรักษ์ปืน แล้ว ปืนก็จะรักษ์เรา ...
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #20 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 01:25:12 PM »

โดยความเป็นจริงถ้าโจรไม่มีปืนผมว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะเข้ามาแย่งปืนครับ แทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วย มือเปล่าเดินปี่เข้ามาแย่งปืนคงสติไม่ดีแล้วล่ะครับ แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ โทรแจ้งตำรวจก่อน และเราต้องมั่นใจก่อนว่าโจรไม่มีอาวุธอะไรเลยจริงๆ ผมคิดว่าน่าจะยิงขู่ก่อนสักนัดครับ ถ้ายังเดินเข้ามาคงต้องยิงจริงๆแล้วล่ะครับ ผิดถูกไปว่ากันที่ศาลอีกทีครับ ยังไงก็เอาครอบครัวเราปลอดภัยไว้ก่อนครับ

นักกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม จะมองเช่นนี้ เลยละครับ.. 

ฉะนั้น คำอ้างว่า โจร-คนร้าย จะเข้ามาแย่งปืน ท่านจึงจำเป็นต้องยิงนั้น บอกได้เลยว่า ขัดเหตุผล และหลอกกันไม่ได้ ครับ
ถ้าจะอ้างเช่นนี้ ท่านจักต้องมีเหตุผลพิเศษอย่างอื่นขึ้นมาสนับสนุนด้วย.. ขอไม่พูดถึงครับ มันป็นดาบ ๒ คม

แต่ถ้าข้อเท็จจริงเกิดขึ้นอย่างนั้นจริง ถูกแย่งปืน จึงจำเป็นต้องกดใส่ไป ๑ นัด เพื่อหยุดมันไว้ ท่านอาจไม่มีความผิด.. 
เพราะถ้าโจร-คนร้าย แย่งปืนไปจากท่านได้ ท่านก็ต้องถูกมันยิงเอาได้ เหมือนกัน

 
บันทึกการเข้า

Y99
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 59


ผบ ทบ


« ตอบ #21 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 02:07:37 PM »

เวลานั้นแล้วคงคิดไม่ทันครับ  ยิงแน่ 2-3 นัด  เอาตัวรอดก่อนครับ
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #22 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 02:19:39 PM »

สมมุติว่า วันนี้ ท่านได้คำตอบเป็นที่พึงใจไปแล้ว 

วันที่มีคนบุกเข้าบ้านท่าน แล้วพุ่งเข้ามาจะแย่งปืนหรืออะไรอย่างที่ท่านว่า.... ท่านจะนึกถึงคำตอบวันนี้ออกไหมครับ .....



บันทึกการเข้า
ฅนบ้านนอก
นำแหน่พ่ออ่าว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 401
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1228


หากินซามฮ้อดมื้อตาย


« ตอบ #23 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 02:57:41 PM »

                    คม...คมจริงๆครับท่านนัส............ เยี่ยม
บันทึกการเข้า


   แนวนาม เขียดอีโม่นาหน้าต่ำ มันบ่สมส่ำเซื้อเครือเจ่าซาติหงส์ ดอกตี๋
จังโก้
Sr. Member
****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 620



« ตอบ #24 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 03:18:57 PM »

สมมุติว่า วันนี้ ท่านได้คำตอบเป็นที่พึงใจไปแล้ว 

วันที่มีคนบุกเข้าบ้านท่าน แล้วพุ่งเข้ามาจะแย่งปืนหรืออะไรอย่างที่ท่านว่า.... ท่านจะนึกถึงคำตอบวันนี้ออกไหมครับ .....

                    คม...คมจริงๆครับท่านนัส............ เยี่ยม

 เยี่ยม   Grin
บันทึกการเข้า
naylex
แม้ยากไร้ แต่หาใช่จะตื่นทอง
Sr. Member
****

คะแนน 72
ออฟไลน์

กระทู้: 608



« ตอบ #25 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 04:01:54 PM »

ท่าทางที่คนร้ายแสดงให้เห็นว่าจะแย่งปืนเป็นอย่างไรละครับ
เกิดมันไม่ตาย (เพราะเราไม่ยิงให้ตาย)
แล้วแก้ต่างในชั้นศาลว่าจะเดินมาขอโทษเราต่างหาก (ซึ่งไม่มีเจตนาจะมาทำร้ายเรา อะไรทำนองนี้)
น้ำหนักใครจะมากกว่ากัน


ปัญหายิงไม่ยิงนี้หาข้อชัดเจนยากจังนะครับ

แต่ส่วนตัว ยิงครับ เมื่อจวนตัว เพื่อปกป้อง มีลูกแก้ว และเมียขวัญ
(กรณีคนร้ายบุกเข้าถึงในบ้านแล้วสะอึกประชิดเข้ามา ไม่ว่าสาเหตุใด)

ถอยครับถ้ามีทางให้ถอย (ไม่มีใครให้ต้องปกป้องยกเว้นตนเอง)

สถานการณ์จริงหรือครับ   ไว้ประสบแล้วจะเล่าให้ฟังครับ(ไม่อยากเจอที่สุด)
 ไหว้ ไหว้



บันทึกการเข้า

เรือจ้างกลางไพร
NUTAPHOL
รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 544
ออฟไลน์

กระทู้: 8934



« ตอบ #26 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 04:25:09 PM »

รุ่นน้องที่ทำงาน  โดนขโมยเข้าบ้านยกของเอาไปสองแสนกว่า   มาบ่นให้ฟังว่าถ้าออกมาเห็นจะยิงให้เดี้ยงเลย  ผมเลยเตือนไปว่าระวังเดียวจะทำเกินกว่าเหตุนะถ้าขโมยมันไม่ได้ทำร้ายเจ้าทรัพย์และกำลังหนี   รุ่นน้องมันก็เถียงตะแบงว่าก็เข้ามาขโมยในบ้านอย่างนี้ต้วเขามีสิทธิ์ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินถ้ายิงตายในบ้านเขาไม่ผิด  ผมเลยบอกไปอีกนิดว่าลองไปหาข้อกฎหมายมาอ่านดูบ้างว่าอะไรคือทำเกินกว่าเหตุ   ถ้าขโมยหรือโจรมาขโมยของและถูกเรายิงถึงแก่ความตาย  เขาก็ยังเถียงว่ายิงตายก็ไม่ผิดจนผมเลิกพูดให้ฟัง   ผมก็เลยบอกว่าคราวหน้าถ้ามันมาขโมยอีกเจอก็ยิงให้เดี้ยงเลย  จะได้รู้กันสักทีว่าทำเกินกว่าเหตุรึไม่...
บันทึกการเข้า
seneeSRIYOTA
Newbie
*

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #27 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 04:29:16 PM »

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 บัญญัติว่า "ผู้ใดต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด"

หลักเกณฑ์ของการ ป้องกันตัว โดยชอบ ด้วยกฎหมาย
1. มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย นั่นคือ
- ภยันตรายที่เกิดขึ้นนั้นผู้กระทำไม่มีอำนาจตามกฎหมายจะทำได้ หากผู้ก่อภัยนั้นมีอำนาจทำได้โดยชอบ ท่านก็ไม่มีสิทธิจะป้องกัน เช่น พ่อมีสิทธิว่ากล่าว/ลงโทษลูก ไม่ถือเป็นภยันตรายตามข้อ 1.
- แม้จะมีภยันตรายแล้วก็ตาม แต่ผู้ที่อ้างป้องกันได้ จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวขึ้นด้วย เช่น ไม่เป็นผู้ก่อภัยขึ้นในตอนแรก ไม่เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาทกัน ไม่เป็นผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำต่อตนโดยสมัครใจ และ ไม่เป้นผู้ที่ไปยั่วให้คนอื่นเข้าโกรธก่อน
2. ภยันตรายนั้น ใกล้จะถึง แม้ท่านจะมีภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายเกิดขึ้น
ตามข้อ ๑ แล้วก็ตาม ก็อย่าเพิ่งนอนใจว่าท่านจะมีสิทธิป้องกันได้ กล่าวคือท่านจะมีสิทธิ ป้องกันตัว ได้ต่อเมื่อภยันตรายนั้น เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง คือภัยที่เกิดขึ้นกระชั้นชิดถึงขนาดที่ไม่มีหนทางอื่นที่จะขจัดปัดเป่าภัย นั้นได้ นอกจากการป้องกันตัวเอง
3. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายนั้น
4. การกระทำ ป้องกันตัว ตามสมควรแก่เหตุ ก็คือ แม้กฎหมายจะให้สิทธิแก่ประชา ชนผู้ประสบอันตรายป้องกันตนเองได้ แต่ก็ไม่ได้ให้เสียจนหาขอบเขตไม่ได้ จนกลายเป็นการป้อง กันผสมกับความโกรธแค้น บันดาลโทสะ หรือสะใจ เช่น เมื่อมีผู้ร้ายถือมีดจะทำร้ายท่าน ท่านได้ตอบโต้จนผู้ร้ายไม่สามารถจะถือมีด หรือไม่สามารถจะแทงท่านได้อีกแล้ว ถือว่าภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าท่านซ้ำเติมอีก จะถือว่าเกินกว่าเหตุ

อาจมีบางท่านสงสัยว่า กรณีท่านใช้เครื่องทุ่นแรง ท่านจะสามารถใช้มันได้ขนาดไหน เพียงไรนั้น มีทฤษฎีที่สำคัญ 2 ทฤษฎีคือ
1. ทฤษฎีส่วนสัด คือต้องพิจารณาว่าอันตรายที่จะพึงเกิดขึ้นหากจะไม่ป้องกันจะได้ส่วนสัดกับ อันตรายที่ผู้กระทำได้กระทำเนื่องจากการป้องกันนั้นหรือไม่ เช่น มีคนมาตบหน้าท่าน ท่านจะใช้มีดแทงเขาตายไม่ได้ เพราะความเจ็บเนื่องจากถูกตบหน้า เมื่อมาเทียบกับความตายแล้ว ไม่มีส่วนสัดกัน ดังนั้น การเอามีดแทงเขาตายนี้ เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ ผู้กระทำไม่มีอำนาจกระทำได้
2. ทฤษฎีวิถีทางน้อยที่สุด ตามทฤษฎีนี้ถือว่าถ้าผู้กระทำได้ใช้วิธีทางน้อยที่สุดที่จะทำให้เกิดอันตราย ก็ถือว่าผู้กระทำได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุแล้ว เช่น ก.เป็นง่อยไปไหนไม่ได้ ข.จึงเขกศีรษะก.เล่น โดยเห็นว่าก.ไม่มีทางกระทำตอบแทนได้เลย นายก.ห้ามปรามเท่าใดข.ก็ไม่เชื่อฟัง ถ้าการที่ก.จะป้องกันมิให้ข.เขกศีรษะมีวิธีเดียวคือใช้มีดแทงข. ต้องถือว่าการที่ก.ใช้มีดแทงนี้เป็นการกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ เพราะเป็นวิถีทางน้อยที่สุดที่จะป้องกันได้
บันทึกการเข้า
AEY@1911
1911 lism...
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 65
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1380



« ตอบ #28 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 04:33:54 PM »

สมมุติว่า วันนี้ ท่านได้คำตอบเป็นที่พึงใจไปแล้ว 

วันที่มีคนบุกเข้าบ้านท่าน แล้วพุ่งเข้ามาจะแย่งปืนหรืออะไรอย่างที่ท่านว่า.... ท่านจะนึกถึงคำตอบวันนี้ออกไหมครับ .....




ถึงเวลานั้นสัญชาติญาณการป้องกันตัวย่อมมาก่อน ข้อกฏหมายแน่นอนครับ ...... ไหว้
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #29 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 04:42:02 PM »

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 บัญญัติว่า "ผู้ใดต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด"

หลักเกณฑ์ของการ ป้องกันตัว โดยชอบ ด้วยกฎหมาย
1. มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย นั่นคือ
- ภยันตรายที่เกิดขึ้นนั้นผู้กระทำไม่มีอำนาจตามกฎหมายจะทำได้ หากผู้ก่อภัยนั้นมีอำนาจทำได้โดยชอบ ท่านก็ไม่มีสิทธิจะป้องกัน เช่น พ่อมีสิทธิว่ากล่าว/ลงโทษลูก ไม่ถือเป็นภยันตรายตามข้อ 1.
- แม้จะมีภยันตรายแล้วก็ตาม แต่ผู้ที่อ้างป้องกันได้ จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวขึ้นด้วย เช่น ไม่เป็นผู้ก่อภัยขึ้นในตอนแรก ไม่เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาทกัน ไม่เป็นผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำต่อตนโดยสมัครใจ และ ไม่เป้นผู้ที่ไปยั่วให้คนอื่นเข้าโกรธก่อน
2. ภยันตรายนั้น ใกล้จะถึง แม้ท่านจะมีภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายเกิดขึ้น
ตามข้อ ๑ แล้วก็ตาม ก็อย่าเพิ่งนอนใจว่าท่านจะมีสิทธิป้องกันได้ กล่าวคือท่านจะมีสิทธิ ป้องกันตัว ได้ต่อเมื่อภยันตรายนั้น เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง คือภัยที่เกิดขึ้นกระชั้นชิดถึงขนาดที่ไม่มีหนทางอื่นที่จะขจัดปัดเป่าภัย นั้นได้ นอกจากการป้องกันตัวเอง

3. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายนั้น
4. การกระทำ ป้องกันตัว ตามสมควรแก่เหตุ ก็คือ แม้กฎหมายจะให้สิทธิแก่ประชา ชนผู้ประสบอันตรายป้องกันตนเองได้ แต่ก็ไม่ได้ให้เสียจนหาขอบเขตไม่ได้ จนกลายเป็นการป้อง กันผสมกับความโกรธแค้น บันดาลโทสะ หรือสะใจ เช่น เมื่อมีผู้ร้ายถือมีดจะทำร้ายท่าน ท่านได้ตอบโต้จนผู้ร้ายไม่สามารถจะถือมีด หรือไม่สามารถจะแทงท่านได้อีกแล้ว ถือว่าภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าท่านซ้ำเติมอีก จะถือว่าเกินกว่าเหตุ

อาจมีบางท่านสงสัยว่า กรณีท่านใช้เครื่องทุ่นแรง ท่านจะสามารถใช้มันได้ขนาดไหน เพียงไรนั้น มีทฤษฎีที่สำคัญ 2 ทฤษฎีคือ
1. ทฤษฎีส่วนสัด คือต้องพิจารณาว่าอันตรายที่จะพึงเกิดขึ้นหากจะไม่ป้องกันจะได้ส่วนสัดกับ อันตรายที่ผู้กระทำได้กระทำเนื่องจากการป้องกันนั้นหรือไม่ เช่น มีคนมาตบหน้าท่าน ท่านจะใช้มีดแทงเขาตายไม่ได้ เพราะความเจ็บเนื่องจากถูกตบหน้า เมื่อมาเทียบกับความตายแล้ว ไม่มีส่วนสัดกัน ดังนั้น การเอามีดแทงเขาตายนี้ เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ ผู้กระทำไม่มีอำนาจกระทำได้
2. ทฤษฎีวิถีทางน้อยที่สุด ตามทฤษฎีนี้ถือว่าถ้าผู้กระทำได้ใช้วิธีทางน้อยที่สุดที่จะทำให้เกิดอันตราย ก็ถือว่าผู้กระทำได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุแล้ว เช่น ก.เป็นง่อยไปไหนไม่ได้ ข.จึงเขกศีรษะก.เล่น โดยเห็นว่าก.ไม่มีทางกระทำตอบแทนได้เลย นายก.ห้ามปรามเท่าใดข.ก็ไม่เชื่อฟัง ถ้าการที่ก.จะป้องกันมิให้ข.เขกศีรษะมีวิธีเดียวคือใช้มีดแทงข. ต้องถือว่าการที่ก.ใช้มีดแทงนี้เป็นการกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ เพราะเป็นวิถีทางน้อยที่สุดที่จะป้องกันได้

 
ขอบคุณมากครับ เหมือนคัดมาจาก ตำรากฎหมายที่ มีสอนกันเลย.. ขอมาเติม ในข้อ ๒ ให้อีกนิดนึง ครับ

การป้องกันตัว ที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เมื่อเข้าเงื่อนไขข้างต้นแล้ว ไม่จำต้องรอสวนกลับ เป็นก๊อกที่สอง..
ท่านสามารถใช้อาวุธปืนยิง โจร-คนร้าย ก่อนที่มันจะยิงท่าน ได้เลย ครับ.  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 22 คำสั่ง